เอาเงินช่วยพ่อแม่ สามีโกรธ

เกริ่นก่อนนะคะ...เราแต่งงานมา5ปีมีลูกนึง   สามีไม่เคยให้เงินใช้เลยตั้งแต่คลอดลูก  
สามีบอกขอเอาไปผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น .เราก็ไม่ว่าอะไรช่วยๆกัน

          เราพอมีรายได้จากการที่พ่อแม่เราที่ดินให้ทำนา   เราจ้างคนทำและมีพ่อแม่ช่วยดูแล
.เนื่องจากเราอยู่อีกจังหวัด    สามีไม่ค่อยให้กลับบ้าน    ทำมา5ปีก็มีได้มาก เท่าทุนหรือกำไรนิดหน่อย
ก็เลยไม่เคยขอสามี      เพราะสามีก็ไม่ได้ให้เราก็ไม่ขอ...ทั้งๆที่ก่อนแต่งเขาบอกเอง
ว่าเลี้ยงได้ไม่ต้องทำงาน      แต่เอาเข้าจริงให้ใช้อาทิตย์ละพัน...แถมต้องทำบัญชีให้ดู
         
              เราก็ยังเฉยๆ   ช่วงทำนาดีเราพอมีเงินเก็บบ้าง    ตั้งแต่ปฎิวัติมาเจอ
ปัญหาเรื่องราคา   ปัญหาอากาศทำให้ผลผลิตไม่ดี    กำไรแทบไม่มี...พอครั้งล่าสุด
ขาดทุนไปอีก...พอเงินเริ่มไม่พอลงทุน     ที่บ้านพ่อแม่ก็ประสบปัญหาลงทุนให้ไม่ไหวเราก็เลยเอาเงินที่เขาฝากประกัน
ที่เผื่อเราเป็นอะไร     มาลงทุนก่อนแต่เราไม่บอกเขาก่อน   
อันนี้ทราบว่าผิดเต็มๆ .แต่สามีเราพูดด้วยยาก   
  ชื่อบัญชีนี้เป็นของเรา....เขาฝากให้จากเงินพิเศ ษที่ได้มาก็ลงทุนทำใหม่ได้สัก2เดือนกว่าใกล้จะเกี่ยวแล้ว   

          แต่บังเอิญทะเลาะกับสามีก่อน .  เรื่องเราไม่ยอมกดเงินให้เขายืมก่อนก็เขาไม่บอก
เทนั้นแหล่ะ   พาลหาว่าเรางกกะเขา   แค่นี้เดินไปกดให้ไม่ได้แล้วทำไมไม่มีเงินในกระ
เลยหรือไง...ก็เราไม่ได้ออกจากบ้าน2วันเงินก็กะจะเบิกตอนวันจันทร์จะให้กดก็บอกสิ
เท่านั้นแหล่ะ.  โกรธพาล   พอดีเขาพาเรากะลูกมาเดินห้างในกรุงเทพเขาจะมาเปลี่ยนทอง
ใส่คอ ของสามี  แล้วกดเงินครั้งแรกมาไม่พอขาดไปพันเดียว  พอไปกดเงินที่ขาดครั้งทค่สองมาถึงโยน
เงินให้แล้วเดินออกจากร้านทองไปเลย  เราต้องรอทองกับพระ  เสต็จเก็บของเดินตามหาสามีอีก
   
           ขึ้นรถได้ด่าไม่หยุด .ว่าเราให้เขาเดินไปกด2ครั้ง    เขาบอกรู้ไหมเดินไกลแค่ไหน
พาลไปทุกเรื่องด่าจนเราทนไม่ไหวบอกอะลงจากรถ
ก็ไล่เราลง    พอเราจะอุ้มลูกไปด้วยมาแย่งลูกกันในรถเท่านั้นแหล่ะลูกตกใจเพราะเขาเสียงดัง
บอกอย่ามาเอาลูกไป   ลูกก็ร้องหาเรา  มันก็ไม่ยอมกอดลูกไปด่าเราไปลูกก็ดิ้นทุรนทุรายจะหาแม่
วันๆเราเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด  เขางานเยอะกลับเย็น .บางวันต้องไปงานเลี้ยงอีก คร่าวนี้พาลยาวยึดบตรเครดิตคืนบอกไปเอาเงินในบัญชีที่ให้จะเอาคืน
            
              เราก็ยังไม่บอกว่าเราเอาเงินมาทำนา เรารู้สึกอะไรของเขาแค่ไม่กดเงินให้คือไม่รู้จริงๆ
ว่าจะให้ไปกดเรานั่นเฝ้าทองกะพระให้ที่ร้านทองดูลูกอีกที่สำคัญเงินเดือนเขา
เดือนเป็นแสนมีเงินเก็บมากกว่าเราอีกแต่เขาไม่ชอบเสียค่าธรรมเนียมกดเงิน
ต่างพื้นที่  พอเท่านั้นแหล่ะรู้ว่าเงินไม่เหลือเท่าเดิมด่าว่าเราเอาไปให้ใครเราก็อธิบายว่าเอาไปช่วยที่บ้าน
ลงทุนทำนาก่อนงวดที่ผ่านมามันทำไม่ได้     เขาไม่เชื่อทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ
เราก็บอกว่าไม่ทำเราจะเอาเงินไหนใช้       พี่ไม่เคยให้เงินเลยตั้งแต่คลอดลูกเขาบอก
ไม่มีก็ไม่ต้องกินดิ       อ้าวแล้วที่ซื้อกับข้าวทุกวันก็เงินที่ทำนาได้ทั้งนั้นแหล่ะ
มันมีได้     มันก็มีไม่ได้บ้าง    เดี๋ยวได้ก็ทยอยมาคืนให้ก็รู้อยู่เอาไปเท่าไหร่คืนให้
ตลอดนะ.   .ครั้งนี้ผิดที่ยอมรับที่ไม่บอกก่อน     แต่พี่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน  
แล้วหนูเดือดร้อนก็เอาไปก่อน     อีกอย่างหนูก็ไม่เคยไม่คืนถ้าบอกพี่พี่จะช่วยไหมอีกอย่างพี่
แถบไม่เคยถามว่าเรามีเงินไหม    ทุกวันเราต้องใช้ให้พอกว่าจะเกี่ยวแต่ละเที่ยว
ได้4เดือนกว่าจะได้เงินอีกที   

