ขอบคุณนะค้าาา... มาต่อแล้วค่าาาา...
------------ ------------ ------------ ------------
หญิงสาวก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ในซอยเปลี่ยวใกล้บ้าน เมื่อคนขับรถบอกเธอว่ารถเสีย
และไม่สามารถจะไปส่งเธอถึงที่หมายตามที่ได้ตกลงกันไว้ได้แล้ว เกดเดินไปตามถนนออกมาได้ไกล
จนมองไม่เห็นรถแท็กซี่คันที่จอดเสียเมื่อครู่ และเธอต้องพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น เมื่อรู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเดินตามเธอมา
แต่ยิ่งหญิงสาวก้าวเท้าเร็วขึ้นเท่าไหร่ ฝ่ายตรงข้ามก็เร่งตามมาเร็วขึ้นเท่านั้น เกดตัดสินใจออกวิ่งและหันกลับไปมองข้างหลัง
ก็พบชายรูปร่างสูงใหญ่กำลังวิ่งตามเธอ ในมือของเขาถือมีดเล่มหนึ่งอยู่ด้วย !
เกดเร่งฝีเท้าจนสุดกำลัง จนมาถึงถนนใหญ่ที่มีแสงสว่างมากขึ้น แต่กระนั้น! ชายคนเดิมก็ยังไม่ลดละ
ทันใดนั้น! หญิงสาวเห็นลำแสงจากยานพาหนะพุ่งตรงมาหา เกดกรีดร้องขอความช่วยเหลือจนสุดเสียง
ตำรวจสองนายรีบกระโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์ นายหนึ่งวิ่งติดตามคนร้าย อีกนายหนึ่งคอยอยู่ปกป้องเธอ
เกดละล่ำละลัก เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง เธอกล่าวขอบคุณและพึมพำว่าโชคดีมากที่พวกเขามาช่วยได้ทันเวลา
แล้วคำตอบของนายตำรวจก็ทำให้เกดใจหายอีกครั้ง
“ผมตรวจท้องที่อยู่แถวนี้พอดี มีคุณผู้หญิงคนหนึ่งมาแจ้งว่ามีคนกำลังจะถูกทำร้ายในซอยนี้ ก็เลยมาทันพอดีครับ”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นในซอยเปลี่ยว และหญิงสาวมั่นใจว่า ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์อีกแน่
เกดอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเธอไว้ในวันนี้ คือเจ้าของแหวนที่ยังคงติดตามเธอมาตั้งแต่เมื่อวาน
------------ ------------ ------------ ------------
หญิงสาวคนหนึ่งเริ่มปรับความเร็วในการเดินของเธอให้เร็วยิ่งขึ้นๆ เมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่ามีใครติดตามอยู่
จากเสียงฝีเท้าของใครคนนั้น ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่
แล้วโชคชะตาก็เหมือนไม่เข้าข้างเธอนัก เมื่อหญิงสาววิ่งมาถึงทางตัน สองข้างทางนั้นเป็นพงหญ้ารกร้าง
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น... ชายคนนั้นประชิดตัวเธอเสียแล้ว!
