วันนึงได้นั่งดูเวบไซต์แล้วเห็นว่า มังคุดขึ้นห้างหรูในกรุงเทพมหานคร เฮ้ยทำไมกิโลกรัมละเกือบ 1,000 บาท ทำไมแพงจัง ไม่ได้หล่ะ ด้วยความอยากรู้ เลยอยากจะตั้งต้นหาต้นตอว่าทำไมมังคุดภูเขาถึงแพงจัง และอีกอย่าง มันอยู่ในบ้านเกิดของเราด้วย ต้องเดินทางแล้วหล่ะ
ออกเดินทางจากตัวเมืองไปยัง อ.ลานสกา ขอย้ำนะครับ มังคุดภูเขาคนที่นี่เขาเรียกสั้นๆว่า มังคุดเขา มีหลายจุดใน ลานสกา เช่น คีรีวง ลานสกาใน สำหรับลานสกาในนั้นเป็นจุดที่อยู่เลยทางเข้า คีรีวงไปอีก เลยตลาดลานสกา แล้วอยู่ทางซ้ายมือ เป็น ธกส ให้เลี้ยวซ้ายไป เลยแยก สี่กั๊ก ไปอีก จนถึงวัดเจดีย์ แถวนั้นก็จะเป็น ลานสกาในแล้วครับ ส่วนในคีรีวง ขึ้นชื่ออยู่แล้วกับ มังคุดเขา

เมื่อไปถึง ยังไงก็ต้องมาถ่ายกับสะพานที่บ่งบอกถึง คีรีวง ถึงแล้วนะประมาณนั้น สะพานนี้ใกล้กับแหล่งชุมชนของคีรีวงมากๆ
มองไปที่ข้างล่างของสะพานมีต้นไม้และน้ำใสไหลรินตลอดเวลา มีปลาที่คุ้นกับคน ผมเดินไปทางไหนก็ว่ายน้ำตามไปทางนั้นด้วย

ผมเดินย้อนกลับมาที่ท่ารถสองแถวเพื่อเดินไปสะพานเก่าๆอีกฝั่งนึง วิวสวยใช้ได้เลยนะครับ เป็นสายน้ำมาบรรจบกันพอดี
ออกเดินทางไปดูมังคุดเขาดีกว่าครับ เราเดินทางแล้วสังเกตว่ามีมอเตอร์ไซค์ขี่กันเยอะเป็นระยะๆ มีทั้งแบบมอเตอร์ไซค์บ้าน

และแบบลุยๆล้อที่ใช้ก็ต้องเกาะหิน และดินตลอดเวลา
ดริฟเล็กๆของล้อหลังเสียงของล้อมันบดกับดินและหินเป็นระยะๆ
รถมอเตอร์ไซค์ต้องเป็นแบบลุยๆอย่างเช่นแบบนี้

ขี่เป็น single track แถบยังมีตะกร้าใบใหญ่สองข้างที่เอาไว้ใส่ผลไม้บรรทุกและต้องถ่วงน้ำหนักให้เท่าๆกัน ชาวบ้านที่นี่ชอบใช้กันครับ เส้นทางที่ขึ้นเขาก็ประมาณนี้ ชันโคตรๆๆเลย แถวยังมีตะไคร่น้ำปกคลุมอีก

เห็นแล้ว.....ลูกเล็กๆเขียวเหมือนมังคุดบ้านทั่วไปเปลือกก็เขียวอย่างที่เห็น แต่ลำต้นมังคุดเขาเขาบอกว่ามีความแตกต่างตรงที่โตบนภูเขา ได้อากาศที่ดีมากๆๆๆ แล้วก็อุณหภูมิที่เย็น มีละอองความชื้นปกคลุม
ที่ท้ายมังคุดก็จะมีอะไรที่นูนๆออกมาแล้วนับกลีบได้ เอาไว้ทายเนื้อข้างในว่ามีกี่กลีบ จะตรงกันพอดี สีเขียวๆอย่างนี้ทานยังไม่ได้นะครับ ต้องคายแหงมๆ

