จากวันนี้เมื่อสองปีที่แล้ว ที่ลูกน้อยของแม่ลืมตาขึ้นมาดูโลก พร้อมอุปสรรคมากมาย สองปีที่ผ่านมาลูกของแม่ต้องผ่านประสบการณ์มากมาย แค่ภายในระยะเวลาปีกว่าๆ หนูก็ต้องเข้าห้องผ่าตัดถึงสี่ครั้ง เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างทรหดอดทนพอสมควร เด็กน้อยคนนึงต้องมีหมอที่พบประจำถึงหกหมอ ฝึกพัฒนาการอีกหนึ่ง ไปเที่ยวรพ. บ่อยซะยิ่งกว่าเที่ยวห้าง แม่นี่หยุดงานเป็นอาชีพเลยทีเดียว ถึงขั้นต้องจดวันที่หมอนัดใส่ปฏิทินกันเลยทีเดียว เพราะจำไม่ไหว มันเยอะมากก ผลัดกันนัดวันนั้นทีวันนี้ที เดือนๆนึงมีหาหมอไม่ต่ำกว่าสองสามรอบเลยทีเดียว คงเป็นเพราะหมอคิดถึงหนูน้อย เลยนัดไปหาบ่อยๆ
มาวันนี้ เผลอแป๊บเดียววันนี้ อีกไม่กี่วันผมก็จะมีอายุครบ " สองขวบ " แล้ว ผมโตเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก ร้ายยยยเดียงสา มากถึงมากที่สุด เล่นเอาป่วนใช่ย่อยเหมือนกัน จะสองขวบแล้วถึงหนูเพิ่งจะได้แค่พูดอ้อๆ แอ้ๆ ไม่เป็นคำซักเท่าไหร่ เดินก็ยังแค่เกาะๆ เตาะๆ แตะๆ ไปเรื่อยๆ ถึงจะยังเดิน ยังวิ่งไม่เก่งเหมือนใครเค้า แค่นี้แม่ก็ภูมิใจนักหนา แค่หนูมีความก้าวหน้าขึ้นมานิดนึงแม่ก็ดีใจจนน้ำตาซึมทุกที แม่ยังจำครั้งแรกที่หนูพลิกคว่ำได้เอง ทั้งๆที่ตอนนั้นหนูยังมีสิ่งกีดขวางที่ไว้ใช้ขับถ่ายทางหน้าท้องอยู่เลย ตอนนั้นแม่ดีใจมากถึงขั้นกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว มันมีความรู้สึกว่าทุกอย่างที่พยายามมามันช่างคุ้มกับการที่เฝ้าทนุถนอม เฝ้าดูแลหนูมา ยิ้มของหนูช่างเป็นของขวัญที่มีค่ามากกว่าของขวัญใดๆ ในโลก สองปีที่ผ่านมาเป็นสองปีที่มีค่ามาก ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย ได้ฝึกความอดทน ทำให้แม่ใจเย็นขึ้นอีกมากกกกก ไม่นึกว่าการที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ (ไม่ใช่เด็กพิเศษธรรมดาน้าา เพราะผมน่ารักเป็นพิเศษซะด้วยย) จะให้อะไรมากมายขนาดนี้ มันไม่ได้แย่ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ เค้าก็เป็นเด็กคนนึง ที่มีความสามารถได้เหมือนเด็กทั่วไป เพียงแค่เราตัองให้ความรัก ความใส่ใจ แต่จริงๆแล้วถึงเป็นเด็กธรรมดาก็คงต้องการสิ่งเหล่านี้เหมือนๆ กัน แต่การที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ เราต้องเรียนรู้วิธีที่จะฝึกสอนเค้า วิธีที่จะเล่นกับเค้าอย่างไรถึงจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเค้าไปด้วย ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากการเลี้ยงเด็กทั่วๆไปซักเท่าไหร่ เพียงแค่เราตัองใส่ใจ และเรียนรู้อย่างมีหลักการณ์จริงๆ มีการฝึกพัฒนาการจริงจัง เหมือนเรียนหนังสือเลยทีเดียว ถึงจะเหนื่อย บางครั้งก็แอบเครียด เพราะไปหาหมอทีไรหมอก็ยังไม่ปลื้มกับพัฒนาการองหนูเท่าไหร่ แต่สำหรับแม่ แค่นี้แม่ก็เพียงพอแล้ว ถึงจะเสียไปเท่าไหร่ ต้องอดทนแค่ไหน แต่สิ่งที่ได้กลับมามันก็ประเมิณค่าไม่ได้จริงๆ