           ไม่เชื่อเราโทรหาแม่เราอีก .   เราบอกแล้วนะอย่าโทร
ไม่เขาไม่ฟัง .   โทรอารวาดกะพ่อแม่เราอีก  แม่เราก็ตกใจเพราะมท่านไม่รู้เลยว่าเงินที่โอนไปนี่คือเงินจากตรงไหน
  ปกติเขาก็ไม่ค่อยให้เกรียติพ่อแม่เราเท่าไหร่
     
   แต่งงานมา     เงินแต่งพ่อแม่เราไม่เอาสักบาทยังให้ที่เราทำกินพอเขาเดือดร้อน
เราไปช่วยผิดมากใช่ไหม

       ตอนเราคลอดลูกพ่อแม่เราก็มาช่วยเลี้ยง1ปีเต็มซื้อของใช้ต่างๆ
ให้หลานตลอด  แม่เราก็ตกใจเพราะเขาไม่เคยรู้ว่าเงินที่เราโอนให้มาทำนาคืนเงิน
ที่สามีเราฝากให้ในชื่อเรา  เราบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูรับเองยายเพราะเราเขียนสัญญาเงิน
กู้ให้สามีไว้เป็นหลักฐาน

        ที่เจ็บปวดที่สุดคือเขาตวาดเสียงดัง...ลูกตกใจ...ลูกร้องไห้ตลอด
พอลูกร้องมาหาแม่    บอกหามันทำไมแม่เลวๆอย่างนี้    พอเราทำไม่สนใจนิ่งเพื่อให้
ลูกเงียบได้   

         สามีก็ไม่หยุดขุดมาด่าต่อเอาจนลูกผวาทั้งคืน
  พอหลับได้หน่อย      เขาตื่นมาเข้าห้องน้ำเอาอีกเสียงดัง
ให้ลูกร้อง     ลูกเพิ่ง2ขวบเอง   โกรธแม่มันเอาจนลูกร้องไห้
ไม่หยุด   เช้ามาก็ไม่เลิก    จนแปดโมงไปทำงานบ้านถึงเงียบ
ลูกเราร้องไห้ตลอดเจ็บสุด  

           เช้าวันนั้นพ่อแม่เราขับรถข้ามจังหวัด    เพื่อยืนยันว่าเราเอาให้เขาจริงไม่ได้ไปไหนแต่แม่ไม่รู้ว่าเงินสามีถ้ารู้พ่อแม่เราบอกเขา
ก็ไม่เอาทำครอบครัวลูกมีปัญหา   เดี๋ยวพ่อแม่เราหาเงินมาคืนให้แต่เขาไม่หยุด
บอกเราว่าที่หลัง   ไม่ต้องให้พ่อแม่เรามาอีกนะเราก็ฟังไม่เถียงด่ากราดพ่อแม่
ด่าเรื่องในครอบครัวเราอีก  

       เราก็เงียบเพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาด่าไปถึงพ่อแม่
เรา  เราเจ็บนะทำไม่เราเลือกผู้ชายได้แย่ขนาดนี้

      เงินทองพ่อแม่เราก็ไม่เอาสักบาทตอนลูกแต่งงาน
ให้ลูกให้ลูกเขย    ทองก็ไม่เอา   เงินซองแต่งงานก็ไม่เอา
คือเขาไม่เอาอะไรเลยแต่พอเขาเดือดร้อน
ทำไมช่วยเขาไม่ได้  ลูกก็ให้เขามาช่วยเลี้ยง
มีแต่บ้านพ่อแม่เราเท่านั้นที่คอยมาช่วยตลอด  
เราทนไม่ไหวพอเขาไปทำงานเราให้พ่อแม่มารับ
   
       จริงๆพ่อแม่เราจะมาช่วยพูดเรื่องเงิน
ว่าเราโอนให้จริง  แต่ถ้าไม่สบายใจ  เดี๋ยวพ่อแม่เราเอาเงินมาคืนให้เลย
เราบอกไม่ต้องคุย   เราไม่อยากอยู่เจอเขาอีกตอนเย็น
ลูกร้องไห้ตลอด  . เราทนไม่ไหวแล้ว   

        ถ้าพ่อแม่เจอเขาแล้วเขาใส่พ่อแม่เราอีก    เราฟิวขาด
มันจะเรื่องใหญ่เราไม่ทนแน่ๆ   
      
       เราก็ไลน์บอกเขาว่าเราจะไม่อยู่สักพัก   เขาขู่บอกถ้าเอาลูกไป
จะได้เห็นดีกัน  เราคิดในใจจะเอาลูกมาขู่   
เป็นแม่ไหนจะทนทำกับลูกกลัวตัวสั่น  
เราไม่อยู่ให้สามีทำกับเราและลูกอีกแน่

       ลูกก้มหน้ากับที่นอนร้อง   เย็นกลับมาก็เสียงดังทำให้ลูกกลัวอีก  แล้ววันๆทำงาน
ไม่เคยจะมีเวลาให้ลูกกลับมาก็ไลน์คุยกะเพื่อน
เล่นกะลูกรวมวันสัก1ชม.ถึงหรือเปล่า  เราลูกเขารักลูกแต่ไม่เท่าแม่อย่างเราแน่

