To... พ่อแม่ อย่าละเลยลูกคนกลางได้มั้ย..??

ชีวิตลูกคนกลางคนนึง...

-ใช้ของต่อจากพี่ มีอะไรใหม่ก็ต้องเสียสละให้น้อง
-พยายามทำดีแค่ไหน พ่อ-แม่ก็ไม่เคยภูมิใจเท่ากับพี่ที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย
-ห้ามสร้างปัญหา เพราะพ่อ-แม่ต้องใช้เวลาดูแลน้อง
-พี่คนโตกับน้องคนเล็ก อยากได้อะไร แค่เอ่ยปาก แพงแค่ไหน ก็ต้องได้
-แต่คนกลางต้องทำงาน เก็บเงิน อยากได้อะไรต้องหาเอง เพราะให้ลูกคนอื่นไปหมดแล้ว
-ถูกเปรียบเทียบกับพี่คนโตเสมอ แต่เรื่องดีๆของลูกคนกลาง จะไม่เคยถูกพูดถึง
-ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็จะเลือกพี่คนโตกับน้องคนเล็กก่อนเสมอ
-ลูกคนกลาง เหมือนของตาย
-พยายามดิ้นรนให้เข้าไปอยู่ในสายตาบ้าง แต่กลายเป็นความน่ารำคาญ
-พยายามเก่งให้รอบด้าน เพื่อหวังเทียบพี่คนโต ถึงจะทำได้แต่สุดท้าย พ่อแม่ ก็ไม่เคยมอง
-อย่าได้ทำพลาด ไม่งั้นจะถูกดุด่าหนักว่าคนอื่น  
-ยุ่งแค่ไหน ก็ต้องช่วยงานพ่อแม่ แทนพี่คนโต ที่ออกไปเที่ยวเล่น
-พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าพ่อแม่รักลูกเท่ากัน ถึงแม้สิ่งที่รู้สึกจะไม่ใช่แบบนั้นก็ตาม
-คอยดูแลพ่อ-แม่-น้อง แทนพี่คนโตที่ไปเที่ยวเล่น
-ต้องนั่งทนฟัง พ่อแม่พูดพร่ำถึงความเก่งของพี่คนโต ที่ผ่านมาเมื่อชาติที่แล้ว แล้วก็คิดในใจว่า ทำไมไม่มีเรื่องของเราบ้างว้าาา
-รางวัล เกรดเฉลี่ย ใบประกาศ คำยกย่อง โล่ห์ มันไม่มีค่าเลยเมื่อเทียบกับการที่พ่อ-แม่ชมหรือแสดงอาการภูมิใจซักนิด
-อยากเป็นได้อย่างพี่คนโตบ้าง ซักนิดก็ดี
-เครียดหรือเสียใจแค่ไหน ก็ไม่เคยแสดงออกให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วงเลย
-หลอกตัวเองว่าซักวันน่าาาา มันต้องมีซักวันที่เขาเห็นเรา


สุดท้ายนี้ ก็แค่อึดอัดเลยมาโพสบ่น บอกใครไม่ได้... เผื่อจะเจอผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน
แล้วก็ เผื่อ พ่อ-แม่มาอ่านเจอ เพราะเห็นเล่นพันทิปอยู่

อยากบอกว่า....รักพ่อแม่นะ พยายามทำตัวให้ดี ไม่เป็นภาระ แต่นี่ก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะ หัวเราะ
ไม่ต้องเท่ากับลูกคนอื่นก็ได้ ไม่ขอมาก แต่ช่วยแสดงออกหน่อยเถอะ ไม่อยากรู้สึกเหมือนไร้ตัวตน

//บ้านอื่นจะเป็นแบบนี้มั้ย...
*/เก็บกด  เฮ่!!

