ฉันเป็นแฟนเขา เธอเป็นสามีเขา แล้วเราเป็นอะไรกัน
...ปกติเคยอ่านแต่กระทู้และดูความคิดเห็นนะค่ะ วันนี้เรามีเรื่องที่พบเจอมาเล่าสู่กันฟัง เราเห็นใจ อึดอัด และไม่รู้จะแก้ปัญหาของคนอื่นยังไง เลยมาเล่าสู่เพื่อนๆฟัง...
เราชื่อ แป้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตความรักของพี่สาวคนสนิทเรา ชื่อ พี่นก คือ เราอยู่บ้านตรงข้ามกันโตและเรียนประถม มัธยมมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก พึ่งมาแยกกันเรียนตอนมหาลัย แต่ก็ติดต่อเป็นห่วง ช่วยเหลือกันมาตลอด ก็ถือว่าสนิทและไว้ใจกันมากคะ เราก็เลยได้รู้ชีวิต ความเคลื่อนไหว และเหตุการณ์ในชีวิตพี่นกอยู่เสมอ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งว่า ทำไมเราต้องมานั่งเดือดร้อนกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่นด้วยนะค่ะ
เราสองคนเป็นเด็กต่างจังหวัดคะ เกิดและโตที่ภาคอีสาน แต่แป้งมาเรียนที่กรุงเทพมหานคร แต่พี่นกเรียนที่มหาลัยแถวบ้าน เรื่องนี้เริ่มต้นจากที่ว่าพี่นกเรียนจบและได้เข้ามาทำงานที่กรุงเทพมหานคร รับราชการครูคะ เราก็ถามข่าวกันตลอด แต่ไม่ได้พักอยู่ใกล้กัน จนวันนึง ถึงวันเกิดพี่นก แป้งก็ไปอวยพรใน facebook ปกติ แต่บังเอิญเลื่อนดู เห็นลงรูปพี่นกไปฉลองวันเกิดที่ร้านหมูกะทะกับพี่น้องเขา (บ้านพี่นกมีลูกสาวสามคน พี่นกเป็นลูกคนกลาง ทั้งสามคนมาทำงาน กทม หมด) และนอกจากนั้นมีผู้ชาย เกินมา 1 คน เราก็เริ่มสงสัยและคิดว่า เอาล่ะ พี่สาวเรา เจอเนื้อคู่ที่ทำงานอย่างที่คนแก่แถวบ้านบอกแล้ว เราก็เริ่มดีใจด้วยมากๆแล้วคะ เพราะพี่นกเกิดมายังไม่เคยมีแฟนเลย (เรื่องจริง...สาบานได้) เราก็เลยไปกด like
จากนั้นวันต่อมาพี่นกก็โทร.มาหาเรา แล้วก็เล่าให้ฟังว่ากำลังคบกับพี่ที่ทำงาน ชื่อ พี่ต้อมเป็นครูอยู่โรงเรียนเดียวกัน ที่ยังไม่ได้เล่าให้เราฟังเพราะตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจจะคบ พี่นกก็เล่าประมาณว่า พี่ต้อมมาจีบ แกคุยแบบผู้ใหญ่ ตอนนี้ต่อ ป.โทด้วย แกดูแล เอาใจใส่ และแกเป็นคนต่างจังหวัดมาจากภาคอีสานเหมือนกัน ก็คุยกันรู้เรื่องดี ตอนแรกว่าจะไม่อะไรมาก พอแกดูแล เอาใจใส่ดี ก็เลยคบกัน เพื่อนร่วมงานที่โรงเรียน นักเรียน ก็รู้หมดว่า พี่ต้อมจีบพี่นก และตอนนี้เป็นแฟนกันแล้ว เราก็ดีใจ ยินดี สนับสนุนเต็มที่ อยากให้เปิดใจลองคบใครดู อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้ศึกษากันไปว่าความรักมันเป็นเช่นไร จากนั้นก็ไม่มีอะไร ก็ดีใจกันไป ผ่านมาสักระยะหนึ่ง พี่นกก็เฟสมาหาเราบอกว่า จับได้ว่าพี่ต้อมมีแฟนอยู่แล้ว อยู่ต่างจังหวัด จังหวัดเดียวกับพี่ต้อม คบกันมานานมากแล้ว พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็รู้เรื่อง ผู้หญิงคนนั้นที่งานที่เทศบาล เราก็อ้าว...