สวัสดีครับเพิ่งจะได้ซื้อหูฟังตัวใหม่มา เลยถือโอกาสรีวิวไปด้วยเลยล่ะกัน ก็ไม่ใช่แบรนด์ไหนอื่นไกลครับ จากค่าย Kinston นั่นเอง กับหูฟัง Gaming ในตระกูลของ Hyper X Cloud II ซึ่งก็เป็นรุ่นที่สองแล้วที่ออกมา จากที่เคยไปอ่านรีวิวกับตัวก่อนหน้านี้มาก็รู้สึกว่า จะมีอะไรที่เปลี่ยนไปเยอะพอสมควร
โดยตัวนี้จะเป็นบอดี้สีดำ ตัดกับแดง เห็นว่าตอนนี้เพิ่งจะมีตัวสีชมพูออกมาวางจำหน่อยด้วย ผมว่าก็สวยไปอีกแบบนะสีชมพู แต่ก็น่าจะเหมาะกับเหล่าเกมเมอร์สาวๆมากกว่าเนอะ 555 เอาเป็นว่าเริ่มแกะกล่องเจ้า Hyper X Cloud II กันเลยละกัน ตัวกล่องจะแบ่งเป็นสองชั้นบรรจุอย่างดี
ชั้นแรกจะเป็นส่วนของซองกระดาษที่ระบุสเปค แล้วก็รูปร่างของ Hyper X Cloud II ตัวนี้
พอถอดกล่องกระดาษออกมา ก็จะเจอกับกล่องกระดาษแข็งสีแดงแรงฤษธิ์ ผมละชอบแพ็คเกจของเจ้าตัวนี้เลยล่ะ ลักษณะของกล่องจะกันกระแทกได้ดีเลยทีเดียว
เปิดออกมาก็จะเจอกับ Quick Strat Guide ครับ ซึ่งก็จะสามารถต่อเข้ากับ PlayStation4, Xbox One, PC or Mac, Mobile(Phone/Tablet) เรียกว่ารองรับได้ครบเลยทีเดียว
ตัวฝากล่องก็จะมีสารจากผู้จักการของ Hyper X พร้อมลายเซ็นต์
เอาแผ่นโฟมออก ก็จะเป็นในส่วนของอุปกรณ์แล้วก็ Hyper X Cloud II จะถูกใส่อยู่ในโฟมกันกระแทกที่ตัดมาพอดีกับตัวอุปกรณ์
ภายในก็จะประกอบไปด้วย ไมค์, แจ็ค, แพตกำมะหยี่, รีโมทคอนโทรลที่สามารถปรับเสียงและเพิ่ม/ลด ระดับเสียงของไมค์ด้วย
ช่วงความถี่ของไมค์จะอยู่ที่ 50–18,000 Hz ซึ่งจะแตกต่างจาก Hyper X Cloud ที่อยู่ในช่วง 500-18,000 Hz แล้วก็มีความสามารถตัดเสียงแวดล้อมระบบดิจิตอล พร้อมระบบ ควบคุมเกนอัตโนมัติ และตัดเสียงสะท้อนผ่านการ์ดเสียง USB ทำให้เสียงที่บันทึกได้มีประสิทธิภาพและเสียงลดกวนที่น้อยลง ซึ่งก็ได้รับการรับรองโดย TeamSpeak แล้วก็ใช้งานกับโปรแกรม Skype ได้อีกด้วย หรือโปรแกรมอื่นๆก็ได้เช่นกันครับ
ส่วนตัวนี้ก็คือ USB Sound Card ที่จำลองเสียงให้เป็น 7.1 Channal แบบเซอร์ราวด์ ในการใช้จะเปิด หรือปิดก็ได้ครับ ถ้าเปิดก็จะมีไฟสีชมพูขึ้นมาเหมือนในภาพนี้ ซึ่งตัวการ์ดนนี้ก็จะเป็นรีโมทคอนโทรลด้วย สำหรับเพิ่ม/เสียงหูฟังและไมค์โครโฟน
และนี่เป็นแจ็คแบบ 2 in 1
ตัวแพตกะมะหยี่ จะเป็นสีดำตัดแดง สำหรับเอาไว้เปลี่ยนกับแพตเดิมที่เป็นหนัง ลองเปลี่ยนใส่แล้วก็นุ่มใช้ได้เลยนะ แต่เรื่องความสะอาดเมื่อใส่ไปนานๆก็อาจจะดำได้ในส่วนนี้ก็อาจจะต้องรักษากันสักหน่อย แต่แบบกะมะหยี่นี้ก็ทำให้ใส่สบายหูดีครับ นุ่มๆ ไม่ร้อนหู หรือหูฟังกัดหูครับ
