สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้เพิ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นมาค่ะ สำหรับรายละเอียดทริป คงไม่กล่าวถึงในกระทู้นี้ แต่จะมาแนะนำที่พักสำหรับเพื่อนๆที่ต้องการประหยัดงบประมาณค่ะ ปกติเราก็ชอบนอนโรงแรมทั่วไปนะ แต่ทริปนี้ กระชั้นชิดมาก จองทุกอย่างทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้าอาทิตย์เดียวเอง ซึ่งทำให้โรงแรม3-4ดาวในงบประมาณที่กำหนด และเดินทางสะดวกนั้นเต็มซะส่วนใหญ่ เราโชคดีเจอเกสเฮาส์นี้ว่างค่ะ แต่จองนอน3คืน เราได้ห้องพัก dormitary หญิงแค่คืนเดียว อีก2คืน ได้แบบ mix dormitary เราจองผ่าน Agoda มาราคาคืนละประมาณ 400บาทเท่านั้น (1400yen)

Wasabi Guest House ตั้งอยู่สถานี JR Mikawakashima ซึ่งอยู่ถัดจากสถานี Nippori แค่สถานีเดียว จะว่าไป Nippori ก็เหมือนสถานีรถไฟฟ้าอนุเสาวรีย์นะ เพราะรถไฟ JR Subway หลายสายมาเชื่อมต่อที่นี่ แถมสถานีถัดไปจาก Nippori คือ Ueno ย่านช้อปปิ้งที่มีตึกม่วง แหล่งซื้อของถูกทุกชนิดในโตเกียวรวมไว้ที่นี่ และคนไทยเราไม่เคยพลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนเลย ดังนั้น จขกท คิดว่า เกสเฮาส์นี้เดินทางสะดวกดีจริงๆ และที่สำคัญ ตั้งอยู่แทบจะนับก้าวจากสถานีรถไฟได้เลย พอเราลงจากรถไฟออกมา มองลงไปก็เห็นป้ายเกสเฮาส์แล้ว สะดวกไปไหน

พอเราลงจากสถานี เดินออกมา ให้เลี้ยวขวา แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอเกสเฮาส์ค่ะ แอบสำรวจว่าแถวๆสถานี ก่อนถึงเกสเฮาส์นั้น มีร้านข้าวหน้าเนื้อ และเซเว่นตั้งอยู่ด้วย ไม่อดตายแล้วเรา อิอิ

เนื่องจากเรามาถึงเช้ามาก นั่ง night bus จากโอซาก้ามาถึงโตเกียวตั้งแต่ 7โมง และมาเช็คอินเกือบ8โมง ซึ่งทางที่พักมีนโยบายให้เช็คอินได้ตอนบ่าย3 ซึ่งเราก็คาดการณ์ไว้แล้ว แต่อยากมาฝากกระเป๋า และเผื่อฟลุคขออาบน้ำด้วย ปรากฎว่า มีห้องให้อาบน้ำจริงๆด้วย แต่ต้องเช่าผ้าขนหนู200yen ก็โอเคเลยนะ ห้องน้ำสะอาดดี น้ำไหลแรง มีสบู่ แชมพูให้ ก็เริ่ดแล้วล่ะ
อันนี้บรรยากาศล้อบบี้ เป็นที่นั่งเล่นด้วย และตอนกลางคืนยังเป็นบาร์ สั่งเครื่องดื่มอาหารได้ด้วยนะ ชิลมาก ฝรั่งก็นั่งเล่นเนตกันแถวนี้เยอะเลย แถมมีชาเขียว ร้อนเย็น น้ำดื่ม ซุปมิโสะ ให้กดกินได้24ชม. ตู้เย็นก็มีนะ ใครเอาอะไรมาแช่ก็ติดชื่อเอา ไม่งั้นก็อาจหายได้ เพราะของไม่มีชื่อแปะ คือกินได้หมด(มีน้ำผลไม้ และขนมของทางเกสเฮาส์ให้กินด้วย ดังนั้นคนที่มาพักอาจคิดว่าขนมที่ไม่ติดชื่อนั้นเป็นของเกสเฮาส์ค่ะ)
มีสีให้ทาเล็บเล้นด้วย บนโต๊ะ
มีกิโมโนให้เช่า และก็จักรยานให้เช่าด้วย ขอบอก จักรยานนี่ควรเช่าขี่แถวที่พักนะ เรามาช่วงอากาศดี๊ดี ขี่จักรยานเล่นเพลินมาก
ทีนี้พามาดูห้องพักค่ะ อันนี้เค้าเรียกห้อง Capsule Mix Dormitary ซึ่งชื่อเป็นแคปซูลก็จริง แต่มันกว้างพอสมควรสำหรับแคปซูลเลยนะ เราชอบมาก ส่วนตัวดี มีม่านแบบญี่ปุ่นปิดให้ด้วย มีปลั๊กไฟ1ช่อง ไฟ1ดวง รู้สึกไม่อึดอัดนะ ขนาด จขกท ตัวใหญ่ อิอิ
แอบดีใจ ได้ชั้นล่าง ไม่ต้องปีนขึ้นลง แต่ทนเสียงดังหน่อย เวลาคนข้างบนขึ้นๆลงๆ ม่านมี2ชั้น คือม่านผ้าบังแสงได้หมด กับม่านไม้ไผ่ให้อารมณ์ญี่ปุ่นมั่กๆ