ถึงแล้ว เจอชาวบ้านกำลังปีนเก็บ เครื่องมือเขาจะมี ตะกร้าใหญ่ๆเอาไว้ใส่พ่วงด้านข้างของมอเตอร์ไซค์ ผ้าใบกันลูกร่วง ทำไมห้ามร่วง ก็เพราะ สามถึงห้าลูกก็จะกิโลกรัมแล้ว คิดว่ากิโลกรัมละ 900 บาท …..ลูกละ 300 บาท อ๊ากกกกกก ห้ามร่วงนะลูกพ่อ และก็มีไม้สอยเป็นตะกร้อ เก็บทีละลูกๆ
หลังจากนี้ลงจากเขาไปอีกที่หนึ่งคือ ลานสกาใน เขาว่ามังคุดเขาก็สวยและใหญ่เหมือนกัน ไปกันดีกว่า

โหที่ไหนได้ ดงดิบกว่าคีรีวงอีก ยังมีน้อยคนที่ทราบเส้นทางนี้แตกต่างจากคีรีวง ตรงนี้ผ่านน้ำตกวังขนาน น้ำตกวังโนรา

มีดูชาวบ้านกันต่อคุณลุงถึงแม้หน้าตายังดูโหดๆแต่โคตรใจดีเลยครับ ลุงๆเขานั่งพักสูบใบยาเนื่องจากเอามังคุดเขาลงมารอแม่ค้าคนกลางเพื่อนำไปขายต่อที่กรุงเทพมหานคร

เวลาเขาเก็บ เขาจะเก็บสีเขียว และ สีชมพูอมม่วง ผิวของเขาเป็นละอองปุยนุ่มแบบมโนว่า

มีขุยละอองน้ำเกาะ เอานิ้วไปสัมผัสก็เป็นรอยนิ้วเลยก็ว่าได้ ผิวเกลี้ยงได้ใจจริงๆ ใหญ่สมราคา เนื้อหวานมากๆๆๆๆๆ แกะทาน
ขอบอกว่า ฟินโคตรๆเลยครับ การที่เก็บผลตั้งแต่เป็นสีชมพูแกมม่วงเพราะจะสุกพอดีเมื่อถึงมือผู้บริโภคในกรุงเทพครับ