จะมีซองสำหรับใส่หูฟังตัวนี้ด้วย จะเป็นคล้ายๆฟองน้ำนุ่มๆ ใส่หูฟังแล้วช่วยกันกระแทกได้ดีเลย
มาดูรอบๆตัว Hyper X Cloud II กันบ้าง ก็จะดูเรียบๆ แฝงความหรูหรา สีรวมๆแล้วจะเป็นสีดำ ตัดกับสีแดงเล็กๆน้อยๆ มองแล้วมีพลังเอาเรื่องเลยนะ 555
ในส่วนของแทบรัดศรีษะ จะเป็นวัสดุเมมโมรี่โฟมหุ้มด้วยหนังสีดำ แล้วปักเป็นอักษรเป็น Hyper X ด้านข้างจะถูกปักด้วยด้ายสีแดงเช่นเดียวกัน งานปักดูแล้วเนี๊ยบมากครับ
ตัวก้านจะเป็นวัสดุอลูมิเนียม ที่มีความคงทนแข็งแรงดีครับ สกรีนสีแดงลงไป ดูสวยดี ส่วนตัวหูฟังวัสดุจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนด้านในที่มีโลโก้ของ Hyper X อยู่จะเป็นอลูมิเนียม ส่วนขอบรอบๆจะเป็นวัสดุรับเบอร์เนื้อละเอียดๆ
ตัวแพตที่ติดมาจะเป็นแบบหนังครับ นุ่มๆ ไม่แข็งจนเกินไป ขอดีที่เป็นแบบหนังก็คือช่วยลดเสียงภายนอกได้ดีพอสมควร หรือประมาณ 20 dBa และอย่างก็คือทำความสะอาดง่ายครับ หรือใครไม่ชอบก็เปลี่ยนไปเป็นแพตกำมะหยี่เอาก็ได้ที่แถมมาในแพ็คเกจ
ตัวเจ็ค 3.5 มม. และ USB Sound Card จะชุบด้วยทองเค
ตัวหูฟังจะมีไดร์เวอร์ขนาด 53 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็ก Neodynium
พิกัดความต้านทาน: 60 Ω
ความสามารถในการรับกำลัง: 150mW
น้ำหนักประมาณ 320 กรัม
การเชื่อมต่อ: หัวเสียบมินิสเตอริโอเดี่ยว (3.5 มม.)
ในส่วนของ Character เสียง HyperX Cloud II ตัวนี้ ตัวไดร์เวอร์นั้นมีความไวสูงขับเสียงออกหมด มีย่านเสียงครบถ้วนครับทั้ง เบส กลาง แหลม ในการขับ เบสจะไม่แรงมากเท่าไหร่ จะออกไปทางแหลมสะมากกว่า ช่วงซาวด์สเตจกว้าง มวลเสียงยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ในย่านเสียงแยกหน้าหลังของเครื่องดนตรีออกได้ดี
ถ้าเอาไปฟังเพลง ก็อาจจะเหมาะกับฟังเพลงร้องนวลลเนียนๆไป ถ้าแนวเมทัล หรือร็อคอาจจะไม่ได้อารมณ์สักเท่าไหร่
ในส่วนของการดูหนังก็ได้รับอารมณ์เต็มอิ่มดีถ้าใช้ในโหมดของระบบเสียง 7.1 แต่เรื่องมวลเสียงก็ยังมีติดนิดๆ แบบเสียงระเบิด เสียงปืน ยังทำได้ไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ เสียงนั้นก็ยังหนาแน่นเต็มอรรถรสอยู่
และสุดท้ายกับการเล่นเกม ตัวนี้ก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับ Gaming ยิ่งถ้าแนว Fps นี่ก็แจ๋วเลยล่ะ ดังนั้นก็ขอไม่อธิบายอะไรมากครับ เอาเป็นว่าไว้ลองไปจับฟังกันเลยจะดีกว่า ผมว่าก็คงจะติดใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว และสุดท้ายผมว่าเจ้าตัว HyperX Cloud II ก็เป็นหูฟังอีกตัวนึงที่มีความน่าสนใจมิใช่น้อยเลยล่ะ
