ได้ดีแล้วถีบหัวส่ง!!!
เมื่อ 4 ปีที่แล้วเรียนอยู่ปี 3 มหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ตอนนั้นยังเป็นสาวโสด ที่เช้าเข้าเรียน ตกเย็นก็ลั๊นลาตามปกติกับกลุ่มเพื่อนๆ ส่วนมากก็นั่งกันประจำที่ร้าน ที่ร้องเพลงเพื่อชีวิตฝั่งหน้ามอ ซึ่งมีอยู่ร้านเดียว ไปนั่งแทบทุกวันแรกๆก็ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเรื่องเพศ ก็นั่งดื่มชิวๆ แต่สักพักก็นึกพนันกันกับเพื่อนว่า แกๆ คิดว่าฉันจะจีบมือกลองติดปะว่ะ หลังจากจบคำพูดเราก็จัดการขอเบอร์มือกลองกับเด็กเสิร์ฟ แล้วก็โทรไป 1 ครั้ง หลังจากวันนั้น เราไปบวชชี 7 วัน ไม่ได้พกมือถือ พอกลับมาปรากฏว่าเหยื่อติดเบ็ต55เขาติดต่อกลับมาถามว่าหายไปไหนมาโทรหาไม่รับสายเลย จากวันนั้นความสัมพันธ์ก็เริ่มพัฒนาเรื่อยๆ ทุกเย็นเขาจะเข้ามาหาเราที่บ้าน(บ้านเช่าตอนเรียน)ก่อนจะไปทำงาน หลังจากนั้นไม่นานประมาณ 3 เดือนก็ตัดสินใจเป็นของกันและกัน แล้วเราก็มีความรู้สึกว่าเราอยากแยกตัวไปพักคนเดียว ไม่อยู่กับเพื่อน แล้วเราก็ย้ายออก มาอยู่หอพักคนเดียว ไม่นาน ผช คนนั้นก็ย้ายเสื้อผ้ามาอยู่กับเราแบบอยู่กินด้วยกัน แต่เราเรียนคนล่ะที่ เขาเรียนวิทยาลัยเทคนิค เด็กกว่าเราอยู่ 3 ปี แรกๆทุกอย่างก็ดี เขาดีเอาอกเอาใจ ง้อ ทุกอย่าง แต่บ้านฝ่ายเขาไม่ค่อยชอบเราเท่าไหร่ แม่เขาไปพูดกับคนที่ร้านเหล้าที่เขาทำงานว่าเราจะไปหลอกใช้สมบัติ (แม่เขาขายที่ดินใน มอ ได้หลักล้าน) แต่เราอ่ะ ไม่เคยไปรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับบ้านเขาหรอก เราก็อยู่กันไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดๆนึง คือคบกันนานพอสมควรเราพาเขากลับบ้านไปไหว้พ่อกับแม่ บ้านเราพื้นเพก็ค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่างพอสมควรแล้วพ่อกับแม่ก็เลือกคนที่จะมาคบกับเรามากแต่คนนี้ไม่มีอะไรเลย เด็กกว่าแถมทำงานกลางคืน แต่เราก็หน้าด้านนะพาเขากลับบ้านพูดเชียร์ต่างๆว่าเขาดีกับเราโน่นนี่เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ ก็คบต่ออีกเรื่อยๆ จนมีวันนึงปี 2555 มีเปิดสอบตำรวจด้วยความที่อยากให้พ่อแม่ยอมรับในตัวแฟน ก็สมัครให้เขา เป็นธุระ จัดการทำให้ทุกอย่าง พาไปสอบ โน่นนี่นั่น ประกาศผลมาปรากฏว่าสอบติดจ้า เราดีใจมาก!!!!
สอบติดตำรวจนี่จุดเปลี่ยนเลยนะ!!!