มีผ้าห่ม1ผืน พร้อมดูเว่ ที่นอนฟูกพับได้ และหมอน1ใบ รวมๆแล้ว เราโอเคนะกับราคานี้ (400กว่าบาท) และเรานอนหลับสบายมาก สงสัยเหนื่อย

แต่คืนที่ 2-3 แอบหนวกหูเสียงคนร่วมห้อง เป็นฝรั่งตัวโต เดินลงส้นเท้า (พื้นเป็นไม้) เดินตึงตึงมาก และมีอีกคนเหมือนเป็นเกย์เลย เดินลากเท้าแฟ่บๆๆๆ(นางใส่สลิปเปอร์) คือพวกนางไม่เกรงใจคนนอนเลย แต่เราทำใจไว้แล้ว นอนห้องแชร์ ต้องเจอไรแบบนี้บ้างแหละ ทำใจว่าจะเจอคนกรน แต่รอบนี้ไม่เจอ เจอเสียงเท้าเนี่ยแหละ รำคาญสุด คือเวลาเราเดิน ลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก เราพยามย่องมากๆ เกรงใจ แต่คนอื่นนี่ ไม่เลยค่า ตึงตังสุดฤทธิ์ โดยเฉพาะนังเกย์ นางลากเท้าฟ้อบแฟ้บ และเข้าๆออกๆทั้งคืน ทำไรนักหนาไม่รู้ แถมเปิดปิดกระเป๋าตึงตังตลอด เพลียยย
พาไปกินข้าวหน้าเนื้อร้านตรงก่อนทางเข้าที่พักนะ ถูกและดีมากๆ

เราสั่งแบบมีปลาไหลด้วย และก็เพิ่มกิมจิ ที่ร้านมีน้ำดื่มฟรี แต่ชะนีอ้วนอยากกินโค้ก แต่น้องพนักงานดันเอากาแฟร้อนมาให้ จะบร้าตาย กินก็ได้ ฮือๆๆ หมดนี่ 1080yen ไม่แพงนะ ปลาไหลชิ้นใหญ่มาก
วันสุดท้าย หลังจากออกไปเที่ยวไปช้อป จนจะกลับแล้ว เราได้มีโอกาสเช่าจักรยานขี่รอบๆแถวนี้ แล้วซื้อข้าวกล่องในซุปเปอร์มาร์เกตมานั่งกินในสวนสาธารณะ ฟินมากๆ อากาศ 23องศา (จริงๆช่วงนี้หน้าร้อน แต่ได้รับอิทธิพลไต้ฝุ่นโคนี่จากไต้หวัน ทำให้ช่วงที่เรามา อากาศเย็นมีหมอก และฝนโปรยบ้าง)

บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน สงบเรียบร้อย ดีงาม ชอบมาก