[CR] รีวิว หูฟัง Hyper X Cloud II สำหรับคอ Gaming
โดยตัวนี้จะเป็นบอดี้สีดำ ตัดกับแดง เห็นว่าตอนนี้เพิ่งจะมีตัวสีชมพูออกมาวางจำหน่อยด้วย ผมว่าก็สวยไปอีกแบบนะสีชมพู แต่ก็น่าจะเหมาะกับเหล่าเกมเมอร์สาวๆมากกว่าเนอะ 555 เอาเป็นว่าเริ่มแกะกล่องเจ้า Hyper X Cloud II กันเลยละกัน ตัวกล่องจะแบ่งเป็นสองชั้นบรรจุอย่างดี
ชั้นแรกจะเป็นส่วนของซองกระดาษที่ระบุสเปค แล้วก็รูปร่างของ Hyper X Cloud II ตัวนี้
พอถอดกล่องกระดาษออกมา ก็จะเจอกับกล่องกระดาษแข็งสีแดงแรงฤษธิ์ ผมละชอบแพ็คเกจของเจ้าตัวนี้เลยล่ะ ลักษณะของกล่องจะกันกระแทกได้ดีเลยทีเดียว
เปิดออกมาก็จะเจอกับ Quick Strat Guide ครับ ซึ่งก็จะสามารถต่อเข้ากับ PlayStation4, Xbox One, PC or Mac, Mobile(Phone/Tablet) เรียกว่ารองรับได้ครบเลยทีเดียว
ตัวฝากล่องก็จะมีสารจากผู้จักการของ Hyper X พร้อมลายเซ็นต์
เอาแผ่นโฟมออก ก็จะเป็นในส่วนของอุปกรณ์แล้วก็ Hyper X Cloud II จะถูกใส่อยู่ในโฟมกันกระแทกที่ตัดมาพอดีกับตัวอุปกรณ์
ภายในก็จะประกอบไปด้วย ไมค์, แจ็ค, แพตกำมะหยี่, รีโมทคอนโทรลที่สามารถปรับเสียงและเพิ่ม/ลด ระดับเสียงของไมค์ด้วย
ช่วงความถี่ของไมค์จะอยู่ที่ 50–18,000 Hz ซึ่งจะแตกต่างจาก Hyper X Cloud ที่อยู่ในช่วง 500-18,000 Hz แล้วก็มีความสามารถตัดเสียงแวดล้อมระบบดิจิตอล พร้อมระบบ ควบคุมเกนอัตโนมัติ และตัดเสียงสะท้อนผ่านการ์ดเสียง USB ทำให้เสียงที่บันทึกได้มีประสิทธิภาพและเสียงลดกวนที่น้อยลง ซึ่งก็ได้รับการรับรองโดย TeamSpeak แล้วก็ใช้งานกับโปรแกรม Skype ได้อีกด้วย หรือโปรแกรมอื่นๆก็ได้เช่นกันครับ
ส่วนตัวนี้ก็คือ USB Sound Card ที่จำลองเสียงให้เป็น 7.1 Channal แบบเซอร์ราวด์ ในการใช้จะเปิด หรือปิดก็ได้ครับ ถ้าเปิดก็จะมีไฟสีชมพูขึ้นมาเหมือนในภาพนี้ ซึ่งตัวการ์ดนนี้ก็จะเป็นรีโมทคอนโทรลด้วย สำหรับเพิ่ม/เสียงหูฟังและไมค์โครโฟน
และนี่เป็นแจ็คแบบ 2 in 1
ตัวแพตกะมะหยี่ จะเป็นสีดำตัดแดง สำหรับเอาไว้เปลี่ยนกับแพตเดิมที่เป็นหนัง ลองเปลี่ยนใส่แล้วก็นุ่มใช้ได้เลยนะ แต่เรื่องความสะอาดเมื่อใส่ไปนานๆก็อาจจะดำได้ในส่วนนี้ก็อาจจะต้องรักษากันสักหน่อย แต่แบบกะมะหยี่นี้ก็ทำให้ใส่สบายหูดีครับ นุ่มๆ ไม่ร้อนหู หรือหูฟังกัดหูครับ
จะมีซองสำหรับใส่หูฟังตัวนี้ด้วย จะเป็นคล้ายๆฟองน้ำนุ่มๆ ใส่หูฟังแล้วช่วยกันกระแทกได้ดีเลย