มีแฟนอยู่แล้วทำไมมาจีบพี่สาวเราเป็นเรื่องเป็นราว จริงจัง ใหญ่โต เปิดเผยขนาดนี้ เราก็ถามว่ารู้ได้ยังไง พี่นกบอกว่าก็ดูโทรศัพท์ เราก็ถามว่า แล้วพี่ต้อมว่ายังไง เค้าบอกว่าก็เป็นเรื่องจริงแล้วบอกว่าเธอก็อยู่ส่วนเธอ เขาก็อยู่ส่วนเขา ไม่เกี่ยวกัน ถ้าจะให้เลือกไม่เลือกหรอก เป็นคนแบบนี้ พ่อแม่ยังบอกไม่ได้ เธอเป็นใคร อย่ามาบอกให้เลือก ไม่ต้องพูดถึงอีกนะ อย่าทำตัวมีปัญหา เราก็เอิ่ม.....แล้วพี่นกว่าไง แกบอกว่าแกไม่รู้จะพูดอะไร เหอะๆ อย่างที่บอกนะค่ะว่า พี่นกไม่เคยมีแฟนเลย ชีวิตแกมีแต่เรียนกับอยู่บ้าน นั่งกินข้าวยังเอาหนังสือมาอ่านด้วยเลยค่ะ แกเป็นเด็กเรียน จิตใจดี ใจเย็น ดีกับทุกคน มองโลกในแง่ดีมาก หรือที่เราชอบว่าแกว่า ทำไมเธอหัวอ่อนจัง มองโลกในแง่ดีแบบนี้อันตรายนะ (เรามองโลกในแง่ร้ายคะ โลกนี้ไม่กลมมันแบนๆเอียงๆแน่นอน 555) ตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ไว้ใจพี่ต้อมอีกเลย จากนั้นก็ถามข่าวเรื่อยๆได้ความว่าแกก็ปลอบใจว่าประมาณว่า ไม่อยากเป็นคนบอกเลิกใคร ตอนนี้โฟกัสเรื่องเรียนต่อ ป.โท ไม่อยากปวดหัว ขอร้องพี่เราว่าเวลาคนเราอยู่ด้วยกันอย่าหาเรื่องให้ไม่สบายได้ไหม พี่เราก็คนดีไง...ไม่สบายใจ แกบอกว่าแกโทหาแฟนพี่ต้อม ชื่อ พี่ปุ๊แล้ว เพื่อจะถามว่าเป็นอะไรกับพี่ต้อม จากนั้นพี่ปุ๊ก็มาถามพี่ต้อมว่าพี่นกเป็นใคร พี่ต้อมบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงาน แอบชอบพี่ต้อมอยู่ พี่สาวเรายืมโทรศัพท์เลยได้เบอร์ไปหาพี่ปุ๊ไม่มีอะไรหรอก จากนั้นพี่สาวเราก็โทร.ไปหาพี่ปุ๊อีกเพื่อจะบอกว่าขอโทษที่ทำให้ทะเลาะกันแล้วก็บอกพี่ปุ๊ว่าคบกับพี่ต้อม พี่ต้อมมาจีบ สองสาวนี่ก็คุยกันแบบดีๆค่ะ เพราะพี่เราไม่ได้โทร.ไปเชิงหาเรื่องแต่โทไปเชิงเล่าให้ฟังและปรึกษากันมากกว่าว่าทำไมเป็นแบบนี้ จากนั้นพี่ปุ๊ก็บอกว่าพี่ต้อมเป็นแบบนี้บ่อยแล้วครั้งนี้ครั้งนี้จะให้โอกาสครั้งสุดท้าย จากนั้นพี่ต้อมก็มาบอกพี่เราห้ามโทไปหาพี่ปุ๊อีก อย่าหาเรื่อง(เราคิดว่าพี่ปุ๊คงยื่นคำขาดว่าให้เลือก แกคงบอกว่าเลือกพี่ปุ๊ แต่ยังคบทั้งสองเลยให้พี่นกเงียบ เราคิดเองนะ) จากนั้นก็เงียบๆกันไป ได้ยินเรื่องใหม่มาว่า พี่ต้อมแอบคุยกับน้อง นักศึกษาฝึกสอน ชื่อน้องหมิว เพราะพี่นกมีรหัส facebook กับรหัสผ่าน line แกเห็นพี่ต้อมเก็บโทรศัพท์ตลอดเวลา ก็เลยเช็ค พอถามก็บอกว่าไม่อะไรน้องมันอัธยาศัยดี คุยสนุก ก็คุยเล่นขำๆกัน น้องมันมีแฟนแล้ว พี่เราเลยโทร.