คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ตอบเท่าที่พบและทำมานะครับ
1.อายุการใช้งานอยู่ที่การดูแลรักษาครับ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจกัน เท่าที่เจอคือนานนะครับกว่าจะขาด เคยเจอรถที่ใช้ไม่ถึงปีขาดก็มี(รถ BB ระดับตัวพันด้วย) และที่อยู่ถึง 16-17 ปีแล้วยังไม่ขาดก็มี จริงๆกล่าวลำบากเพราะเหมือนอยู่ที่ดวงยังไงก็ไม่รู้
การดูแลส่วนใหญ่ผมประมาณ 1 ปี จะถอดออกมาตรวจดูสภาพแล้วล้างครับ เอาถุงพลาสติคเจาะรู ร้อยหัวสายเข้ามาในถุงแล้วเอาหนังสติ๊กรัด แล้วอัดโซเน็กเข้าไป น้ำมันจะพาสิ่งสกปรกไหลออกทางปลายสาย ถ้ามีลมเป่าอัดช่วยจะดีมาก ทำจนเกลี้ยงดีแล้วใช้ WD-40 ฉีดอัดเข้าไปจนชุ่ม(ได้รับคำแนะนำจากร้านระฆังทองว่าต้อง WD-40 เท่านั้นดีที่สุด) แล้วใส่กลับ
2. จากข้อ.1ครับ เมื่อถอดออกมาทำความสะอาดก็ตรวจดูเลยว่ามีฉีกขาด หลุดลุ่ยหรือคดงอหรือเปล่า ถ้าเจอก็เปลี่ยนครับ ทั้งข้อ.1 และ 2. ผมรวมสายครัช สายไมล์และสายวัดรอบ(ถ้ามี)ด้วยนะครับ
3. แนะนำเลยครับ ผมทำมานานแล้ว รถที่วิ่งออก ตจว.ทางไกลบ่อยๆ ผมจะมีสายคันเร่งกับสายครัช อะไหล่อย่างละเส้น ติดใต้เบาะไว้ครับ เอาเคเบิลไทด์รัดไว้เลย(หรือจะรัดไว้ส่วนไหนก็แล้วแต่ลักษณะรถ) ซื้อมาใหม่ๆเลย เอาน้ำมัน WD-40 กรอกไปนิดหน่อย แล้วเอาพลาสติคหุ้มพันปิดตายไว้ด้วยเทปพันสายไฟ
จากนั้นไปสำรวจรถตัวเองว่ามีที่สำหรับเก็บสายคันเร่งกับสายครัชทั้งสองเส้นไว้ที่ไหนได้ (ผมเก็บไว้ที่เบาะด้านใน หาที่วางแล้วเอาสายเคเบิลไทด์ รัดทิ้งไว้) หาที่ได้ก็เก็บติดไว้กับรถแบบลืมไปเลย เวลาสายพวกนี้ขาด รับรองวิ่งกลับบ้านได้แน่นอน
ในกลุ่มพรรคพวกกันจะทำแบบนี้ครับ เพราะในอดีตมีพรรคพวกขับ BB แล้วสายครัชขาดกลางทาง ตจว. หาอะไหล่ไม่ได้เลย ต้องเอาสายครัชของ Phantom มาแปลงใส่ พอประคองกลับได้
ลองดูครับ
1.อายุการใช้งานอยู่ที่การดูแลรักษาครับ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจกัน เท่าที่เจอคือนานนะครับกว่าจะขาด เคยเจอรถที่ใช้ไม่ถึงปีขาดก็มี(รถ BB ระดับตัวพันด้วย) และที่อยู่ถึง 16-17 ปีแล้วยังไม่ขาดก็มี จริงๆกล่าวลำบากเพราะเหมือนอยู่ที่ดวงยังไงก็ไม่รู้