มาดูรอบๆตัว Hyper X Cloud II กันบ้าง ก็จะดูเรียบๆ แฝงความหรูหรา สีรวมๆแล้วจะเป็นสีดำ ตัดกับสีแดงเล็กๆน้อยๆ มองแล้วมีพลังเอาเรื่องเลยนะ 555
ในส่วนของแทบรัดศรีษะ จะเป็นวัสดุเมมโมรี่โฟมหุ้มด้วยหนังสีดำ แล้วปักเป็นอักษรเป็น Hyper X ด้านข้างจะถูกปักด้วยด้ายสีแดงเช่นเดียวกัน งานปักดูแล้วเนี๊ยบมากครับ
ตัวก้านจะเป็นวัสดุอลูมิเนียม ที่มีความคงทนแข็งแรงดีครับ สกรีนสีแดงลงไป ดูสวยดี ส่วนตัวหูฟังวัสดุจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนด้านในที่มีโลโก้ของ Hyper X อยู่จะเป็นอลูมิเนียม ส่วนขอบรอบๆจะเป็นวัสดุรับเบอร์เนื้อละเอียดๆ
ตัวแพตที่ติดมาจะเป็นแบบหนังครับ นุ่มๆ ไม่แข็งจนเกินไป ขอดีที่เป็นแบบหนังก็คือช่วยลดเสียงภายนอกได้ดีพอสมควร หรือประมาณ 20 dBa และอย่างก็คือทำความสะอาดง่ายครับ หรือใครไม่ชอบก็เปลี่ยนไปเป็นแพตกำมะหยี่เอาก็ได้ที่แถมมาในแพ็คเกจ
ตัวเจ็ค 3.5 มม. และ USB Sound Card จะชุบด้วยทองเค
ตัวหูฟังจะมีไดร์เวอร์ขนาด 53 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็ก Neodynium
พิกัดความต้านทาน: 60 Ω
ความสามารถในการรับกำลัง: 150mW
น้ำหนักประมาณ 320 กรัม
การเชื่อมต่อ: หัวเสียบมินิสเตอริโอเดี่ยว (3.5 มม.)
ในส่วนของ Character เสียง HyperX Cloud II ตัวนี้ ตัวไดร์เวอร์นั้นมีความไวสูงขับเสียงออกหมด มีย่านเสียงครบถ้วนครับทั้ง เบส กลาง แหลม ในการขับ เบสจะไม่แรงมากเท่าไหร่ จะออกไปทางแหลมสะมากกว่า ช่วงซาวด์สเตจกว้าง มวลเสียงยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ในย่านเสียงแยกหน้าหลังของเครื่องดนตรีออกได้ดี
ถ้าเอาไปฟังเพลง ก็อาจจะเหมาะกับฟังเพลงร้องนวลลเนียนๆไป ถ้าแนวเมทัล หรือร็อคอาจจะไม่ได้อารมณ์สักเท่าไหร่
ในส่วนของการดูหนังก็ได้รับอารมณ์เต็มอิ่มดีถ้าใช้ในโหมดของระบบเสียง 7.1 แต่เรื่องมวลเสียงก็ยังมีติดนิดๆ แบบเสียงระเบิด เสียงปืน ยังทำได้ไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ เสียงนั้นก็ยังหนาแน่นเต็มอรรถรสอยู่
และสุดท้ายกับการเล่นเกม ตัวนี้ก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับ Gaming ยิ่งถ้าแนว Fps นี่ก็แจ๋วเลยล่ะ ดังนั้นก็ขอไม่อธิบายอะไรมากครับ เอาเป็นว่าไว้ลองไปจับฟังกันเลยจะดีกว่า ผมว่าก็คงจะติดใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว และสุดท้ายผมว่าเจ้าตัว HyperX Cloud II ก็เป็นหูฟังอีกตัวนึงที่มีความน่าสนใจมิใช่น้อยเลยล่ะ