-----------------------------------------------
ติดตามทริปการเดินทางของเราได้ตามนี้นะครับ
หนีงานไปเที่ยว : ตามฝันถิ่นคันไซ
- ตอนที่ 1 เตรียมเนื้อเตรียมตัว
http://pantip.com/topic/34032943
- ตอนที่ 2 Bangkok - Osaka ตื่นเต้นฝุดๆ
http://pantip.com/topic/34033942
- ตอนที่ 3 Osaka - Endo Sushi - Universal Studio ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/34037448
- ตอนที่ 4 Universal Studio คืนสู่วัยเยาว์ในโลกใบใหญ่ ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/34046029
- ตอนที่ 5 SLOW LIFE IN HIMEJI
http://pantip.com/topic/34064955/comment1
- ตอนที่ 6 KOBE ไม่ได้มีแค่เนื้อนะ!!
http://pantip.com/topic/34104765
- ตอนที่ 7 KYOTO ตัวตนของญี่ปุ่น
http://pantip.com/topic/34161446
ผมทำ Facebook Page กับเขียน Blog ไว้สำหรับคนทำงาน ที่อยากหนีงานไปเที่ยวเข้ามาพูดคุยหรือแชร์เรื่องราวกันครับ ลองแวะไปเยี่ยมชม ติชม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ^_^
https://www.facebook.com/ibreak2travel
https://ibreak2travel.wordpress.com/
-----------------------------------------------
ทุกๆ ครั้งที่นึกถึงชื่อเมือง “Kobe (โกเบ)” ผมเชื่อว่าในเสี้ยวใจคนส่วนใหญ่มักจดจำโกเบในฐานะเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง “เนื้อวัวอร่อย” เพราะผมเองก็ได้ยินคำว่า “เนื้อโกเบๆๆๆๆๆๆๆ” มาตั้งแต่เด็ก จนเผลอคิดไปว่ามันคงจะมีวัวพันธุ์โกเบอยู่เป็นแน่ 55555
แต่ด้วยความโชคดี เพราะขณะผมกับแฟนกำลังทำข้อมูลไปเที่ยวแถบคันไซนั้น ช่วงนั้นมีหนัง Animation เรื่อง Big Hero 6 เข้าฉายพอดี เพื่อนๆ คงจำเจ้า เบย์แม็กซ์ (Baymax) เจ้าหุ่นยนต์อ้วนกลมสีขาวๆ ที่แอบมาขโมยใจเราไปเมื่อปลายปีที่แล้วได้ใช่ไหมครับ
จำได้ไหมเอ่ย?
ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้ จะเห็นว่าหนังได้รับอิทธิพลความเป็นญี่ปุ่นมามากมายเลยครับ แถมยังมีมีหุ่นตัวนึงปรากฏตัวขึ้นอย่างลับๆ ในหนังเรื่องนี้ ซึ่งหุ่นตัวนั้นก็คือ Tetsujin 28 หรือหุ่นเหล็กหมายเลข 28 นั่นเอง ซึ่งหุ่นตัวนี้เชื่อว่าถ้าใครอายุเกิน 30 แล้วละก็… น่าจะเคยชื่นชอบกันมาบ้าง และด้วยเหตุผลนี้แหล่ะ มันเลยทำให้เพิ่มโปรแกรม เพราะอยากจะไปถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นยักษ์ของหุ่นเหล็กหมายเลข 28 ขึ้นมาทันที!!!!!
ซึ่งแฟนผมก็น่าร๊าก ตามใจผมซะด้วย 555555 ถ้างั้นเราตามมาพบกับ
“เนื้ออร่อย ขนมเลิศรส วัฒนธรรมผสมผสาน และหุ่นยักษ์หมายเลข 28” ที่ Kobe เมืองท่าแห่งคันไซนี้กันครับ
เช้าวันที่ 4 พวกเราตื่นกันแต่เช้า (เช่นเคย) เพื่อเดินทางด้วยรถไฟ JR จากเมือง Himeji ไปลงที่สถานี Sanomiya ที่ Kobe ครับ การเดินทางจากสถานี JR Himeji ไปยัง JR Sanomiya นั้นใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ครับ ซึ่งตั๋วที่เราจองนั้นเค้าจะระบุโบกี้ และระบุรอบเอาไว้ครับ

วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ ผู้คนจึงขวักไขว่พอสมควร
หมายเหตุ : กรณีที่เราซื้อ JR Pass ล่วงหน้าไปจากเมืองไทย เราสามารถ activate บัตร JR Pass ของเราได้ทันทีเมื่อมาถึงสนามบินครับ แต่เนื่องจากผมกับแฟนบินมาไฟลท์ดึก (เคาน์เตอร์ปิดแล้ว) จึงต้องไป activate บัตรกันที่สถานี JR ใหญ่ๆ แทนครับ อย่างที่สถานี JR Sanomiya นี้เป็นต้น (ที่สถานี JR Himeji ไม่สามารถ activate ตั๋วได้ครับ เพราะไม่มีเคาน์เตอร์)
หลังจากใช้เวลางีบไปชั่วอึดใจ เราก็มาถึงสถานี JR Sanomiya กันแล้ว!!!

Activate ตั๋วแล้วคร๊า พร้อมใช้งาน
พอ activate JR Pass กันแล้ว เราก็นั่งรถไฟต่อไปสถานี Shinagata เพื่อตะลุย Mission แรกของวันนี้คือไปดูรูปปั้นหุ่นเหล็กหมายเลข 28 ด้วยตาตัวเองสักครั้ง ซึ่งการเดินทางไปยังรูปปั้นนั้นแสนง่ายครับ เมื่อขึ้นจากชานชาลา ให้เราเดินไปออกทางด้านที่เขียนว่า Subway Kaigan Line (ตามภาพครับ) เมื่อออกไปแล้วก็เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไปสัก 800 เมตรก็ถึงแล้วครับ

เดินออกด้านซ้ายมือนี้

แผนที่ใหญ่มาก ไม่หลงแน่นอน

ระหว่างทางจะมีป้ายบอกตลอดครับ
แล้วในที่สุด… พวกเราก็ได้เจอกับเจ้า Tetsujin 28 แล้ววววว !!!! ดีใจมากๆ เลยยยยย ^_^
หุ่นจำลองของ Tetsujin 28 หรือหุ่นเหล็กหมายเลข 28 นั้น ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ Kobe Tetsujin Project เพื่อสร้างสัญลักษณ์ประจำเมือง Kobe หุ่นจำลองมีความสูง 18 เมตร ทำจากเหล็กหนักถึง 50 ตัน และใช้งบประมาณสูงถึง 135 ล้านเยน โดยหุ่นจำลองนี้ตั้งอยู่ในสวน Wakamatsu โดยมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในวันที่ 4 ตุลาคม 2009 ครับ
เหตุที่มีการสร้างหุ่นตัวนี้ไว้ที่เมือง Kobe ก็เพราะเป็นบ้านเกิดของ Mitsuteru Yokoyama นักเขียนการ์ตูนผู้ให้กำเนิดหุ่นเหล็กตัวนี้นั่นเอง

ถ่ายรูปจนจุใจแล้ว ก็ถือโอกาสเดินเล่นย่านการค้าที่อยู่ใกล้ๆ กันครับ

มีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านปาจิงโกะ ฯลฯ คึกคักพอสมควรเลยครับ

ปลาสดใหม่เลย ราคาก็ไม่แพง

ยากิโซบะร้านนี้อร่อยครับ ต้องลอง

คุณแฟนกำลังปลื้มปริ่มกับโอโคโนมิยากิ
เสร็จภารกิจแรกแล้ว ก็ได้เวลาอาหารครับ มาเมือง Kobe มันก็ต้องไปทานเนื้อโกเบครับ ซึ่งที่นี่จะมีร้านอาหารหลายร้านมากๆ ที่นำเนื้อชั้นดีของ Kobe มาปรุงอาหาร แต่เมนูที่นิยมสุดก็คงไม่พ้นสเต็กสไตล์ญี่ปุ่นนี่ล่ะ (ทริปนี้กินตลอดๆ)
หลังจากดูรีวิว (และดูราคา) ของแต่ละร้านแล้ว เราก็ได้คำตอบว่า… ด้วยงบจำกัด เราจะไปลิ้มชิมรสที่ร้าน Steak Land ครับ เพราะทั้งราคา รสชาติ และชื่อเสียง ลงตัวมากกกก 55555
สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใน Kobe นั้นจะอยู่ใกล้กับสถานี JR Sanomiya นะครับ รวมถึงร้าน Steak Land ด้วย ว่าแล้วก็เดินทางกลับไปยังสถานี JR Sanomiya กันครับ

