พอมีกระแสภาพยนตร์เรื่อง
“ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” วันนี้เป็นวันแรกที่หนังเข้าฉาย เชื่อว่าหลายคนที่ไปดูหนังเรื่องนี้มาแล้ว อาจรู้สึกถูกสะกิดต่อม และตั้งคำถามขึ้นในใจว่า ทุกวันนี้ที่ทำอยู่มันใช่เหรอ ก็จะเกิดอาการต่อต้านงานประจำ และยิ่งมีความรู้สึกด้านลบต่องานประจำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้รู้สึกอยากมีอิสระในการใช้ชีวิต อยากทำงานโดยที่ไม่ต้องมีใครมาสั่งหรือคอยกดดัน
ด้วยเหตุนี้ อาชีพฟรีแลนซ์จึงเป็นอีกทางเลือกที่อาจจะตอบโจทย์สไตล์การใช้ชีวิตของวัยรุ่นและวัยทำงานสมัยใหม่ไม่มากก็น้อย
อย่างที่เคยบอกไปคือ ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ฟรีแลนซ์ก็เช่นกันที่เปรียบดังการลงทุนทางธุรกิจอย่างหนึ่งที่มีมากกว่าการทำงานให้เสร็จเป็นจ๊อบๆ ไป วันนี้จขกท. มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาชีพนี้มาบอกเล่าให้แก่คนที่อยากเป็นฟรีแลนซ์แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี
1. มีทักษะ ความสามารถที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษมากน้อยแค่ไหน
ข้อนี้สำคัญสำหรับจุดเริ่มต้นของคนที่คิดจะเป็นฟรีแลนซ์ เพราะต้องใช้เพื่อขายของให้แก่ลูกค้า ถ้ายังไม่มั่นใจว่าตัวเองเจ๋งพอหรือยัง
ก็พยายามหาเวลาว่างไปฝึกปรือทักษะที่เราถนัดให้ชำนาญมากกว่านี้ ถ้ายังไม่มีก็รีบสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่เราทำแล้วรักและมีความสุขซะ
2. มีพอร์ตฯ (แฟ้มสะสมผลงาน) ไว้ให้ลูกค้าดูเป็นตัวอย่างแล้วหรือยัง
การมีแฟ้มสะสมผลงาน จะช่วยให้ทั้งเราและลูกค้ามองเห็นสไตล์ที่ชัดเจนของเรา และเป็นตัวช่วยตัดสินใจว่า สไตล์ของเราตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน
3. มีช่องทางปล่อยของแล้วหรือยัง
โลกออนไลน์คือแหล่งชั้นดีที่จะมีคนที่หลากหลายสามารถมองเห็นผลงานของเรา ถ้ามั่นใจในผลงานของเราแล้ว
ก็ประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่า เรารับงานฟรีแลนซ์ด้านนี้ โดยใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ สร้างแฟนเพจปล่อยของผ่านทาง Facebook, Instagram, YouTube, Pantip หรือ Pinterest แต่ต้องสร้างผลงานใหม่ๆ สม่ำเสมอ
และที่สำคัญต้องโพสต์ลงโซเชียลอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ
4. มีฐานเครือข่ายหรือไม่
ต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้สังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ ถ้ามองว่ามันคือตัวถ่วงความเจริญของสังคมแล้วล่ะก็ ลองมองกลับกัน การเป็นฟรีแลนซ์มีความเสี่ยงคือ ลูกค้าจะเชื่อมั่นในฝีมือของเรามากน้อยแค่ไหน และจะจ้างเราสม่ำเสมอหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอยากให้มองความเป็นจริงควบคู่กันไป การมีฐานเครือข่าย (Connection) อาจเริ่มต้นจากญาติพี่น้อง เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องที่ร่วมสถาบันหรือร่วมงานที่เดียวกับเรา ครูอาจารย์ หรือคนรู้จัก จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการหางานลงได้บ้าง แต่ถ้าคุณสร้างฐานขึ้นมาได้ด้วยฝีมือล้วนๆ ไม่มีเส้นสาย ก็ถือว่าคุณเป็นคนที่เจ๋งและเก่งมาก