ไปปรึกษาพี่ปุ๊ค่ะ พี่ปุ๊เลยบอกว่าอืมไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ปุ๊ไปเองจัดการกันเองละกัน ประมาณนี้ จากนั้นพี่ปุ๊ก็บอกเลิกพี่ต้อม (ตอนนี้พี่ปุ๊มีแฟนใหม่ไปแล้วค่ะสบายละ) พอพี่ปุ๊บอกเลิกพี่ต้อมก็ถามพี่เราว่า สะใจเธอแล้วสินะ พอใจแล้วละสิ (อ้าว ก็บอกเองว่าไม่อยากบอกเลิกใคร ก็นี่ไง เขาบอกเลิกเธอแล้ว แล้วพี่ฉันผิดใช่ไหม..หึ่ม...)จากนั้นก็รู้สึกว่าจะกลับมาดูแล เอาใจใส่พี่นกมากขึ้น ทำตัวปกติ โทรศัพท์ก็ไม่หวงมาก (แต่แป้งไม่ไว้ใจหรอก หมาเคยกินขี้ ยังไงมันก็ต้องกิน 555)
จากพี่ต้อมเลิกกับพี่ปุ๊สักพัก ก็มาถึงปัจจุบันที่เปิดเทอมมาล่าสุดที่อัดอั้นตันใจตอนนี้มาก พี่นก โทร.มาหาเรา บอกว่าพี่ต้อมคุยกับน้องหมิวแบบจริงจังขึ้น เพราะน้องเลิกกับแฟนแล้ว รู้สึกว่าจะคุยกันมาตลอด เราก็บอกว่าพี่แกคงไม่ชอบคบที่ละคน คงต้องสำรองกันพลาด ผู้ชายคนนี้ไม่โอเคเลย ถอยไหม พี่นกก็บอกว่ารัก ผูกพัน เขาดีกับเรา ดูแลเรา (ตอนไหนว่ะ อันนั้นมันโปรโมชั่นป่ะ หมดโปรแล้วเคยได้ไหม๊)จากนั้นพี่นกมาเล่าให้ฟังว่า ไปเจออยู่ด้วยกันในห้องน้องหมิว แกก็บอกว่าไม่มีอะไร มาอยู่เป็นเพื่อนน้องเฉยๆ มากินข้าว ตอนนั้นตอนกลางวันพี่นกก็บอกว่าตอนนี้เหนื่อยมากไม่อยากคิดอะไรแล้ว และที่เป็นเรื่องตอนนี้ คือ พี่ต้อมยอมรับว่าคุยกับน้องจริงๆ ให้พี่นกอยู่ส่วนของพี่นก และอย่าคิดเอ่ยคำว่าเลิก น้องก็อยู่ส่วนของน้อง อย่าไปวุ่นวายกับเขา ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีอะไร เดี๋ยวน้องก็ฝึกสอนเสร็จก็คงแยกย้ายกันไป วันแม่ที่ผ่านมาต่างคนต่างกับบ้านต่างจังหวัด ได้ข่าวว่า พี่ต้อมแวะไปเที่ยวบ้านพี่นก ไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง ของพี่นก เราก็แบบ เฮ๊ยยยย.... ไปทำไมอ่ะ ผูกมัดกันชัดๆ คือ คนต่างจังหวัดถ้าผู้หญิงพาผู้ชายเข้าบ้านก็ถือว่าคนนี้แหละแฟนแล้วก็จะคาดหวังว่าคงแต่งงานกับคนที่พามาบ้าน พอกลับมาจากบ้านช่วงวันแม่ พี่ต้อมก็มายอมรับว่ากับน้องหมิว เคยมีอะไรกันแล้ว ตั้งนานแล้วตั้งแต่น้องมาฝึกสอนครั้งแรกเทอมก่อน ตอนที่คุยกันแรกๆเลย แล้วน้องหมิวก็มาบอกพี่นกพี่สาวเราว่าจะขอดูแลพี่ต้อมเอง พี่ต้อมอยู่กับหมิวพี่ต้อมมีความสุข ยิ้ม ร่าเริงเป็นตัวของตัวเอง ที่ผ่านมามีแต่หมิวที่ไม่ให้โอกาสพี่ต้อมได้ดูแล ตอนนี้หมิวพร้อมแล้วที่จะคบกับที่ต้อม และล่าสุดพี่ต้อมถามพี่นกว่าทำไมเฉยเมยจังช่วงนี้ จะปล่อยพี่ต้อมไปจริงจริงหรอ...