        ลูกป่วยไม่เคยช่วยเราตื่นมาดู    ตีหนึ่งตีสองลูกร้องก็ไม่ตื่นมาดูแต่บอกมีปัญญาเลี้ยงลูก
ลูกของเขา  เราก็ไม่สนเรากลับมาพร้อมพ่อแม่   อยากขู่เชิญ   

              ตอนเราไม่มีเงินใช้เราก็ได้เงินพ่อแม่เราให้ตลอดโดยไม่ต้องขอ .
ถ้าพ่อแม่เดือดร้อนทำไมเราจะช่วยไม่ได้ ที่สำคัญเราคืนตลอด  

           ยอมรับว่าผิดที่ไม่ได้บอก    แต่เพราะเขาเป็นคนที่เราพูดหรือปรึกษาอะไรไม่ได้เลยไม่เคยฟังเรา  มีแตงานเขาที่เลี้ยงดูเรา
ผู้หญิงเวลาไม่ทำงานดูเป็นคนไม่มีค่า   เป็นแค่แม่บ้านคอยรับใช้ดูแลเขาอย่างเดียว ถ้า
ไม่ให้เราทำงานแล้วจะให้เราเอาเงินไหนใช้   
ให้ไปทำงานประจำที่ไม่ทำกับพ่อแม่   
ก็ไม่ให้ทำกลัวเราเจอคนอื่น  
คือแล้วจะเอาไงเราลูก1แล้วใครจะมาสน    อ้วนขึ้นตั้งเยอะ
มีอีกทะเลาะเรื่องนี้  เช้าลามว่าทำไมเดี๋ยวนี้ลุกมาวิ่ง   
ใครทักอ้วนไม่สวยหรือไง  บ้าเปล่าพ่อสามีก็ทัก
ว่ารู้ตัวไหมว่าอ้วนขึ้นเยอะเราก็บอกทราบค่ะ  เพื่อนสามีก็ทัก  แล้วเขาก็เป็นคนซื้อเครื่องออกกำลังกาย
มาตั้งไว้เราก็แค่ลงไปวิ่ง  สั่งบอกไม่ต้องมาใช้เครื่องเขาอีก

          มีพาลถามล้อรถทำไมมันมีดินลูกรัง   ขับรถไปไหนมาถึงว่าชอบมีคนมาพูดกะเขาแปลกๆ  บ้าไปแล้ว  เราลูก1แล้วไปไหนก็ไปกะลูก
เพื่อนก็ไม่มีสักคน  วันๆไปซื้อกับข้าวก็กลับมาเล่นกับลูก  
เรื่องโทรศัพท์อีกหาว่าไลน์กะผู้ชาย  คือไม่ได้เรื่องโน้นก็ขอเรื่อง
นี้  

          บ้ากันใหญ่   สรุปเราทะเลาะเรื่องอะไรเรื่องเงินที่เอาไป
ไม่บอกอันนี้ยอมรับ    แต่ไอ้ที่ด่าลามมาเรื่องอื่นนี่รับไม่ได้   
ไม่เถียงเพราะยิ่งเถียงยิ่งอธิบาย .สามีก็จะยิ่งหาเรื่องมาเพิ่มเรื่องที่คิดเอาเอง

.         แต่รู้สึกเหมือนโดนดูถูกตลอดเวลา  อยู่กันจะสบปี
คิดได้แค่นี้นะ  

        เราเคยจับได้ว่าเขาแอบคุยกะสาวๆ   เรื่องอย่างว่า
จับได้โกรธเรากับลูก3วันไม่พูดกับเรากับลูก
เราก็ไม่พูดถึงไม่เคยเอาเรื่องเก่ามาพูดสักครั้ง  

        พอเราครั้งนี้เราเอาลูกมาสงบสติอารมณ์
ก็มาหาว่าเราพรากพ่อพรากลูกบ้าไปแล้ว
เรารู้หรอกว่าถ้ายังอยู่เขาต้องอาละวาทขุดเรื่องเก่าๆ
มาพูดตวัดเสียงดังให้ลูกกลัวร้องไห้  

         พอพูดก็บอกเพราะเราที่ต้องทำให้ลูกเป็นแบบนี้
นี่หรือความคิดคนอายุขนาดนี้   

   ไม่เถียงเหนื่อยเราผิดเรื่องไม่บอก   แต่เขาไม่คิดเลยว่า
ทำไมเมียถึงไม่เคยพูดปรึกษาอะไรเลย    เพราะเขาไม่เคย
ทำตัวให้เราอุ่นใจที่จะปรึกษาได้    เราต้องคิดแก้ปัญหาเอง
หาเงินเองเลี้ยงลูกเอง  
ครั้งนี้เรายอมเลยนะว่าคิดถึงขนาดอะไรจะเกิด
ก็เอานะไม่ไหว  

       ถ้าทุกคนทำหน้าที่มันก็น่าจะจบ   สามีทำหน้าที่ของเขา
ไม่ให้เราทำงานก็ต้องดูแลเราบ้าง  
นี่ไม่ให้ทำงานแต่ก็ไม่ให้งินใช้   ให้บัตรเครดิตใช้มันซื้อ
กับข้าวตลาดสดได้ไหม

        รูดเกิน3-4พันก็เช็คอีกใช้อะไร   นมลูกผ้าอ้อมลูกทั้งนั้น  
เรื่องแต่งตัวอีกด่าหาว่าเราเอาแต่งตัวบ้าเปล่า
         เราแทบไม่ซื้อเสื้อผ้า     ถ้าซื้อใส่ก็เสื้อผ้ามือสองตัวแพงสุดก็100 แต่ที่ใส่ก็ตัว30บาท
หรือที่เห็นมีเยอะก็มีซื้อมาเก็บเพื่อมาขายในเน็ตบ้าง
แต่นานได้ออร์เดอร์ยังไม่เยอะ

