ประมาณ 9-10 โมงใครอยากดูการสวนสนามของจีนดูได้เลยครับ

กระทู้คำถาม
ดูจากทีวี ก็ได้ IPM  true  ช่อง cctv 4

หรือดูจาก net ก็ได้

http://english.cntv.cn/live/p2p/index.shtml

http://tv.cntv.cn/live/cctv1

http://tv.cntv.cn/live/cctv4/

http://tv.cntv.cn/live/cctv13

http://www.youtube.com/watch?t=14&v=1rW4QM64W8E
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ทหารกองทัพซามูไรห้ำหั่นจีน โชคชะตาพลิกผันเปลี่ยนศัตรูกลายเป็นมิตร


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์          
3 กันยายน 2558 09:23 น.

ทหารกองทัพซามูไรห้ำหั่นจีน โชคชะตาพลิกผันเปลี่ยนศัตรูกลายเป็นมิตร
นาย ฮิโรซูมิ โคบายาชิ ทหารผ่านศึก วัย 96 ปี ให้สัมภาษณ์ที่บ้านในกรุงโตเกียวเมื่อเดือน ส.ค. 2558 – ไชน่าเดลี่

        ไชน่าเดลี่ - จีนเตรียมจัดพิธีฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะในสงครามต่อต้านการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น ( พ.ศ. 2480-2488 ) อย่างยิ่งใหญ่ที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 3 ก.ย. 2558
      
       นาย ฮิโรซูมิ โคบายาชิ ทหารผ่านศึก วัย 96 ปีแห่งกองทัพญี่ปุ่น รู้สึกตื้นเต้นดีใจ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีครั้งนี้
      
       เมื่อ 70 กว่าปีก่อน โคบายาชิเป็นทหารหนุ่มในกองทัพลูกพระอาทิตย์ ที่ถูกส่งมาย่ำยีแดนมังกร ทว่าสุดท้ายเขากลับสมัครใจเข้าร่วมในกองทัพปลดแอกประชาชน !
      
       ในสายตาของชายชาตินักรบเลือดซามูไร ผู้มอบเกียรติยศครั้งสุดท้ายแก่ตนเองเมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือศัตรูด้วยการคว้านท้องฮาราคีรีนั้น โคบายาชิจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากคนขายชาติ
      
       ทว่าด้วยโชคชะตา ที่พลิกผัน เขาจำต้องเดินไปบนเส้นทาง ที่บีบรัด กระทั่งได้มาพบกับความจริง ซึ่งสามารถเปลี่ยนหัวใจของข้าศึกคนหนึ่งให้กลับกลายมาเป็นมิตรในที่สุด
      
       “ ผมเป็นพลปืนกลเบา ประจำหน่วย ที่มีกำลังพลเข้มแข็งด้วยกัน 10 คนในพื้นที่ติดกับชิงเต่า” คุณปู่ ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านชานกรุงโตเกียว ย้อนความหลัง
      
       โคบายาชิเกิดเมื่อปีพ.ศ.2462 บิดาเป็นพระภิกษุในศาสนาพุทธ ตำแหน่งเจ้าอาวาสในจังหวัดกันมะ โดยพระภิกษุในญี่ปุ่นมีภรรยาและบุตรได้ ส่วนบุตรชายก็มักเจริญรอยตามบิดา
      
       เมื่อสำเร็จชั้นมัธยมศึกษา โคบายาชิเตรียมบวช และสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนบิดา ขณะเดียวกันก็ฝึกฝนอาชีพทนายความไปพร้อมกัน
      
       แต่โครงการชีวิต อันเรียบง่ายต้องจบลง เขาถูกเกณฑ์ทหารในปีพ.ศ. 2483 และเข้ารับการฝึกวิชาทหารอย่างหนัก จากนั้น ถูกส่งไปประจำการณ์ในมณฑลซานตง ทางภาคตะวันออกของจีน
      
       ขณะปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่บนเทือกเขาในปีพ.ศ. 2484 นั้นเอง หน่วยของเขาก็ถูกกองทัพสายที่ 8 ของจีนซุ่มโจมตี
      
       “ผมบอกกับตัวเองว่า เราควรฆ่าตัวตายดีกว่าถูกจับ” คุณปู่ทบทวนเหตุการณ์
      
       โตชิคาสุ ชิราโตะ เพื่อนทหารได้ขอให้โคบายาชิยิงเขา โคบายาชิจึงตัดสินใจยิงที่ท้อง ไม่ใช่ศีรษะ เพราะยังหวังว่า ชิราโตะอาจจะรอดชีวิต
      