พี่เราไม่ตอบ (เพราะที่ผ่านมาที่พี่เรายังอยู่แบบมีความหวังลมๆแล้งๆ เพราะพี่ต้อมพูดเสมอว่า เทออยู่ส่วนของเทอ และอย่าคิดพูคำว่าเลิก ไม่มีวัน เขาเป็นผู้ชายอยากใช้ชีวิตโสดให้คุ้มค่า เวลามีครอบครัวจะได้รักครอบครัวได้เต็มที่) ผ่านมาเมื่อวานนนี้เอง พี่เราบอกว่า ไปเจออยู่ในห้องด้วยกัน...สรุปอีกที...ตอนนี้...พี่ต้อมเป็นสามีน้องหมิว...พี่ปุ๊เป็นแฟนเก่าพี่ต้อม...พี่นกเป็นแฟนพี่ต้อม...แล้วน้องหมิวกับพี่นกเป็นอะไรกัน...แต่ตอนนี้ แป้งเป็นบ้าไปแล้วค่ะ
เราว่าเรื่องมาถึงทางออกแล้วล่ะ แต่ที่เราว่าตั้งกระทู้วันนี้ เพราะ เราเหนื่อยแทน เพื่อนๆคิดดูว่า เรารับรู้ทุกเหตุการณ์ เราฟังมาตลอด อาจถามว่าฟังเฉยๆหรอ ไม่เห็นมีตอนให้คำแนะนำเลย จะบอกว่านี่คือเหตุผลที่มาตั้งกระทู้ค่ะ คือ เราให้นำแนะนำไปเยอะมาก และคิดว่าคำแนะนำของเราเป็นคำแนะนำที่ถูกต้องนะ แต่ไม่เคยมีคำแนะนำไหนที่พี่เราเอาไปใช้เลย คือ เรารับฟัง เราเครียด บางครั้งเราอินจนนอนไม่หลับ บางครั้งเราอยากโทร.ไปถามพี่ต้อมว่าทำไมทำแบบนี้ต้องการอะไร บางครั้งอยากไปหาแล้วนั่งเป็นเพื่อน บางครั้งอยากให้ย้ายที่ทำงาน คือเราฟังเรื่องราว ฟังปัญหา แต่เราระบายไม่ได้ เราด่าพี่ต้อมพี่เราก็ปกป้อง เราด่าพี่เรา พี่เราก็ร้องไห้บอกว่าใช่พี่ผิดเอง อ้าวห่า เครียดเพิ่มอีก เราจะด่าพี่ปุ๊ พี่ปุ๊ก็ไม่เกี่ยว เราจะด่าน้องหมิว น้องก็ไม่ผิด คนเรามันได้รับความรัก ได้รับการดูแลเป็นใครก็ใจอ่อน เราเล่าให้เพื่อนสนิทเราฟัง ว่าพี่เราเจอคนแบบนี้ว่ะ เพื่อนเราก็เครียด อินไปอีก สรุป เครียดตามกันไปหมด
คือ แป้งเกิดคำถามค่ะช่วยวิเคราะห์และตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวหน่อยนะค่ะ
-พี่ต้อมไปบ้านพี่นกวันแม่ที่ผ่านมา ทำไม
-พี่ต้อมเป็นผู้ใหญ่แล้วมีการงาน มีหน้ามีตา มีเกียรติ ทำไมทำแบบนี้กับผู้หญิง
-พี่ต้อมเป็นคนอย่างงไร ทำไมเจ้าชู้แบบนี้
-ถ้าพี่ต้อมเลว แล้วทำไมจีบดูแลแฟน เอาใจใส่ดี เหมือนเป็นแฟนที่ดีที่ผู้หญิงฝันหา
อยากขอความเห็นกับคำแนะนำ...ถ้าคุณเป็นพี่นก คุณจะทำอย่างไร...ถ้าคุณเป็นน้องหมิว คุณจะทำอย่างไร
นี่เป็นกระทู้แรกและคงกระทู้เดียว มีข้อสงสัย อ่านแล้ว วกวน เยิ่ยเย้อ ไม่เข้าใจ หรือข้อมูลไม่พอตรงไหน ถามได้ และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ คือ เครียดค่ะ อยากมาให้แบ่ง ความคับข้องใจ...จาก ผู้รับฟังที่ดี
ฉันเป็นแฟนเขา เธอเป็นสามีเขา แล้วเราเป็นอะไรกัน
...ปกติเคยอ่านแต่กระทู้และดูความคิดเห็นนะค่ะ วันนี้เรามีเรื่องที่พบเจอมาเล่าสู่กันฟัง เราเห็นใจ อึดอัด และไม่รู้จะแก้ปัญหาของคนอื่นยังไง เลยมาเล่าสู่เพื่อนๆฟัง...
