คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 109
อัดอั้นอะครับ ความรู้สึกเดียวกัน
ออกตัวก่อนว่าผมเป็นผู้ชายนะครับ
แต่เข้าใจความรู้สึกลึกๆ เลยของผู้หญิงที่อาจจะมีอารมณ์แบบชอบเช็คหรือไม่ไว้ใจ(มากกว่าผู้ชาย)นะครับ
คนที่หยิบมือถือแฟนไปเล่นอะ ผมขอแบ่งเป็น 2 จำพวก
1. คนที่เริ่มระแวงแฟนมาก่อนแล้ว หรืออาจจะมีสาเหตุให้เริ่มสงสัยหรือตั้งสมมติฐานได้ว่าแฟนอาจจะมีอะไรมิดีมิร้ายซุกซ่อนในมือถือ
2. คนที่ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ แต่จากท่าทางที่ดูหึงหวงมือถือผิดปกติ ก็อาจทำให้อีกฝั่งเริ่มคิดมากละกลายเป็นจำพวกข้อ 1. ได้
ผมเป็นคนนึง ที่เคยเป็นจำพวกที่ 2 ครับ
หยิบมือถือมาเล่นโดยที่ไม่คิดอะไรจริงๆ แต่ท่าทางที่เทอกระชากมือถือกลับไป ความรู้สึกก็บอกได้เลยว่าความลับนั้น 'ไม่ธรรมดา'
ทั้งที่สมัยคบกันใหม่ๆ เราเคยแลก msn / hi5 กันใช้ด้วยซ้ำไป แต่เดี๋ยวนี้ มือถือ/facebook/line กลายเป็นเรื่องส่วนตัวไป และอ้างว่าอึดอัด
ซึ่งที่ผมคิดก็ไม่พลาด เธอคุยกับคนอื่นใน line / facebook จริงๆ และ ณ วันนี้เราเลิกรากันไปแล้ว
ลองถามย้อนดูนะครับ ถ้าเรามองคำว่า 'แฟน' คือการทดลองที่จะเริ่มเตรียมตัวที่จะใช้ชีวิตคู่ฉันท์สามีภรรยากันในอนาคต
ถามว่ามีเรื่องอะไรเหรอครับที่ยังเป็น 'เรื่องส่วนตัว' อยู่ ถ้ารักกันจริงก็ควรร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันทุกๆ เรื่องไม่ใช่หรือครับ
คนเราสมัยนี้ก็แปลก กับแฟนกลับต้องการมีระยะห่าง ในขณะที่เพื่อนสนิทกลับรู้หรือคุยได้ทุกเรื่องแทบจะสิงกันอยู่แล้ว
ถึงจะต้องการมีช่องว่าง มีพื้นที่ส่วนตัว ก็ควรเป็นรั้วโปร่ง เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่คู่รักพอจะมองเข้าไปเห็นได้บ้าง เพียงแต่ไม่ข้ามไปก้าวก่ายกันและกัน
ไม่ใช่ก่ออิฐก่อปูนขึ้นมากั้นปิดบังทุกอย่าง ปืนเข้าไปไม่ได้ มองไปไม่เห็น แล้วอ้างว่าพื้นที่ส่วนตัว......
ทำเช่นนั้นถ้าจะมีใครสงสัยว่า แอบค้ายา หรือ แอบฆาตกรรมแล้วซุกซ่อนศพไว้ มันก็ไม่แปลกนี่ครับ -*-
ถ้าผมเป็นฝ่ายโดนเช็ค ผมคงจะเสียความรู้สึกบ้างเล็กน้อย (ในกรณีที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ)
แต่ก็เข้าใจแหละครับ เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ และเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝั่ง ผมว่าให้เช็คไปก็ไม่เสียหายอะไรครับ
อาจจะมองย้อนกลับมามองพฤติกรรมตัวเองด้วยซ้ำ มีอะไรที่เราเปลี่ยนไปหรือไม่เหมือนเดิมหรือเปล่าเลยทำให้เขาต้องคิดมากเช่นนี้
ให้เขาเช็คไปเถอะ คนเราจะเช็คก็ระยะนึงเท่านั้นแหละครับ พิสูจน์ได้ว่าไม่มีอะไร สักวันเขาก็เลิกเช็คไปเอง
ตรงกันข้าม พวกที่ไม่ให้เช็ค ทะเลาะกันก็แล้ว เลิกกันก็เลิก แต่หัวเด็ดทีนขาดยังไงก็ไม่ให้เล่นมือถือเด็ดขาด
ผมคิดว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นหรอกครับที่บริสุทธิใจจริงๆ ส่วนใหญ่ 70-80% ขึ้นไป
น่าจะมีลับลมคมในอะไรกับแฟนไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งแล้วล่ะครับ อีกฝั่งก็คาใจก็จะยิ่งระแวงขึ้นเรื่อยๆ อยู่กันยากครับ
ร่ายมาซะยาว สรุปสั้นๆ ครับว่า.......ผมมองไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรที่ถึงกับให้แฟนรู้ไม่ได้ครับ
อาจจะมีเรื่องส่วนตัวบ้าง แต่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องนำเรื่องเหล่านั้นมากางออกเพื่อคุยกัน
ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงมากๆ หรือเกี่ยวกับเรื่องนอกใจแล้ว สำหรับคนรักกันมันต้องคุยกันได้หมดทุกเรื่องแหละครับ
ออกตัวก่อนว่าผมเป็นผู้ชายนะครับ
แต่เข้าใจความรู้สึกลึกๆ เลยของผู้หญิงที่อาจจะมีอารมณ์แบบชอบเช็คหรือไม่ไว้ใจ(มากกว่าผู้ชาย)นะครับ
