หลังจากเคยซึมซับกับ  “The Fault in Our Stars”  ไปแล้ว มาคราวได้เวลาของ “Paper Towns” กันบ้าง หนังจากผลงานการเขียนของ John Green ผลงานของผู้กำกับ Jake Schreier เมื่อเขาพาผู้ชมไปพบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เลือกจะขับรถออกไปด้วยกันเพื่อตามหาสาวน้อยมาร์โก้ที่หายตัวไป

เควนติน เด็กหนุ่มผู้มีความรักฝังใจมาตั้งแต่ครั้งยังหนุ่มน้อย เมื่อเขาได้พบว่าตัวเองได้มาอยู่บ้านตรงกันข้ามกับมาร์โก้ และเฝ้าคิดว่านั่นคือมันคือปาฏิหาริย์สำหรับตน แต่แล้วความห่างเหินก็มีมากขึ้นทุกที จวบจนวันหนึ่งที่มาร์โก้เข้ามาชักชวนให้เขาออกไปกับเธอ และทำในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดทำมาก่อน เธอเปิดใจให้เขาได้ลิ้มรสชาติของการผจญภัย และเขาก็เริ่มจะติดใจเสียแล้ว

แต่วันต่อมาเธอกลับหายไป

ปฏิบัติการตามหาคนที่เขาเชื่อมาตลอดว่า เธอคือปาฏิหาริย์สำหรับเขา ที่เดินทางไปพร้อมกับเพื่อนๆ จึงเกิดขึ้น


หนังมันเหมือนจะพูดถึงเรื่องราวทางความรักและโรแมนติกระหว่างหนุ่มสาว แต่ไปๆ มาๆ เราพบว่า มันไม่ใช่เลยครับ หนังมันมีส่วนผสมของหนังหลายๆ แบบที่เข้ามารวมอยู่ด้วยกัน ทั้งความเป็นหนังวัยรุ่น หนังดราม่าโรแมนติกคอมิดี้ มีการขับรถออกไปด้วยกันกับกลุ่มเพื่อน นี่มันหนัง Road Movie นี่หว่า แถมมันยังเป็นหนังที่มีเรื่องการตามสืบหาจากเบาะแสและเงื่อนงำ นี่มัน Mystery ชัดๆ ลงท้าย เหมือนตัวเอกจะได้แง่คิดอะไรที่เปลี่ยนมุมมองไปจากต้นเรื่อง

นี่ก็ลักษณะของหนัง Coming-of-Age อย่างแน่นอน

เพื่อนทั้งหมดต่างผจญภัยไปพร้อมๆ กัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย ซึ่งอาจเป็นประสบการณ์ที่คุณต้องจดจำมันไปชั่วชีวิต นักแสดงวัยรุ่นทั้งกลุ่มถือว่าทำได้ดีเกินคาด ใครๆ เขาบอกว่าชอบนางเอกกันอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ผมกลับพบว่าเลซีย์เธอคือคนที่เซ็กซี่ที่สุด มีเสน่ห์ น่ามอง ตรึงสายตาเราเอาไว้ตลอดเวลาที่เธอปรากฏบนเฟรม

ขณะที่เราอาจไม่ประทับใจมากนักกับบทบาทการแสดงของ Cara Delevingne จึงทำให้มีอึ้งๆ ในบางช่วงเวลา ปิดท้ายหนังด้วยฟีลที่ทำให้เราหวนคิดถึงวันคืนเก่าของผองเพื่อน

Paper Towns | http://bit.ly/1i0ycsI