จากที่บ้านฝ่ายเขาไม่สนใจเขาเลย แม่เขาโทรตามกลับบ้าน ไปนอนบ้าน แบบกลายเป็นลูกรัก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ไม่มีเลย มาอยู่กินกับเรา แม่เขาไม่เคยถามมีเงินที่ไหนกินข้าว มีเงินที่ไหนไป โรงเรียน เขาใช้เงินจากการตีกลองตลอด แรกๆ ก็ยังดีๆ ผ่านทุกกระบวนการ จนได้เข้าไปฝึก 3 เดือนแรกรักเมียมากกลับมาไม่เข้าบ้านนะมาคลุกกับเราที่หอพัก นอนกอดไม่ไปไหน พ่อเราก็ยอมรับเขามากขึ้นจนซื้อรถยนต์ให้เราขับไปรับไปส่งเขา วันอาทิตย์ไปส่งวันศุกร์ไปรับ เขาก็ไปนอนบ้านเราแบบเปิดเผยอ่ะ ก็ไม่มีอะไรนะช่วงนั้น จนเราเรียนจบ ป.ตรี ด้วยความที่อยากไปอยู่ใกล้ๆเขาเราขอพ่อเรียนต่อ ที่ มข แล้วเราก็สอบติดได้อยู่ใกล้กัน แต่มันอาจจะผิดที่เราเรียนเสาร์ อาทิตย์ แล้วเขาอ่ะหยุดเสาร์ อาทิตย์ กลายเป็นว่าเวลาไม่ตรงกัน แล้วเขามีเพื่อน มีสังคมใหม่ ได้เจออะไรเยอะขึ้น โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่ ฝึก เรียนตำรวจด้วยกัน เราจับได้จากการที่เขาแอบตามจีบ เพื่อนที่เรียนตำรวจด้วยกัน แต่ดีที่ครั้งนั้น ผู้หญิง อาจจะเล่นด้วยหรือไม่เล่นด้วยยังไงไม่ แต่เราก็ไม่เคยทะเลาะกันร้ายแรง จนมีช่วงนึงเราชวนเขาไปนั่งดื่มกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียน ป.โท ด้วยกัน วันนั้นเราดื่มเยอะมาก เลยฉี่บ่อยเราก็ปล่อยแฟนไว้กับเพื่อนไว้ที่โต๊ะ2คน เราไม่ได้ เอะ ใจอะไร แต่ผิดสังเกตว่าแฟนเราดูพูดเก่งและสนิทกับเพื่อนเรามากเลยทั้งๆที่เจอกันครั้งแรกเองจากวันนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เรื่องมาแดงหลายๆอย่างคือแฟนเราแอบเซฟเบอร์เพื่อนเราจากมือถือเรา มีโทรชวนดื่มโดยที่เราไม่รู้ โทรถามว่าถึงห้องยัง บอกเป็นห่วง และอีกหลายอย่าง เพราะจันทร์-ศุกร์ เราทำงานกว่าจะเลิกคือบางวัน 4 ทุ่มบางวัน 5 ทุ่มกลับจากเลิกงานเหนื่อยคือหัวถึงหมอนหลับมันเป็นช่องว่างให้เขามีคนอื่น แต่ตอนนั้นถึงจับได้ว่าเขามีคนอื่นแต่เราก็ไม่เลิกกับเขาเพราะเราคิดว่าเป็นความผิดของเราเองว่าไม่มีเวลาให้เขา เราก็ยังอยู่กันไปเรื่อยๆจนเขาฝึกจบได้ติดยศ ทุกๆอย่างเริ่มเปลียนไปมากขึ้นสายตาคนในบ้านเขาที่มองเรา มันแปลกหลายๆอย่าง จนมารู้ความจริงว่า แม่เขาบอกให้หาทางเลิกกับเราเพื่อจะได้ไปหาแฟนใหม่ที่เป็นข้าราชการด้วยกัน แล้วเราก็จับได้ว่าเขามีคนอื่นดดยที่แม่เขารู้เห็นเป็นใจพาเข้าบ้าน ไปเที่ยวกันเปิดเผยถ่ายรูปคู่ ผู้หญิงก็โพสต์รูปอยากให้เราเห็น เราก็เห็นนะ แล้วก็จุกและเจ็บมากว่าเหมือนหมารับใช้หมดผลประโยชน์จากเราก็ถีบหัวส่ง แล้วก็เหมือนเราเป็นบ้าอยู่พักนึง แต่ยังไปทำงานไปเรียนได้อยู่แล้วก็ผ่านไปสักพัก เขาก็กลับมา บอกว่าไม่มีอะไรเป็นแค่พี่สาวแต่ที่เราเห็นอ่ะ มันไม่ใช่ เราก็โง่