       จากนั้น โคบายาชิได้วางปืนไรเฟิลคู่กายบนตลิ่งแม่น้ำ เล็งปากกระบอกปืนมาที่ตัวเอง แล้วเหนี่ยวไก แต่กระสุนเฉียดเป้าหมาย
      
       “ นอนคว่ำหน้าบนฝั่งแม่น้ำอยู่สักพัก พอเริ่มขยับตัวได้ ผมก็รู้สึกเจ็บและเลือดออกบนหัว ผมผิดหวัง ที่ไม่ตาย” เขาเล่า
      
       นักรบเลือดซามูไรผู้นี้กระยิ้มกระสน จะกระโดดน้ำตาย แต่ทหารจีนขัดขวาง แล้วจับเขากับชิราโตะไป ทั้งสองต่อสู้ขัดขืน แต่อีกฝ่ายกลับบอกให้ใจเย็น ๆ และจะรักษาบาดแผลให้
      
       “ระหว่างเดินทางไปหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ทหารพวกนั้นบอกเราว่า พวกเขาไม่ทำร้ายนักโทษ แต่ผมไม่เชื่อหรอก ”
      
       สองเชลยแดนซากุระถูกห้ามเปลไปยังวัด ทหารจีนคะยั้นคะยอให้กินอาหาร แต่โคบายาชิปฏิเสธ ทั้งที่ท้องร้องจ๊อก ๆ แต่แล้วก็ต้องจำนน
      
       “ ผมคิดเสมอว่า อาหารของคนจีนนั้นกระเดือกไม่ลง แต่พอกินเข้าไปคำแรก ก็ต้องเปลี่ยนใจ คราวนี้เลยกินอย่างตะกละตะกลาม” ทหารผ่านศึกชราเล่า
      
       เชลยศึกได้รับแจกเอกสารของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งญี่ปุ่น เพื่อศึกษา ชีวิตของโคบายาชิจมปลักแห่งความเบื่อหน่ายอยู่นานหลายเดือน กระทั่งวันหนึ่งเขาเริ่มอ่านมันอย่างจริงจัง
      
       “ ผมเติบโตมาในประเทศทุนนิยมและเกลียดชังลัทธิคอมมิวนิสต์ในตอนนั้น แต่ยิ่งได้อ่านก็ยิ่งเชื่อในข้อโต้แย้งของพวกเขา และเริ่มรู้ว่า ญี่ปุ่นได้ทำสิ่งเลวร้ายกับจีน”
      
       โคบายาชิจึงตัดสินใจแปรพักตร์
      
       เขากับชาวญี่ปุ่นที่กลับใจไม่กี่คนได้ช่วยจีนก่อตั้งแนวร่วมต่อต้านญี่ปุ่นในซานตง ภารกิจหนึ่งก็คือร้องตะโกนบอกให้ทหารแดนอาทิตย์อุทัยเลิกสู้รบ การเข้าเกลี้ยกล่อมเพื่อนทหารชาติเดียวกัน ที่เคยร่วมทุกร่วมสุขกันมา มันเดิมพันด้วยชีวิต ซึ่งโคบายาชิรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมรัสเซียน รูเล็ตต์อยู่ทุกวัน
      
       โคบายาชิเข้าร่วมในกองทัพปลดแอกประชาชนในปีพ.ศ. 2488 และต่อสู้ในสงครามกลางเมือง แต่ถูกย้ายจากแนวหน้ามาอยู่ในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง และพบกับนางพยาบาลชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง จึงแต่งงานกัน
      
       ระหว่างอยู่ในจีน โคบายาชิยังได้ทำงานในเทศบาลนครจี้หนัน มณฑลซานตง และทำงานเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลในเมืองเฟิงเจิ้น เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
      
       กระทั่งในปีพ.ศ. 2498 โคบายาชิและครอบครัวจึงย้ายกลับมายังประเทศบ้านเกิดเมืองนอน โดยรัฐบาลจีนมอบเงินบริจาคให้จำนวน 1 แสนดอลลาร์ฮ่องกง
      
       “ผมจะได้กลับไปเยี่ยมจีนอีกครั้ง ผมมีความสุขเหลือเกินครับ นี่ก็กะเอาไว้ว่า จะพาลูกชาย เขาอายุ 61 ปี ไปเยี่ยมเมืองเฟิงเจิ้นด้วยกัน” ทหารผ่านศึกผู้เป็นฮีโร่ในสายตนชาวจีนกล่าวในตอนท้าย
       http://manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9580000099391
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่