จากที่เราได้เริ่มหาข้อมูลมาสนับสนุน การทำงานวิจัยสถานการณ์รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการตกเป็นจำเลยของสังคมทั้งผู้ปลูกข้าวโพดบนภูเขา และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่รับซื้อในพื้นที่ภาคเหนือ ปัจจุบันผู้ผลิตอาหารสัตว์เป็นผู้รับซื้อผลผลิตตัวจริงที่มีอยู่น้อยราย ซึ่งปัจจุบันเบทาโกร และเครือซีพี เป็นผู้รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากผลผลิตทั้งหมดในพื้นที่วิจัยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 40% และ 28% ตามลำดับ
“แต่เบทาโกรทำตัวเงียบไม่เป็นข่าว ปล่อยให้ ซีพีถูกด่าคนเดียว”
ทำให้เกิดความจริงบางอย่างในการเป็นแพะจากสังคมที่โจมตีผู้ปลูก และรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในเรื่องนี้คิดว่า หากเราต้องการคืนพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายร่วมถึงการเกิดอุทกภัยซ้ำซาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดินถล่ม ประกอบกับพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีสภาพป่าถูกทำลาย สร้างปัญหาด้านการเงิน รายได้ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกิดการทำให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของชาวดอยบนภูเขาที่ยากจน ควรให้เวลาที่เพียงพอ และอุดหนุนทรัพยากรแก่เกษตรกรรายย่อยในการปรับตัว เพื่อไม่ให้พวกเขาประสบปัญหาทางการเงินมากกว่าเดิม
มิฉะนั้นอาจกลายเป็นว่า ความยั่งยืนและการฟื้นฟูระบบนิเวศต้อง “แลก” มาด้วยฐานะทางเศรษฐกิจที่แย่ลง
ที่มา : "โครงการวิจัย “ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จ.น่าน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.salforest.com/knowledge/research-maize-aug
ความจริง ใครซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์....ที่เราไม่รู้
“แต่เบทาโกรทำตัวเงียบไม่เป็นข่าว ปล่อยให้ ซีพีถูกด่าคนเดียว”
ทำให้เกิดความจริงบางอย่างในการเป็นแพะจากสังคมที่โจมตีผู้ปลูก และรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในเรื่องนี้คิดว่า หากเราต้องการคืนพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายร่วมถึงการเกิดอุทกภัยซ้ำซาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ดินถล่ม ประกอบกับพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีสภาพป่าถูกทำลาย สร้างปัญหาด้านการเงิน รายได้ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกิดการทำให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของชาวดอยบนภูเขาที่ยากจน ควรให้เวลาที่เพียงพอ และอุดหนุนทรัพยากรแก่เกษตรกรรายย่อยในการปรับตัว เพื่อไม่ให้พวกเขาประสบปัญหาทางการเงินมากกว่าเดิม
มิฉะนั้นอาจกลายเป็นว่า ความยั่งยืนและการฟื้นฟูระบบนิเวศต้อง “แลก” มาด้วยฐานะทางเศรษฐกิจที่แย่ลง
ที่มา : "โครงการวิจัย “ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จ.น่าน" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้