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน หญิงสาวไม่มีเวลาคิดอะไรอีก เธอมองสบตากับผู้มุ่งร้ายที่ในแววตาคู่นั้น
ดูเหมือนมีความหวาดกลัวแฝงอยู่พอกันกับเธอ
“คุณต้องการอะไร”
“ส่งของมีค่ามาให้หมด”
แววตาโศกของหญิงสาว บัดนี้ฉายแววตระหนก เธอจำใจถอดกำไลทองสองวงที่ข้อมือออก
รวมทั้งสร้อยคอที่ใส่ติดตัวมานานแล้วรวบรวมส่งให้ แต่ชายกลางคนนั้นก็ยังไม่พอใจ
เมื่อเห็นแหวนเพชรเม็ดงามยังคงถูกสวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ
“ส่งแหวนนั่นมาด้วย”
หญิงสาวลนลาน เมื่อถูกกระชากเสียงถาม พยายามอ้อนวอนเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ”
“วงนี้เป็นแหวนหมั้น ขอร้องเถอะนะ อย่าเอาไปเลย”
“ส่งมา”
เหมือนว่าคำขอร้องของเธอจะไม่ได้ผล เมื่อชายคนเดิมยังคงยืนกราน และเมื่อหญิงสาวขัดขืนไม่ยอมส่งแหวนรักให้ เขาก็เริ่มใช้กำลัง
ชายฉกรรจ์ฉุดข้อมือซ้ายของเธอแล้วกระชากอย่างแรงจนเธอเสียหลัก แล้วพยายามจะรูดแหวนออกจากนิ้วมือเธอให้จงได้
แหวนเพชรน้ำงามวงนี้ น่าจะเป็นความหวังในการหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเขา... เขาคิด
หญิงสาวน้ำตาไหลพราก กลัวว่าจะเสียของรัก จึงพยายามดิ้นรนต่อสู้จนสุดกำลัง เธอกำมือข้างขวาแน่น พยายามทุบตีเขาตลอดเวลา
“ยังไงฉันก็ไม่ให้ มันมีค่าทางใจกับฉันมาก ยังไงฉันก็ไม่มีทางยอมให้”
เธอพูดพลางทุบตีเขาไปพลาง จนเขาบันดาลโทสะ แต่น้ำเสียงวิงวอนที่สั่นเครือ
กับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มจากแววตาโศกบนใบหน้าสวยคมของเธอนั้น ทำให้เขาใจอ่อนลงไม่น้อยเช่นกัน
ลำพังทรัพย์สินมีค่าที่เธอส่งให้ หากนำไปรวมกับเงินสดที่เธอมีติดตัวอยู่ซึ่งคงมีไม่มากนัก
จะต้องไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขาแน่ หากไม่ได้แหวนเพชรวงนี้ไปด้วย ตัวเขาเองก็คงรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ไม่รอด
เมื่อคนร้ายมีท่าทีที่ดูอ่อนลง หญิงสาวตัดสินใจสะบัดข้อมือจนหลุดออกจากข้อมือของผู้ที่แข็งแรงกว่าได้ แล้วออกวิ่งจนสุดกำลัง
ชายฉกรรจ์ตกใจ! ออกวิ่งตามไป หากเธอหลุดรอด หลบหนีไปได้ ชีวิตของเขาคงไม่ปลอดภัยแน่
ณ วินาทีนี้ เขาไม่มีใจจะเห็นแก่ใครอีกแล้ว นอกจากตัวเอง
ด้วยความแข็งแรงและพละกำลังที่มีมากกว่า ไม่นานนักเขาก็วิ่งตามเธอได้ทัน ชายฉกรรจ์ชักมีดพกที่เตรียมมา ปักลงกลางหลังเธอในฉับพลัน!
หญิงสาววิ่งต่อมาได้อีกเพียงสามสี่ก้าวก็ทรุดลง เลือดเริ่มไหลซึมออกมาจากบาดแผลที่ถูกแทงเมื่อครู่ คมมีดนั้นฝังความเจ็บปวดเข้าสู่ร่างกาย
ใบหน้าของชายวัยกลางคนเริ่มซีดเผือด เมื่อเห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากำลังจะตายไปต่อหน้าต่อตา
รู้สึกหวาดกลัวในสิ่งที่ตนทำลงไป เขาไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรที่รุนแรงถึงเพียงนี้ มีดพกที่เตรียมมา คิดเพียงแค่ว่าจะใช้เพื่อข่มขู่เท่านั้น
แต่เพื่อตัวเอง เพื่อความอยู่รอด เขาไม่อาจรักษาความมีมนุษยธรรมที่เคยอยู่ในใจไว้ได้อีกต่อไปแล้ว
เขาตัดสินใจถอดแหวนรักของเธอออกจากนิ้ว
“อย่า... เอาไป...”