ให้โอกาสมันอีก มันก็เหมือนเลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นไป เราไม่นานเรื่องก็แดงอีก คือมันหลับก่อนเราผู้หญิงคนนั้นก็ทักมา ส่งรูปบอกฝันดี บอกคิดถึง เจ็บและจุกที่แท้แอบคุยแล้วลบ เราโง่เน้อ แล้วมันก็ได้ไปฝึกปรับพื้นฐานที่อุบล 3 เดือน ตลอด3เดือน เราเทียวรับส่ง ศุกร์ไปรับอาทิตย์ไปส่ง ขอนแก่นอุบล จันทร์ถึงศุกร์ทำงานอาทิตย์เรียนเหมือนเดิมแต่ขอลาหยุดทุกศุกร์เพราะจะได้ไปรับเขากลัวเขาลำบาก ฉันถึกมาก ขับรถจนไม่มีเวาลทำอย่างอื่นช่วงนั้นผอมมาก เหนื่อยมากๆก็จอดนอนในรถ เป็นอยู่อย่างนั้นอยู่ 3 เดือน พอมันเริ่มทำงานจริงคือ ได้ไปประจำอยู่อำเภอเขมราฐ ชายแดนลาวอุบล ช่วงนี้แหละที่เปลี่ยนไปมาก สังคมทำงานจริง เราจับได้ว่ามันมีคนอื่นทั้งจากไลน์จากเฟส แต่มันไม่จุกเท่า มันโทรมาบอกแม่เราว่าจะมาหมั้น มาแต่ง แต่เรามีความรู้สึกแปลกๆเลยขับรถไปหามันที่ฐาน (ไปไม่บอก) เราไปเจอว่ามันไปกับคนอื่นเราโมโหมาก สั่น ถามทำไมทำแบบนี้ๆๆๆๆๆๆ เหมือนคนบ้า มันไม่คุยไม่อธิบายอะไรทั้งสิ้น ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนสะใจว่าชนะเรา เราเข้าไปในห้องมันเก็บเสื้อผ้าที่เราเป็นคนซื้อให้เก็บทิ้งหมดพร้อมกับเผาทิ้ง มันตีเราคะต่อหน้าเจ้านายและเพื่อนร่วมงานของมัน ชี้หน้าด่าเรากูเป็นตำรวจเป็นข้าราชการกูมีสิทธิ์เลือกมีคนอยากเขาหามากมายแล้วมีอะไร??? คำนี้จำจนตาย เราขับรถจากสภาพที่ช้ำไปทั้งตัวและผู้หญิงคนนั้นโทรมาเยาะเย้ยตลอดทางเจ็บและจำมากแล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกประมาณเดือนนึงมั้ง เราเริ่มรักษาแผลใจได้ด้วยที่มีเพื่อนมีพ่อแม่คนในครอบครัวอยู่ข้างๆ แล้วก็เริ่มเปิดใจคุยกับคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆ แต่ใจก็ยังผูกพันกับคนเก่าอยู่นะไม่ลืม เพราะแบบคบกันจนนึกถึงวันแต่งงานอ่ะ จนมาได้เจอกับแฟนคนปัจจุบันเราคบกันแบบไม่ได้ตั้งใจวันนั้นเราไปดื่มกับรุ่นน้องหลายคนเรากินเบียร์คนเดียวประมาณ8ขวด เมาเลยขอกลับก่อน ส่วนคนอื่นๆก็กลับตามมาเราอาบน้ำเข้านอนแล้วหลับไปก็รู้สึกว่ามีคนมาจูบถอดกางเกง และทำ...