บ้านใครไม่รู้ สวยดี แอบถ่าย

จอดจักรยานในสวนสาธารณะ เพื่อหม่ำข้าวที่แวะซื้อจาก supermarket

รูปสุดท้าย ทำร้ายคนหิวตอนดึก อิอิ อร่อยมากเลย ถึงแม้เป็นอาหารสำเร็จจากซุปเปอร์
จบการรีวิวกระทู้นี้เพียงเท่านี้ คิดว่าจะไม่รีวิวทริปรวม (เคยทำตอนไปปีนัง รีวิวยาว เหนื่อยมาก ไม่จบสักที คนตามก็รำคาญเปล่าๆ อิอิ) ว่าจะแยกรีวิวเป็นหัวข้อๆ เฉพาะที่ไฮไลท์ และน่าสนใจ และเรายังได้เก็บบันทึกความทรงจำด้วยค่ะ คอยตามนะคะ
หัวข้อต่อไปที่จะรีวิว
>> ตะลุยแดนเวทย์มนต์ Hogwarts @Universal Studio Japan
>> Ragdoll Cat Cafe คาเฟ่แมวเหมียวที่นัมบะ โอซาก้า
>> ทำไมคนญี่ปุ่นถึงไม่อ้วน (คนหิวตอนดึก ใจไม่แข็งห้ามเปิดดู รูปเพียบ)
>> ตลาดปลาสึกิจิ มีอะไรกินมั่งน้อ
>> ไปวัดอาซากุสะ เพื่อตามล่าหาขนมในฝันที่เคยตกหลุมรักเมื่อครั้งก่อน
>> อยากยกร้านขายยาในญี่ปุ่นมาไว้บ้านฉัน
[CR] รีวิวที่ซุกหัวนอนถูกและดีในโตเกียว
Wasabi Guest House ตั้งอยู่สถานี JR Mikawakashima ซึ่งอยู่ถัดจากสถานี Nippori แค่สถานีเดียว จะว่าไป Nippori ก็เหมือนสถานีรถไฟฟ้าอนุเสาวรีย์นะ เพราะรถไฟ JR Subway หลายสายมาเชื่อมต่อที่นี่ แถมสถานีถัดไปจาก Nippori คือ Ueno ย่านช้อปปิ้งที่มีตึกม่วง แหล่งซื้อของถูกทุกชนิดในโตเกียวรวมไว้ที่นี่ และคนไทยเราไม่เคยพลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนเลย ดังนั้น จขกท คิดว่า เกสเฮาส์นี้เดินทางสะดวกดีจริงๆ และที่สำคัญ ตั้งอยู่แทบจะนับก้าวจากสถานีรถไฟได้เลย พอเราลงจากรถไฟออกมา มองลงไปก็เห็นป้ายเกสเฮาส์แล้ว สะดวกไปไหน
พอเราลงจากสถานี เดินออกมา ให้เลี้ยวขวา แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอเกสเฮาส์ค่ะ แอบสำรวจว่าแถวๆสถานี ก่อนถึงเกสเฮาส์นั้น มีร้านข้าวหน้าเนื้อ และเซเว่นตั้งอยู่ด้วย ไม่อดตายแล้วเรา อิอิ
เนื่องจากเรามาถึงเช้ามาก นั่ง night bus จากโอซาก้ามาถึงโตเกียวตั้งแต่ 7โมง และมาเช็คอินเกือบ8โมง ซึ่งทางที่พักมีนโยบายให้เช็คอินได้ตอนบ่าย3 ซึ่งเราก็คาดการณ์ไว้แล้ว แต่อยากมาฝากกระเป๋า และเผื่อฟลุคขออาบน้ำด้วย ปรากฎว่า มีห้องให้อาบน้ำจริงๆด้วย แต่ต้องเช่าผ้าขนหนู200yen ก็โอเคเลยนะ ห้องน้ำสะอาดดี น้ำไหลแรง มีสบู่ แชมพูให้ ก็เริ่ดแล้วล่ะ
อันนี้บรรยากาศล้อบบี้ เป็นที่นั่งเล่นด้วย และตอนกลางคืนยังเป็นบาร์ สั่งเครื่องดื่มอาหารได้ด้วยนะ ชิลมาก ฝรั่งก็นั่งเล่นเนตกันแถวนี้เยอะเลย แถมมีชาเขียว ร้อนเย็น น้ำดื่ม ซุปมิโสะ ให้กดกินได้24ชม. ตู้เย็นก็มีนะ ใครเอาอะไรมาแช่ก็ติดชื่อเอา ไม่งั้นก็อาจหายได้ เพราะของไม่มีชื่อแปะ คือกินได้หมด(มีน้ำผลไม้ และขนมของทางเกสเฮาส์ให้กินด้วย ดังนั้นคนที่มาพักอาจคิดว่าขนมที่ไม่ติดชื่อนั้นเป็นของเกสเฮาส์ค่ะ)
มีสีให้ทาเล็บเล้นด้วย บนโต๊ะ
มีกิโมโนให้เช่า และก็จักรยานให้เช่าด้วย ขอบอก จักรยานนี่ควรเช่าขี่แถวที่พักนะ เรามาช่วงอากาศดี๊ดี ขี่จักรยานเล่นเพลินมาก