     ลูกกำลังซน  เราต้องคิดหาเงินตลอด  ทั้งๆที่เงินเดือนสามีนี่
6หลักต่อเดือนแต่ไม่กระเซ็น .สามีเก็บเงินเก่งดีเราชื่นชมเป็นข้อดี
แต่แบบนี้มากไปไหม

          นี่ยังไลน์ด่าเรากับครอบครัวพ่อแม่เราไม่เลิก  ที่เอาลูกมา เราไม่รับไม่คุยกะไลน์ด่าสาปแช่งพ่อแม่เรา
พี่น้องเรา เราก็อ่านไม่โต้ตอบ บอกสบายใจเราจะกลับเอง
         เขาก็บอกจะแก้แค้นเรากับพ่อแม่เราที่เอาลูกไป
ทำเขาไม่เห็นหน้าลูกเกิดรักลูกขึ้นมาเชียว
วันๆทำงานไปเช้ากลับค่ำเย็นมาไลน์กะเพื่อน
เล่นกะลูก
นิดเดียวบ้างวันก็ไม่เล่นแต่คราวนี้เกิดรักมันขึ้นมาเชียว  
   
        เจ้าคิดเจ้าแค้น  มีขู่ว่าอย่างมากสามีก็ไปพร้อมลูก
คือวันทะเลาะกับขับรถอยู่ลูกร้อง  สามีกอดลูกลูกก็ดิ้นกลัว
เราก็จะเอาลูกมาอุ้มเขาไม่ยอม   บอกไม่งั้นก็จะขับรถ
ให้ชนตายไปให้พร้อมกัน  มีขู่จะโยนลูกลงจากรถถ้าลูกไม่หยุดร้อง  คิดว่าเราควรเอาลูก
มาอยู่กะพ่อแม่เราไหม  

       นี่ก็ไลน์ขู่อีกว่าเอาลูกมาคืนไม่อยากเห็นเราอีก
จะเอาลูกเลี้ยงเอง .ทำงานไม่มีเวลาขนาดนั้นอ่ะ
แล้วลูกจะอยู่กะใคร  พอไม่พอใจก็จะเอาลูกไปฝาก
เนอร์เซอร์รี่คราวก่อนเอาไปลูกกลับมาป่วยก็ต้องหยุด
  คือทำอะไรไม่ได้ชอบเอาลูกมาขู่แบบนี้ตลอด

     คิดว่าคนเป็นแม่อย่างเราทนได้ไหม  ตอนนี้ด่าเราเป็น
ผู้หญิงอย่างว่า(ใช่คำที่แย่กว่านี้เยอะ)เทียบเรากะหมา
ที่เลี้ยงไว้  อีกเยอะ  คือ10ปีเราไม่เหลือความเป็นคนเลย
เงินแต่งงานเขาก็เอาไปใช้หนี้สหกรณ์
ที่เขากู้มาสมัยก่ตอนทำร้านร่วมกับเมียเก่าเขา    เ รายังไม่เคยพูดว่าสักคำ
ไม่ถามด้วย  ถือว่าก็ช่วยกันให้
ครอบครัวเราสบาย  

            ตอนเราเดือดร้อนทำไม่คิด    คิดแต่เรื่องต่ำๆใต้สะดือหาว่าเราเอาเงินให้อย่างอื่น
ทั้งที่แม่เราก็ยืนยัน    แม่เราพูดไปร้องไห้ไปลูกเขยไม่ฟัง
วางโทรศัพท์ใส่คนที่เลี้ยงเรามาทั้งชีวิต  เราเห็นเขาทำเราก็นิ่ง
กล้าทำคนที่เรารักที่สุดสองคนได้เก็บไม่พูด  เรานิ่งคิดว่าต่อไปจากนี้เรา
ต้องหาเงินเองให้ได้มากๆ
คงรอเงินนาอย่างเดียวไม่ได้  เราต้องยืนด้วยขาของตัวเองหายใจด้วยจมูกของเราเอง  เหนื่อยกับเรื่องแบบนี้
ครอบครัวไม่ช่วยกันแล้วจะมีครอบครัวทำไม  พ่อแม่เราไงก็พ่อแม่เรา ผิดมากขนาดต้องโดนขนาดนี้เลยหรือ  เรายอมรับ
เรื่องผิดที่ไม่บอกแต่ต้องโดนประมาณด่าเป็นผู้หญิงหากินด่าพ่อแม่ ต้องทำกับลูก2ขวบขนาดนั้นเลยใช่ไหม
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ต้องแยกก่อนครับ คุณเอา 2 ปัญหามาปนกันจนยุ่งไปหมด

ปัญหาแรก-สามีไม่เคยดูแลการเงิน คุณต้องหาเงินเอง
อันนี้ถือว่าสามีบกพร่องในหน้าที่สามีครับ
คุณจะจัดการสามียังไงก็สุดแท้แต่คุณ
แต่ถ้าเป็นผม อยู่กับใครแล้วโคตรลำบากผมก็ไม่อยู่ครับ
เอาแต่บ่นแต่ก็ทนอยู่ เพื่ออะไรครับ?