แม้จะใกล้เข้าสู่ความตาย แต่หญิงสาวยังคงพยายามรวบรวมคำพูด เพื่อให้เขาเปลี่ยนใจ
เสียงของเธอสั่นระริก เลือดทะลักออกจากบาดแผลมากขึ้นทุกขณะ
แต่ชายผิวเข้มไม่อาจเปลี่ยนใจ เขาดึงดันถอดแหวนเธอไปจนสำเร็จ หญิงสาวล้มลงจมกองเลือดที่ไหลออกจากแผลไม่หยุด
แหวนหมั้นสุดรักอยู่ในมือเขาแล้ว แววตาโศกของเธอบัดนี้ฉายแววอาฆาตมายังเขาอย่างเปิดเผยจนชายฉกรรจ์หวาดกลัว หลบหนีไป
ในที่สุด ความเจ็บปวดทรมานก็พรากลมหายใจออกจากร่างในเวลาต่อมา
------------ ------------ ------------ ------------
เกดสะดุ้งตื่นจากความฝัน! หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้วทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เห็น
คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว หากคนเราฝันเห็นใครบางคนที่ไม่เคยรู้จักติดต่อกันถึงสองคืน แถมเรื่องราวในความฝันนั้นยังมีความต่อเนื่องกันอีกด้วย สาวนัยน์ตาโศกผู้นี้ต้องเป็นเจ้าของแหวนเก่าของแหวนวงโปรดของเธอเป็นแน่ เธอคงไม่ได้มีเจตนาจะทำร้าย เพียงแต่ต้องการความช่วยเหลือ
แต่สิ่งที่เกดยังค้างคาใจ นั่นคือฆาตกรที่ฆ่าเธอตายนั้น เป็นคนที่เธอคุ้นหน้าเหลือเกิน มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
------------ ------------ ------------ ------------
เรื่องราวในความฝันที่เกดบอกเล่า ทำเอาชายหนุ่มถึงกับชะงัก และเมื่อผนวกกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสาวที่เขาได้รับรู้ในตอนนี้ ทำให้สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไป ท่าทางร้อนรน แววตาครุ่นคิด สับสน หญิงสาวเฝ้ามองและจับพิรุธนั้นซักถามทันที
ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปากสารภาพ
“ฉันขอโทษนะเกด ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอมาเจออะไรแบบนี้ ตั้งแต่ฉันได้แหวนวงนี้มา ฉันก็ฝันแบบเดียวกันกับเธอ
เห็นงานหมั้น เห็นการฆาตกรรม เห็นสาวนัยน์ตาโศกคนนั้น วนเวียนอยู่ตลอด ฉันคิดว่าถ้าขายไป อะไรๆ อาจดีขึ้น
แต่เปล่าเลย ฉันยังฝันซ้ำไปซ้ำมา ยังเห็นเขาอยู่อีก ฉันกังวลมาก ฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่”
ท่าทางของชายหนุ่มในเวลานี้ ดูเป็นทุกข์ร้อนรนกระวนกระวายมาก เกดจับมือเพื่อนรักไว้แล้วพูดปลอบใจ
“ไม่เป็นไรนะป้อม ฉันแน่ใจว่าเขาจะไม่ทำร้ายเราแน่ เขาเพียงแต่ต้องการความช่วยเหลือ
เชื่อฉันเถอะ ฉันคิดว่า เขาแค่อยากได้แหวนของเขาคืนเท่านั้น... ว่าแต่... เธอได้แหวนวงนี้มาจากไหน”
แม้ว่าท่าทีของป้อมจะดูสบายใจขึ้น แต่ยังคงแสดงความหนักใจออกทางแววตาและไม่ตอบคำถาม
เกดบีบมือเพื่อนรัก แล้วถามเขาอีกครั้ง
“น้าโชติใช่ไหม”
ป้อมหลุบตาลงต่ำ พยักหน้าซ้ำๆ แทนคำตอบ
------------ ------------ ------------ ------------
แหวนหมั้น//2
------------ ------------ ------------ ------------
หญิงสาวก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ในซอยเปลี่ยวใกล้บ้าน เมื่อคนขับรถบอกเธอว่ารถเสีย
และไม่สามารถจะไปส่งเธอถึงที่หมายตามที่ได้ตกลงกันไว้ได้แล้ว เกดเดินไปตามถนนออกมาได้ไกล
จนมองไม่เห็นรถแท็กซี่คันที่จอดเสียเมื่อครู่ และเธอต้องพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น เมื่อรู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งกำลังเดินตามเธอมา
แต่ยิ่งหญิงสาวก้าวเท้าเร็วขึ้นเท่าไหร่ ฝ่ายตรงข้ามก็เร่งตามมาเร็วขึ้นเท่านั้น เกดตัดสินใจออกวิ่งและหันกลับไปมองข้างหลัง
ก็พบชายรูปร่างสูงใหญ่กำลังวิ่งตามเธอ ในมือของเขาถือมีดเล่มหนึ่งอยู่ด้วย !
