ออกตัวว่า จขกท.ไม่ได้เก่งแต่เจตนาคืออยากแบ่งปัน ปสก.จริงให้ผู้อื่นได้อ่านพอเป็นแนวทางได้บ้างเมื่อขึ้นเป็นกระทู้แนะนำคนเก่งระดับเทพจะมาเยือนซึ่งได้โปรดเข้ามาสอนดีๆเพื่อเป็นวิทยาทานเถิด ถ้าแค่จะเข้ามาเหน็บแหนมหรือมาอวดรบกวนพี่ไปตั้งกระทู้ใหม่ปล่อยให้คนธรรมดา หรือเจ้าของกิจการเล็กๆคุยกันนะพี่นะ
******************
เดี๋ยวนี้มักเจอข้อความแชร์มาพูดถึงข้อเสียของการเป็นมนุษย์เงินเดือน และข้อดีเลิศของการทำกิจการตัวเอง
ทุกครั้งที่มีการแชร์หรือโพสอะไรแบบนี้จะมีคนเข้ามาเห็นด้วยและเออออเยอะแยะไปหมด
จากที่สังเกต คนที่เค้าชักจูงว่าดีน่ะ ส่วนมากถ้าไม่ขายหนังสือ ชวนเข้าทำเครือข่าย ก็เป็นเจ้าของสินค้าหาแนวร่วมช่วยขายนั่นละ
วันนี้ก็เลยอยากจะเอาอีกด้านของการเป็นเจ้าของกิจการมาแชร์ให้คนที่คิดอยากทำธุรกิจส่วนตัวได้มาชั่งน้ำหนักใตร่ตรองบ้าง
ผิดถูกไม่ได้ดังใจขออภัยและก็ไม่ค่อยได้พิมพ์บทความยาวๆอาจจะสับสนวกวนไปบ้างก็อย่าถือสานะ
อย่าคิดว่าการทำธุรกิจเป็นเรื่องง่าย ทุกคนล้วนมีความถนัดส่วนตัว ถามใจตนว่าชอบอะไร อย่าทำตามกระแส อย่าหลงกับรายได้ที่เค้าเอามาบอกว่าต้องได้ๆ มานะคนไม่เท่ากันและมานะที่ว่านั้นแรงผลักดันไม่ได้ใช้แค่ความชอบ
มีเงินทุนก้อนนึงดูทำเลแล้วจ่ายค่าเช่าค่าประกันล่วงหน้าแล้ว ค่าตกแต่ง ค่าสินค้าลงมาเลยตูมนึง
พร้อมคิดว่าต้องมีรายได้เข้ามือทุกวันๆ จนลืมคิดไปว่าเวลาสิ้นเดือนค่าใช้จ่ายจะวิ่งมาหาคุณแค่ไหน
-ค่าเช่าที่ (ทำเลดีมากค่าเช่าเหมือนอยู่ฟรี ถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้องกันบอกเลยไม่มีในโลก)
-ค่าไฟ(ส่วนนี้ทำใจไว้เลยว่าแพง เยอะ ไม่เหมือนเปิดไฟใช้ในบ้านนะ)
-ค่าน้ำ
-ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เนต
-ค่าขนส่งสินค้า
-ค่าแรงลูกน้อง
-ค่าภาษีท้องถิ่น ภาษีโรงเรือน(แพงสุดๆ) ภาษีป้าย ภาษีบุคคล
-ค่าสินค้าในร้านต้องแน่น ต่อให้รุ่นเก่ายังขายไม่หมดแต่รุ่นใหม่ต้องมี (น้อยไม่ได้ สู้เค้าไม่ได้ลูกค้าไม่ปลื้ม)
-ค่าความเสียหายของสินค้าหน้าร้าน
-ค่ากินอยู่(ค่าแรงตัวเอง)
และพูดเลยว่าอีกเยอะมาก
ถ้าถึงขั้นเปิดร้านเองได้คงไม่มีใครมานั่งแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้จ่ายใช่ไหมดังนั้นค่าใช้จ่ายทุกอย่าง"รับผิดชอบตัวเอง"
(ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจคิดแย้งว่าตรงนั้นชั้นไม่เสียตรงนี้ชั้นลดรายจ่ายได้ โอเคถ้าคุณไหวคุณเก่ง)