ปัญหา 2-สามีเอาเงินมาฝากคุณ คุณเอาเงินนั้นไปช่วยพ่อแม่
เพราะนี่ไม่ใช่เงินคุณ คุณจึงไม่มีข้ออ้างว่าสามีเอามาฝากเพราะนู่นนี่นั่นครับ
ข้อนี้คุณผิดเต็มๆ

สรุป ไม่มีใครผิดแต่เพียงฝ่ายเดียว
คุณสองคนเป็นสามีและภรรยาที่บกพร่องในหน้าที่ที่พึงมีต่อกันทั้งคู่ครับ
ความคิดเห็นที่ 2
ยาวเกิ๊นนน อ่านไม่หมด

เรื่องในครอบครัวมันแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เรารับฟังฝ่ายหญิงเราก็จะได้รู้เรื่องราวของฝ่ายหญิง เรารับฟังฝ่ายชายเราก็จะได้รับรู้เรื่องราวของฝ่ายชาย

สั้นๆเลยละกัน โตๆกันแล้ว ลูกก็มีแล้ว ถ้าคิดว่าเหนื่อยกับสามีแบบนี้ มันก็ต้องเลิกกันอย่างเดียวอ่ะครับ ถ้าทำใจได้ก็เลิกโลดแล้วจะสบายใจขึ้น

ใครผิดใครถูกไม่รู้อ่ะครับ แต่ถ้าเป็นผม อยู่ด้วยกันแล้วมันมีแต่ความอึดอัด เหนื่อยล้า ก็อย่าไปทนอยู่มันเลย ไม่ต้องกลัวเด็กจะมีปมด้อย เลี้ยงเค้าให้ดีมันชดเชยได้
ความคิดเห็นที่ 38
ขออนุญาตมาเห็นต่างกับความเห็นอื่นครับ

ก่อนอื่นบอกเลย ผมชื่นชมความอดทนและความเป็นภรรยาและแม่ของจขกท.มากๆ ครับ คุณทำหน้าที่ได้ดีมากแล้วครับ ยิ้ม
ผมอ่านทั้งหมดแล้วนะครับ ทั้งในกระทู้ที่อ่านยากแต่ก็พยามจนจบ และในความเห็นที่จขกท.มาเขียนเพิ่มเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น เนื่องจากนี่เป็นปัญหาใหญ่ในมุมมองชีวิตของจขกท. ผมไม่สามารถมานั่งอ่านสุ่มสี่สุ่มห้าและทำแค่จับใจความมาตอบเหมือนความเห็นอื่นๆ ได้ครับ

อย่างแรก ผมอ่านแล้วพอจะเข้าใจนิสัยผู้ชายคนนี้กลายๆ แล้วนะครับ ดังนั้นในความเห็นต่างๆ ที่บอกให้ลองกลับไปคุยไปตกลงดู ผมเห็นว่าจะทำได้ยาก เพราะถ้าเริ่มคุยเริ่มปรึกษาเริ่มทำข้อตกลงขึ้นมา เขาอาจนำมาเป็นประเด็นว่าเราเริ่มหืออือกับเขาอีก เพราะลักษณะแล้วเราพูดหรือแสดงความเห็นไม่ได้เลย เขาต้องควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมือให้ได้ ดังนั้นคนแบบนี้พุดคุยและทำความเข้าใจด้วยยากมากๆ ครับ ผมเองก็ไม่เห็นทางในการพูดคุยด้วยเลย บอกว่าเอาคนกลางมาคุย จะเอาคนกลางที่ไหนมาคุยล่ะครับ พ่อสามี สามียังไม่ฟัง ผู้ใหญ่ที่นับถือ ถ้าคุณรู้จักส่วนตัวก็น่าเชิญมาครับ แต่จากรูปแบบการใช้ชีวิต และคำกล่าวว่าไม่มีเพื่อน ผมคาดว่าจขกท.คงไม่ได้พบปะผู้คนอื่นที่รู้จักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงอาจหาไม่ได้ในส่วนนี้ แต่ถ้าหาได้ก็เอามาช่วยคุยเถอะครับ แต่ถ้าไม่มี ผมเองก็ไม่เห็นทางแก้ปัญหาสำหรับการให้ไป 'คุย' เลบครับ เพราะเขาไม่ฟังอะไรแน่ๆ พาลจะขุดเรื่องครั้งนี้มาด่าด้วยว่าเป็นเหตุให้เรามาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเงิน

สองนะครับ ตอนนี้เห็นใจเด็กมากๆ ผมไม่คิดว่าคนที่เอาลูกมาขู่หรือเป็นตัวต่อรอง จะเป็นคนที่รักลูกหวงแหนลูกได้ขนาดนั้น โดยเฉพาะถ้าเวลาปกติไม่เคยจะมาสนใจใยดีเล่นกับลูกไม่ถึงชั่วโมงต่อวัน อยู่ดีๆ จะมาแสดงอาการรักลูกมันก็ไม่ใช่ จะอ้างทำงานไม่มีเวลาก็ไม่ใช่ เพราะปกติประเพณีคุณไม่เคยแสดงออกกับลูก คุณหาเวลาว่างได้แน่นอน เสาร์-อาทิตย์ก็มี แต่คุณไม่ทำ ดังนั้นเป็นผมผมคงไม่คิดจะให่ลูกอยู่กับคนที่ขู่คิดจะทิ้งลูกลงจากรถหน้าตาเฉย หรือขับรถเร็วโดยไม่ระวังเพื่อขู่ให้กลัว เพราะมันอาจทำให้เรากับลูกตายได้จริงๆ หรอกครับ คนๆ นี้น่ากลัวในด้านอารมณ์เพราะคิดว่าเป็นนายเหนือทุกคน

สาม การไม่ให้เกียรติพ่อแม่เราเป็นอะไรที่รับไม่ได้ครับ ผมเข้าใจจขกท.นะ ทุกคนรักพ่อแม่เราทุกคนแหละ ผมเองก็ยอมไม่ได้ใครมาลามปามด่าทอหรือไม่ให้เกียรติพ่อแม่เรา ก็เหมือนไม่ให้เกียรติเรา ผมจะไม่ทนกับคนแบบนี้ครับ

