คำเตือน : กระทู้นี้มีเนื้อหาไม่รุนแรงแต่อาจจะส่งผลข้างเคียงต่อหนุ่มๆเมื่ออ่านจบได้ โปรดใช้วิจารยณญาณในการอ่าน
ผมยังจำครั้งแรกเมื่อผมได้ปรายสายตาลงบนกางเกงโยคะแน่นเปรี๊ยะนั่นได้ดีแม้ในขณะที่ผมกำลังพิมอยู่นี้ มันช่างมีชีวิตชีวา มันน่าอัศจรรย์ใจเสียนี่กระไร ตอนนั้นเป็ฯเวลาที่ผมยังเป็นเฟรชชี่ไฮสคูลได้ใหม่ๆ หลังเลิกผมและคู่หูก็ได้เข้าไปฝึกซ้อมโยนบอลเล่นๆสำหรับการแข่งขันเบสบอลที่กำลังจะมาถึงโดยหวังว่าคุณครูพละจะโผล่ศีรษะมาให้ได้เห็นและแจกแต้มคะแนนความขยันให้กับพวกเราสองคน...แต่เขาก็ไม่โผล่มา
หลังจากได้ออกกำลังกันมามากพอสมควรพวกเราก็รีบตรงดิ่งไปยังล็อคเกอร์และเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยพลัน จากนั้นก็คว้าแบ็คแพ็คเตรียมกลับบ้านในทันที ในระว่างทางกลับบ้านนั้นคู่หูของผมก็ได้ถามคำถามนึงกับผม...มันเป็นคำถามที่จะเปลี่ยนชีวิตวัยรุ่นและหรรมอันน้อยที่ทำความเคารพธงชาติด้วยความถี่ 25 ครั้งต่อวันของผมไปตลอดกาล "เฮ้ น้องสาวตรูมีแข่งวอลเล่ย์ในยิมหลัก อยากจะไปดูด้วยกันป่าว" ผมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบกลับไป "วอลเล่ย์บอล? กีฬาผู้หญิงแบบนั้นไม่ดูหรอกเฟ้ย ตรูมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ" แต่แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าน้องสาวของมันทิฟฟานี่ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สายตาหนุ่มเวอร์จิ้นแบบผมหมายปอง และหุ่นของเธอนั้นมันสะบึมมาก "ตรูเปลี่ยนใจละ ช่าง

ตรูจะไปดูวอลเล่ย์กะเมิง" หึ หึ หึ...
เราเดินเข้าไปยังโรงยิมที่เกือบจะเรียกได้ว่าว่างเปล่าและได้จับจองที่นั่งของพวกเรา ผมรู้สึกตื่นเต้นมากในตอนนั้น แต่ก็ได้ข่มความรู้สึกภายในจิตใจเอาไว้ไม่ให้หลงใหลไปกับเซ็กเล่ย์บอลที่ผมวาดฝันเอาไว้ ทันใดนั้นเองภาพนิมิตของหน้าอกที่กำลังดีดเด้งและศึกระหว่างสองสาวที่กำลังแย่งบอลกันด้วยสภาพเหงื่อที่ไหลรินก็เด้งเข้ามาในหัวผมด้วยคลื่นความถี่ร้อยเม็กกาเฮิรตซ์ แต่ก็ได้แต่ทำนิ่งตีเนียนไว้และไม่หวังอะไรให้มากจนเกินไป และในตอนนั้นเองสาวๆก็ได้ลงสู่สนามพร้อมๆกับเสียงปรบมือแห่งความปลิ้มปิติ แต่ทว่าพวกเธอช่างแลดูขาดความร่าเริงและกระตือรือร้นซะเหลือเกิน