พอสายๆ แล้ว ผู้คนก็บางตาลง ไม่แน่นเหมือนตอนเช้า

หนาวจนไม่ต้องบรรยายกันละนะ
เมื่อมาถึงสถานี JR Sanomiya แล้วให้เดินไปออกทาง West Exit นะครับ ในโซนนี้จะมีร้าน Steak Land อยู่ถึง 3 สาขาครับ ใครสะดวกบริเวณไหน ก็ตามอัธยาศัยเลยนะครับ ผมแป่ะแผนที่ไว้ให้แล้วครับ

ที่ตั้งของทั้ง 3 สาขา บริเวณสถานี Sanomiya ครับ

ตามหมวยมาทางนี้ค่าา

เห็นป้ายร้านแล้ว เลี้ยวขวาเข้าไปเลย

ถึงร้านแล้วจ้า สาขานี้ร้านจะอยู่ชั้น 2 นะครับ
เมื่อเข้ามาในร้านแล้วพนักงานจะพาเราไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ครับ ซึ่งตรงกลางบาร์จะมีกระทะเทปันฯ ขนาดใหญ่ เมื่อพนักงานรับออร์เดอร์แล้ว สักพักจะมีพ่อครัวนำเนื้อที่เราเลือก มาปรุงตามความต้องการของเราครับ (สำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อ ก็จะมีเป็นเมนูอาหารทะเลให้นะครับ อร่อยมากเหมือนกัน)

บรรยากาศในร้านครับ

เมนูของทางร้านครับ ราคาไม่แรงมาก

กระเทียมทอดในตำนานที่เล่าลือกันว่าอร่อยมาก

หลังจากนำเนื้อมาพรีเซนต์แล้ว พ่อครัวก็จะเริ่มย่างเนื้อตามระดับความสุกที่เราต้องการครับ

มี Seafood Set สำหรับคนไม่ทานเนื้อครับ
ประสบการณ์หลังลิ้มรสเนื้อ Kobe จากร้าน Steak Land
เนื้อสดอร่อยครับ ผมสั่งเป็น Medium เนื้อจึงยังคงความหวานและนุ่มลิ้นอยู่ เมื่อทานกับกระเทียมทอดแล้วยิ่งฟินเลยล่ะ ส่วนเมนู Steak Seafood ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ ผมเชิญชวนทุกคนมาลองกันได้เลย ณ จุดนี้ 55555

บอกได้เลยว่าอร่อยมาก และต้องไปลอง
เมื่อเติมกระเพาะให้อิ่มกันจนพุงนำนมแล้ว ก็ได้เวลาย่อยอาหารครับ เราจะไปเดินเล่นถนน Kitano กันครับ ถนนนี้ได้ชื่อว่าเป็น Western Street แห่งภูมิภาคคันไซเลยล่ะครับ

สไตล์นี้ Japan Only
Kitano (คิตาโนะ) เป็นย่านบ้านพักชาวต่างชาติที่มีอยู่ตั้งแต่ครึ่งหลังของช่วงศตวรรษที่ 19 เนื่องจาก Kobe เป็นเมืองท่าที่เปิดรับการค้าขายทางเรือกับต่างชาติ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันบ้านสไตล์ตะวันตกในบริเวณย่าน Kitano ก็ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม

หมดแรงเดิน 5555
พื้นที่ย่าน Kitano กินบริเวณกว้างอยู่ตีนเขาของเทือกเขาร็อคโค มีบ้านสไตล์ตะวันตกจำนวนมากทั้ง England House, French House, American Teddy Bear Museum, Wein Austrain House และอื่นๆ อีกมากมาย