สี่ เรื่องนำเงินไปใช้ก่อน จขกท.ไม่บอกกล่าวก่อนถือว่าผิดก็จริง แต่ในฐานะสามีภรรยา มันควรเป็นเงินร่วม ไม่ใช่แต่งงานกันเพื่อแยกกระเป๋ากัน เงินใครเงินมัน สามีภรรยาควรมีทั้งชีวิตและทรัพย์สินร่วมกันไม่ว่าจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย ผิดที่ไม่บอกกล่าวปรึกษาก่อน แต่คุณมีเหตุผลในการกระทำ เมื่อบอกกล่าวเขาควรจะเข้าใจ และไม่สมควรจะโกรธในการกระทำขนาดนี้ เพราะครอบครัวไม่ได้มีปัญหาเดือดร้อนทางการเงินแม้แต่น้อย และถ้าเขานำเงินฝากไว้เพื่อคุณ เราอาจอนุมานได้โดยพฤตินัยว่าเงินนั้นมีเพื่อคุณ หรือให้คุณแล้วนั่นแหละ แต่ก็ไม่ใช่ เพราะเขาแบ่งฝากไว้หลายบัญชีเพื่อไม่ให้เกิดการตรวจสอบได้ สุดท้ายแล้วเค้าก็ไม่ได้คิดจะให้คุณเต็มๆ เค้าแค่ใช้ประโยชน์จากชื่อทางบัญชีของคุณก็เท่านั้น ดังนั้นเค้าถึงถือว่าเป็นเงินเค้า เค้าเลยโกรธมากเมื่อโดนเอาเงินตัวเองไปใช้ แต่ในความเป็นจริงแล้วจขกท.มีส่วนผิดน้อยในความเห็นผม เพราะหากเราตัดเหตุผลที่ว่าเขามีจุดประสงค์แยกฝากหลาญบัญชี แล้วมองจุดประสงค์ที่เขาตั้งใจฝากเป็นประกันชีวิตให้เราแล้วละก็ เราก็ควรมีสิทธิ์ใช้เงินนั้นยามเดือดร้อนได้ก่อน เพราะยังไงเงินสามีก็คือเงินเรา อันนี้คือเหตุผลของสามีภรรยาทั่วไปที่ไม่มีปัญหาและไม่งกในเงินตัวเองนะครับ แต่ของบ้านจขกท.คิดด้วยตรรกะ เงินสามีก็คือเงินภรรยาไม่ได้

หลายความเห็นพูดว่า ให้ไปคุย ไปตกลง อย่าทะเลาะต่อหน้าลูก ให้ไปทำงาน นี่แสดงว่าคุณอ่านไม่จบจริงๆ แล้วประมาณเอาทั้งนั้น นี่เป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตคนๆ นึงนะครับ อย่าสักแต่ความเห็นจากการประมาณอ่านไม่จบ ถ้าคุณอ่านจบและมองในมุมจบกท. คุณจะไม่พูดคำพวกนั้นออกมาเลยจริงๆ
ความเป็นผู้ชาย อายุเยอะกว่า การงานดีกว่า ตำแหน่งสั่งการตลอด เป็นชั้นผู้ใหญ่ มีอำนาจเหนือลูกน้องมากมาย มีเงินเดือนค่าคอม 6-7 หลัก (อาจ)มีปมจากการแต่งงานครั้งก่อน และนิสัยที่แม้แต่พ่อตัวเองยังพูดไม่ฟังเพราะถือว่าโตแล้วแก่แล้วทำงานใหญ่โตแล้ว ย่อมไม่ฟังใครแน่นอน จขกท.เคยบอกแล้วอย่าทะเลาะต่อหน้าลูกได้ไหม แต่เขาไม่ฟัง และจขกท.ก็พยามหยุดเองทุกครั้งให้เงียบ มีครั้งนี้ที่จขกท.หยุดแล้วแต่เขาไม่หยุด ด่าทอยาวจน 8 โมงเช้าของอีกวัน คนแบบนี้คุยได้ลำบากมากๆ เพราะเขาไม่ฟังเราเลย ยิ่งเขาไม่เห็นหัวเราเขายิ่งไม่ฟังเรา ยิ่งพูดเหมือนยิ่งเปิดปากทะเลาะในสายตาเขาเสียมากกว่า ออกไปทำงายไม่ได้เพราะลูกอายุเพิ่ง 2 ขวบ คนที่บอกให้ออกไปทำงานนี่อ่านไม่ถึงแน่ๆ ลูกอายุแค่ 2 ขวบ บ้านมีกัน 3 คน และสำคัญคือสามีไม่ให้ทำงานเด็ดขาด เถียงไม่ได้หืออือไม่รอด ถ้าเอาไปฝากพ่อแม่จขกท.นะ ตามเสต็ป อาละวาดถึงบ้านแล้วเอาลูกกลับแน่นอน และสุดท้ายก็ปล่อยลูกทิ้งๆ ขว้างๆ เพราะตัวเองไม่สนใจและต้องทำงาน ดังนั้นจึงอยากร้องขอหลายๆ ความเห็นพยามเถอะครับ กลับไปอ่านใหม่อีกรอบ ลองพยามดูนะ

