หลังจากที่ได้ชม Avengers: Infinity War ไปไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็คิดว่าจะหาหนังอะไรเบาๆ มาดูซะหน่อย (ปกติหนังฮีโร่จะไปดู 2 รอบขึ้นไป แต่เรื่องนี้ไม่อยากดูอีก กลัวจะช็อคตายคาโรง55) และหนังที่หยิบมาดูจากตู้ก็เป็นหนังโรแมนติกฟอร์มเล็ก ดูง่าย และผมดูบ่อยมากเรื่องนึง นั่นก็คือ
"เมืองกระดาษ" นั่นเอง...
หนังเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือที่ชื่อว่า "Paper Towns" ที่เขียนโดย John Green และตัวกรีนนั้นยังเขียน The Fault in Our Stars ด้วย และได้หยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2014 แล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และคราวนี้ Jake Schreier ที่เคยกำกับ Frank & Robot
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งผมชอบมาก ก็ได้มากำกับเรื่องนี้
เควนติน เด็กชายวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งที่ตกหลุมมาร์โก สาวฮ็อตข้างบ้านของเขา ในคืนหนึ่งขณะที่คิวนอนอยู่ มาร์โกก็มาขอให้คิวช่วยแก้แค้นเพื่อนๆ ของเขา จนวันต่อมาเธอหายตัวไป คิวและเพื่อนๆ จึงพยายามสืบหาความจริงว่ามาร์โกอยู่ที่ไหนกันแน่
บทที่น่าสนใจ แต่ดำเนินเรื่องธรรมดา
ต้องขอยอมรับว่าพล็อตของ Paper Towns นั้นน่าสนใจมากๆ ที่สามารถเอาสูตรหนังรักทั่วไปมาผสมกับ Coming of Age และ Mystery อย่างลงตัว และทำให้เราอินกับมิตรภาพของคิวและผองเพื่อนได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าการดำเนินเรื่องมันเหมือนหนังรักทั่วไป เดินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรที่ทำให้คนดูว้าวได้ ถึงแม้บางฉากค่อนข้างจะอิน แต่หนังกลับไม่มีอะไรเร้าใจคนดูเลยซักนิด
ถ่ายภาพดีมาก ตัดต่อโอเคเลย
ถึงแม้หนังจะไม่มีอะไรเร้าใจคนดูให้เคลิ้มตามความรักของคิวกับมาร์โกเลย แต่ด้วยการถ่ายภาพที่สามารถถ่ายทอดเมืองในชนบทได้สวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เรามองข้ามจุดด้อยของหนังไปเลย และการถ่ายทำโดยรวมถือว่าอยู่ในขั้น"ดี"พอสมควร อันนี้คิดว่าตัดต่อลื่นกว่า Frank & Robot อยู่นิดนึง (แต่ก็ชอบนะ) นี่ก็ทำให้เรามองเห็นว่าฝีมือของผกก. ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามหนังที่แกทำจริงๆ
นักแสดงเล่นได้สมบทบาท ตามที่ทุกคนได้รับ
ทีมนักแสดงในเรื่องนี้ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีมากๆ Nat Wolf เล่นเป็นเด็กเนิร์ดแอบรักสาวฮ็อตได้ดีมากๆ ส่วนเพื่อนๆ อีกสองคนก็สามารถสร้างสีสันให้หนังได้ไม่น้อยเลยแหละ และอีกคนที่ทำได้ดีก็คือ Halston Sage คนนี้ฮ็อตเวอรรรรรรรรรรรรรรรรรรร์ น่ารักเวอรรรรรรรรรรรรรรรรรร์ แต่คนที่ค่อนข้างผิดหวังก็คือ Cara Delevinge ที่ได้รับบทที่มีมิติน้อยที่สุดในเรื่อง แต่ในด้านการแสดงคิดว่าไม่เลวเลยนะสำหรับการแสดงหนังครั้งแรก เพียงแต่บทไม่ส่งเท่านั้นเอง
เพลงประกอบเพราะมาก โปรดักชั่นใช้ได้
และในส่วนที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของหนังเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ Soundtrack ทั้งหลายที่ใส่เข้ามา ทุกเพลงเข้ากับซีนนั้นๆ ได้ลงตัวมาก ส่วนทางด้านสถานที่และ Production Design ก็เป็นอีกส่วนที่ทำได้ดีรองลงมาจากเพลงประกอบ ดูแล้วก็อยากลองไปขับรถเที่ยวที่นั่นดูบ้าง
สรุป
ถึงแม้จะไม่ใช่หนังที่ Perfect แต่โดยรวมก็อยู่ในขั้น"ดี"เลยแหละ ใครที่อยู่บ้านและไม่มีอะไรทำ ลองหาเช่ามาดูได้ครับ แนะนำให้ดู