ป.ล.หากแท็กผิดต้องขออภัยมา ณ ที่ แห่ง นี้

-------------------
ขอ editเพิ่มนิดนึงเนอะะ ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านมากขนาดนี้

-เราไม่ได้ไม่รักพ่อแม่นะคะ เรายังรักมากเหมือนเดิม
-เรารู้ว่าพ่อแม่รักเราค่ะ แค่การแสดงออกมันอาจจะน้อยกว่าลูกคนอื่น เราถึงบอกว่าอย่าให้ท่านละเลยเรา
-เราก็ยังทำหน้าที่ลูกที่ดีค่ะ ยังทำเพื่ออนาคตตัวเอง ไม่ได้สร้างปัญหาหรือทำอะไรให้พ่อแม่เรารู้สึกไม่ดีนะคะ
-ประเด็นหลักคือ เราแค่อยากให้พ่อแม่  หันมามองเรามากขึ้น
คนเราพยายามทำอะไรซักอย่างจนสำเร็จมันก็ต้องหวังใช่มั้ยคะ ว่าจะได้รับคำชมหรือการสนใจซักนิด
ที่เราต้องการคือการมีตัวตนในสายตาค่ะ
ไม่ใช่เราพยายามไปแต่กลับถูกมองข้ามและนำไปเปรียบเทียบเรื่องอื่นกับพี่คนโตให้เรารู้สึกด้อยแทน

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจมากเลยนะคะ อ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นมากเลยย  หัวเราะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมลูกคนกลาง และไม่เชื่อว่าพ่อแม่รักลูกเท่ากันครับ^^

ปล.ตกใจนึกว่าตัวเองละเมอมาตั้งกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
รู้ตัวมั๊ย?
อิสรภาพมาถึงคุณแล้ว
อย่าแคร์เลย
ทำทุกสิ่งที่ดีเพื่อตัวเองไปเลย ไม่ต้องแข่งกับพี่น้อง ไม่ใช่ทำเพื่อให้พ่อแม่เห็น
เพราะท่านไม่ได้อยู่ชื่นชมความสำเร็จของคุณไปตลอดชีวิต ตายวันไหนก็ไม่รู้ ไม่มีอะไรแน่นอน
จงสร้างโปรไฟล์เริ่ดๆ ปีนยอดเขาในใจตัวเองนะ
cheer up!!!
รู้นะว่าน้อยใจ แต่ของแบบนี้แก้ยาก
อมยิ้ม36
ความคิดเห็นที่ 3
เราก็ลูกคนกลาง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาแบบคุณนะ
พ่อแม่รักเรามาก และรักพี่และน้องเราทุกคน

พ่อแม่บอกว่ามันไม่มีคำว่ารักลูกเท่ากันหรอก
ลูกทุกคนแตกต่างกัน
พ่อแม่ก็แสดงออกถึงความรักที่ต่างกันไป
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่ขอเถียงว่าไม่จริง เพราะมันคงขึ้นกับการเลี้ยงของแต่ละบ้าน
ที่สำคัญ มันขึ้นกับตัวเองล้วนๆ ว่าจะทำตัวยังไง


ขอให้ความเห็นในฐานะ ชีวิตลูกคนโต (ที่มีน้องคนกลาง และ คนเล็ก)...

-ใช้ของต่อจากพี่ มีอะไรใหม่ก็ต้องเสียสละให้น้อง - ใช่บางอย่าง ที่เป็นของส่วนกลาง แต่ถ้าเป็นของส่วนตัวเช่นเสื้อผ้า
น้องก็ได้ใหม่เหมือนกันตามสมควร อีกอย่าง ด้วยความเป็นพี่โตสุด เราก็จะไม่ได้ทุกอย่างเต็มที่เช่นกัน อย่างที่ จขกท. อ้างว่าต้องเสียสละ
ให้น้องอีก 1 คน แต่พี่คนโต ต้องเผื่อน้องอีก 2 คนค่ะทั้งคนกลางและคนเล็ก

-พยายามทำดีแค่ไหน พ่อ-แม่ก็ไม่เคยภูมิใจเท่ากับพี่ที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย - ไม่จริง สำหรับเรา เป็นพี่คนโต กดดันมาก
ความหวังพ่อแม่ถูกฝากไว้ที่เรา ไม่ว่าจะทำอะไรจะถูกอ้างอิงให้น้องฟังเสมอ ทำให้เราต้องทำตัวให้ดี เพื่อที่น้องจะไม่สามารถมาอ้างได้ว่า
ทีพี่ยังทำอย่างงู้นอย่างงี้ กดดันนะคะ