คนที่หยิบมือถือแฟนไปเล่นอะ ผมขอแบ่งเป็น 2 จำพวก
1. คนที่เริ่มระแวงแฟนมาก่อนแล้ว หรืออาจจะมีสาเหตุให้เริ่มสงสัยหรือตั้งสมมติฐานได้ว่าแฟนอาจจะมีอะไรมิดีมิร้ายซุกซ่อนในมือถือ
2. คนที่ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ แต่จากท่าทางที่ดูหึงหวงมือถือผิดปกติ ก็อาจทำให้อีกฝั่งเริ่มคิดมากละกลายเป็นจำพวกข้อ 1. ได้
ผมเป็นคนนึง ที่เคยเป็นจำพวกที่ 2 ครับ
หยิบมือถือมาเล่นโดยที่ไม่คิดอะไรจริงๆ แต่ท่าทางที่เทอกระชากมือถือกลับไป ความรู้สึกก็บอกได้เลยว่าความลับนั้น 'ไม่ธรรมดา'
ทั้งที่สมัยคบกันใหม่ๆ เราเคยแลก msn / hi5 กันใช้ด้วยซ้ำไป แต่เดี๋ยวนี้ มือถือ/facebook/line กลายเป็นเรื่องส่วนตัวไป และอ้างว่าอึดอัด
ซึ่งที่ผมคิดก็ไม่พลาด เธอคุยกับคนอื่นใน line / facebook จริงๆ และ ณ วันนี้เราเลิกรากันไปแล้ว
ลองถามย้อนดูนะครับ ถ้าเรามองคำว่า 'แฟน' คือการทดลองที่จะเริ่มเตรียมตัวที่จะใช้ชีวิตคู่ฉันท์สามีภรรยากันในอนาคต
ถามว่ามีเรื่องอะไรเหรอครับที่ยังเป็น 'เรื่องส่วนตัว' อยู่ ถ้ารักกันจริงก็ควรร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันทุกๆ เรื่องไม่ใช่หรือครับ
คนเราสมัยนี้ก็แปลก กับแฟนกลับต้องการมีระยะห่าง ในขณะที่เพื่อนสนิทกลับรู้หรือคุยได้ทุกเรื่องแทบจะสิงกันอยู่แล้ว
ถึงจะต้องการมีช่องว่าง มีพื้นที่ส่วนตัว ก็ควรเป็นรั้วโปร่ง เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่คู่รักพอจะมองเข้าไปเห็นได้บ้าง เพียงแต่ไม่ข้ามไปก้าวก่ายกันและกัน
ไม่ใช่ก่ออิฐก่อปูนขึ้นมากั้นปิดบังทุกอย่าง ปืนเข้าไปไม่ได้ มองไปไม่เห็น แล้วอ้างว่าพื้นที่ส่วนตัว......
ทำเช่นนั้นถ้าจะมีใครสงสัยว่า แอบค้ายา หรือ แอบฆาตกรรมแล้วซุกซ่อนศพไว้ มันก็ไม่แปลกนี่ครับ -*-
ถ้าผมเป็นฝ่ายโดนเช็ค ผมคงจะเสียความรู้สึกบ้างเล็กน้อย (ในกรณีที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ)
แต่ก็เข้าใจแหละครับ เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ และเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝั่ง ผมว่าให้เช็คไปก็ไม่เสียหายอะไรครับ
อาจจะมองย้อนกลับมามองพฤติกรรมตัวเองด้วยซ้ำ มีอะไรที่เราเปลี่ยนไปหรือไม่เหมือนเดิมหรือเปล่าเลยทำให้เขาต้องคิดมากเช่นนี้
ให้เขาเช็คไปเถอะ คนเราจะเช็คก็ระยะนึงเท่านั้นแหละครับ พิสูจน์ได้ว่าไม่มีอะไร สักวันเขาก็เลิกเช็คไปเอง
ตรงกันข้าม พวกที่ไม่ให้เช็ค ทะเลาะกันก็แล้ว เลิกกันก็เลิก แต่หัวเด็ดทีนขาดยังไงก็ไม่ให้เล่นมือถือเด็ดขาด
ผมคิดว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นหรอกครับที่บริสุทธิใจจริงๆ ส่วนใหญ่ 70-80% ขึ้นไป
น่าจะมีลับลมคมในอะไรกับแฟนไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งแล้วล่ะครับ อีกฝั่งก็คาใจก็จะยิ่งระแวงขึ้นเรื่อยๆ อยู่กันยากครับ
ร่ายมาซะยาว สรุปสั้นๆ ครับว่า.......ผมมองไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรที่ถึงกับให้แฟนรู้ไม่ได้ครับ
อาจจะมีเรื่องส่วนตัวบ้าง แต่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องนำเรื่องเหล่านั้นมากางออกเพื่อคุยกัน
ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงมากๆ หรือเกี่ยวกับเรื่องนอกใจแล้ว สำหรับคนรักกันมันต้องคุยกันได้หมดทุกเรื่องแหละครับ
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
คิดเห็นยังไงที่แฟนบอกว่า "มือถือคือของส่วนตัว"
เวลา แฟน คนรัก หรือคู่สามีภรรยา แตะต้องหรือหยิบโทรศัพท์ของอีกฝ่ายไม่ได้
คือมันส่วนตัวจริงๆ หรือว่าเค้ามีอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้???
เห็นเป็นทั้ง ญ และ ช เลยอยากทราบความคิดเห็นคนอื่น หรือคู่อื่นๆค่ะ