Kitano เดินขึ้นเนินไปหน่อยนึงน๊า ออกกำลังกาย
หนีงานไปเที่ยว : ตามฝันถิ่นคันไซ (DAY 4 -KOBE ไม่ได้มีแค่เนื้อนะ!!)
ติดตามทริปการเดินทางของเราได้ตามนี้นะครับ
หนีงานไปเที่ยว : ตามฝันถิ่นคันไซ
- ตอนที่ 1 เตรียมเนื้อเตรียมตัว http://pantip.com/topic/34032943
- ตอนที่ 2 Bangkok - Osaka ตื่นเต้นฝุดๆ http://pantip.com/topic/34033942
- ตอนที่ 3 Osaka - Endo Sushi - Universal Studio ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/34037448
- ตอนที่ 4 Universal Studio คืนสู่วัยเยาว์ในโลกใบใหญ่ ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/34046029
- ตอนที่ 5 SLOW LIFE IN HIMEJI http://pantip.com/topic/34064955/comment1
- ตอนที่ 6 KOBE ไม่ได้มีแค่เนื้อนะ!! http://pantip.com/topic/34104765
- ตอนที่ 7 KYOTO ตัวตนของญี่ปุ่น http://pantip.com/topic/34161446
ผมทำ Facebook Page กับเขียน Blog ไว้สำหรับคนทำงาน ที่อยากหนีงานไปเที่ยวเข้ามาพูดคุยหรือแชร์เรื่องราวกันครับ ลองแวะไปเยี่ยมชม ติชม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ^_^
https://www.facebook.com/ibreak2travel
https://ibreak2travel.wordpress.com/
-----------------------------------------------
ทุกๆ ครั้งที่นึกถึงชื่อเมือง “Kobe (โกเบ)” ผมเชื่อว่าในเสี้ยวใจคนส่วนใหญ่มักจดจำโกเบในฐานะเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง “เนื้อวัวอร่อย” เพราะผมเองก็ได้ยินคำว่า “เนื้อโกเบๆๆๆๆๆๆๆ” มาตั้งแต่เด็ก จนเผลอคิดไปว่ามันคงจะมีวัวพันธุ์โกเบอยู่เป็นแน่ 55555
แต่ด้วยความโชคดี เพราะขณะผมกับแฟนกำลังทำข้อมูลไปเที่ยวแถบคันไซนั้น ช่วงนั้นมีหนัง Animation เรื่อง Big Hero 6 เข้าฉายพอดี เพื่อนๆ คงจำเจ้า เบย์แม็กซ์ (Baymax) เจ้าหุ่นยนต์อ้วนกลมสีขาวๆ ที่แอบมาขโมยใจเราไปเมื่อปลายปีที่แล้วได้ใช่ไหมครับ
จำได้ไหมเอ่ย?
ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้ จะเห็นว่าหนังได้รับอิทธิพลความเป็นญี่ปุ่นมามากมายเลยครับ แถมยังมีมีหุ่นตัวนึงปรากฏตัวขึ้นอย่างลับๆ ในหนังเรื่องนี้ ซึ่งหุ่นตัวนั้นก็คือ Tetsujin 28 หรือหุ่นเหล็กหมายเลข 28 นั่นเอง ซึ่งหุ่นตัวนี้เชื่อว่าถ้าใครอายุเกิน 30 แล้วละก็… น่าจะเคยชื่นชอบกันมาบ้าง และด้วยเหตุผลนี้แหล่ะ มันเลยทำให้เพิ่มโปรแกรม เพราะอยากจะไปถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นยักษ์ของหุ่นเหล็กหมายเลข 28 ขึ้นมาทันที!!!!!
ซึ่งแฟนผมก็น่าร๊าก ตามใจผมซะด้วย 555555 ถ้างั้นเราตามมาพบกับ “เนื้ออร่อย ขนมเลิศรส วัฒนธรรมผสมผสาน และหุ่นยักษ์หมายเลข 28” ที่ Kobe เมืองท่าแห่งคันไซนี้กันครับ