เกดเร่งฝีเท้าจนสุดกำลัง จนมาถึงถนนใหญ่ที่มีแสงสว่างมากขึ้น แต่กระนั้น! ชายคนเดิมก็ยังไม่ลดละ
ทันใดนั้น! หญิงสาวเห็นลำแสงจากยานพาหนะพุ่งตรงมาหา เกดกรีดร้องขอความช่วยเหลือจนสุดเสียง
ตำรวจสองนายรีบกระโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์ นายหนึ่งวิ่งติดตามคนร้าย อีกนายหนึ่งคอยอยู่ปกป้องเธอ
เกดละล่ำละลัก เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง เธอกล่าวขอบคุณและพึมพำว่าโชคดีมากที่พวกเขามาช่วยได้ทันเวลา
แล้วคำตอบของนายตำรวจก็ทำให้เกดใจหายอีกครั้ง
“ผมตรวจท้องที่อยู่แถวนี้พอดี มีคุณผู้หญิงคนหนึ่งมาแจ้งว่ามีคนกำลังจะถูกทำร้ายในซอยนี้ ก็เลยมาทันพอดีครับ”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นในซอยเปลี่ยว และหญิงสาวมั่นใจว่า ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์อีกแน่
เกดอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเธอไว้ในวันนี้ คือเจ้าของแหวนที่ยังคงติดตามเธอมาตั้งแต่เมื่อวาน
------------ ------------ ------------ ------------
หญิงสาวคนหนึ่งเริ่มปรับความเร็วในการเดินของเธอให้เร็วยิ่งขึ้นๆ เมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่ามีใครติดตามอยู่
จากเสียงฝีเท้าของใครคนนั้น ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่
แล้วโชคชะตาก็เหมือนไม่เข้าข้างเธอนัก เมื่อหญิงสาววิ่งมาถึงทางตัน สองข้างทางนั้นเป็นพงหญ้ารกร้าง
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น... ชายคนนั้นประชิดตัวเธอเสียแล้ว!