ถ้ามีครบทั้ง 4 อย่างแล้ว ถามตัวเองอีกครั้งว่า พร้อมจะลุยแล้วหรือยัง
แต่ถ้ายังมีไม่ครบ ก็ทำให้ครบกันเถอะ
เตรียมความพร้อม ก่อนจะเป็นฟรีแลนซ์
ด้วยเหตุนี้ อาชีพฟรีแลนซ์จึงเป็นอีกทางเลือกที่อาจจะตอบโจทย์สไตล์การใช้ชีวิตของวัยรุ่นและวัยทำงานสมัยใหม่ไม่มากก็น้อย
อย่างที่เคยบอกไปคือ ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ฟรีแลนซ์ก็เช่นกันที่เปรียบดังการลงทุนทางธุรกิจอย่างหนึ่งที่มีมากกว่าการทำงานให้เสร็จเป็นจ๊อบๆ ไป วันนี้จขกท. มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาชีพนี้มาบอกเล่าให้แก่คนที่อยากเป็นฟรีแลนซ์แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี
1. มีทักษะ ความสามารถที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษมากน้อยแค่ไหน
ข้อนี้สำคัญสำหรับจุดเริ่มต้นของคนที่คิดจะเป็นฟรีแลนซ์ เพราะต้องใช้เพื่อขายของให้แก่ลูกค้า ถ้ายังไม่มั่นใจว่าตัวเองเจ๋งพอหรือยัง
ก็พยายามหาเวลาว่างไปฝึกปรือทักษะที่เราถนัดให้ชำนาญมากกว่านี้ ถ้ายังไม่มีก็รีบสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่เราทำแล้วรักและมีความสุขซะ
2. มีพอร์ตฯ (แฟ้มสะสมผลงาน) ไว้ให้ลูกค้าดูเป็นตัวอย่างแล้วหรือยัง
การมีแฟ้มสะสมผลงาน จะช่วยให้ทั้งเราและลูกค้ามองเห็นสไตล์ที่ชัดเจนของเรา และเป็นตัวช่วยตัดสินใจว่า สไตล์ของเราตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน
3. มีช่องทางปล่อยของแล้วหรือยัง
โลกออนไลน์คือแหล่งชั้นดีที่จะมีคนที่หลากหลายสามารถมองเห็นผลงานของเรา ถ้ามั่นใจในผลงานของเราแล้ว
ก็ประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่า เรารับงานฟรีแลนซ์ด้านนี้ โดยใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ สร้างแฟนเพจปล่อยของผ่านทาง Facebook, Instagram, YouTube, Pantip หรือ Pinterest แต่ต้องสร้างผลงานใหม่ๆ สม่ำเสมอ
และที่สำคัญต้องโพสต์ลงโซเชียลอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ
4. มีฐานเครือข่ายหรือไม่
ต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้สังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ ถ้ามองว่ามันคือตัวถ่วงความเจริญของสังคมแล้วล่ะก็ ลองมองกลับกัน การเป็นฟรีแลนซ์มีความเสี่ยงคือ ลูกค้าจะเชื่อมั่นในฝีมือของเรามากน้อยแค่ไหน และจะจ้างเราสม่ำเสมอหรือเปล่า เพราะฉะนั้นอยากให้มองความเป็นจริงควบคู่กันไป การมีฐานเครือข่าย (Connection) อาจเริ่มต้นจากญาติพี่น้อง เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องที่ร่วมสถาบันหรือร่วมงานที่เดียวกับเรา ครูอาจารย์ หรือคนรู้จัก จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการหางานลงได้บ้าง แต่ถ้าคุณสร้างฐานขึ้นมาได้ด้วยฝีมือล้วนๆ ไม่มีเส้นสาย ก็ถือว่าคุณเป็นคนที่เจ๋งและเก่งมาก
ถ้ามีครบทั้ง 4 อย่างแล้ว ถามตัวเองอีกครั้งว่า พร้อมจะลุยแล้วหรือยัง
แต่ถ้ายังมีไม่ครบ ก็ทำให้ครบกันเถอะ