มีคาสโนว่ารูปหล่อมาขอเบอร์ ตกหลุมแทบโงหัวไม่ขึ้น แต่สุดท้ายก็ตาสว่าง (แอบ18+)

เราอยากลองตั้งกระทู้เพื่อแชร์ประสบการณ์ค่ะ  (จริงๆไม่ควรตั้งกระทู้คำถาม แต่มันเลือกแบบอื่นไม่ได้อ่าาา) อยากบอกคนอื่นๆไว้ว่า เป็นผู้หญิง ก่อนพูดหรือทำอะไร ให้คิดเยอะๆ ใสซื่อเกินไปมันก็ไม่ดี

เรามาเรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศค่ะ   เราทำงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟในผับแห่งหนึ่งที่ขายอาหารไทย (ผับที่นี่ก็อารมณ์แบบร้านอาหารบ้านเรานะคะ ไม่ได้น่ากลัวแบบที่มีแต่นักดื่มแบบนั้น)   เรามาได้เดือนเดียวก็ถูกแฟนคนแรกที่คบกันมาหกปีบอกเลิก   ตอนนั้นเราเจ็บจนเข้าใจความรู้สึกว่า ล้มทั้งยืน มันเป็นยังไงเลยค่ะ น้ำตาไม่ไหล แต่ช็อก ไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง

หลังจากถูกแฟนบอกเลิกได้หนึ่งวัน วันต่อมาเราต้องฝืนไปทำงานที่ผับ แล้วเราก็ได้เจอหนุ่มหน้าตาดี คมเข้ม สูง หุ่นดีแบบนักกีฬา คนนึงมาที่ร้านกับเพื่อนฝรั่ง ตอนแรกก็คิดว่าไม่ใช่คนไทย เพราะภาษาอังกฤษสำเนียงดีมาก แต่พอตอนสั่งอาหาร เค้าใช้ภาษาไทยสั่ง เรานี่ก็ตกใจเลยค่ะ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้รู้จักเค้า ขอเรียกเค้าว่าAนะคะ

วันแรกที่เจอกัน เราก็ไม่ได้คุยอะไรกับเค้ามาก แค่ถามว่าอาหารเป็นยังไง เค้าก็ตอบแบบล้อเล่นๆ กวนตีนๆ แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ
หลังจากนั้นเราก็มาจมอยู่กับเรื่องแฟนเก่า เพราะเรามาต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อนที่รู้ใจก็ยังไม่ค่อยมี  ตอนกลางคืนก่อนนอนเป็นช่วงที่ทรมานที่สุด เหงามาก จะคุยกับเพื่อนหรือพ่อแม่ที่ไทยก็ลำบาก เพราะเวลาไม่ตรงกัน

พออาทิตย์ถัดมา ก็ถึงวันที่เราต้องไปทำงานที่ผับ วันนั้นก็เหม่อๆ ลอยๆ ตามประสาคนอกหัก  แล้วก็มีความคิดแผลงๆ โผล่มาในหัวว่า ลอง one night stand ประชดชีวิตกับคนแปลกหน้าให้มันรู้แล้วรู้รอดเลยมั้ย ไหนๆก็อยู่เมืองฝรั่ง (แต่เอาจริงๆก็ไม่กล้าค่ะ ที่บ้านหัวโบราณ เราก็ถูกฝังความคิดแบบนั้นมาโดยไม่รู้ตัว แล้วก็คิดว่ามันน่าจะมีความรู้สึกที่ดีต่อกันก่อน เรื่องแบบนั้นมันถึงจะเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ)  

คิดไปคิดมา  Aก็โผล่มาในความคิดเรา เราคิดในใจว่า ถ้าAกลับมาที่ร้านอีก แสดงว่าฟ้าส่งคนนี้มาเพื่อดึงเราขึ้นจากความรู้สึกแย่ๆนี้แน่นอน (คือดูละครกับซีรี่ย์มากไป เราเลยออกแนวเพ้อฝันๆ หน่อยน่ะค่ะ)     และแล้ว A ก็โผล่มาจริงๆ ค่ะ มากับเพื่อนฝรั่งคนใหม่  แล้วก็มาถามเราว่า นี่เธอ...จำเราได้มั้ย ด้วยรอยยิ้มที่สดใสแกมเจ้าชู้จนทำให้ใครหลายๆ คนละลายได้เลย... (แต่เรายังไม่ละลายนะ เพราะจริงๆแล้วAไม่ใช่สเปคเรา แบบเราต้อง ขาว ตี๋ ใส่แว่น)    วันนั้นแขกที่ร้านเยอะมาก เราไม่ได้คุยกับเค้าเลย แค่รับออเดอร์แล้วก็เสิร์ฟ   พอเค้ากินเสร็จเราก็เห็นเค้ากำลังจะออกจากประตูร้านแล้วก็คิดว่าช่างมันเหอะ ต่างคนต่างอยู่ เค้าคงตั้งใจมาทานอาหารแล้วก็กลับ เพราะร้านเราอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยสองสามแห่ง เค้าคงเลิกเรียนแล้วก็มากับเพื่อนแค่นั้นมั้ง แล้วเราก็หันไปสนใจงานของเราต่อ เก็บโต๊ะ เช็ดแก้ว ไปเรื่อยๆ พอรู้ตัวอีกที เค้าก็มายืนหน้าเคาน์เตอร์ ชวนคุยนิดหน่อย แล้วก็ขอเบอร์เรา บอกว่าเค้าไม่ค่อยมีเพื่อนคนไทย ขอเบอร์หน่อยได้มั้ยไว้เป็นเพื่อนกัน แล้วเผื่อวันหลังจะได้พาเพื่อนคนไทยคนอื่นมาทานอีก