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน หญิงสาวไม่มีเวลาคิดอะไรอีก เธอมองสบตากับผู้มุ่งร้ายที่ในแววตาคู่นั้น
ดูเหมือนมีความหวาดกลัวแฝงอยู่พอกันกับเธอ
“คุณต้องการอะไร”
“ส่งของมีค่ามาให้หมด”
แววตาโศกของหญิงสาว บัดนี้ฉายแววตระหนก เธอจำใจถอดกำไลทองสองวงที่ข้อมือออก
รวมทั้งสร้อยคอที่ใส่ติดตัวมานานแล้วรวบรวมส่งให้ แต่ชายกลางคนนั้นก็ยังไม่พอใจ
เมื่อเห็นแหวนเพชรเม็ดงามยังคงถูกสวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ
“ส่งแหวนนั่นมาด้วย”
หญิงสาวลนลาน เมื่อถูกกระชากเสียงถาม พยายามอ้อนวอนเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ”
“วงนี้เป็นแหวนหมั้น ขอร้องเถอะนะ อย่าเอาไปเลย”
“ส่งมา”
เหมือนว่าคำขอร้องของเธอจะไม่ได้ผล เมื่อชายคนเดิมยังคงยืนกราน และเมื่อหญิงสาวขัดขืนไม่ยอมส่งแหวนรักให้ เขาก็เริ่มใช้กำลัง
ชายฉกรรจ์ฉุดข้อมือซ้ายของเธอแล้วกระชากอย่างแรงจนเธอเสียหลัก แล้วพยายามจะรูดแหวนออกจากนิ้วมือเธอให้จงได้
แหวนเพชรน้ำงามวงนี้ น่าจะเป็นความหวังในการหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเขา... เขาคิด
หญิงสาวน้ำตาไหลพราก กลัวว่าจะเสียของรัก จึงพยายามดิ้นรนต่อสู้จนสุดกำลัง เธอกำมือข้างขวาแน่น พยายามทุบตีเขาตลอดเวลา
“ยังไงฉันก็ไม่ให้ มันมีค่าทางใจกับฉันมาก ยังไงฉันก็ไม่มีทางยอมให้”
เธอพูดพลางทุบตีเขาไปพลาง จนเขาบันดาลโทสะ แต่น้ำเสียงวิงวอนที่สั่นเครือ
กับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มจากแววตาโศกบนใบหน้าสวยคมของเธอนั้น ทำให้เขาใจอ่อนลงไม่น้อยเช่นกัน
ลำพังทรัพย์สินมีค่าที่เธอส่งให้ หากนำไปรวมกับเงินสดที่เธอมีติดตัวอยู่ซึ่งคงมีไม่มากนัก
จะต้องไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขาแน่ หากไม่ได้แหวนเพชรวงนี้ไปด้วย ตัวเขาเองก็คงรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ไม่รอด
เมื่อคนร้ายมีท่าทีที่ดูอ่อนลง หญิงสาวตัดสินใจสะบัดข้อมือจนหลุดออกจากข้อมือของผู้ที่แข็งแรงกว่าได้ แล้วออกวิ่งจนสุดกำลัง
ชายฉกรรจ์ตกใจ! ออกวิ่งตามไป หากเธอหลุดรอด หลบหนีไปได้ ชีวิตของเขาคงไม่ปลอดภัยแน่
ณ วินาทีนี้ เขาไม่มีใจจะเห็นแก่ใครอีกแล้ว นอกจากตัวเอง
ด้วยความแข็งแรงและพละกำลังที่มีมากกว่า ไม่นานนักเขาก็วิ่งตามเธอได้ทัน ชายฉกรรจ์ชักมีดพกที่เตรียมมา ปักลงกลางหลังเธอในฉับพลัน!
หญิงสาววิ่งต่อมาได้อีกเพียงสามสี่ก้าวก็ทรุดลง เลือดเริ่มไหลซึมออกมาจากบาดแผลที่ถูกแทงเมื่อครู่ คมมีดนั้นฝังความเจ็บปวดเข้าสู่ร่างกาย
ใบหน้าของชายวัยกลางคนเริ่มซีดเผือด เมื่อเห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากำลังจะตายไปต่อหน้าต่อตา
รู้สึกหวาดกลัวในสิ่งที่ตนทำลงไป เขาไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรที่รุนแรงถึงเพียงนี้ มีดพกที่เตรียมมา คิดเพียงแค่ว่าจะใช้เพื่อข่มขู่เท่านั้น
แต่เพื่อตัวเอง เพื่อความอยู่รอด เขาไม่อาจรักษาความมีมนุษยธรรมที่เคยอยู่ในใจไว้ได้อีกต่อไปแล้ว
เขาตัดสินใจถอดแหวนรักของเธอออกจากนิ้ว
“อย่า... เอาไป...”