และในวินาทีนั้นเองสายตาเทพเจ้าของผมก็ได้พุ่งตรงไปยังสิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างสรรค์ออกมา...ผ้าสแปนเด็กซ์แน่นเปรี๊ยบนเรือนบั้นท้ายของสาวๆนั่งเอง มันไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเป็นผ้ายืดสแปนเด็กซ์แบบนี้มาก่อน ก็แค่ไม่เคยเห็นในรูปแบบที่ชวนหลงใหลแบบนี้
ในสนามมีสาวๆอายุตั้งแต่สิบหกไปจนถึงสิบแปด ที่ยืนอยู่ราวกับว่าพวกเธอไม่ได้นุ่งอะไรเลยตั้งแต่ช่วงสะโพกลงไป มันช่างจ้าซะเหลือเกิน สมองของผมในตอนนั้นไม่รับร็เลยด้วยซ้ำว่าทิฟฟานี่ได้ลงแข่งด้วยหรือไม่...โดยปกติแล้วสายตาของผมนั้นมีความเฉียบคมกว่าคนทั่วไปที่สามารถแยกแยะว่าใครเป็นใครจากระยะใกลได้ แต่ไม่ใช่ในวันนั้น ผมไม่สารถแยกแยะอะไรได้เลย มันอาจจะเป็นพลังของกางเกงโยคะพวกนั้นก็เป็นได้ พลันไอ้คู่หูก็เหลือบมองมาที่ผมและราวกับอ่านใจ มันพูดขึ้นมาว่า "ตรูเข้าใจเมิงเพื่อน...ตรูเข้าใจ" น้ำตาผมแทบไหล
ผมไม่เคยรู้สึกมีชีวิตชีวาเท่านี้มาก่อนในชีวิตนี้ ผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนเราจะสามารถเสพย์สมกับอะไรได้มากขนาดนี้หรือป่าวในชีวิต หลังจากจบเกมไป ผมได้แวะเข้าซูเปอร์และเหมาเอาเนื้อฮ่องเต้ และหนังสือเกี่ยวกับจิตใจเล่มนึงเพื่อที่จะเข้าถึงในสิ่งที่ผมรู้สึกในวันนั้น ผมได้กลายเป็นไอ้ตูดนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และผมภูมิใจไปกับมัน
จากนั้นไม่นานผมก็ได้ค้นพบว่าสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะนี้ได้ถูกสรรสร้างขึ้นมาโดย ศาจตราจารย์(ผมให้ยศนี้แก่เขาเองเพื่อแสดงความเลื่อมใส) ไรอัน แมคแลทชี่ เขามีความคิดที่ว่ากีฬานั้นเป็นสิ่งที่ยืดหยุ่นและนั่นเป็นเหตุผลที่สแปนเด็กซ์ถูกเอามาใช้ทำกางเกงโยคะนี่เอง ผมได้ค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจเกียวกับไรอัน นั่นก็คือ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขานั้นมันมีน้อยมากจนหาแทบจะไม่ได้ในอินเตอร์เน็ตและสื่อต่างๆ เขาเหมือนกับเวงวิญญาณที่ทำภารกิจอยู่เพียงในเงามืดพร้อมกับพรสวรรค์อันเหลือเชื่อที่คนอื่นไม่สามารถมีได้ และไม่เคยเปิดเผยตัวตนของเขาราวกับฮีโร่ก็ไม่ปาน แต่เขาเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ว่าเรือนร่างของสาวๆนั้นเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ มันเกิดมาเพื่อกางเกงอัจฉริยะนี้!!
