กลิ่นเหม็นเป็นเพศหญิง อิตถีลิงค์ กลิ่นคาวเป็นเพศชาย ปุงลิงค์ ที่มีจี๋ๆจ๋าๆกอดจูบลูบคลำมาเป็นเครื่องปรุงให้เกิดรสชาติของความใคร่ ใคร่อยากหลงใหลจนเสพติด กระทั่งมนุษย์หันมากินเนื้อสัตว์ที่เพียบพร้อมไปด้วยกลิ่นเหม็นกับกลิ่นคาวเป็นตัวล่อ โดยใช้ขิงข่าตะไคร้อีกอื่นๆ เป็นเครื่องปรุงรสแกงกลิ่นกามให้โอชะ ตามแต่ใจปรารถนา
นอกจากนมเนยแล้ว อาหารมังสวิรัติแท้ของอินเดีย จะไม่มีกลิ่นเหม็นกับกลิ่นคาวใดๆมาเจือปน ใบหรือเมล็ดพืชที่นำมาปรุงเป็นมังสวิรัติ กลิ่นจึงหอมร้อนโอชะนะปุงสะกะลิงไปกับเครื่องปรุง ที่ไม่มีอิตถีเพศกับความเป็นบุรุษเพศในรูปของกลิ่นมาล่อใจให้หลงติดในรสกามา ที่พญามารจะล่อดักชักพาไปต่ำทรามแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลโภชนาแท้ๆที่ทำให้มังสวิรัติเป็นอาหารบุญ เพื่อสุขภาพและความงามของมนุษย์ผู้เจริญ ผู้ห่างไกลจากเหยื่อมาร
แกงดาล ถั่วอรหะผ่าซีก
เตรียม
ถั่วอรหะดาลต้มสุก ๓ กำมือ หอมแดงอินเดียซอย ๒ หัว ขิงซอย ๒ กำมือ มะเขือเทศลูกใหญ่ ๓ ลูก เครื่องเทศ (การัมมาซาลา) ๑ ช้อนโต๊ะ เม็ดยี่หร่าคั่วตำ ๒ ช้อนโต๊ะ ใบหมุ่ย(หัสคุณเทศ) ๑ กำมือ ขมิ้นผงหรือขมิ้นสดตำให้ละเอียด ๓ ช้อนชา พริกขี้หนูเขียวซอย ๓ เม็ด เม็ดมัสตาร์ด ๑ ช้อนโต๊ะ มะเขือยาว ๑ ลูก หั่นเป็นชิ้นตามขวาง หรือใส่ผักอื่นๆที่ให้รสหวาน เช่น ใบมะรุม ฯลฯ น้ำมันมัสตาร์ด ๓ ช้อนโต๊ะ (หากไม่มีใช้น้ำมันมะพร้าวแทนได้ ) น้ำมันเนยใส Amul ๑ ช้อนโต๊ะ (ถ้ามี) มหาหิงคุ์ ครึ่งช้อนชา น้ำมะขามเปียก ๒ ช้อนโต๊ะ ดอกเกลือ ๒ ช้อนชา
วิธีทำ ๑ เทน้ำมันมัสตาร์ด ลงในกระทะ พอร้อนแล้วจึงใส่เนยใสพอละลายหมด ใส่ใบหมุย ตามด้วยหอมแดง ขิง และมหาหิงคุ์ ผัดจนเป็นสีน้ำตาล
๒ ใส่เครื่องเทศ หยี่หรา ขมิ้น เม็ดมัสตาร์ด ผัดให้หอม แล้วใส่พริกขี้หนู มะเขือยาว มะเขือเทศ ใส่ดอกเกลือ ๒ ช้อนชา น้ำมะขามเปียกตามลำดับ ผัดจนมะเขือเทศเละ แล้วพักไว้
๓ นำเครื่องที่ผัดไว้ทั้งหมด เทลงในหม้อถั่วที่ต้มสุกแล้ว เติมน้ำต้มสุกใส่ให้มีความข้นเหมือนน้ำซุป ชิมรสให้ออกรสเปรี้ยวเค็มพอดีกัน เมื่อเดือดดีแล้วก็เสร็จ ตักราดข้าวร้อนๆเปิบได้เลย
หมายเหตุ มังสวิรัติเพื่อสุขภาพนั้น ไม่ใช้น้ำตาล ซีอิ้ว เต้าเจี้ยว กะปิเจ โปรตีนเกษตรสำเร็จรูปเห็ด ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหรือผงชูรส ปรุงอาหารเลย