แต่นึกว่าฝัน พอติ่นมาไม่ใช่อ่ะ เรื่องจริง เป็นรุ่นน้องคนที่เราเพิ่งรู้จักและเจอตอนไปกินเหล้ามะคืน รู้สึกแย่มาก ตอนนั้นโสดยังไม่อยากทำแบบนี้กับใคร แต่เขาก็ไม่ไปไหนนะตามติดเราตลอด จนมาเจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย แฟนของน้องคนนั้นนอนอยู่ที่ห้องเขา และคบกันมา3ปี เราเหมือนปีศาจอ่ะ ความรู้สึกโดนผัวชาวบ้านข่มขืน มานอนกกไม่ยอมกลับไปหาแฟน เรื่องราวบานปลายผู้หญิงคนนั้นอ้างว่ากำลังท้อง เป็นเรื่องเป็นราวจนได้ ไปผูกข้อไม้ข้อมือกันพิธีอีสาน เหมือนเขายอมรับกันเป็นผัวเมียแล้ว จากที่เขากลับไปทำธุระนั้นเสร็จก็กลับมาหาเราอ่ะ เราเลวที่ยอมให้เขาอยู่กับเราไปเรื่อยๆ แฟนเขาโทรมาตอนเขานอนกับเราแล้วเราก็เหมือนฟังเขาทะเลาะกันอยู่ข้างหูฝ่ายชายบอกกูเกลียดกูไม่รักแล้วกูยอมรับแต่ลูกกูไม่เอาเป็นแบบนี้แทบทุกวัน และแฟนเก่าเรามันก็เริ่มกลับมาง้อ เราเริ่มลังเลแต่เกลียดการกระทำแฟนเก่ามากเลยไม่กลับไปดีกว่า มาถึงจุดนึง ผู้หญิงคนนั้นทักมาคุย กับเรา เราบอกให้แฟนคนปัจจุบันเลือกว่าจะเอาไงจะทำยังไง เราไม่อยากอยู่หลบซ่อน แล้วก็อยู่ค้างๆคาๆอยู่หลายเดือนจนเรื่องอีกเรื่องมาแดงคือผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ท้องแต่มาทำเรื่องหลอกเอาเงิน และเขาก็เป็นเหมือนมิจฉาชีพขโมยของ เป็นเด็กเสี่ย อวดรวยทั้งๆที่ไม่มีอะไร ชีวิตมีแต่ความมโน พบหลักฐานหลายอย่างจนเราเอือมและเกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก ทั้งขู่ฆ่าเรา ทั้งโกหกหลายอย่าง รวมทั้งรวมหัวกับแฟนเก่าเรามาก่อนกวนทั้งจะทุบรถ ทำอะไรหลายอย่าง หลังจากนั้นแฟนเก่าเราก็ขึ้นสถานะคบกับตำรวจด้วยกัน เราไม่ได้ใส่ใจยังคบกับแฟนต่อไป ก็ใช้ชีวิตปกติแล้วก็คุยกันว่าจะหมั้นกันไว้รอเขาเรียนจบเราก็แต่ง หลังจากนั้นก็หมั้นกันแต่เรื่องมันยังไม่จบอ่ะ แฟนใหม่ของแฟนเก่าเราโดนแฟนเก่าของแฟนคนปัจจุบันเป่าหูและใส่ร้ายเราต่างๆนาๆ รวมทั้งแฟนเก่าเราด้วยพูดนินทาเราแต่เรื่องไม่ดี สงครามประสาทก็เกิดขึ้นนางโพสต์ด่าเราโดยที่ไม่รู้จักเรา เห้อ มันเป็นไปได้มาเกลียดเรา ว่าเราเหมือนเราจะอยากกลับไปคบแฟนเก่าซึ่งไม่ใช่เลย ดูถูกเหยียดหยาม ว่าเราไม่มีปัญญาได้เป็นข้าราชการ หลายๆอย่าง ล่าสุด เธอกำลังท้อง เธอป่าวประกาศ ถึงความยิ่งใหญ่ที่จะได้แต่งงานกับผู้ชายแบบนั้นมาก เราไม่ได้มีความรู้สึกอะไรนอกจากความยินดี เพราะเราไม่มีวาสนาพอขอให้ไปดี