ถ้าขายในเนตรายจ่ายหายไปเยอะ แต่คุณก็ต้องสกิลเทพพอที่จะเบียดตัวเองเข้าไปอยู่ในตลาดได้
เป็นอาชีพที่เหมือนจะมีเวลาว่างเยอะแต่ไม่ใช่ ว่างจริงแต่ไปไหนไม่ได้
ปิดร้านไปไหนคือคุณขาดรายได้ เจ็บป่วยช่วยเหลือตัวเอง ถ้าเงินเก็บไม่มีรึยังไม่รวยจริงแก่ตัวไปทำไง
ปัญหาหน้าร้านเยอะมาก คุณต้องเจอผู้คนหลากหลาย คุณต้องพร้อมให้บริการคุณไม่มีสิทธิด่าลูกค้าแม้แต่ชักสีหน้าใส่ก็ยังไม่ควรแม้ลูกค้าทำผิดเพราะลูกค้าคือผู้มีพระคุณของคุณ (จุดนี้คนที่อีโก้สูงต้องทำใจมากๆซึ่งคนทำใจไม่ได้มักจะหมั่นไส้ข้อความนี้)
ต้องระวังคนทำสินค้าเสียหาย ต้องระวังขโมย และถ้าคุณคิดว่าปัญหาแก้ได้โดยการพึ่งลูกน้องบอกเลยคุณโดนลูกน้องโกงแน่ (ธุรกิจใหญ่เล็กถ้าไม่ดูแลปล่อยลูกน้องทำอย่างเดียวโดนทุจริตไม่ทางใดก็ทางนึง100%ขนาด7-11พนักงานโกงร้านไม่ได้ก็โกงลูกค้าแทนนั่นไง)
คุณต้องคิดต้องใช้สมองในการบริหาร ชักจูงให้ลูกค้าอยากเข้าร้านคุ่แข่งเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ยิ่งขายดียิ่งจะมีคนตามมาเลียนแบบไวๆพร้อมลดราคาจัดหนักให้คุณเลยละ
เงินเข้ามือเยอะ รวยแล้ววันนี้ขายได้สามพันเพื่อนไม่มีเงินไม่เป็นไรเดี๋ยวป๋าเลี้ยงเอง(แหมข้านี่เจ้าของกิจการเชียวนะ) จัดเลยกินเที่ยว 2500 เหลืออีกตั้ง 500 ไม่ติดลบ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ขายได้อีก ( เดี๋ยวๆเงินทุนละดึงออกมารึยัง แล้วถ้าพรุ่งนี้ฝนตกหนัก แผ่นดินไหว หรือว่าป่วยเปิดร้านไม่ได้ละ)
เงินเข้ามือเยอะ มีอิสระทางความคิดทางการทำงานแต่คุณก็ต้องมีวินัยสูงเหมือนกันคนไหนทำได้คนนั้นรอด
และจริงๆก็มีรายละเอียดอีกเยอะมาก ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีผู้มีประสบการณ์ท่านอื่นกรุณามาเล่า
พิมพ์เรื่องนี้เพราะอะไร ไม่ได้กั๊กใครอยากทำตามความฝัน
แต่เตือนสติไว้ให้ระวังหนทางทุกอย่างไม่ได้หอมหวาน หนทางทุกอย่างไม่ได้มีแต่แง่บวก
และที่สำคัญไม่ชอบการที่เอารายได้มาอวดเบ่งดูถูกมนุษย์เงินเดือน
ถ้าอยากดูถูกมนุษย์เงินเดือนนักก็อย่าขายของให้พวกเค้าละกัน
ถ้าอยากดูถูกอาชีพอื่นนักลองคิดว่าถ้ามีแต่คนค้าขายละจะเกิดอะไรขึ้นอาชีพอื่นไม่มีเลยเป็นไปได้หรือ
เด็กรุ่นใหม่หลายคนคิดไปถึงขนาดหนังสือไม่ต้องเรียนก็ได้ค้าขายง่ายจัง
ใครเห็นแย้งกับ จขกท เข้าใจนะ ก็ลองดูไป หน้าใหม่ๆเปิดธุรกิจใหม่ๆสวยหรูเยอะ...เอ๊ แล้วหน้าเก่าละหายไปไหนถ้ามันมีแต่ได้ไม่มีเสีย...
