มะเร็งไทรอยด์ สุขมากกว่าทุกข์

กระทู้สนทนา
มะเร็งเปลี่ยนชีวิต

...เรื่องราวที่อยากเล่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่มีความสุขแทนที่จะเป็นความทุกข์  ใครที่กำลังป่วยแล้วท้อ  อยากให้ลองอ่านดูนะคะ...

...จุดเริ่มต้นของจุดเปลี่ยน...  เกิดเมื่อไม่นานมานี้  ก.ค.  58    
   ฉันเป็นพยาบาลตอนนี้ อายุ 27   ปี  และป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์  ต้องบอกก่อนว่า ฉันไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร  กลืนได้ปกติ ไม่มีเสียงแหบ ผลเลือดไทรอยด์ปกติ ...แค่คลำได้ก้อนที่คออย่างเดียว ...  ด้วยความที่ฉันเป็นพยาบาล และตรวจร่างกายด้วยตัวเองอยู่แล้ว  โดยคลำได้ก้อนเอง  ซึ่งก้อนนี้คลำได้ตั้งแต่ตอนที่เป็นนักศึกษาพยาบาลปีที่ 2  และเคยไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม  ตอนนั้นจำได้ว่าก้อน ประมาน  0.5 Cm   แพทย์ไม่ได้ทำอะไร  บอกแค่ให้สังเกตว่าโตขึ้นมั้ย   หลังจากนั้นก้สังเกตตนเองมาตลอด  แต่ก็ไม่ได้โตขึ้น   จนกระทั้ง  ปีนี้  58   ซึ่ง ตอนนี้ทำงานเป็นพยาบาลอย่างเข้าสู่ปีที่ 5    พบว่าก้อนที่ คอโตขึ้น  จาก 0.5  cm   โตขึ้นๆ เรื่อยๆ จึงแจ้งแพทย์ว่าก้อนโตขึ้น  และได้นัดตรวจเพิ่มเติมอัลลตร้าซาวด์ไทรอยด์ตรงตำแหน่งที่คลำได้ก้อน  
    วันที่ไปตรวจอัลตร้าซาวด์  ตอนมองภาพในจอภาพอัลตร้าซาวด์  คิดในใจ ...  โอ้วววววแม้เจ้า....ทฤษฎีที่เคยเรียนมาแล่นเข้ามาในสมองเต็มไปหมด  ก้อนที่เห็นที่หน้าจอเครื่อง มันลักษณะใช่ตรงตามทฤษฎีเป๊ะ   ลักษณะก้อนมะเร็ง  ผิวขรุขระแบบที่เห็นในจอเลย  แต่เราคงไม่เป็นหรอก...
    หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นก็ฟังผลอัลตร้าซาวด์  พบก้อนไทรอยด์ด้านซ้าย 2.5 * 3   Cm   แนะนำพบแพทย์เฉพาะทางและเจาะชิ้นเนื้อเพิ่มเติม  จึงนัดหมอเฉพาะทางอาทิตย์ถัดมา พอดีที่โรงพยาบาลที่ทำงานยังไม่มีแพทย์เฉพาะทาง จะมีแพทย์มาพาร์ทไทม์ อาทิตย์ละครั้ง จึงได้พบแพทย์อีก 1  อาทิตย์ ถัดมา  แต่ในใจก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นมะเร็ง  
    วันนัดก็ไปพบแพทย์เฉพาะทาง  แพทย์ก็ตรวจร่างกาย และเจาะชิ้นเนื้อตรงก้อนไปตรวจ  นัดฟังผลอีก 1 อาทิตย์   นัดฟังผลบ่าย  ตอนเช้าเปิดดูผลด้วยตนเอง ผลก็ยังไม่ออก  กระวนกระวายใจพอสมควร  แต่พอสัก 11  โมงเปิดดูผลอีกครั้งด้วยตนเอง  อ่านผลตอนนั้น    สตั๊นไปหลายวิ ...  Pappillary  thyroid  Cacinoma... ยอบรับตามจิงว่าไม่ได้ทราบรายละเอียดชนิดของมะเร็งไทรอยด์ขนาดนั้น  รู้แค่ Cacinoma  มันเป็นมะเร็ง  นิหว่าาาา ....ภาพพ่อกับแม่ลอยมา   อยากดูแลพ่อกับแม่นานกว่านี้ .... จากนั้นก็เปิดอาจารย์ Goo   มะเร็งไทรอยด์ มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ...ก้พอทราบข้อมูลมากขึ้น  จากนั้นบ่ายก็ไปฟังผลกับแพทย์   เข้าห้องไปฟังผลชิ้นเนื้อ  อาจารย์หมอถอนหายใจ  3  ครั้ง  ก่อนแจ้งว่า  ผลชิ้นเนื้อเป็นมะเร็งไทรอยด์  มะเร็งตัวนี้รักษาหายได้  ต้องผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทั้งหมด และตามด้วยกลืนแร่  ซึ่งโชคดีมากอาจารย์หมอเซ็ตผ่าตัดในวันรุ่งเช้าถัดมาหลังฟังผลเลย   เย็นวันฟังผลก็แอดมิดเตรียมตัวผ่าตัดวันรุ่งเช้า...  