แมคแลทชี่เป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาๆที่ไม่ต้องการแม้แต่จะเป็นที่จดจำของคนอื่นๆ แต่จริงแล้วเขานั้นยิ่งใหญ่กว่าผม กว่าพวกเราทุกคน ถ้าหากว่าผมเป็นเขาแล้วล่ะก็ผมจะเอาหมวกแขวนไว้บนถ้วยรางวัลที่ได้มาจากการสร้างสรรค์กางเกงโยคะนี้และจะอัดเสื้อยืดแบบเดียวกันไว้ในตู้เสื้อผ้าของผม แล้วก็ใส่มันแมร่งทุกวัน บนเสื้อผมจะเขียนเอาไว้ว่า "ตรูนี่แหละที่สรรสร้างกางเกงโยคะขึ้นมา!!!" ด้วยตัวอักษรตัวโตๆให้เห็นกันเด่นชัดไปเลย
ผมมีบางสิ่งที่อยากจะบอกกับแมคแลทชี่ซะเหลือเกิน ผมอยากให้เขาก้าวออกมาจากมุมมืดและเข้ารับรางวัลโนเบลสำหรับสิ่งที่เขาทำ และผมอยากจะบอกว่า ผู้ชายกว่าสามสิบล้านคนทั่วโลกนั้นได้ต่อแถวรอจับมือและเลี้ยงเบียร์เย็นๆคุณสักแก้ว
ความพิเศษของกางเกงโยคะไม่ได้มีแต่เพียงเท่านี้ เพราะมันใส่ใจคนเราอย่างเท่าเทียมไม่ว่าหญิงหรือชาย ผู้ชายอยากที่เห็นและมองดูมันเมื่อมันอยู่บนบั้นท้ายของเหล่าสาวๆ ส่วนสาวๆก็ชอบที่จะสวมใส่มันกันจนเป็นแฟชั่น ผู้ชายได้มองบั้นท้ายของสาวๆที่เปิดเผยให้เห็นเรือนร่างอันแท้จริงของพวกเธอ สาวๆก็ใส่เพื่อความสบายเวลาออกกำลัง วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย และตอนนี้สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ก็โด่งดังไปทั่วโลกพื้นแผ่นดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขอแสดงความเคารพนับถือ
และข้างล่างนี้จะเป็นตัวอย่าง น้ำจิ้มๆของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ เด็กดูได้ ผ็ใหญ่ดูดี ไม่ผิดกฏหมายนะจ๊ะ
และปิดท้ายกันที่แม่เจนลอว์ของเรา
โอ๊ยยยยยย...พอๆ ใจแตกกันหมดละ ฮาาาา า าา
เครดิตแปลมาจาก :
http://totalfratmove.com/american-icons-yoga-pants-inventor-ryan-mclatchy/
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ คุณพ่อที่ทำให้ผมได้เกิดมา ขอบคุณพี่ป้าน้าอาที่คอยเลี้ยงดู ขอบคุณแมคแลทชี่ที่สร้างอนาคตของผู้ชายทั่วโลกให้สดใส และคุณผู้หญิงครับหันมาออกกำลังกายกันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องใส่สแป็นเด็กซ์ก็ได้(ใส่เถอะ) เพื่อสุขภาพที่ดีของสาวไทย สุขภาพจิตใจใสๆของหนุ่มๆ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ ^^
"Yoga Pants" สุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่อัจฉริยะที่สุดเท่าที่มนุษยชาติจะคิดค้นขึ้นมาได้... -+18!!!
ผมยังจำครั้งแรกเมื่อผมได้ปรายสายตาลงบนกางเกงโยคะแน่นเปรี๊ยะนั่นได้ดีแม้ในขณะที่ผมกำลังพิมอยู่นี้ มันช่างมีชีวิตชีวา มันน่าอัศจรรย์ใจเสียนี่กระไร ตอนนั้นเป็ฯเวลาที่ผมยังเป็นเฟรชชี่ไฮสคูลได้ใหม่ๆ หลังเลิกผมและคู่หูก็ได้เข้าไปฝึกซ้อมโยนบอลเล่นๆสำหรับการแข่งขันเบสบอลที่กำลังจะมาถึงโดยหวังว่าคุณครูพละจะโผล่ศีรษะมาให้ได้เห็นและแจกแต้มคะแนนความขยันให้กับพวกเราสองคน...แต่เขาก็ไม่โผล่มา
หลังจากได้ออกกำลังกันมามากพอสมควรพวกเราก็รีบตรงดิ่งไปยังล็อคเกอร์และเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยพลัน จากนั้นก็คว้าแบ็คแพ็คเตรียมกลับบ้านในทันที ในระว่างทางกลับบ้านนั้นคู่หูของผมก็ได้ถามคำถามนึงกับผม...มันเป็นคำถามที่จะเปลี่ยนชีวิตวัยรุ่นและหรรมอันน้อยที่ทำความเคารพธงชาติด้วยความถี่ 25 ครั้งต่อวันของผมไปตลอดกาล "เฮ้ น้องสาวตรูมีแข่งวอลเล่ย์ในยิมหลัก อยากจะไปดูด้วยกันป่าว" ผมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบกลับไป "วอลเล่ย์บอล? กีฬาผู้หญิงแบบนั้นไม่ดูหรอกเฟ้ย ตรูมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ" แต่แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าน้องสาวของมันทิฟฟานี่ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สายตาหนุ่มเวอร์จิ้นแบบผมหมายปอง และหุ่นของเธอนั้นมันสะบึมมาก "ตรูเปลี่ยนใจละ ช่าง