-ห้ามสร้างปัญหา เพราะพ่อ-แม่ต้องใช้เวลาดูแลน้อง - ใช่ ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ พยายามดูแลตัวเองให้ได้ และต้องเป็นตัวอย่าง
ให้น้องได้ด้วยในหลายๆ เรื่อง

-พี่คนโตกับน้องคนเล็ก อยากได้อะไร แค่เอ่ยปาก แพงแค่ไหน ก็ต้องได้ - ไม่จริงค่ะ  พ่อแม่เลี้ยงบนหลักเหตุผล ให้อยากได้อะไร
เอามาคุยกัน เหมาะสมแค่ไหน พ่อใช้วิธีเสมอภาค อยากได้อะไรแพงๆ พ่อจะให้หาเงินมาซื้อเอง ครึ่งราคา แล้วพ่อสนับสนุนครึ่งราคา
ถ้าไม่ยอมรับ ก็ให้รับผิดชอบเองทั้งหมด ไม่ว่าใครก็ตาม ส่วนถ้าพ่อแม่จะซื้อของให้ลูก จะซื้อมาสามชิ้นเสมอ ได้เท่ากันอย่างละชิ้นเสมอ

-แต่คนกลางต้องทำงาน เก็บเงิน อยากได้อะไรต้องหาเอง เพราะให้ลูกคนอื่นไปหมดแล้ว - ไม่จริง ยกตัวอย่างไปที่ข้อก่อนหน้านี้แล้ว

-ถูกเปรียบเทียบกับพี่คนโตเสมอ แต่เรื่องดีๆของลูกคนกลาง จะไม่เคยถูกพูดถึง - ไม่จริง ใครทำอะไรดี พ่อมักจะเอามาพูดให้ลูกคนที่
เหลือฟังเสมอ ที่สำคัญพ่อพูดเชิงยกตัวอย่าง ไม่ใช่เปรียบเทียบลูกตัวเองวาคนนั้น ไม่ดี คนนี้ดี  อะไรผิดว่าไปตามผิด อันไหนถูก ก็ว่าไปตามถูก
และด้วยความมีเหตุผลของพ่อ ไม่เคยมีใครมีข้อโต้แย้ง

-ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็จะเลือกพี่คนโตกับน้องคนเล็กก่อนเสมอ - จริงบางส่วน แต่ขึ้นกับว่าเรื่องอะไรที่ จขกท. อ้างถึง อย่างเราขอยกตัวอย่าง
เวลาไปกินข้าวบ้านญาติ หลังกินข้าวเสร็จต้องเก็บล้าง พ่อมักจะบอกให้เราไปล้างเสมอ เพราะถือเป็นพี่คนโต ไปทำแทนน้อง

-ลูกคนกลาง เหมือนของตาย - ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่คงไม่ใช่ลูกคนกลางบ้านเรา น้องคนกลางของเรา พื้นฐานเป็นคนดื้อเงียบ
ชอบแอบทำอะไรลับหลัง ไม่ค่อยแคร์คนในบ้าน พ่อมักพูดกับเราเสมอว่า เค้าค่อนข้างเชื่อทฤษฎีลูกคนกลางมักมีปัญหา เพราะฉะนั้น
ถ้ามีเรื่องอะไร ให้เราคอยไปคุยกะน้อง เผื่อบางเรื่องน้องไม่อยากคุยกะพ่อแม่ (บ้านเราเป็นแบบนี้)

-พยายามดิ้นรนให้เข้าไปอยู่ในสายตาบ้าง แต่กลายเป็นความน่ารำคาญ - ต้องดูสถานการณ์ แต่บ้านเราไม่ต้องมีใครดิ้นรน
ถึงแม้พ่อจะมีงานเยอะ ก็แอบมาถามแม่ว่า ลูกแต่ละคนเป็นไง บางทีอยู่บนโต๊ะกินข้าว พ่อพูดคุยกับทุกคน มีแต่ลูกนี่แหละ
ที่ไม่ค่อยอยากจะตอบ (รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน)