ทุกอย่างมันเกิดขึ้นกระทันหันมาก   เย็นวันนั้นก็โทรบอกพ่อกับแม่เรื่องจะผ่าตัด แต่ยังไม่ได้บอกเรื่องมะเร็งอะไร  "แค่บอกเรื่องมีก้อน หมอให้ผ่าออก ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะไม่ดี  "   บอกแค่นี้เพื่อให้ท่านได้ตั้งตัว ....ตอนเย็นวันแอดมิด   มีพี่ๆน้องๆเพื่อนๆที่ทราบข่าว มาให้กำลังใจ  ซึ่งถือว่า "กำลังใจ " สำคัญมาก   คืนก่อนผ่าตัด  ฉันได้ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เกิดอะไรขึ้น  ตอนนี้เราป่วยเป็นมะเร็ง  ทำไมถึงไม่เคยคิดเรื่องเจ็บป่วยเลย  คิดว่าตัวเองแข็งแรง  อายุยังน้อยยังไม่เจ็บป่วยหรอก  ก่อนหน้านี้คิดแต่จะสร้างตัวเอง  ทำงานเก็บเงิน  ก็วัยทำงานอะนะ ....แล้วก็คิดขึ้นมาว่าถ้าเราเป็นอะไรไปตอนนี้  ถ้าเราเจ็บป่วยร้ายแรงกว่านี้  ไม่มีทางรักษาหาย  แล้วได้ทำสิ่งที่เราอยากทำแล้วหรือยัง  ถ้าเราเป็นอะไร  เราเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง...
แล้วอะไรที่จะเหลืออยู่ถ้าเราเป็นอะไรไป.... มันเหลือแค่ความดี ...  คืนนั้นตั้งจิตคิดว่า  อยากมีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี  ขอให้การผ่าตัดพรุ่งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี  
    รุ่งเช้าก็ไปผ่าตัด   ออกจากห้องผ่าตัด จำได้วินาทีที่รู้สึกตัวหลังจากผ่าตัดในห้องพักฟื้น  รู้สึกเหมือนกึ่งฝันกึ่งตื่น ว่ามีคนดึงซ้ายดึงขวา ยก ดึงอะไรประมานนี้แต่เป็นแค่ความรู้สึกนะ  จากนั้นลืมตาโชคดีมีเพื่อนอยู่ห้องผ่าตัด  ลืมตาปุ๊บเจอเพื่อนปั๊บ  ตอนนั้นพูดก็ไม่มีเสียง  คอแห้งมาก  น้ำลายก็กลืนไม่ลง เสมหะน้ำลายก็เต็มปาก  ใช้ลิ้นดันได้อย่างเดียวเพื่อนก้เช็ดน้ำลายให้   พอกลับมายังหอผู้ป่วยได้ กลับมาห้องเริ่มกลืนน้ำลายได้  พูดเริ่มมีเสียง  ดีใจมากเสียงไม่แหบ  ปกติผ่าตัดไทรอยด์จะมีเสียงแหบได้ ชั่วคราว 2-3  วัน บางคนอาจจะแหบตลอดได้  โชคดีหมอเก่ง  ชมหมอหน่อยปลื้มหมอที่ผ่าให้มาก
อาการหลังผ่าตัดตัดวันแรกจะปิดแผลที่คอแน่นมาก มีสายระบายเลือดออกมา 2  ข้าง  เจ็บแผลมั้ย  ระดับความเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากันเนาะ  
      แต่ตอนนั้นรู้สึกว่า จากตอนเรียนที่อาจารย์พาไปเข้าค่ายธรรมะ บ่อยๆ ได้เอามาใช้จริงก็คราวนี้แหละนะ    เอามาใช้เองโดยไม่มีใครมาบังคับ  ฝึกจิตตัวเองโดยไม่ต้องฝืน  คือภาวนา แยกความเจ็บ เป็นแค่รับรู้ ว่า  "เจ็บหนอ "  แต่ไม่รู้สึกว่าเจ็บตาม  แล้วมันก็รู้สึกดี  แปลกจัง  ไม่ทรมานเลย  ระยะเวลาที่นอนพักฟื้นได้มองตัวเอง  มองสิ่งที่เกิดขึ้น  อยากบอกว่าตอนนอน รพ. พักฟื้นผ่าตัดไม่เจ็บแบบทรมานเลย  ทุกอย่างรับรู้  แต่ไม่รู้สึกตาม  คิดแต่สิ่งดีๆ ไม่โกรธ  ไม่เกลียด  ปล่อยวางทุกอย่าง  จนรู้สึกสบายใจมาก  ทำไม่รู้สึกดีกว่าตอนไม่ป่วยอีก  อันนี้ต้องลองทำดูแล้วจะรู้สึกได้จริงๆ  หลังผ่าจะมีแคลเซียมต่ำได้
นะคะเพราะตรงไทรอยด์จามีพาราไทรอยด์อีก 4  ต่อมที่ทำหน้าที่ควบคุมแคลเซียม  ซึ่งของดิฉันผ่าตัดพาราไทรอยด์ไป 2  ต่อม เหลืออีก  2  ต่อม  