จากวันนี้ต่อไปอีกหลาย ๆ ปี แม่ก็จะเฝ้าดูลูกของแม่เติบโตขึ้นไปทีละเล็กละน้อย ไม่รีบไม่ร้อนไม่แข่งกับใคร ขอแค่หนูพร้อมที่จะก้าวเดินไป แม่ก็พร้อมที่จะเดินเคียงข้างลูกของแม่ตลอดไป
เป็นสองปีที่ไม่ธรรมดา แต่เราก็ผ่านมันมาได้อย่างสวยงามเนาะ ลูกดาวน์น้อยของแม่
มาวันนี้ เผลอแป๊บเดียววันนี้ อีกไม่กี่วันผมก็จะมีอายุครบ " สองขวบ " แล้ว ผมโตเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก ร้ายยยยเดียงสา มากถึงมากที่สุด เล่นเอาป่วนใช่ย่อยเหมือนกัน จะสองขวบแล้วถึงหนูเพิ่งจะได้แค่พูดอ้อๆ แอ้ๆ ไม่เป็นคำซักเท่าไหร่ เดินก็ยังแค่เกาะๆ เตาะๆ แตะๆ ไปเรื่อยๆ ถึงจะยังเดิน ยังวิ่งไม่เก่งเหมือนใครเค้า แค่นี้แม่ก็ภูมิใจนักหนา แค่หนูมีความก้าวหน้าขึ้นมานิดนึงแม่ก็ดีใจจนน้ำตาซึมทุกที แม่ยังจำครั้งแรกที่หนูพลิกคว่ำได้เอง ทั้งๆที่ตอนนั้นหนูยังมีสิ่งกีดขวางที่ไว้ใช้ขับถ่ายทางหน้าท้องอยู่เลย ตอนนั้นแม่ดีใจมากถึงขั้นกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว มันมีความรู้สึกว่าทุกอย่างที่พยายามมามันช่างคุ้มกับการที่เฝ้าทนุถนอม เฝ้าดูแลหนูมา ยิ้มของหนูช่างเป็นของขวัญที่มีค่ามากกว่าของขวัญใดๆ ในโลก สองปีที่ผ่านมาเป็นสองปีที่มีค่ามาก ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย ได้ฝึกความอดทน ทำให้แม่ใจเย็นขึ้นอีกมากกกกก ไม่นึกว่าการที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ (ไม่ใช่เด็กพิเศษธรรมดาน้าา เพราะผมน่ารักเป็นพิเศษซะด้วยย) จะให้อะไรมากมายขนาดนี้ มันไม่ได้แย่ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ เค้าก็เป็นเด็กคนนึง ที่มีความสามารถได้เหมือนเด็กทั่วไป เพียงแค่เราตัองให้ความรัก ความใส่ใจ แต่จริงๆแล้วถึงเป็นเด็กธรรมดาก็คงต้องการสิ่งเหล่านี้เหมือนๆ กัน แต่การที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ เราต้องเรียนรู้วิธีที่จะฝึกสอนเค้า วิธีที่จะเล่นกับเค้าอย่างไรถึงจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเค้าไปด้วย ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากการเลี้ยงเด็กทั่วๆไปซักเท่าไหร่ เพียงแค่เราตัองใส่ใจ และเรียนรู้อย่างมีหลักการณ์จริงๆ มีการฝึกพัฒนาการจริงจัง เหมือนเรียนหนังสือเลยทีเดียว ถึงจะเหนื่อย บางครั้งก็แอบเครียด เพราะไปหาหมอทีไรหมอก็ยังไม่ปลื้มกับพัฒนาการองหนูเท่าไหร่ แต่สำหรับแม่ แค่นี้แม่ก็เพียงพอแล้ว ถึงจะเสียไปเท่าไหร่ ต้องอดทนแค่ไหน แต่สิ่งที่ได้กลับมามันก็ประเมิณค่าไม่ได้จริงๆ
จากวันนี้ต่อไปอีกหลาย ๆ ปี แม่ก็จะเฝ้าดูลูกของแม่เติบโตขึ้นไปทีละเล็กละน้อย ไม่รีบไม่ร้อนไม่แข่งกับใคร ขอแค่หนูพร้อมที่จะก้าวเดินไป แม่ก็พร้อมที่จะเดินเคียงข้างลูกของแม่ตลอดไป