คะแนน : 8.5/10
อันนี้แถมรูปแซ่บๆ ของ Halston Sage
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*แก้ไขคำผิด
(รีวิวหนังแผ่น) Paper Towns | วันหนึ่งฉันเดินเข้า"เมืองกระดาษ"
หนังเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือที่ชื่อว่า "Paper Towns" ที่เขียนโดย John Green และตัวกรีนนั้นยังเขียน The Fault in Our Stars ด้วย และได้หยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2014 แล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และคราวนี้ Jake Schreier ที่เคยกำกับ Frank & Robot [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ก็ได้มากำกับเรื่องนี้
เควนติน เด็กชายวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งที่ตกหลุมมาร์โก สาวฮ็อตข้างบ้านของเขา ในคืนหนึ่งขณะที่คิวนอนอยู่ มาร์โกก็มาขอให้คิวช่วยแก้แค้นเพื่อนๆ ของเขา จนวันต่อมาเธอหายตัวไป คิวและเพื่อนๆ จึงพยายามสืบหาความจริงว่ามาร์โกอยู่ที่ไหนกันแน่
บทที่น่าสนใจ แต่ดำเนินเรื่องธรรมดา
ต้องขอยอมรับว่าพล็อตของ Paper Towns นั้นน่าสนใจมากๆ ที่สามารถเอาสูตรหนังรักทั่วไปมาผสมกับ Coming of Age และ Mystery อย่างลงตัว และทำให้เราอินกับมิตรภาพของคิวและผองเพื่อนได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าการดำเนินเรื่องมันเหมือนหนังรักทั่วไป เดินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรที่ทำให้คนดูว้าวได้ ถึงแม้บางฉากค่อนข้างจะอิน แต่หนังกลับไม่มีอะไรเร้าใจคนดูเลยซักนิด
ถ่ายภาพดีมาก ตัดต่อโอเคเลย
ถึงแม้หนังจะไม่มีอะไรเร้าใจคนดูให้เคลิ้มตามความรักของคิวกับมาร์โกเลย แต่ด้วยการถ่ายภาพที่สามารถถ่ายทอดเมืองในชนบทได้สวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เรามองข้ามจุดด้อยของหนังไปเลย และการถ่ายทำโดยรวมถือว่าอยู่ในขั้น"ดี"พอสมควร อันนี้คิดว่าตัดต่อลื่นกว่า Frank & Robot อยู่นิดนึง (แต่ก็ชอบนะ) นี่ก็ทำให้เรามองเห็นว่าฝีมือของผกก. ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามหนังที่แกทำจริงๆ
นักแสดงเล่นได้สมบทบาท ตามที่ทุกคนได้รับ
ทีมนักแสดงในเรื่องนี้ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีมากๆ Nat Wolf เล่นเป็นเด็กเนิร์ดแอบรักสาวฮ็อตได้ดีมากๆ ส่วนเพื่อนๆ อีกสองคนก็สามารถสร้างสีสันให้หนังได้ไม่น้อยเลยแหละ และอีกคนที่ทำได้ดีก็คือ Halston Sage คนนี้ฮ็อตเวอรรรรรรรรรรรรรรรรรรร์ น่ารักเวอรรรรรรรรรรรรรรรรรร์ แต่คนที่ค่อนข้างผิดหวังก็คือ Cara Delevinge ที่ได้รับบทที่มีมิติน้อยที่สุดในเรื่อง แต่ในด้านการแสดงคิดว่าไม่เลวเลยนะสำหรับการแสดงหนังครั้งแรก เพียงแต่บทไม่ส่งเท่านั้นเอง
เพลงประกอบเพราะมาก โปรดักชั่นใช้ได้
และในส่วนที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของหนังเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ Soundtrack ทั้งหลายที่ใส่เข้ามา ทุกเพลงเข้ากับซีนนั้นๆ ได้ลงตัวมาก ส่วนทางด้านสถานที่และ Production Design ก็เป็นอีกส่วนที่ทำได้ดีรองลงมาจากเพลงประกอบ ดูแล้วก็อยากลองไปขับรถเที่ยวที่นั่นดูบ้าง
สรุป
ถึงแม้จะไม่ใช่หนังที่ Perfect แต่โดยรวมก็อยู่ในขั้น"ดี"เลยแหละ ใครที่อยู่บ้านและไม่มีอะไรทำ ลองหาเช่ามาดูได้ครับ แนะนำให้ดู
คะแนน : 8.5/10
อันนี้แถมรูปแซ่บๆ ของ Halston Sage
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*แก้ไขคำผิด