เช้าวันที่ 4 พวกเราตื่นกันแต่เช้า (เช่นเคย) เพื่อเดินทางด้วยรถไฟ JR จากเมือง Himeji ไปลงที่สถานี Sanomiya ที่ Kobe ครับ การเดินทางจากสถานี JR Himeji ไปยัง JR Sanomiya นั้นใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ครับ ซึ่งตั๋วที่เราจองนั้นเค้าจะระบุโบกี้ และระบุรอบเอาไว้ครับ
วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ ผู้คนจึงขวักไขว่พอสมควร
หมายเหตุ : กรณีที่เราซื้อ JR Pass ล่วงหน้าไปจากเมืองไทย เราสามารถ activate บัตร JR Pass ของเราได้ทันทีเมื่อมาถึงสนามบินครับ แต่เนื่องจากผมกับแฟนบินมาไฟลท์ดึก (เคาน์เตอร์ปิดแล้ว) จึงต้องไป activate บัตรกันที่สถานี JR ใหญ่ๆ แทนครับ อย่างที่สถานี JR Sanomiya นี้เป็นต้น (ที่สถานี JR Himeji ไม่สามารถ activate ตั๋วได้ครับ เพราะไม่มีเคาน์เตอร์)
หลังจากใช้เวลางีบไปชั่วอึดใจ เราก็มาถึงสถานี JR Sanomiya กันแล้ว!!!
Activate ตั๋วแล้วคร๊า พร้อมใช้งาน
พอ activate JR Pass กันแล้ว เราก็นั่งรถไฟต่อไปสถานี Shinagata เพื่อตะลุย Mission แรกของวันนี้คือไปดูรูปปั้นหุ่นเหล็กหมายเลข 28 ด้วยตาตัวเองสักครั้ง ซึ่งการเดินทางไปยังรูปปั้นนั้นแสนง่ายครับ เมื่อขึ้นจากชานชาลา ให้เราเดินไปออกทางด้านที่เขียนว่า Subway Kaigan Line (ตามภาพครับ) เมื่อออกไปแล้วก็เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไปสัก 800 เมตรก็ถึงแล้วครับ
เดินออกด้านซ้ายมือนี้
แผนที่ใหญ่มาก ไม่หลงแน่นอน
ระหว่างทางจะมีป้ายบอกตลอดครับ
แล้วในที่สุด… พวกเราก็ได้เจอกับเจ้า Tetsujin 28 แล้ววววว !!!! ดีใจมากๆ เลยยยยย ^_^
หุ่นจำลองของ Tetsujin 28 หรือหุ่นเหล็กหมายเลข 28 นั้น ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ Kobe Tetsujin Project เพื่อสร้างสัญลักษณ์ประจำเมือง Kobe หุ่นจำลองมีความสูง 18 เมตร ทำจากเหล็กหนักถึง 50 ตัน และใช้งบประมาณสูงถึง 135 ล้านเยน โดยหุ่นจำลองนี้ตั้งอยู่ในสวน Wakamatsu โดยมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในวันที่ 4 ตุลาคม 2009 ครับ
เหตุที่มีการสร้างหุ่นตัวนี้ไว้ที่เมือง Kobe ก็เพราะเป็นบ้านเกิดของ Mitsuteru Yokoyama นักเขียนการ์ตูนผู้ให้กำเนิดหุ่นเหล็กตัวนี้นั่นเอง
ถ่ายรูปจนจุใจแล้ว ก็ถือโอกาสเดินเล่นย่านการค้าที่อยู่ใกล้ๆ กันครับ
มีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านปาจิงโกะ ฯลฯ คึกคักพอสมควรเลยครับ
ปลาสดใหม่เลย ราคาก็ไม่แพง
ยากิโซบะร้านนี้อร่อยครับ ต้องลอง
คุณแฟนกำลังปลื้มปริ่มกับโอโคโนมิยากิ
เสร็จภารกิจแรกแล้ว ก็ได้เวลาอาหารครับ มาเมือง Kobe มันก็ต้องไปทานเนื้อโกเบครับ ซึ่งที่นี่จะมีร้านอาหารหลายร้านมากๆ ที่นำเนื้อชั้นดีของ Kobe มาปรุงอาหาร แต่เมนูที่นิยมสุดก็คงไม่พ้นสเต็กสไตล์ญี่ปุ่นนี่ล่ะ (ทริปนี้กินตลอดๆ)