-พยายามเก่งให้รอบด้าน เพื่อหวังเทียบพี่คนโต ถึงจะทำได้แต่สุดท้าย พ่อแม่ ก็ไม่เคยมอง - บ้านเรา ลูกสามคน เรียนกันคนละสาย
มีเปรียบเทียบกันบ้าง แต่ไม่เคยเอาเกรดมานั่งเทียบ แค่เทียบความขยัน ความตั้งใจ ส่วนใหญ่มันเห็นได้ชัดว่าใครขึ้เกียจอ่านหนังสืออยู่แล้ว

-อย่าได้ทำพลาด ไม่งั้นจะถูกดุด่าหนักว่าคนอื่น - ไม่เกี่ยวเท่าไหร่ ไม่ว่าใครก็โดนเท่ากัน พลาดก็โดนว่าโดนสอนเท่ากัน
ไม่มีใครหนักกว่าน้อยกว่า

-ยุ่งแค่ไหน ก็ต้องช่วยงานพ่อแม่ แทนพี่คนโต ที่ออกไปเที่ยวเล่น - ขำดีค่ะ อันนี้คงเป็นสามัญสำนึกของลูกแต่ละคนเอง
บ้านเราไม่มีใครไปเที่ยวเล่น แต่ถ้าใครจะไปไหนให้บอกล่วงหน้า เพราะคนอื่นมีธุระอะไร จะได้ปรับเปลี่ยนวันกันได้

-พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าพ่อแม่รักลูกเท่ากัน ถึงแม้สิ่งที่รู้สึกจะไม่ใช่แบบนั้นก็ตาม - อันนี้จริง น้องคนกลางเรา มีปัญหาค่ะ ชอบมา
ตัดพ้อหาว่าพ่อแม่ไม่รัก มีไรก็พี่คนโต มีไรก็น้องคนเล็ก แต่น้องคนกลางเราไม่เคยรู้เลยว่า พ่อเคยเรียกเรากะน้องคนเล็กเข้าไปคุยว่า
ให้พยายามคุยกับน้องคนกลาง เพราะไม่อยากให้น้องคนกลางไปคิดอะไรเอาเอง ทำตัวแปลกแยก และคิดว่าคนอื่นไม่รัก (ก็คงแล้วแต่คนจะคิดค่ะ)

-คอยดูแลพ่อ-แม่-น้อง แทนพี่คนโตที่ไปเที่ยวเล่น - ท่าทางเจ้าของจะแค้นพี่คนโตของตัวเองนะคะ เห็นบ่นเรื่องพี่เที่ยวเล่น ซ้ำอีกครั้ง
คงเป็นเฉพาะบ้านค่ะเรื่องแบบนี้ สำหรับบ้านเราไม่ใช่ คนที่ดูแลพ่อแม่ ส่วนใหญ่จะเป็นเราที่เป็นคนโตด้วยซ้ำ เพราะพ่อกับแม่มองว่า
น้องยังเด็กกว่าเรา มีไรก็เรียกใช้เราก่อนเสมอ อีกอย่างพ่อพูดกะเราเสมอตั้งแต่เด็กๆ ว่าเป็นพี่ต้องดูแลน้อง เรานี่จำแม่นเลย

-ต้องนั่งทนฟัง พ่อแม่พูดพร่ำถึงความเก่งของพี่คนโต ที่ผ่านมาเมื่อชาติที่แล้ว แล้วก็คิดในใจว่า ทำไมไม่มีเรื่องของเราบ้างว้าาา -
เริ่มเข้าใจ จขกท.แล้วค่ะ ว่ามีปมกะพี่คนโตของตัวเอง ถ้าโลกนี้แลกชีวิตกันได้ อยากให้ได้ลองสลับชีวิตกันดูค่ะ บทบาทแต่ละคนมันแตกต่างกัน
แต่ไม่ใช่ว่าเป็นพี่คนโตจะได้รับทุกอย่างที่ดีเสมอไป