ส่วนตัวผมไม่เห็นทางไหนครับ นอกจากถ้าทนไม่ไหวก็หย่าเถอะครับ เก็บหลักฐาน บทสนทนา และอะไรต่างๆ ในครั้งนี้ไว้ด้วยเพื่อเป็นหลักฐานหากเกิดการฟ้องหย่าหรือฟ้องเอาสิทธิในตัวเด็กเกิดขึ้น ผมเห็นใจนะครับ ส่วนตัวไม่อยากให้จิตใจเราต้องมานั่งทนอะไรแบบนี้ แต่ถ้าเลือกที่จะทนจริงๆ ตามความเห็นดีๆ ด้านบนครับ ลองแยปๆ คุยดูขอเพิ่มขึ้น ตอนเขาอารมณ์ดีนะครับ ผมจะไม่บอกว่าอะไรยอมได้ให้ยอม เพราะผมเชื่อแน่นอนว่าจขกท.ทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่ส่วนตัวผมเห็นใจและชื่นชมในความอดทนมากๆ นะครับ หากสมมุติ ตัดสินใจหย่า ขอร้องนะครับ อย่าทิฐิหรือคิดอะไรแปลกๆ เนอะ อะไรเรียกร้องจากสิทธิการหย่าได้ให้ทำครับ เพราะดูแล้วจขกท.เป็นพวกถ้าหย่าแล้วคงไม่เอาเงินเขา ไม่ได้ครับ ขอร้องคิดถึงลูกและตัวเองด้วย คุณสมควรได้ในฐานะภรรยาผู้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทิฐิกินไม่ได้ครับ เงินเป็นของเขาแต่ในสายตากฎหมายก็เป็นของเรานะครับ อย่าถือทิฐิเลยครับ เพื่อเราและลูก นี่ถือว่าชี้มูลหากอนาคตคิดจะหย่านะครับ แต่ถ้าสุดท้ายปรับตัวอยู่ด้วยกันได้ผมจะดีใจมากๆ ด้วยครับ ยิ้ม

สุดท้ายนี้ผมอยากบอกว่า เรื่องของเราคล้ายกันครับ จขกท.คล้ายคุณแม่ของผมมากๆ ต้องอดทนในเรื่องเดียวกัน และพยามอะไรเหมือนกัน รวมทั้งนิสัยคล้ายกันในความอดทน รวมทั้งสามีจขกท.ก็บทเดียวกับพ่อผมน่ะแหละครับ แต่พ่อผมไม่ขนาดนี้หรอกนะครับ ซอฟท์กว่าเยอะ ไม่งั้นบ้านคงแตกไปนานแล้ว แต่แม่ผมก็ทนอะไรมาเยอะเหมือนกันครับ ดังนั้นสิ่งที่ผมเขียน จึงเขียนจากมุมมองคนเป็นลูกที่เติบโตแล้ว และอยู่กับแม่เสมอมา ได้เห็นมุมมองของแม่มาตลอด ผมจึงรู้ว่าแม่ทนมาขนาดไหน และจขกท.ต้องทนมามากขนาดไหน เลี้ยงลูกให้ดีนะครับ อย่าให้ลูกห่างจากกาย แม้ว่าตอนนี้เด็กจะยังจำความอะไรไม่ได้มาก แต่ไปไหนไปกันหิ้วลูกไปด้วยนะครับ อีกอย่างคือถ้าจะทำอะไรที่เกี่ยวกับการหย่า รีบทำซะในขณะเด็กยังอ่อนและไม่รู้เรื่องนะครับ จะได้ไม่เป็นปมกับแกมากในภายหลัง เพราะเด็กยิ่งโตจะยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกมาก ยิ่งรับรู้มากยิ่งเจ็บมากมีปมมาก ดังนั้นทำอะไรก็ทำขณะเด็กยังไม่ค่อยรู้เรื่องมากนะครับ หลัง 4 ขวบแกจะเริ่มจำได้แบบจริงจังแล้ว

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้จขกท.นะครับ ผมพิมพ์แบบเห็นความข้างเดียวไปหน่อยเพราะมองแค่มุมจขกท. แต่เหมือนกระทู้บนครับ หากได้รับฟังความเห็นของคุณสามี ก็พร้อมให้ความเห็นเป็นกลางแก่คุณสามีแน่นอนครับ แต่ที่เอียงกับจขกท.เยอะในกระทู้นี้ ยอมรับว่าอินกับความเป็นแม่ครับ เหมือนเห็นจขกท.ซ้อนทับกับแม่ยังไงยังงั้น ดังนั้นก็ขออภัยด้วยครับที่เอนเอียงไปเยอะ มีอะไรติชมแก้ไขได้ครับ ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 17
อ่านยากมากเลยครับ คราวหน้าขอย่อหน้า* เว้นวรรคดี ๆ หน่อยก็ดีนะครับ ติดกันหมดมันอ่านแล้วมึนมาก เรื่องมันซับซ้อนมาก เวลาเล่าเรื่อง ควรเล่าแยกเป็นเรื่อง ๆ เรียงตามลำดับก่อนหลังหน่อยนะครับ แต่เข้าใจว่ากำลังโกรธ และสับสนอย่างหนัก ผมจะช่วยตอบให้ก่อนในเบื้องต้น

1. คนผิดที่สุดคือ สามีของคุณ แหล่ะครับ มันผิดหลายประเด็นอยู่
- ผิดที่ห้ามคุณทำงาน แต่ให้เงินอาทิตย์ละ 1 พัน
- ผิดที่ทะเลาะกันต่อหน้าเด็ก
- ผิดที่ด่าว่าขุดเรื่องเก่าขึ้นมาด่ากัน ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
- ผิดที่ว่าพ่อแม่เรา จนเกินจริง เกินกว่าเหตุ
- การใช้ชีวิตเหมือนเป็นเผด็จการ ผูกขาด ความเป็นใหญ่ ทางความคิด ไม่รับฟังคนอื่น ไม่สนใจเมียเท่าไหร่
- ขี้หึงเกินคนปกติ