เราเดินเข้าไปยังโรงยิมที่เกือบจะเรียกได้ว่าว่างเปล่าและได้จับจองที่นั่งของพวกเรา ผมรู้สึกตื่นเต้นมากในตอนนั้น แต่ก็ได้ข่มความรู้สึกภายในจิตใจเอาไว้ไม่ให้หลงใหลไปกับเซ็กเล่ย์บอลที่ผมวาดฝันเอาไว้ ทันใดนั้นเองภาพนิมิตของหน้าอกที่กำลังดีดเด้งและศึกระหว่างสองสาวที่กำลังแย่งบอลกันด้วยสภาพเหงื่อที่ไหลรินก็เด้งเข้ามาในหัวผมด้วยคลื่นความถี่ร้อยเม็กกาเฮิรตซ์ แต่ก็ได้แต่ทำนิ่งตีเนียนไว้และไม่หวังอะไรให้มากจนเกินไป และในตอนนั้นเองสาวๆก็ได้ลงสู่สนามพร้อมๆกับเสียงปรบมือแห่งความปลิ้มปิติ แต่ทว่าพวกเธอช่างแลดูขาดความร่าเริงและกระตือรือร้นซะเหลือเกิน
และในวินาทีนั้นเองสายตาเทพเจ้าของผมก็ได้พุ่งตรงไปยังสิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างสรรค์ออกมา...ผ้าสแปนเด็กซ์แน่นเปรี๊ยบนเรือนบั้นท้ายของสาวๆนั่งเอง มันไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเป็นผ้ายืดสแปนเด็กซ์แบบนี้มาก่อน ก็แค่ไม่เคยเห็นในรูปแบบที่ชวนหลงใหลแบบนี้
ในสนามมีสาวๆอายุตั้งแต่สิบหกไปจนถึงสิบแปด ที่ยืนอยู่ราวกับว่าพวกเธอไม่ได้นุ่งอะไรเลยตั้งแต่ช่วงสะโพกลงไป มันช่างจ้าซะเหลือเกิน สมองของผมในตอนนั้นไม่รับร็เลยด้วยซ้ำว่าทิฟฟานี่ได้ลงแข่งด้วยหรือไม่...โดยปกติแล้วสายตาของผมนั้นมีความเฉียบคมกว่าคนทั่วไปที่สามารถแยกแยะว่าใครเป็นใครจากระยะใกลได้ แต่ไม่ใช่ในวันนั้น ผมไม่สารถแยกแยะอะไรได้เลย มันอาจจะเป็นพลังของกางเกงโยคะพวกนั้นก็เป็นได้ พลันไอ้คู่หูก็เหลือบมองมาที่ผมและราวกับอ่านใจ มันพูดขึ้นมาว่า "ตรูเข้าใจเมิงเพื่อน...ตรูเข้าใจ" น้ำตาผมแทบไหล
ผมไม่เคยรู้สึกมีชีวิตชีวาเท่านี้มาก่อนในชีวิตนี้ ผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนเราจะสามารถเสพย์สมกับอะไรได้มากขนาดนี้หรือป่าวในชีวิต หลังจากจบเกมไป ผมได้แวะเข้าซูเปอร์และเหมาเอาเนื้อฮ่องเต้ และหนังสือเกี่ยวกับจิตใจเล่มนึงเพื่อที่จะเข้าถึงในสิ่งที่ผมรู้สึกในวันนั้น ผมได้กลายเป็นไอ้ตูดนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และผมภูมิใจไปกับมัน
จากนั้นไม่นานผมก็ได้ค้นพบว่าสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะนี้ได้ถูกสรรสร้างขึ้นมาโดย ศาจตราจารย์(ผมให้ยศนี้แก่เขาเองเพื่อแสดงความเลื่อมใส) ไรอัน แมคแลทชี่ เขามีความคิดที่ว่ากีฬานั้นเป็นสิ่งที่ยืดหยุ่นและนั่นเป็นเหตุผลที่สแปนเด็กซ์ถูกเอามาใช้ทำกางเกงโยคะนี่เอง ผมได้ค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจเกียวกับไรอัน นั่นก็คือ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขานั้นมันมีน้อยมากจนหาแทบจะไม่ได้ในอินเตอร์เน็ตและสื่อต่างๆ เขาเหมือนกับเวงวิญญาณที่ทำภารกิจอยู่เพียงในเงามืดพร้อมกับพรสวรรค์อันเหลือเชื่อที่คนอื่นไม่สามารถมีได้ และไม่เคยเปิดเผยตัวตนของเขาราวกับฮีโร่ก็ไม่ปาน แต่เขาเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ว่าเรือนร่างของสาวๆนั้นเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ มันเกิดมาเพื่อกางเกงอัจฉริยะนี้!!