คนที่ลืมบุญคุณคนที่เคยช่วยเหลือ ผ่านความทุกข์ยากลำบากมาด้วยกันชีวิตเขาจะมีความเจริญรุ่งเรือง ชีวิตก้าวหน้า หรือเปล่า
เมื่อ 4 ปีที่แล้วเรียนอยู่ปี 3 มหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ตอนนั้นยังเป็นสาวโสด ที่เช้าเข้าเรียน ตกเย็นก็ลั๊นลาตามปกติกับกลุ่มเพื่อนๆ ส่วนมากก็นั่งกันประจำที่ร้าน ที่ร้องเพลงเพื่อชีวิตฝั่งหน้ามอ ซึ่งมีอยู่ร้านเดียว ไปนั่งแทบทุกวันแรกๆก็ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเรื่องเพศ ก็นั่งดื่มชิวๆ แต่สักพักก็นึกพนันกันกับเพื่อนว่า แกๆ คิดว่าฉันจะจีบมือกลองติดปะว่ะ หลังจากจบคำพูดเราก็จัดการขอเบอร์มือกลองกับเด็กเสิร์ฟ แล้วก็โทรไป 1 ครั้ง หลังจากวันนั้น เราไปบวชชี 7 วัน ไม่ได้พกมือถือ พอกลับมาปรากฏว่าเหยื่อติดเบ็ต55เขาติดต่อกลับมาถามว่าหายไปไหนมาโทรหาไม่รับสายเลย จากวันนั้นความสัมพันธ์ก็เริ่มพัฒนาเรื่อยๆ ทุกเย็นเขาจะเข้ามาหาเราที่บ้าน(บ้านเช่าตอนเรียน)ก่อนจะไปทำงาน หลังจากนั้นไม่นานประมาณ 3 เดือนก็ตัดสินใจเป็นของกันและกัน แล้วเราก็มีความรู้สึกว่าเราอยากแยกตัวไปพักคนเดียว ไม่อยู่กับเพื่อน แล้วเราก็ย้ายออก มาอยู่หอพักคนเดียว ไม่นาน ผช คนนั้นก็ย้ายเสื้อผ้ามาอยู่กับเราแบบอยู่กินด้วยกัน แต่เราเรียนคนล่ะที่ เขาเรียนวิทยาลัยเทคนิค เด็กกว่าเราอยู่ 3 ปี แรกๆทุกอย่างก็ดี เขาดีเอาอกเอาใจ ง้อ ทุกอย่าง แต่บ้านฝ่ายเขาไม่ค่อยชอบเราเท่าไหร่ แม่เขาไปพูดกับคนที่ร้านเหล้าที่เขาทำงานว่าเราจะไปหลอกใช้สมบัติ (แม่เขาขายที่ดินใน มอ ได้หลักล้าน) แต่เราอ่ะ ไม่เคยไปรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับบ้านเขาหรอก เราก็อยู่กันไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดๆนึง คือคบกันนานพอสมควรเราพาเขากลับบ้านไปไหว้พ่อกับแม่ บ้านเราพื้นเพก็ค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่างพอสมควรแล้วพ่อกับแม่ก็เลือกคนที่จะมาคบกับเรามากแต่คนนี้ไม่มีอะไรเลย เด็กกว่าแถมทำงานกลางคืน แต่เราก็หน้าด้านนะพาเขากลับบ้านพูดเชียร์ต่างๆว่าเขาดีกับเราโน่นนี่เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ ก็คบต่ออีกเรื่อยๆ จนมีวันนึงปี 2555 มีเปิดสอบตำรวจด้วยความที่อยากให้พ่อแม่ยอมรับในตัวแฟน ก็สมัครให้เขา เป็นธุระ จัดการทำให้ทุกอย่าง พาไปสอบ โน่นนี่นั่น ประกาศผลมาปรากฏว่าสอบติดจ้า เราดีใจมาก!!!!
สอบติดตำรวจนี่จุดเปลี่ยนเลยนะ!!!