อยากทำก็ลองทำเป็นอาชีพเสริมไปก่อนก็ได้ถ้าคิดว่ามันรุ่งหรือมีเลเวลสูงพอก็ค่อยขยับขยายกันไป
ลองไปเถอะถ้าเป็นเงินเก็บส่วนตัว แต่อย่าลองแบบไม่ยั้งคิดถ้าเอาเงินเก็บพอแม่มาเล่น หรือไปกู้ยืมใครเค้ามา มันไม่ใช่แค่ไม่สนุกแต่มันทุกข์เลยละ
****
ข้อความนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งที่ จขกท พิมพ์ต้องถูกต้องเสียทั้งหมดแต่ถ่ายทอดในมุมมองของคนที่ทำธุรกิจมานาน
ผ่านมาทุกจุดทั้ง รุ่งเรือง รุ่งริ่ง ร่อแร่ เสมอตัว ก็ขอให้อ่านแบบไม่ขุ่นเคืองใจนะจ้ะ
****ย้ำอีกครั้งว่ากระทู้นี้ไม่ได้โจมตีว่าการมีกิจการส่วนตัวไม่ดี เพียงแต่ด้านที่มีแต่ข้อดีมีคนนำเสนอเยอะแล้วเลยอยากให้ได้รับรู้อีกด้านของภาระหน้าที่เพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น
ความจริงอีกด้านของการก้าวมาเป็นเจ้าของกิจการที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง
******************
เดี๋ยวนี้มักเจอข้อความแชร์มาพูดถึงข้อเสียของการเป็นมนุษย์เงินเดือน และข้อดีเลิศของการทำกิจการตัวเอง
ทุกครั้งที่มีการแชร์หรือโพสอะไรแบบนี้จะมีคนเข้ามาเห็นด้วยและเออออเยอะแยะไปหมด
จากที่สังเกต คนที่เค้าชักจูงว่าดีน่ะ ส่วนมากถ้าไม่ขายหนังสือ ชวนเข้าทำเครือข่าย ก็เป็นเจ้าของสินค้าหาแนวร่วมช่วยขายนั่นละ
วันนี้ก็เลยอยากจะเอาอีกด้านของการเป็นเจ้าของกิจการมาแชร์ให้คนที่คิดอยากทำธุรกิจส่วนตัวได้มาชั่งน้ำหนักใตร่ตรองบ้าง
ผิดถูกไม่ได้ดังใจขออภัยและก็ไม่ค่อยได้พิมพ์บทความยาวๆอาจจะสับสนวกวนไปบ้างก็อย่าถือสานะ
อย่าคิดว่าการทำธุรกิจเป็นเรื่องง่าย ทุกคนล้วนมีความถนัดส่วนตัว ถามใจตนว่าชอบอะไร อย่าทำตามกระแส อย่าหลงกับรายได้ที่เค้าเอามาบอกว่าต้องได้ๆ มานะคนไม่เท่ากันและมานะที่ว่านั้นแรงผลักดันไม่ได้ใช้แค่ความชอบ
มีเงินทุนก้อนนึงดูทำเลแล้วจ่ายค่าเช่าค่าประกันล่วงหน้าแล้ว ค่าตกแต่ง ค่าสินค้าลงมาเลยตูมนึง
พร้อมคิดว่าต้องมีรายได้เข้ามือทุกวันๆ จนลืมคิดไปว่าเวลาสิ้นเดือนค่าใช้จ่ายจะวิ่งมาหาคุณแค่ไหน
-ค่าเช่าที่ (ทำเลดีมากค่าเช่าเหมือนอยู่ฟรี ถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้องกันบอกเลยไม่มีในโลก)
-ค่าไฟ(ส่วนนี้ทำใจไว้เลยว่าแพง เยอะ ไม่เหมือนเปิดไฟใช้ในบ้านนะ)
-ค่าน้ำ
-ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เนต
-ค่าขนส่งสินค้า
-ค่าแรงลูกน้อง
-ค่าภาษีท้องถิ่น ภาษีโรงเรือน(แพงสุดๆ) ภาษีป้าย ภาษีบุคคล
-ค่าสินค้าในร้านต้องแน่น ต่อให้รุ่นเก่ายังขายไม่หมดแต่รุ่นใหม่ต้องมี (น้อยไม่ได้ สู้เค้าไม่ได้ลูกค้าไม่ปลื้ม)
-ค่าความเสียหายของสินค้าหน้าร้าน
-ค่ากินอยู่(ค่าแรงตัวเอง)
และพูดเลยว่าอีกเยอะมาก
ถ้าถึงขั้นเปิดร้านเองได้คงไม่มีใครมานั่งแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้จ่ายใช่ไหมดังนั้นค่าใช้จ่ายทุกอย่าง"รับผิดชอบตัวเอง"
(ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจคิดแย้งว่าตรงนั้นชั้นไม่เสียตรงนี้ชั้นลดรายจ่ายได้ โอเคถ้าคุณไหวคุณเก่ง)
ถ้าขายในเนตรายจ่ายหายไปเยอะ แต่คุณก็ต้องสกิลเทพพอที่จะเบียดตัวเองเข้าไปอยู่ในตลาดได้