2. คุณเองก็ผิดนะ
- ทะเลาะกันต่อหน้าเด็ก จิตใจเด็กจะมีปัญหาในอนาคตครับ
- การที่เอาเงินสามีที่เค้าฝากไว้ สามีคุณงกเงินมาก เค้าก็นิสัยไม่ดีหรอก แต่เงินเค้า เค้าอยากเอากลับไปบางส่วน คุณก็รีบ ๆ ให้เค้าไป อย่าได้หวงครับ แต่ถ้าเค้าจะเอาไปหมด ก็ไม่เหมาะเหมือนกัน เรามีสิทธิ์ท้วงได้ครับ คนแต่งงานกันแล้ว จดทะเบียนแล้วใช่ไหม เงินนี้เหมือนเงินส่วนกลาง คนละครึ่งครับ ไม่ใช่ของเค้าฝ่ายเดียว

3. พ่อแม่คุณเองก็ผิดนิดนึง
- ตอนแต่งงาน ต้องเอาเงินจากฝ่ายชายนะครับ และเอาเงินก้อนนั้นให้ เรา(เจ้าสาว) เป็นฝ่ายเก็บไว้ครับ ปัญหาเกิดอะไร จะได้ยังมีใช้หมุนได้บ้างครับ

4. ผมก็เลยลองคิดว่าปัญหามันซับซ้อน แต่ก่อนอื่น ต้องคิดก่อนว่า อยากให้เป็นครอบครัวดีเหมือนเดิมไหม หรืออยากจะเลิกกันไปเลย เค้าก็แย่ คุณก็ดันโมโห ใส่กันไปใส่กันมา ได้อะไรกันไหม พ่อแม่ ลูกจะเป็นยังไงคิดบ้างไหม ??? ผมแนะนำให้เลิกใช้อารมณ์ใส่กันก่อน เลิกทะเลาะต่อหน้าเด็กด้วย ไปตกลงกันหลังบ้านลับ ๆ โมโหกันทำไมเยอะเกินหล่ะครับ โปรดหยุดใช้อารมณ์

5. ประเด็นแรก ไปคุยกับสามีก่อนว่า เมื่อใดด่าว่าพ่อแม่เรา ต่อเนื่อง ยาวนาน เกินจริง และไม่รู้จักหยุด ต่อไปเราจะเลิกกัน และลูกจะอยู่กับเรา รับได้ไหม ถ้าไม่ได้ สงบสติ และใช้เหตุผลให้มากหน่อย

6. คุณไม่มีผู้ใหญ่ฝ่ายสามี ให้ปรึกษาบ้างเหรอครับ พ่อแม่ พี่น้องเค้า ที่ดีกับเรา ไม่มีเหรอ ถ้ามีให้รีบไปปรึกษาด่วนครับ

7. ถัดมาเรื่องเงินที่เหมือนยืมสามีคุณมา ให้พ่อแม่เราใช้ลงทุน ให้เค้าสงบสติ แล้วสรุปว่า เราจะหามาคืนให้ในภายหลัง พร้อมดอกเบี้ยนิดหน่อย ให้คนบ้าได้สติกลับมา มันไม่หายไปไหน และคุณต้องรับปากกว่า ทีหลังจะเอาเงินไปทำอะไร จะแจ้งให้ทราบก่อน และบอกว่า เราผิดจริง ๆ ในกรณีนี้ ที่เรื่องใหญ่โต คุณน่าจะไม่ยอมรับผิดหรือเป่า ???

8. เรื่องการทำงาน คุณรู้สภาวะนี้แล้ว คุณหางานทำเลยครับ งานเล็กน้อยอะไรก็ได้ ที่พอมีรายได้ ทำไปเลยครับ แฟนคุณเหมือนคนผิดปกติบางอย่าง ที่เหมือนกักขัง หน่วงเหนี่ยว รั้งคุณไว้ด้วยการ ไม่ให้คุณทำงาน และให้เงินนิดเดียว มันผิดปกติไปเยอะนะครับ ผมแปลกใจที่ จขกท เอง กลับยอมรับข้อนี้จนอยู่ด้วยกัน จนมีลูก มองข้ามอะไรไปหรือเปล่าครับ ทำไมไม่ตกลงกันให้ดี ๆ ก่อน ตอนนี้เหมือนเค้าคิดว่าตัวเอง เป็นเจ้าชีวิตคุณไปแล้ว สามีคุณแย่ และเห็นแก่ตัวมากครับ

9. ส่วนตัวคุณเอง หน้าที่ภรรยา ก็ต้องทำต่อไปครับ ถ้าหากจะยังเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ บางทีก็ต้องอดทนเหมือนกันครับ อย่าได้บกพร่อง แต่ผมอยากจะให้ต่อรองเรื่องการจัดการเงินครับ เปลี่ยนจากอาทิตย์ละ 1000 เป็น เดือนละ 10,000-20,000 ดีกว่าครับ ให้เราได้รับสิทธิ์ อำนาจ ในการจัดการดูแลบ้าน และตัวเราเองด้วย คุณได้อาทิตย์ละพัน ผมว่ามันเหมือน ทาสไปหรือเปล่าครับ พบกันที่ครึ่งทางดีกว่าไหม ถ้าเค้าไม่ให้ เราก็บอกเค้าว่า มีโอกาสครอบครัวแยกกันอยู่สูง ถ้ายอมตรงนี้ เราจะอยู่กันต่อไป 3 คนพ่อแม่ลูก

10. ทุกการคุยกัน ใช้สติให้มาก ไม่จำเป็นต้องขยาย การทะเลาะด้วยการขุดอดีตขึ้นมา ต่อว่าฝ่ายตรงข้ามครับ นึกถึงความดีที่แต่ละคนเคยมีต่อกันบ้างครับ ข้อเสียลืม ๆ  ไปบ้างก็ได้

ถ้ามีข้อมูล Update มาผมจะกลับมาตอบเพิ่มครับ
ขอให้โชคดีมีชัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่