ขอปิดท้ายตรงนี้ว่าสมแล้วที่ราคาแพงจริงเก็บยาก หายากเพราะเป็นตามฤดูกาล แถมยังไปอยู่บนเขา
สมกับเป็น ราชินีแห่งผลไม้ สมควรที่จะอยู่คู่กับขุนเขาและลำธาร คู่กับ ลานสกา และนครศรีธรรมราช ตลอดไป
[CR] ตามล่าหา "มังคุดภูเขา" ลานสกา นครศรีธรรมราช
ออกเดินทางจากตัวเมืองไปยัง อ.ลานสกา ขอย้ำนะครับ มังคุดภูเขาคนที่นี่เขาเรียกสั้นๆว่า มังคุดเขา มีหลายจุดใน ลานสกา เช่น คีรีวง ลานสกาใน สำหรับลานสกาในนั้นเป็นจุดที่อยู่เลยทางเข้า คีรีวงไปอีก เลยตลาดลานสกา แล้วอยู่ทางซ้ายมือ เป็น ธกส ให้เลี้ยวซ้ายไป เลยแยก สี่กั๊ก ไปอีก จนถึงวัดเจดีย์ แถวนั้นก็จะเป็น ลานสกาในแล้วครับ ส่วนในคีรีวง ขึ้นชื่ออยู่แล้วกับ มังคุดเขา
เมื่อไปถึง ยังไงก็ต้องมาถ่ายกับสะพานที่บ่งบอกถึง คีรีวง ถึงแล้วนะประมาณนั้น สะพานนี้ใกล้กับแหล่งชุมชนของคีรีวงมากๆ
มองไปที่ข้างล่างของสะพานมีต้นไม้และน้ำใสไหลรินตลอดเวลา มีปลาที่คุ้นกับคน ผมเดินไปทางไหนก็ว่ายน้ำตามไปทางนั้นด้วย
ผมเดินย้อนกลับมาที่ท่ารถสองแถวเพื่อเดินไปสะพานเก่าๆอีกฝั่งนึง วิวสวยใช้ได้เลยนะครับ เป็นสายน้ำมาบรรจบกันพอดี
ออกเดินทางไปดูมังคุดเขาดีกว่าครับ เราเดินทางแล้วสังเกตว่ามีมอเตอร์ไซค์ขี่กันเยอะเป็นระยะๆ มีทั้งแบบมอเตอร์ไซค์บ้าน
ดริฟเล็กๆของล้อหลังเสียงของล้อมันบดกับดินและหินเป็นระยะๆ
รถมอเตอร์ไซค์ต้องเป็นแบบลุยๆอย่างเช่นแบบนี้
ขี่เป็น single track แถบยังมีตะกร้าใบใหญ่สองข้างที่เอาไว้ใส่ผลไม้บรรทุกและต้องถ่วงน้ำหนักให้เท่าๆกัน ชาวบ้านที่นี่ชอบใช้กันครับ เส้นทางที่ขึ้นเขาก็ประมาณนี้ ชันโคตรๆๆเลย แถวยังมีตะไคร่น้ำปกคลุมอีก
เห็นแล้ว.....ลูกเล็กๆเขียวเหมือนมังคุดบ้านทั่วไปเปลือกก็เขียวอย่างที่เห็น แต่ลำต้นมังคุดเขาเขาบอกว่ามีความแตกต่างตรงที่โตบนภูเขา ได้อากาศที่ดีมากๆๆๆ แล้วก็อุณหภูมิที่เย็น มีละอองความชื้นปกคลุม
ที่ท้ายมังคุดก็จะมีอะไรที่นูนๆออกมาแล้วนับกลีบได้ เอาไว้ทายเนื้อข้างในว่ามีกี่กลีบ จะตรงกันพอดี สีเขียวๆอย่างนี้ทานยังไม่ได้นะครับ ต้องคายแหงมๆ
ถึงแล้ว เจอชาวบ้านกำลังปีนเก็บ เครื่องมือเขาจะมี ตะกร้าใหญ่ๆเอาไว้ใส่พ่วงด้านข้างของมอเตอร์ไซค์ ผ้าใบกันลูกร่วง ทำไมห้ามร่วง ก็เพราะ สามถึงห้าลูกก็จะกิโลกรัมแล้ว คิดว่ากิโลกรัมละ 900 บาท …..ลูกละ 300 บาท อ๊ากกกกกก ห้ามร่วงนะลูกพ่อ และก็มีไม้สอยเป็นตะกร้อ เก็บทีละลูกๆ
หลังจากนี้ลงจากเขาไปอีกที่หนึ่งคือ ลานสกาใน เขาว่ามังคุดเขาก็สวยและใหญ่เหมือนกัน ไปกันดีกว่า
โหที่ไหนได้ ดงดิบกว่าคีรีวงอีก ยังมีน้อยคนที่ทราบเส้นทางนี้แตกต่างจากคีรีวง ตรงนี้ผ่านน้ำตกวังขนาน น้ำตกวังโนรา
มีดูชาวบ้านกันต่อคุณลุงถึงแม้หน้าตายังดูโหดๆแต่โคตรใจดีเลยครับ ลุงๆเขานั่งพักสูบใบยาเนื่องจากเอามังคุดเขาลงมารอแม่ค้าคนกลางเพื่อนำไปขายต่อที่กรุงเทพมหานคร
เวลาเขาเก็บ เขาจะเก็บสีเขียว และ สีชมพูอมม่วง ผิวของเขาเป็นละอองปุยนุ่มแบบมโนว่า
ขอบอกว่า ฟินโคตรๆเลยครับ การที่เก็บผลตั้งแต่เป็นสีชมพูแกมม่วงเพราะจะสุกพอดีเมื่อถึงมือผู้บริโภคในกรุงเทพครับ
ขอปิดท้ายตรงนี้ว่าสมแล้วที่ราคาแพงจริงเก็บยาก หายากเพราะเป็นตามฤดูกาล แถมยังไปอยู่บนเขา
สมกับเป็น ราชินีแห่งผลไม้ สมควรที่จะอยู่คู่กับขุนเขาและลำธาร คู่กับ ลานสกา และนครศรีธรรมราช ตลอดไป