อาการแคลเซียมต่ำจะมีอาการ มือเท้าชา เร็งจีบได้  ของดิฉันมีมือเท้า ชา ช่วง  2-3   วันแรกหลังผ่าตัดมีอาการชาบ่อยหน่อย  หลังจากทานยาแคลเซียม  อาทิตย์นึงแทบจะไม่มีอาการชาเลย  แต่ถ้าวันไหนลืมทานแคลเซียมเช้า  ตอนเย็นจะชาเลยนะคะมันไวมาก  ช่วงเดือนแรกทานแคลเซียม  3  มื้อ  แต่ถ้าทานสม่ำเสมอก็จะไม่มีอาการชาเลยคะ  
     หลังจากผ่าตัด 1   เดือนก็ถึงเวลา รักษาขั้นต่อมา นั้นคือการกลืนแร่ไอโอดีน 131   เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็งที่ยังเหลืออยู่  ผลข้างเคียงที่ทราบก่อนกลืนแร่ คืออาจจะคลื่นไส้อาเจียน  ผลข้างเคียงน้อยมาก  แต่เมื่อเจอตัวเองขอแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ  เช้าวันที่กลืนแร่  ลักษณะแร่ที่กลืน จะเป็นเม็ดแคปซูลยาเล็กๆ กินเหมือนกินยาปกติ  วันแรกที่กลืนแร่เข้าไป ไม่มีอาการอะไรคะ  พอตื่นเช้าขึ้นมา  รู้สึกเจ็บคอมาก เจ็บตรงแผลผ่าตัดด้วย จึงเดินไปดูกระจก ตกใจมาก  คอบวม หน้าบวม แผลตรงคอตึงมากเหมือนจะปลิออกมา  หายใจไม่สะดวก  จึงกดกริ่งไปแจ้งพยาบาล  อ้อ คนที่กลืนแร่ จะต้องอยู่ห้องแยก  7  วันนะคะ  จากกนั้นก็ได้ยาเสตีรอยด์มาทานลดบวม  อาการบวมจะเป็นอยู่ประมาน  3-4 วันนะคะ   คอของดิฉันก็ยุบบวม   และนี่ก็เป็นอีกอย่างที่ดิฉันรู้สึกได้ว่า  สังขารไม่เที่ยง เมื่อวานปกติ หน้าตาปกติ  อีกวันหน้าบวมตาบวมคอบวม  ร่างกายเปลี่ยนแปลงได้ตลอด  แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือใจที่เรารับรู้  รับรู้ว่าบวม  ว่าเจ็บ  แต่ไม่รู้สึกตาม  วันนี้อาการคลื่นไส้เริ่มมาด้วย  คลื่นไส้อย่างเดียวไม่มีอาเจียน  เหม็นอาหาร ทานได้แต่ผลไม่  คลื่นไส้มีอาการอยู่เกือบอาทิตย์    ต่อมาหลังจากบุบบวมก็มีลิ้นชาเฝื่อนๆ เหมือนรับรสชาติไม่ค่อยได้    เป็นอยู่อาทิตย์กว่า  ก้เริ่มรับรสได้บ้างๆ  ตอนนี้หลังกลืนแร่มา  2   อาทิตย์ อาการทุกอย่างเริ่มปกติ  กลับมาทำงานได้ตามปกติ  รอฟังผลถ่ายภาพสแกนเพื่อดูผลการรักษาหลังกลืนแร่  ซึ่งหลังจากนี้ก้จะมีทานยาไทรอย์ซึ่งต้องทานไปตลอดชีวิต  และยังคงทานแคลเซียมอยู่แต่แพทย์ปรับลดให้เหลือวัน 2   ครั้ง เช้าเย็น  การรักษาต่อไปก็อาจจะมีการกลืนแร่ซ้ำแต่ถ้าจะกลืนซ้ำต้องเป็น  6  เดือนถัดไป
     ตอนนี้ ดิฉันอยู่กับปัจจุบัน  และมีความสุขกับสิ่งที่เป็น  รู้สึกได้มองอะไรหลายๆอย่างที่เมื่อก่อนอาจจะไม่ได้มอง  มองในอีกมุม  ปรับเปลี่ยนความคิด มองด้านดีๆ  มองสิ่งดีๆ  ไม่โกรธ  ไม่เกลียด  ไม่คาดหวัง  คิดแต่สิ่งดีๆ  แล้วจะมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับตัวคุณ  มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณโดยไม่ต้องร้องขอ
มีแต่คนเข้ามาช่วยเหลือ  อุปถัมภ์ค้ำชู   ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง  และใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างรู้คณค่าของเวลา
      ลองฝึกจิตดูนะคะ  จะป่วยจะเจอกับเรื่องอะไร  ลองแค่รับรู้  รู้ว่าเกิด  รู้ว่าเจ็บ  รู้ว่า......แต่อย่ารู้สึกตาม  อย่าไปยึดติด  อย่าไปคาดหวัง    
เจอกับตัว  พบแล้วสุขแล้ว  อย่างไม่น่าเชื่อ ........................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่