อาหารมังสวิรัติเช่นนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับความรวยหรือความจน
แต่คือ อาหารของผู้รู้ เท่านั้น ที่สามารถกินได้ตลอดชีวิต
ไม้ร่ม
๕ กันยายน ๒๕๕๘
นะปุงสะกะลิงค์
นอกจากนมเนยแล้ว อาหารมังสวิรัติแท้ของอินเดีย จะไม่มีกลิ่นเหม็นกับกลิ่นคาวใดๆมาเจือปน ใบหรือเมล็ดพืชที่นำมาปรุงเป็นมังสวิรัติ กลิ่นจึงหอมร้อนโอชะนะปุงสะกะลิงไปกับเครื่องปรุง ที่ไม่มีอิตถีเพศกับความเป็นบุรุษเพศในรูปของกลิ่นมาล่อใจให้หลงติดในรสกามา ที่พญามารจะล่อดักชักพาไปต่ำทรามแต่อย่างใด ด้วยเหตุผลโภชนาแท้ๆที่ทำให้มังสวิรัติเป็นอาหารบุญ เพื่อสุขภาพและความงามของมนุษย์ผู้เจริญ ผู้ห่างไกลจากเหยื่อมาร
แกงดาล ถั่วอรหะผ่าซีก
เตรียม
ถั่วอรหะดาลต้มสุก ๓ กำมือ หอมแดงอินเดียซอย ๒ หัว ขิงซอย ๒ กำมือ มะเขือเทศลูกใหญ่ ๓ ลูก เครื่องเทศ (การัมมาซาลา) ๑ ช้อนโต๊ะ เม็ดยี่หร่าคั่วตำ ๒ ช้อนโต๊ะ ใบหมุ่ย(หัสคุณเทศ) ๑ กำมือ ขมิ้นผงหรือขมิ้นสดตำให้ละเอียด ๓ ช้อนชา พริกขี้หนูเขียวซอย ๓ เม็ด เม็ดมัสตาร์ด ๑ ช้อนโต๊ะ มะเขือยาว ๑ ลูก หั่นเป็นชิ้นตามขวาง หรือใส่ผักอื่นๆที่ให้รสหวาน เช่น ใบมะรุม ฯลฯ น้ำมันมัสตาร์ด ๓ ช้อนโต๊ะ (หากไม่มีใช้น้ำมันมะพร้าวแทนได้ ) น้ำมันเนยใส Amul ๑ ช้อนโต๊ะ (ถ้ามี) มหาหิงคุ์ ครึ่งช้อนชา น้ำมะขามเปียก ๒ ช้อนโต๊ะ ดอกเกลือ ๒ ช้อนชา
วิธีทำ ๑ เทน้ำมันมัสตาร์ด ลงในกระทะ พอร้อนแล้วจึงใส่เนยใสพอละลายหมด ใส่ใบหมุย ตามด้วยหอมแดง ขิง และมหาหิงคุ์ ผัดจนเป็นสีน้ำตาล
๒ ใส่เครื่องเทศ หยี่หรา ขมิ้น เม็ดมัสตาร์ด ผัดให้หอม แล้วใส่พริกขี้หนู มะเขือยาว มะเขือเทศ ใส่ดอกเกลือ ๒ ช้อนชา น้ำมะขามเปียกตามลำดับ ผัดจนมะเขือเทศเละ แล้วพักไว้
๓ นำเครื่องที่ผัดไว้ทั้งหมด เทลงในหม้อถั่วที่ต้มสุกแล้ว เติมน้ำต้มสุกใส่ให้มีความข้นเหมือนน้ำซุป ชิมรสให้ออกรสเปรี้ยวเค็มพอดีกัน เมื่อเดือดดีแล้วก็เสร็จ ตักราดข้าวร้อนๆเปิบได้เลย
หมายเหตุ มังสวิรัติเพื่อสุขภาพนั้น ไม่ใช้น้ำตาล ซีอิ้ว เต้าเจี้ยว กะปิเจ โปรตีนเกษตรสำเร็จรูปเห็ด ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหรือผงชูรส ปรุงอาหารเลย
อาหารมังสวิรัติเช่นนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับความรวยหรือความจน
แต่คือ อาหารของผู้รู้ เท่านั้น ที่สามารถกินได้ตลอดชีวิต
ไม้ร่ม
๕ กันยายน ๒๕๕๘