จากที่บ้านฝ่ายเขาไม่สนใจเขาเลย แม่เขาโทรตามกลับบ้าน ไปนอนบ้าน แบบกลายเป็นลูกรัก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ไม่มีเลย มาอยู่กินกับเรา แม่เขาไม่เคยถามมีเงินที่ไหนกินข้าว มีเงินที่ไหนไป โรงเรียน เขาใช้เงินจากการตีกลองตลอด แรกๆ ก็ยังดีๆ ผ่านทุกกระบวนการ จนได้เข้าไปฝึก 3 เดือนแรกรักเมียมากกลับมาไม่เข้าบ้านนะมาคลุกกับเราที่หอพัก นอนกอดไม่ไปไหน พ่อเราก็ยอมรับเขามากขึ้นจนซื้อรถยนต์ให้เราขับไปรับไปส่งเขา วันอาทิตย์ไปส่งวันศุกร์ไปรับ เขาก็ไปนอนบ้านเราแบบเปิดเผยอ่ะ ก็ไม่มีอะไรนะช่วงนั้น จนเราเรียนจบ ป.ตรี ด้วยความที่อยากไปอยู่ใกล้ๆเขาเราขอพ่อเรียนต่อ ที่ มข แล้วเราก็สอบติดได้อยู่ใกล้กัน แต่มันอาจจะผิดที่เราเรียนเสาร์ อาทิตย์ แล้วเขาอ่ะหยุดเสาร์ อาทิตย์ กลายเป็นว่าเวลาไม่ตรงกัน แล้วเขามีเพื่อน มีสังคมใหม่ ได้เจออะไรเยอะขึ้น โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่ ฝึก เรียนตำรวจด้วยกัน เราจับได้จากการที่เขาแอบตามจีบ เพื่อนที่เรียนตำรวจด้วยกัน แต่ดีที่ครั้งนั้น ผู้หญิง อาจจะเล่นด้วยหรือไม่เล่นด้วยยังไงไม่ แต่เราก็ไม่เคยทะเลาะกันร้ายแรง จนมีช่วงนึงเราชวนเขาไปนั่งดื่มกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียน ป.โท ด้วยกัน วันนั้นเราดื่มเยอะมาก เลยฉี่บ่อยเราก็ปล่อยแฟนไว้กับเพื่อนไว้ที่โต๊ะ2คน เราไม่ได้ เอะ ใจอะไร แต่ผิดสังเกตว่าแฟนเราดูพูดเก่งและสนิทกับเพื่อนเรามากเลยทั้งๆที่เจอกันครั้งแรกเองจากวันนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เรื่องมาแดงหลายๆอย่างคือแฟนเราแอบเซฟเบอร์เพื่อนเราจากมือถือเรา มีโทรชวนดื่มโดยที่เราไม่รู้ โทรถามว่าถึงห้องยัง บอกเป็นห่วง และอีกหลายอย่าง เพราะจันทร์-ศุกร์ เราทำงานกว่าจะเลิกคือบางวัน 4 ทุ่มบางวัน 5 ทุ่มกลับจากเลิกงานเหนื่อยคือหัวถึงหมอนหลับมันเป็นช่องว่างให้เขามีคนอื่น แต่ตอนนั้นถึงจับได้ว่าเขามีคนอื่นแต่เราก็ไม่เลิกกับเขาเพราะเราคิดว่าเป็นความผิดของเราเองว่าไม่มีเวลาให้เขา เราก็ยังอยู่กันไปเรื่อยๆจนเขาฝึกจบได้ติดยศ ทุกๆอย่างเริ่มเปลียนไปมากขึ้นสายตาคนในบ้านเขาที่มองเรา มันแปลกหลายๆอย่าง จนมารู้ความจริงว่า แม่เขาบอกให้หาทางเลิกกับเราเพื่อจะได้ไปหาแฟนใหม่ที่เป็นข้าราชการด้วยกัน แล้วเราก็จับได้ว่าเขามีคนอื่นดดยที่แม่เขารู้เห็นเป็นใจพาเข้าบ้าน ไปเที่ยวกันเปิดเผยถ่ายรูปคู่ ผู้หญิงก็โพสต์รูปอยากให้เราเห็น เราก็เห็นนะ แล้วก็จุกและเจ็บมากว่าเหมือนหมารับใช้หมดผลประโยชน์จากเราก็ถีบหัวส่ง แล้วก็เหมือนเราเป็นบ้าอยู่พักนึง แต่ยังไปทำงานไปเรียนได้อยู่แล้วก็ผ่านไปสักพัก เขาก็กลับมา บอกว่าไม่มีอะไรเป็นแค่พี่สาวแต่ที่เราเห็นอ่ะ มันไม่ใช่ เราก็โง่