เราคิดในใจ เอาละไง บร๊ะแล้ว บร๊ะแล้ว ตรูว่าแล้วววว เซนส์ตรูมันบอกว่าไอ้หนุ่มคนนี้มันแอบสนใจเรา ฮ่าาาาา (นี่ก็เพ้อตามละครเช่นเคย จริงๆหารู้ไม่ว่าเค้าหว่านสเน่ห์ไปทั่ว ไม่ได้คิดอะไรกะเมริงเลยยยย)

เราก็คิดนานซักพัก ก่อนตัดสินใจให้ไลน์เค้าไป แล้วก็อ้างว่าเราเพิ่งมาประเทศนี้ได้เดือนเดียว ตอนนี้ซิมที่ใช้มันเป็นซิมชั่วคราว เดี๋ยวจะเปลี่ยนเบอร์ (คือก็จะเปลี่ยนซิมจริงๆ แต่เราเลือกใช้เบอร์เดิมได้ จริงๆก็คือไม่อยากให้เบอร์นั่นแหละ เพราะยังกลัวๆ ขี้ระแวงอยู่)

แล้วคืนนั้นเค้าก็ทักเรามาแค่แชทในไลน์ (จริงๆ เค้ากดโทรมาด้วย แต่เรารอสักพัก ไม่กล้าตัดสินใจรับ... ดังได้แป๊บเดียวเค้าก็วางไป บอกว่าเค้ากดผิด... อันนี้ไม่รู้จริงไม่จริง)
คุยกันยาวถึงตีสองตีสาม คือตอนนั้นมันดีมากกกกก ช่วยให้เราเลิกหมกมุ่นกับเรื่องแฟนเก่าไปได้เยอะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ลืมซะทีเดียว
หลังจากที่คุยกันคืนแรก เราประทับใจเค้านะ คุยตลก กวนตีน เป็นนักเขียน(ลงหนังสือพิมพ์ด้วย)และนักกีฬา เรียนนานาชาติแต่เด็ก ความคิดความอ่านเลยออกแนวฝรั่งๆ

พอคืนที่สอง เค้าก็ทักมาอีก แต่ครั้งนี้เราเล่นเกมส์ ถาม-ตอบ เรื่องของอีกฝ่าย
และแน่นอน Aก็ดึงเข้าคำถามทะลึ่ง ซึ่งเค้าถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเรา เราว่ามันม่ายช่ายง่าาาาา
ทุกคนน่าจะพอเดาได้ว่าเค้าถามอะไรบ้าง ซึ่งเราก็อึดอัด ไม่อยากพูดเรื่องนี้ แล้วก็ว่าเค้าไป แต่ไม่ได้จริงจัง ออกแนวพูดเล่นๆ
แต่ด้วยความที่พิมพ์ผ่านไลน์  เค้าเลยไปตีความว่าเราโกรธมาก ว่าแรงมาก
แล้วเราก็เปลี่ยนเรื่องคุย จนกระทั่งจะแยกย้ายกันนอน เค้าก็ขอถามคำถามสุดท้าย ซึ่งก็โยงเข้าเรื่องอย่างว่า
แต่มันเป็นคำถามที่ส่วนตัวมากๆๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเราก็อบรมเค้าไปอีกรอบ ว่าคนบ้าที่ไหนจะมาถามคำถามแบบนี้กับคนที่เพิ่งรู้จักกัน

หลังจากนั้นเค้าก็หายเงียบไปสองสามวัน...
เราก็ตามเดิมค่ะ ตอนกลางคืนเหงา คิดมากเรื่องแฟนเก่า   เลยตัดสินใจทักเค้าไปและถามตรงๆว่าทำไมหายไป ไม่ทักมาเลย
เค้าบอกว่า ก็อยากลองดูว่าเราจะทักเค้าไปบ้างมั้ย
เราอ่านแล้วรู้สึกว่าเค้าไม่ธรรมดาอะ คงเจ้าชู้น่าดู แต่ไม่เป็นไรเราก็ไม่คิดจริงจังกะเค้าซักหน่อย แค่คุยแก้เหงาให้ลืมแฟนเก่า รู้ไว้ว่าเค้าเจ้าชู้ก็ดีแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่