เป็นอาชีพที่เหมือนจะมีเวลาว่างเยอะแต่ไม่ใช่ ว่างจริงแต่ไปไหนไม่ได้
ปิดร้านไปไหนคือคุณขาดรายได้ เจ็บป่วยช่วยเหลือตัวเอง ถ้าเงินเก็บไม่มีรึยังไม่รวยจริงแก่ตัวไปทำไง
ปัญหาหน้าร้านเยอะมาก คุณต้องเจอผู้คนหลากหลาย คุณต้องพร้อมให้บริการคุณไม่มีสิทธิด่าลูกค้าแม้แต่ชักสีหน้าใส่ก็ยังไม่ควรแม้ลูกค้าทำผิดเพราะลูกค้าคือผู้มีพระคุณของคุณ (จุดนี้คนที่อีโก้สูงต้องทำใจมากๆซึ่งคนทำใจไม่ได้มักจะหมั่นไส้ข้อความนี้)
ต้องระวังคนทำสินค้าเสียหาย ต้องระวังขโมย และถ้าคุณคิดว่าปัญหาแก้ได้โดยการพึ่งลูกน้องบอกเลยคุณโดนลูกน้องโกงแน่ (ธุรกิจใหญ่เล็กถ้าไม่ดูแลปล่อยลูกน้องทำอย่างเดียวโดนทุจริตไม่ทางใดก็ทางนึง100%ขนาด7-11พนักงานโกงร้านไม่ได้ก็โกงลูกค้าแทนนั่นไง)
คุณต้องคิดต้องใช้สมองในการบริหาร ชักจูงให้ลูกค้าอยากเข้าร้านคุ่แข่งเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ยิ่งขายดียิ่งจะมีคนตามมาเลียนแบบไวๆพร้อมลดราคาจัดหนักให้คุณเลยละ
เงินเข้ามือเยอะ รวยแล้ววันนี้ขายได้สามพันเพื่อนไม่มีเงินไม่เป็นไรเดี๋ยวป๋าเลี้ยงเอง(แหมข้านี่เจ้าของกิจการเชียวนะ) จัดเลยกินเที่ยว 2500 เหลืออีกตั้ง 500 ไม่ติดลบ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ขายได้อีก ( เดี๋ยวๆเงินทุนละดึงออกมารึยัง แล้วถ้าพรุ่งนี้ฝนตกหนัก แผ่นดินไหว หรือว่าป่วยเปิดร้านไม่ได้ละ)
เงินเข้ามือเยอะ มีอิสระทางความคิดทางการทำงานแต่คุณก็ต้องมีวินัยสูงเหมือนกันคนไหนทำได้คนนั้นรอด
และจริงๆก็มีรายละเอียดอีกเยอะมาก ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีผู้มีประสบการณ์ท่านอื่นกรุณามาเล่า
พิมพ์เรื่องนี้เพราะอะไร ไม่ได้กั๊กใครอยากทำตามความฝัน
แต่เตือนสติไว้ให้ระวังหนทางทุกอย่างไม่ได้หอมหวาน หนทางทุกอย่างไม่ได้มีแต่แง่บวก
และที่สำคัญไม่ชอบการที่เอารายได้มาอวดเบ่งดูถูกมนุษย์เงินเดือน
ถ้าอยากดูถูกมนุษย์เงินเดือนนักก็อย่าขายของให้พวกเค้าละกัน
ถ้าอยากดูถูกอาชีพอื่นนักลองคิดว่าถ้ามีแต่คนค้าขายละจะเกิดอะไรขึ้นอาชีพอื่นไม่มีเลยเป็นไปได้หรือ
เด็กรุ่นใหม่หลายคนคิดไปถึงขนาดหนังสือไม่ต้องเรียนก็ได้ค้าขายง่ายจัง
ใครเห็นแย้งกับ จขกท เข้าใจนะ ก็ลองดูไป หน้าใหม่ๆเปิดธุรกิจใหม่ๆสวยหรูเยอะ...เอ๊ แล้วหน้าเก่าละหายไปไหนถ้ามันมีแต่ได้ไม่มีเสีย...
อยากทำก็ลองทำเป็นอาชีพเสริมไปก่อนก็ได้ถ้าคิดว่ามันรุ่งหรือมีเลเวลสูงพอก็ค่อยขยับขยายกันไป
ลองไปเถอะถ้าเป็นเงินเก็บส่วนตัว แต่อย่าลองแบบไม่ยั้งคิดถ้าเอาเงินเก็บพอแม่มาเล่น หรือไปกู้ยืมใครเค้ามา มันไม่ใช่แค่ไม่สนุกแต่มันทุกข์เลยละ
****
ข้อความนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งที่ จขกท พิมพ์ต้องถูกต้องเสียทั้งหมดแต่ถ่ายทอดในมุมมองของคนที่ทำธุรกิจมานาน
ผ่านมาทุกจุดทั้ง รุ่งเรือง รุ่งริ่ง ร่อแร่ เสมอตัว ก็ขอให้อ่านแบบไม่ขุ่นเคืองใจนะจ้ะ
****ย้ำอีกครั้งว่ากระทู้นี้ไม่ได้โจมตีว่าการมีกิจการส่วนตัวไม่ดี เพียงแต่ด้านที่มีแต่ข้อดีมีคนนำเสนอเยอะแล้วเลยอยากให้ได้รับรู้อีกด้านของภาระหน้าที่เพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น