การดูแลส่วนใหญ่ผมประมาณ 1 ปี จะถอดออกมาตรวจดูสภาพแล้วล้างครับ เอาถุงพลาสติคเจาะรู ร้อยหัวสายเข้ามาในถุงแล้วเอาหนังสติ๊กรัด แล้วอัดโซเน็กเข้าไป น้ำมันจะพาสิ่งสกปรกไหลออกทางปลายสาย ถ้ามีลมเป่าอัดช่วยจะดีมาก ทำจนเกลี้ยงดีแล้วใช้ WD-40 ฉีดอัดเข้าไปจนชุ่ม(ได้รับคำแนะนำจากร้านระฆังทองว่าต้อง WD-40 เท่านั้นดีที่สุด) แล้วใส่กลับ
2. จากข้อ.1ครับ เมื่อถอดออกมาทำความสะอาดก็ตรวจดูเลยว่ามีฉีกขาด หลุดลุ่ยหรือคดงอหรือเปล่า ถ้าเจอก็เปลี่ยนครับ ทั้งข้อ.1 และ 2. ผมรวมสายครัช สายไมล์และสายวัดรอบ(ถ้ามี)ด้วยนะครับ
3. แนะนำเลยครับ ผมทำมานานแล้ว รถที่วิ่งออก ตจว.ทางไกลบ่อยๆ ผมจะมีสายคันเร่งกับสายครัช อะไหล่อย่างละเส้น ติดใต้เบาะไว้ครับ เอาเคเบิลไทด์รัดไว้เลย(หรือจะรัดไว้ส่วนไหนก็แล้วแต่ลักษณะรถ) ซื้อมาใหม่ๆเลย เอาน้ำมัน WD-40 กรอกไปนิดหน่อย แล้วเอาพลาสติคหุ้มพันปิดตายไว้ด้วยเทปพันสายไฟ
จากนั้นไปสำรวจรถตัวเองว่ามีที่สำหรับเก็บสายคันเร่งกับสายครัชทั้งสองเส้นไว้ที่ไหนได้ (ผมเก็บไว้ที่เบาะด้านใน หาที่วางแล้วเอาสายเคเบิลไทด์ รัดทิ้งไว้) หาที่ได้ก็เก็บติดไว้กับรถแบบลืมไปเลย เวลาสายพวกนี้ขาด รับรองวิ่งกลับบ้านได้แน่นอน
ในกลุ่มพรรคพวกกันจะทำแบบนี้ครับ เพราะในอดีตมีพรรคพวกขับ BB แล้วสายครัชขาดกลางทาง ตจว. หาอะไหล่ไม่ได้เลย ต้องเอาสายครัชของ Phantom มาแปลงใส่ พอประคองกลับได้
ลองดูครับ
แสดงความคิดเห็น
อายุการใช้งานของสายคันเร่งมอเตอร์ไซค์
1. อายุการใช้งานของสายคันเร่ง แต่ละท่านเปลี่ยนเมื่อถึงระยะทางกี่ km ? หรือรถใช้งานมาแล้วกี่ปี ? ถึงเปลี่ยนครับ ของผมเป็นสายที่ติดรถมาตั้งแต่ออกรถมาครั้งแรก อายุการใช้งานตามไมล์รถก็ 27,500 km แบบนี้พอจะใช้อ้างอิงในการเปลี่ยนครั้งต่อไปได้มั้ยครับ ไม่อยากให้มันขาดกลางทางอีกแล้ว
2. การดูแลรักษา หรือตรวจเช็คสายคันเร่ง ว่ามันยังใช้งานได้ปกติ หรือว่าใกล้จะขาดแล้ว พอมีเทคนิค หรือวิธีการมั้ยครับ
3. อันนี้นอกเรื่องนิดนึงครับ ปกติผมจะเดินทางไกล ท่องเที่ยวอยู่บ่อย ๆ หลัก ๆ ก็จะเช็คแค่ น้ำมันเครื่อง , ระบบไฟ , ลมยาง , เบรค แค่นี้ เดินทางไกลก็ยังไม่เคยเจอปัญหาอะไร ( ยกเว้นยางรั่ว เพราะยังใช้ยางใน ) มีอะไรที่ต้องเช็คเพิ่มเติมอีกมั้ยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบครับ