“ตั๊ก บงกช” ตัดสินใจบริจาคไตให้แม่ หวังจะให้เลิกทรมานและอยู่จนถึงหลานบวช

“ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ยอมสละไตข้างหนึ่งของตัวเองเพื่อจะเปลี่ยนให้แม่บังเกิดเกล้า “แม่เล็ก ธนาภา ชีพนุรัตน์” ที่ตอนนี้กำลังป่วยเป็นโรคไตต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ด้านนางเอกสาวเผยหลังจากผลการตรวจเลือดสามารถเข้ากันดีแล้ว หลังจากนี้ก็น่าจะผ่าตัดให้ได้เร็วที่สุดคงจะเป็นประมาณต้นเดือนตุลาคมที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

       “คือก่อนหน้านี้แม่ตั๊กเป็นโรคไต ต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 4 ครั้ง และก็มีอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งในอนาคตก็คาดว่าน่าจะต้องฟอกไตมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า และการฟอกเพิ่มขึ้นก็จะทำให้แม่ลำบากมากกว่าเดิมเพราะว่าแม่จะไปไหนไม่ได้ เหมือนกับการจะใช้ชีวิตจะลำบากมากขึ้น และการฟอกไตแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชม. และแม่ก็เลยไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลที่แม่ไปฟอกไต หมอแนะนำว่าถ้าแม่เปลี่ยนไตจะดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องฟอกไตอีก และถ้าแม่ดูแลตัวเองดีตลอดและมีไตใหม่มาทดแทนไตเดิม แม่ก็จะไม่ต้องฟอกไต แม่จะไม่ได้เป็นโรคไตแล้ว แม่จะเป็นแค่เบาหวาน และโรคหัวใจเท่านั้น”

สาเหตุโรคไตเกิดจากการสะสมของยาเบาหวาน
       “ซึ่งโรคไตของแม่เป็นมาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา สาเหตุเกิดมาจากโรคเบาหวานที่แม่เป็นก่อนหน้านี้ แม่ต้องกินยาเยอะมาก หรือบางทีแม่อาจจะเผลอไปกินขนมเลยทำให้เบาหวานขึ้น ความดันขึ้นๆ ลงๆ พอเป็นแบบนี้แล้วทำให้กินยามากขึ้น ไตก็เลยทำงานหนัก แม่ก็มีฉีดยาด้วยเลยกลายเป็นโรคไต อย่างก่อนหน้านี้ที่ทุกคนเจอหน้าแม่ จะรู้สึกว่ายังดูโอเคอยู่ ก็เพราะว่าหลังจากฟอกไตแล้ว คนฟอกไตแล้วจะสดชื่น แต่จะสดชื่อได้แค่ 1 วัน และพอวันรุ่งขึ้นก็จะไม่สดใส อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย ผิวจะเริ่มคล้ำ”
       
       “แม่ก็จะมีอารมณ์เหวี่ยงๆ บ้าง โทรมาหาตั๊กก็จะบ่นว่าฉันปวดหัว ฉันปวดตัว แกรู้ไหมว่าฉันทรมานจังเลย ซึ่งทุกคนจะไม่เห็นอารมณ์แบบนี้ไง (หัวเราะ) และนอกจากฟอกไตแล้วทำให้อารมณ์ดีแล้ว พอเราเริ่มมีเงิน เราก็เริ่มเสาะหายาที่ดีๆ ให้กับแม่ ซึ่งยากินที่แม่กินบางทีเม็ดละ 500 บาทนะ กินเป็นสิบๆ เม็ด กินวันละ 3 มื้อ และหมอก็เลยให้แม่ไปเจอนักโภชนาการ เขาก็อธิบายเกี่ยวกับการกินยังไงให้เหมาะสมกับคนเป็นโรคไต”
       
       เผยแม่อยากเปลี่ยนไต จะไปต่อคิวขอรับบริจาค “ตั๊ก” เลยปรึกษาหมอและตัดสินใจบริจาคไตตัวเองให้แม่
       “ตั๊กตัดสินใจว่าจะให้แม่เปลี่ยนไตก็เพราะหมอบอกเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วว่าถ้าเปลี่ยนไตแล้ว แม่ก็จะไม่เป็นโรคไตอีกเลย และแม่ก็เลยมาบอกเราว่าที่กาชาดเขามีบริจาคไต แม่ก็อยากจะได้ ตั๊กลองติดต่อให้หน่อยนะ หนูก็บอกไปว่าแม่แข็งแรงพอที่จะผ่าตัดหรือเปล่า แม่ก็รีบตอบเลยว่าแม่แข็งแรงพอ ฉันไปตรวจมาแล้ว หมอบอกว่าโอเค แกลองไปคุยกับสภากาชาดดูว่ามีไตไหม หนูก็เลยไปปรึกษาหมอที่มาบอกแม่ว่าให้เปลี่ยนไต หมอเขาก็เลยโทรมาบอกว่าถ้าแม่เล็กได้ไตใหม่จะดีมาก แม่เล็กแข็งแรงพร้อมที่จะผ่าตัด หรือไม่คุณตั๊กก็พาคุณแม่ไปตรวจสุขภาพอีกทีว่าสมควรไหม แต่สำหรับผม ผมว่าท่านแข็งแรงพร้อมจะผ่าตัด”
       
       “ตั๊กก็เลยมาปรึกษากับสามีว่าการที่เราไปขอไตที่เขามาบริจาคเป็นยังไง สามีเลยแนะนำให้ไปคุยกับหมอเกี่ยวกับไตที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หมอเขาบอกว่าเรื่องการที่คนมาบริจาคไตให้กับคนที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง เนื้อเยื้อจะต่างกัน ดีเอ็นเอจะต่างกัน แม้จะผ่าตัดกันไปแล้วเข้ากันได้บ้าง แต่ก็อาจจะมีการโอกาสติดเชื้อ อาจจะมีผลในเรื่องของไตวายสูง แต่ถ้าคุณตั๊ก ให้ไตคุณแม่ หมอว่าก็โอเคนะ มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะคุณตั๊กเป็นลูกมีดีเอ็นเอที่เหมือนกัน แต่คุณตั๊กต้องตรวจเลือดก่อนว่าเลือดเข้ากันได้ไหม เพราะเลือดคุณแม่เป็นบี ส่วนของตั๊กเป็นโอ และพอไปตรวจกรุ๊ปโอให้ใครก็ได้”
       
       “ตั๊กเลยตัดสินใจบอกแม่กลับไปว่า แม่เอาไตตั๊กนี่แหละ ไม่ต้องขอบริจาคจากไตคนอื่นหรอก เพราะไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร และถ้าได้ขึ้นมาเกิดเป็นไตของคนแก่ แม่อาจจะทรุดลงไปมากกว่า และที่สำคัญไม่ใช่จะได้เลยเพราะต้องต่อคิวรออีกนานเลย แม่ก็เลยบอกว่าไม่เอาไตของตั๊กหรอกเพราะแกต้องเลี้ยงลูก แกต้องอยู่กับลูก เพราะการปลูกถ่ายไต คนที่บริจาคไตให้นั้นต้องดูแลตัวเองดีๆ เพราะการมีไตข้างเดียวอาจจะแข็งแรงกว่าคนมีไต 2 ข้าง แต่คุณหมอเขาก็บอกว่าบางเคสถ้าคนที่บริจาคไต ดูแลตัวเองไม่ดี ไตอาจจะเสื่อมลง เผลอๆ อาจจะถึงขั้นไตวายก็เป็นได้ ตั๊กก็เลยบอกแม่ว่าโอ๊ย...ยังไงตั๊กก็ต้องตายอยู่ดี แม่อย่าคิดมากเลย หนูอยากให้แม่อยู่รอดูข้าวหอมบวชเท่านั้นเอง ไม่อยากให้แม่ต้องมานั่งเครียดนั่งทุกข์ เพราะเวลาที่แม่ต้องไปฟอกไตก็จะมาบ่นว่าปวดหัว ปวดขา ขาบวม เพระต้องเจาะโน้นเจาะนี่ ตอนนี้แม่พรุนไปทั้งตัวแหละเพราะเจาะทั้งวัน ย้อนกลับไปตอนที่แม่ตั๊กลำบาก ตอนที่ตั๊กยังเด็กๆ พวกเราก็ไม่ได้กินของดีนะ ทำงานหนัก ตั๊กกินนมแม่มาถึง 2 ขวบ แล้วพอแม่แก่ แม่จะเอาร่างกายที่ดีมาจากไหน เพราะตั้งแต่สาวๆ แม่ก็ทำงานหนักมาโดยตลอด ตั๊กก็เลยคิดว่าอยากให้แม่มีไตใหม่”
       
       ด้านสามีร่วมอนุโมทนาบุญ
       “พอหมอบอกว่าถ้าเป็นไตของตั๊กเอง ก็จะมีโอกาสเป็นไปได้ ตั๊กก็ไม่ได้ปรึกษากับพี่ใหญ่เลย แต่พอพี่ใหญ่เขารู้ เขาก็อนุโมทนาบุญให้เลย พี่ใหญ่เขาบอกว่าถ้าตั๊กอยากทำให้แม่ตั๊กทำเลย พี่อนุโมทนาบุญให้ พี่ใหญ่เขารับฟังการตัดสินใจของตั๊ก และพี่ใหญ่เขาก็มาสายบุญอยู่แล้วเขาก็เลยสนับสนุน แต่แกก็เตือนว่าหลังจากผ่าตัดไตของตัวเองเอาไปให้แม่แล้ว ตั๊กก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่าเดิม จะกินเค็มกินอะไรอีก ก็ไม่ได้แล้วนะ เขาก็เป็นห่วง”
       
       ผลข้างเคียงการบริจาคไต อาจเหนื่อยง่าย แต่ “ตั๊ก” ไม่กลัว มั่นใจทำบุญให้ไตแม่ชีวิตคงไม่แย่
       “ผลข้างเคียงหลังจากที่ตั๊กเอาไตให้แม่ไปแล้วนั้น อาจจะเหนื่อยง่ายบ้าง เวลากินอะไรก็อาจจะไม่ได้ดั่งใจ ต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะว่าไตมันเป็นอวัยวะที่ใช้ฟอกของเสีย และหมอเขาก็ยังบอกว่าคนที่มีไตเดียวยังสามารถทำงานได้ดีกว่าคนที่มี 2 ไตเลย เหมือนเคสบางคนที่มีไตเดียว มันเหมือนเป็นการทดแทนในส่วนที่ไตไม่มีแล้ว เผลอๆ การทำงานอาจจะทำงานดีถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยก็ได้ เราก็ใจชื้นขึ้นมา”
       
       “แต่หนูก็เชื่อในเรื่องของบุญไง ถ้าหนูเอาไตให้แม่ไปหนูก็คงไม่แย่ลงหรอก คือเรื่องความกตัญญูมันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้ว มันไม่ใช่การปฏิบัติ แต่มันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่นะ เพราะตอนเด็กๆ ตั๊กกับแม่เองก็ฝ่าฟันอะไรมาเยอะ และแม่ก็หยิ่งไม่ได้ไปขอใครกิน ตั้งแต่เลิกกับพ่อหนู”
       
       แม้จะตัดสินใจบริจาคไตให้แม่ แต่แม่ก็ปฏิเสธที่จะรับ จนต้องยกเหตุผลทั้งหลายมาอธิบาย
       “ตอนแรกตั๊กก็คิดเรื่องซื้อไตมาเปลี่ยน แต่มันเป็นเรื่องผิดกฏหมายผ่าตัดในเมืองไทยไม่ได้ และถ้าไปผ่าตัดที่เมืองนอกเขาก็ให้เซ็นด้วยนะว่า ถ้าตายเขาก็จะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการเสี่ยงมากกว่าอีก และย้อนกลับมาถ้าเอาไตที่เขามาบริจาคก็จะเสี่ยงกับแม่มาก เพราะถ้าเปลี่ยนไปแล้วอาจจะเข้ากับแม่ไม่ได้ และการซื้อขายไตพูดออกสื่อนั้นผิดกฎหมายแน่นอน หนูไปปรึกษาหมอมาแล้วเรื่องจะซื้อไต หมอบอกว่ามันผิดกฎหมายนะคุณตั๊ก มันทำไม่ได้ ขนาดหนูเอาไตตัวเองให้แม่ เขาก็รู้กันทั้งประเทศว่าหนูนะเป็นลูก เขายังขอใบเกิดหนูเลย และยังต้องให้สภากาชาดอนุมัติเลย แต่คงไม่มีปัญหาเพราะผลตรวจผ่านแล้ว แต่ที่ต้องทำเรื่องให้กาชาดอนุมัติเพราะว่าตั๊กกับแม่ต้องมาตรวจร่างกายอยู่เรื่อยๆ ก่อนที่จะผ่าตัด ซึ่งจะจะผ่าในอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมนี้”
       
       “ในส่วนตัวของตั๊กตอนนี้ก็เริ่มดูแลตัวเอง ก็เริ่มไปเต้นอาราบิคให้หัวใจมันแข็งแรง ออกกำลังกาย วิ่งบ้าง เดินเร็วสับกันไปมา ทานผัก และในส่วนของแม่ก็เริ่มดูแลจริงๆ จังๆ แต่หมอเขาก็บอกว่าร่างกายของแม่แข็งแรง พร้อมจะผ่าตัดแล้ว ใจแม่สู้มาก จริงๆ ถ้าหนูไม่บอกว่าเอาไตหนูก็ได้นะ แกก็ไม่เอานะ แม่จะไม่มาพูดว่าจะขอไตเธอหน่อย แม่ก็จะบอกว่าลูกยังเด็กอยู่เลย ซึ่งนางก็ปฏิเสธ 3 ครั้ง (หัวเราะ) พูดว่าไม่เอา ฉันไม่เอา ตั๊กก็บอกไปว่าแม่อยู่เพิ่มขึ้นอีกตั้ง 16 ปี เผลอๆ 20 ปีนะ เพราะตอนนี้แม่อายุ 61 ปี ตอนนี้ถ้าเปลี่ยนไตแล้วก็เกือบๆ 80 นะ เผลอๆ เกินนะ ถ้าดูแลตัวเองดีๆ นะ”
       
       “และตั๊กก็ยังบอกว่าถ้าไม่เอาไตของตั๊ก แล้วแม่จะเอาไตใครล่ะ ถ้าแม่จะไปเอาไตที่เขาบริจาคที่กาชาดก็มีคนมารอคิวตั้งเยอะแยะ มีคิวที่เขาจะเอาไตที่มาจากการบริจาคก่อนแม่ตั้งพันกว่าคนนะ และแม่จะได้ผ่าเมื่อไร ซึ่งใช้เส้นก็ไม่ได้นะ เรื่องไตไม่เกี่ยวกับเส้นสายนะ หรือว่าถ้าซื้อก็ผิดกฎหมายนะ เราก็ยกโน้นนี่นั่นมาบอกให้ฟัง ซึ่งนางก็ฟังนะ นางก็เริ่มน้ำตาคลอเกือบจะร้องไห้เลยนะ นางก็บอกว่าขอบใจนะ มาลูบหัวหนูและก็พูดว่าให้เอ็งเจริญนะที่ช่วยแม่ หนูก็จะร้องไห้ ดราม่ากันหนักมากเลย ซึ่งตอนนี้แม่ก็ไม่ต้องทำอะไรที่มันหนักมาก ก็ให้ดูแลตัวเองไป พยายามอย่าให้เบาหวานขึ้น ซึ่งยาควบคุมสำหรับนางดีมาก”
       
       “ถามว่าตั๊กกลัวไหม ตั๊กไม่กลัวเลยนะ แต่ตั๊กปลื้มใจมากที่เราเกิดมาทั้งทีเราก็ยังมีประโยชน์บ้าง เพราะก่อนหน้านี้ตั๊กก็จะยุ่งๆ กับการเอาผ้าไหมทอมือที่นำมาจากภาคอีสาน แล้วเอามาขายโดยที่ไม่ได้หักเปอร์เซ็นต์ภายใต้แบรนด์ผ้าไหมบงกช รวมไปถึงตั๊กยังเป็นจิตอาสาร่วมด้วยช่วยกัน 1677 ตั๊กเป็นเหมือนกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือว่าแจ้งเหตุต่างๆ ตั๊กเลยรู้สึกว่าเวลาที่แม่เป็นอะไร ก็ได้แต่ใช้เงินซื้อยาให้กิน แต่เวลาที่แกปวดหัวหนักๆ แกปวดขา เห็นแบบนี้เราก็เศร้า อย่างเวลาตอนเด็กๆ เรางอแง เขาก็จะอุ้มเราโอ๋เรา แต่ตอนเราโอ๋แก เราทำอะไรไม่ได้มาก (น้ำเสียงสั่นคลอ) แต่พอตอนนี้เราตัดสินใจที่ราจะเอาไตให้เขาแล้ว เราก็รู้สึกปลื้มใจ ดีใจ”
       
       “นอกจากร่างกายที่หมอบอกว่าแม่แข็งแรงแล้ว อีกหนึ่งกำลังใจก็คือข้าวหอมด้วย แกรักข้าวหอมมาก แกหวังกับข้าวหอมไว้เยอะมาก แกหวังอยากให้ข้าวหอมบวช จะได้เห็นข้าวหอมโตอะไรอย่างงี้ พอแกพูดอย่างงี้หนูก็เลยอยากให้แกสมหวังในความปรารถนาของแก และที่ดีกว่าคือแม่จะไม่ได้เป็นโรคไตอีกเลย อันนี้คือสิ่งที่ดีมาก”




จาก .. ผู้จักการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000098365
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่