-รางวัล เกรดเฉลี่ย ใบประกาศ คำยกย่อง โล่ห์ มันไม่มีค่าเลยเมื่อเทียบกับการที่พ่อ-แม่ชมหรือแสดงอาการภูมิใจซักนิด - อันนี้เห็นด้วย
แต่เราไม่ใช่คนที่ได้รางวัลอะไรนักหนา แต่เราไม่ได้โฟกัสตรงนั้น ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว พ่อแม่เราเห็น และพวกเค้ารู้ว่าเราตั้งใจแค่ไหน
เวลาลูกคนไหนต้องสอบ ต้องแข่งขันอะไร พ่อแม่เราพากันไปสนับสนุน รับ-ส่ง กันทั้งบ้านทุกครั้งไป

-อยากเป็นได้อย่างพี่คนโตบ้าง ซักนิดก็ดี - ถ้า จขกท. ตั้งใจทำตัวดีในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ พ่อแม่ก็ต้องเห็น
ถ้ายังมีปัญหาอยู่ จขกท. อาจต้องปรับมุมมองใหม่ หรือไม่ก็ต้องขออนุญาตบอกว่า จขกท. คงขาดความอบอุ่นจากการเลี้ยงดู

-เครียดหรือเสียใจแค่ไหน ก็ไม่เคยแสดงออกให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วงเลย - เรื่องนี้ ลูกทุกคนที่บ้านเราเป็น ทุกคนจะเก็บและพยายามเคลีย
ปัญหาด้วยตัวเอง แต่ก็แปลก เวลาใครมีปัญหาอะไร ไม่เคยปิดพ่อแม่ได้ซักที แอบรู้มาตลอดแล้วมาตอดๆ ถาม จนได้นั่งคุยกันทุกครั้ง
จนพักหลังๆ พบว่า เก็บไว้ก็เท่านั้น ไปนั่งคุยกับพ่อแม่แล้วมันสบายกว่าเยอะ เค้ามีทางแก้ให้เราตลอด ได้คำแนะนำดีดี แฝงมาด้วยกำลังใจและ
ความอบอุ่นเสมอ อันนี้พิสูจน์แล้วจากลูกทุกคน ของบ้านเรา แต่ถ้าอันไหนมั่นใจว่าแก้ปัญหาได้เอง เก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆไว้ไม่ให้เค้าเป็นห่วงได้ก็เก็บค่ะ

-หลอกตัวเองว่าซักวันน่าาาา มันต้องมีซักวันที่เขาเห็นเรา - ไม่รู้ว่า จขกท. จะหลอกตัวเองเพื่ออะไร น่าจะใช้คำว่า บอกตัวเองมากกว่า
เพราะเราก็เชื่อว่า ใครเป็นยังไงคนอื่นก็ต้องเห็นอยู่ดี เพียงแต่เค้าจะพูดหรือไม่พูดก็อีกเรื่องนึง


พอได้มาตอบกระทู้นี้ เหมือนได้สำรวจครอบครัวตัวเอง รู้สึกรักพ่อกะแม่มากขึ้นไปอีก อีกอย่างคือ เราอยากให้น้องคนกลางของเรามาอ่านเจอบ้างจัง เพราะกล้าพูดได้เลยว่า สำหรับบ้านเรา คนที่มักมีปัญหาใหญ่ๆ คือน้องคนกลาง


บ้านอื่นจะเป็นแบบนี้มั้ย... เราไม่รู้ แต่บ้านเรา คนละแบบกับบ้าน จขกท. โดยสิ้นเชิง

เลี้ยงลูกสามคน คงยากน่าดูเนอะพ่อแม่ -- พูดลอยลอย
ความคิดเห็นที่ 7
เป็นลูกคนกลางที่มีความคิดคล้ายๆ จขกท.  
แต่รู้มั้ยว่า .. ลูกคนกลางนี่ล่ะ เป็นที่พึ่งพาของครอบครัว และสามารถดูแลชีวิตตัวเองได้ดี ..  
อย่าเอาความคิดเหล่านั้น เป็นตัวบั่นทอนความรู้สึกและชีวิตนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่