ทีนี้พามาดูห้องพักค่ะ อันนี้เค้าเรียกห้อง Capsule Mix Dormitary ซึ่งชื่อเป็นแคปซูลก็จริง แต่มันกว้างพอสมควรสำหรับแคปซูลเลยนะ เราชอบมาก ส่วนตัวดี มีม่านแบบญี่ปุ่นปิดให้ด้วย มีปลั๊กไฟ1ช่อง ไฟ1ดวง รู้สึกไม่อึดอัดนะ ขนาด จขกท ตัวใหญ่ อิอิ
แอบดีใจ ได้ชั้นล่าง ไม่ต้องปีนขึ้นลง แต่ทนเสียงดังหน่อย เวลาคนข้างบนขึ้นๆลงๆ ม่านมี2ชั้น คือม่านผ้าบังแสงได้หมด กับม่านไม้ไผ่ให้อารมณ์ญี่ปุ่นมั่กๆ
มีผ้าห่ม1ผืน พร้อมดูเว่ ที่นอนฟูกพับได้ และหมอน1ใบ รวมๆแล้ว เราโอเคนะกับราคานี้ (400กว่าบาท) และเรานอนหลับสบายมาก สงสัยเหนื่อย
แต่คืนที่ 2-3 แอบหนวกหูเสียงคนร่วมห้อง เป็นฝรั่งตัวโต เดินลงส้นเท้า (พื้นเป็นไม้) เดินตึงตึงมาก และมีอีกคนเหมือนเป็นเกย์เลย เดินลากเท้าแฟ่บๆๆๆ(นางใส่สลิปเปอร์) คือพวกนางไม่เกรงใจคนนอนเลย แต่เราทำใจไว้แล้ว นอนห้องแชร์ ต้องเจอไรแบบนี้บ้างแหละ ทำใจว่าจะเจอคนกรน แต่รอบนี้ไม่เจอ เจอเสียงเท้าเนี่ยแหละ รำคาญสุด คือเวลาเราเดิน ลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก เราพยามย่องมากๆ เกรงใจ แต่คนอื่นนี่ ไม่เลยค่า ตึงตังสุดฤทธิ์ โดยเฉพาะนังเกย์ นางลากเท้าฟ้อบแฟ้บ และเข้าๆออกๆทั้งคืน ทำไรนักหนาไม่รู้ แถมเปิดปิดกระเป๋าตึงตังตลอด เพลียยย
พาไปกินข้าวหน้าเนื้อร้านตรงก่อนทางเข้าที่พักนะ ถูกและดีมากๆ
เราสั่งแบบมีปลาไหลด้วย และก็เพิ่มกิมจิ ที่ร้านมีน้ำดื่มฟรี แต่ชะนีอ้วนอยากกินโค้ก แต่น้องพนักงานดันเอากาแฟร้อนมาให้ จะบร้าตาย กินก็ได้ ฮือๆๆ หมดนี่ 1080yen ไม่แพงนะ ปลาไหลชิ้นใหญ่มาก
วันสุดท้าย หลังจากออกไปเที่ยวไปช้อป จนจะกลับแล้ว เราได้มีโอกาสเช่าจักรยานขี่รอบๆแถวนี้ แล้วซื้อข้าวกล่องในซุปเปอร์มาร์เกตมานั่งกินในสวนสาธารณะ ฟินมากๆ อากาศ 23องศา (จริงๆช่วงนี้หน้าร้อน แต่ได้รับอิทธิพลไต้ฝุ่นโคนี่จากไต้หวัน ทำให้ช่วงที่เรามา อากาศเย็นมีหมอก และฝนโปรยบ้าง)
บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน สงบเรียบร้อย ดีงาม ชอบมาก
บ้านใครไม่รู้ สวยดี แอบถ่าย
จอดจักรยานในสวนสาธารณะ เพื่อหม่ำข้าวที่แวะซื้อจาก supermarket
รูปสุดท้าย ทำร้ายคนหิวตอนดึก อิอิ อร่อยมากเลย ถึงแม้เป็นอาหารสำเร็จจากซุปเปอร์
จบการรีวิวกระทู้นี้เพียงเท่านี้ คิดว่าจะไม่รีวิวทริปรวม (เคยทำตอนไปปีนัง รีวิวยาว เหนื่อยมาก ไม่จบสักที คนตามก็รำคาญเปล่าๆ อิอิ) ว่าจะแยกรีวิวเป็นหัวข้อๆ เฉพาะที่ไฮไลท์ และน่าสนใจ และเรายังได้เก็บบันทึกความทรงจำด้วยค่ะ คอยตามนะคะ
หัวข้อต่อไปที่จะรีวิว
>> ตะลุยแดนเวทย์มนต์ Hogwarts @Universal Studio Japan
>> Ragdoll Cat Cafe คาเฟ่แมวเหมียวที่นัมบะ โอซาก้า
>> ทำไมคนญี่ปุ่นถึงไม่อ้วน (คนหิวตอนดึก ใจไม่แข็งห้ามเปิดดู รูปเพียบ)
>> ตลาดปลาสึกิจิ มีอะไรกินมั่งน้อ
>> ไปวัดอาซากุสะ เพื่อตามล่าหาขนมในฝันที่เคยตกหลุมรักเมื่อครั้งก่อน
>> อยากยกร้านขายยาในญี่ปุ่นมาไว้บ้านฉัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น