แมคแลทชี่เป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาๆที่ไม่ต้องการแม้แต่จะเป็นที่จดจำของคนอื่นๆ แต่จริงแล้วเขานั้นยิ่งใหญ่กว่าผม กว่าพวกเราทุกคน ถ้าหากว่าผมเป็นเขาแล้วล่ะก็ผมจะเอาหมวกแขวนไว้บนถ้วยรางวัลที่ได้มาจากการสร้างสรรค์กางเกงโยคะนี้และจะอัดเสื้อยืดแบบเดียวกันไว้ในตู้เสื้อผ้าของผม แล้วก็ใส่มันแมร่งทุกวัน บนเสื้อผมจะเขียนเอาไว้ว่า "ตรูนี่แหละที่สรรสร้างกางเกงโยคะขึ้นมา!!!" ด้วยตัวอักษรตัวโตๆให้เห็นกันเด่นชัดไปเลย
ผมมีบางสิ่งที่อยากจะบอกกับแมคแลทชี่ซะเหลือเกิน ผมอยากให้เขาก้าวออกมาจากมุมมืดและเข้ารับรางวัลโนเบลสำหรับสิ่งที่เขาทำ และผมอยากจะบอกว่า ผู้ชายกว่าสามสิบล้านคนทั่วโลกนั้นได้ต่อแถวรอจับมือและเลี้ยงเบียร์เย็นๆคุณสักแก้ว
ความพิเศษของกางเกงโยคะไม่ได้มีแต่เพียงเท่านี้ เพราะมันใส่ใจคนเราอย่างเท่าเทียมไม่ว่าหญิงหรือชาย ผู้ชายอยากที่เห็นและมองดูมันเมื่อมันอยู่บนบั้นท้ายของเหล่าสาวๆ ส่วนสาวๆก็ชอบที่จะสวมใส่มันกันจนเป็นแฟชั่น ผู้ชายได้มองบั้นท้ายของสาวๆที่เปิดเผยให้เห็นเรือนร่างอันแท้จริงของพวกเธอ สาวๆก็ใส่เพื่อความสบายเวลาออกกำลัง วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย และตอนนี้สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ก็โด่งดังไปทั่วโลกพื้นแผ่นดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และข้างล่างนี้จะเป็นตัวอย่าง น้ำจิ้มๆของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ เด็กดูได้ ผ็ใหญ่ดูดี ไม่ผิดกฏหมายนะจ๊ะ
โอ๊ยยยยยย...พอๆ ใจแตกกันหมดละ ฮาาาา า าา
เครดิตแปลมาจาก : http://totalfratmove.com/american-icons-yoga-pants-inventor-ryan-mclatchy/
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ คุณพ่อที่ทำให้ผมได้เกิดมา ขอบคุณพี่ป้าน้าอาที่คอยเลี้ยงดู ขอบคุณแมคแลทชี่ที่สร้างอนาคตของผู้ชายทั่วโลกให้สดใส และคุณผู้หญิงครับหันมาออกกำลังกายกันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องใส่สแป็นเด็กซ์ก็ได้(ใส่เถอะ) เพื่อสุขภาพที่ดีของสาวไทย สุขภาพจิตใจใสๆของหนุ่มๆ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ ^^