หลังจากดูรีวิว (และดูราคา) ของแต่ละร้านแล้ว เราก็ได้คำตอบว่า… ด้วยงบจำกัด เราจะไปลิ้มชิมรสที่ร้าน Steak Land ครับ เพราะทั้งราคา รสชาติ และชื่อเสียง ลงตัวมากกกก 55555
สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใน Kobe นั้นจะอยู่ใกล้กับสถานี JR Sanomiya นะครับ รวมถึงร้าน Steak Land ด้วย ว่าแล้วก็เดินทางกลับไปยังสถานี JR Sanomiya กันครับ
พอสายๆ แล้ว ผู้คนก็บางตาลง ไม่แน่นเหมือนตอนเช้า
หนาวจนไม่ต้องบรรยายกันละนะ
เมื่อมาถึงสถานี JR Sanomiya แล้วให้เดินไปออกทาง West Exit นะครับ ในโซนนี้จะมีร้าน Steak Land อยู่ถึง 3 สาขาครับ ใครสะดวกบริเวณไหน ก็ตามอัธยาศัยเลยนะครับ ผมแป่ะแผนที่ไว้ให้แล้วครับ
ที่ตั้งของทั้ง 3 สาขา บริเวณสถานี Sanomiya ครับ
ตามหมวยมาทางนี้ค่าา
เห็นป้ายร้านแล้ว เลี้ยวขวาเข้าไปเลย
ถึงร้านแล้วจ้า สาขานี้ร้านจะอยู่ชั้น 2 นะครับ
เมื่อเข้ามาในร้านแล้วพนักงานจะพาเราไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ครับ ซึ่งตรงกลางบาร์จะมีกระทะเทปันฯ ขนาดใหญ่ เมื่อพนักงานรับออร์เดอร์แล้ว สักพักจะมีพ่อครัวนำเนื้อที่เราเลือก มาปรุงตามความต้องการของเราครับ (สำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อ ก็จะมีเป็นเมนูอาหารทะเลให้นะครับ อร่อยมากเหมือนกัน)
บรรยากาศในร้านครับ
เมนูของทางร้านครับ ราคาไม่แรงมาก
กระเทียมทอดในตำนานที่เล่าลือกันว่าอร่อยมาก
หลังจากนำเนื้อมาพรีเซนต์แล้ว พ่อครัวก็จะเริ่มย่างเนื้อตามระดับความสุกที่เราต้องการครับ
มี Seafood Set สำหรับคนไม่ทานเนื้อครับ
ประสบการณ์หลังลิ้มรสเนื้อ Kobe จากร้าน Steak Land
เนื้อสดอร่อยครับ ผมสั่งเป็น Medium เนื้อจึงยังคงความหวานและนุ่มลิ้นอยู่ เมื่อทานกับกระเทียมทอดแล้วยิ่งฟินเลยล่ะ ส่วนเมนู Steak Seafood ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ ผมเชิญชวนทุกคนมาลองกันได้เลย ณ จุดนี้ 55555
บอกได้เลยว่าอร่อยมาก และต้องไปลอง
เมื่อเติมกระเพาะให้อิ่มกันจนพุงนำนมแล้ว ก็ได้เวลาย่อยอาหารครับ เราจะไปเดินเล่นถนน Kitano กันครับ ถนนนี้ได้ชื่อว่าเป็น Western Street แห่งภูมิภาคคันไซเลยล่ะครับ
สไตล์นี้ Japan Only
Kitano (คิตาโนะ) เป็นย่านบ้านพักชาวต่างชาติที่มีอยู่ตั้งแต่ครึ่งหลังของช่วงศตวรรษที่ 19 เนื่องจาก Kobe เป็นเมืองท่าที่เปิดรับการค้าขายทางเรือกับต่างชาติ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันบ้านสไตล์ตะวันตกในบริเวณย่าน Kitano ก็ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม
หมดแรงเดิน 5555
พื้นที่ย่าน Kitano กินบริเวณกว้างอยู่ตีนเขาของเทือกเขาร็อคโค มีบ้านสไตล์ตะวันตกจำนวนมากทั้ง England House, French House, American Teddy Bear Museum, Wein Austrain House และอื่นๆ อีกมากมาย
Kitano เดินขึ้นเนินไปหน่อยนึงน๊า ออกกำลังกาย