รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ใน Social Network
อย่างกว้างขวางว่าการเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ดำเนินการไปอย่างล่าช้าและจะขาดอายุความฟ้องร้องดำเนินคดีในวันที่ 7 กันยายน 2558 นั้น
กระทรวงพาณิชย์ ขอชี้แจงว่า การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง เนื่องจากการ
ดำเนินการเรียกค่าเสียหายได้มีการดำเนินการตลอดมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่ง
แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดขึ้น 2 คณะ คือ คำสั่งกระทรวงการคลังกรณี
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และคำสั่งกระทรวงพาณิชย์กรณี ป.ป.ช.
ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวกรวม 21 คน ทุจริต
โครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะ
เวลา 120 วัน หากไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
การดำเนินการของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะ มีกำหนดที่จะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน
วันที่ 7 กันยายน 2558 และจะรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง
เพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป แล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลัง
ตรวจสอบข้อเท็จจริงและความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง
หากผลการสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายจะแจ้งให้หน่วยงานรัฐที่ได้รับ
ความเสียหายออกคำสั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์นายบุญทรงกับพวกที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ซึ่งการดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงการรับจำนำข้าวและการระบาย
ข้าวของรัฐสามารถดำเนินการได้ทันภายในกำหนดอายุความอย่างแน่นอน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440911594
"พาณิชย์" ยืนยันฟ้อง "ยิ่งลักษณ์" กรณีจำนำข้าวได้ทันอายุความแน่นอน ....ข่าวมติชนออนไลน์ .../sao..เหลือ..noi
อย่างกว้างขวางว่าการเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ดำเนินการไปอย่างล่าช้าและจะขาดอายุความฟ้องร้องดำเนินคดีในวันที่ 7 กันยายน 2558 นั้น
กระทรวงพาณิชย์ ขอชี้แจงว่า การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง เนื่องจากการ
ดำเนินการเรียกค่าเสียหายได้มีการดำเนินการตลอดมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่ง
แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดขึ้น 2 คณะ คือ คำสั่งกระทรวงการคลังกรณี
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และคำสั่งกระทรวงพาณิชย์กรณี ป.ป.ช.
ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวกรวม 21 คน ทุจริต
โครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะ
เวลา 120 วัน หากไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
การดำเนินการของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะ มีกำหนดที่จะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน
วันที่ 7 กันยายน 2558 และจะรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง
เพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป แล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลัง
ตรวจสอบข้อเท็จจริงและความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง
หากผลการสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายจะแจ้งให้หน่วยงานรัฐที่ได้รับ
ความเสียหายออกคำสั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์นายบุญทรงกับพวกที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ซึ่งการดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงการรับจำนำข้าวและการระบาย
ข้าวของรัฐสามารถดำเนินการได้ทันภายในกำหนดอายุความอย่างแน่นอน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440911594