แม้จะใกล้เข้าสู่ความตาย แต่หญิงสาวยังคงพยายามรวบรวมคำพูด เพื่อให้เขาเปลี่ยนใจ
เสียงของเธอสั่นระริก เลือดทะลักออกจากบาดแผลมากขึ้นทุกขณะ
แต่ชายผิวเข้มไม่อาจเปลี่ยนใจ เขาดึงดันถอดแหวนเธอไปจนสำเร็จ หญิงสาวล้มลงจมกองเลือดที่ไหลออกจากแผลไม่หยุด
แหวนหมั้นสุดรักอยู่ในมือเขาแล้ว แววตาโศกของเธอบัดนี้ฉายแววอาฆาตมายังเขาอย่างเปิดเผยจนชายฉกรรจ์หวาดกลัว หลบหนีไป
ในที่สุด ความเจ็บปวดทรมานก็พรากลมหายใจออกจากร่างในเวลาต่อมา
------------ ------------ ------------ ------------
เกดสะดุ้งตื่นจากความฝัน! หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้วทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เห็น
คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว หากคนเราฝันเห็นใครบางคนที่ไม่เคยรู้จักติดต่อกันถึงสองคืน แถมเรื่องราวในความฝันนั้นยังมีความต่อเนื่องกันอีกด้วย สาวนัยน์ตาโศกผู้นี้ต้องเป็นเจ้าของแหวนเก่าของแหวนวงโปรดของเธอเป็นแน่ เธอคงไม่ได้มีเจตนาจะทำร้าย เพียงแต่ต้องการความช่วยเหลือ
แต่สิ่งที่เกดยังค้างคาใจ นั่นคือฆาตกรที่ฆ่าเธอตายนั้น เป็นคนที่เธอคุ้นหน้าเหลือเกิน มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
------------ ------------ ------------ ------------
เรื่องราวในความฝันที่เกดบอกเล่า ทำเอาชายหนุ่มถึงกับชะงัก และเมื่อผนวกกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสาวที่เขาได้รับรู้ในตอนนี้ ทำให้สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไป ท่าทางร้อนรน แววตาครุ่นคิด สับสน หญิงสาวเฝ้ามองและจับพิรุธนั้นซักถามทันที
ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปากสารภาพ
“ฉันขอโทษนะเกด ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอมาเจออะไรแบบนี้ ตั้งแต่ฉันได้แหวนวงนี้มา ฉันก็ฝันแบบเดียวกันกับเธอ
เห็นงานหมั้น เห็นการฆาตกรรม เห็นสาวนัยน์ตาโศกคนนั้น วนเวียนอยู่ตลอด ฉันคิดว่าถ้าขายไป อะไรๆ อาจดีขึ้น
แต่เปล่าเลย ฉันยังฝันซ้ำไปซ้ำมา ยังเห็นเขาอยู่อีก ฉันกังวลมาก ฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่”
ท่าทางของชายหนุ่มในเวลานี้ ดูเป็นทุกข์ร้อนรนกระวนกระวายมาก เกดจับมือเพื่อนรักไว้แล้วพูดปลอบใจ
“ไม่เป็นไรนะป้อม ฉันแน่ใจว่าเขาจะไม่ทำร้ายเราแน่ เขาเพียงแต่ต้องการความช่วยเหลือ
เชื่อฉันเถอะ ฉันคิดว่า เขาแค่อยากได้แหวนของเขาคืนเท่านั้น... ว่าแต่... เธอได้แหวนวงนี้มาจากไหน”
แม้ว่าท่าทีของป้อมจะดูสบายใจขึ้น แต่ยังคงแสดงความหนักใจออกทางแววตาและไม่ตอบคำถาม
เกดบีบมือเพื่อนรัก แล้วถามเขาอีกครั้ง
“น้าโชติใช่ไหม”
ป้อมหลุบตาลงต่ำ พยักหน้าซ้ำๆ แทนคำตอบ
------------ ------------ ------------ ------------