เราชื่อ แป้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตความรักของพี่สาวคนสนิทเรา ชื่อ พี่นก คือ เราอยู่บ้านตรงข้ามกันโตและเรียนประถม มัธยมมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก พึ่งมาแยกกันเรียนตอนมหาลัย แต่ก็ติดต่อเป็นห่วง ช่วยเหลือกันมาตลอด ก็ถือว่าสนิทและไว้ใจกันมากคะ เราก็เลยได้รู้ชีวิต ความเคลื่อนไหว และเหตุการณ์ในชีวิตพี่นกอยู่เสมอ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งว่า ทำไมเราต้องมานั่งเดือดร้อนกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่นด้วยนะค่ะ
เราสองคนเป็นเด็กต่างจังหวัดคะ เกิดและโตที่ภาคอีสาน แต่แป้งมาเรียนที่กรุงเทพมหานคร แต่พี่นกเรียนที่มหาลัยแถวบ้าน เรื่องนี้เริ่มต้นจากที่ว่าพี่นกเรียนจบและได้เข้ามาทำงานที่กรุงเทพมหานคร รับราชการครูคะ เราก็ถามข่าวกันตลอด แต่ไม่ได้พักอยู่ใกล้กัน จนวันนึง ถึงวันเกิดพี่นก แป้งก็ไปอวยพรใน facebook ปกติ แต่บังเอิญเลื่อนดู เห็นลงรูปพี่นกไปฉลองวันเกิดที่ร้านหมูกะทะกับพี่น้องเขา (บ้านพี่นกมีลูกสาวสามคน พี่นกเป็นลูกคนกลาง ทั้งสามคนมาทำงาน กทม หมด) และนอกจากนั้นมีผู้ชาย เกินมา 1 คน เราก็เริ่มสงสัยและคิดว่า เอาล่ะ พี่สาวเรา เจอเนื้อคู่ที่ทำงานอย่างที่คนแก่แถวบ้านบอกแล้ว เราก็เริ่มดีใจด้วยมากๆแล้วคะ เพราะพี่นกเกิดมายังไม่เคยมีแฟนเลย (เรื่องจริง...สาบานได้) เราก็เลยไปกด like
จากนั้นวันต่อมาพี่นกก็โทร.มาหาเรา แล้วก็เล่าให้ฟังว่ากำลังคบกับพี่ที่ทำงาน ชื่อ พี่ต้อมเป็นครูอยู่โรงเรียนเดียวกัน ที่ยังไม่ได้เล่าให้เราฟังเพราะตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจจะคบ พี่นกก็เล่าประมาณว่า พี่ต้อมมาจีบ แกคุยแบบผู้ใหญ่ ตอนนี้ต่อ ป.โทด้วย แกดูแล เอาใจใส่ และแกเป็นคนต่างจังหวัดมาจากภาคอีสานเหมือนกัน ก็คุยกันรู้เรื่องดี ตอนแรกว่าจะไม่อะไรมาก พอแกดูแล เอาใจใส่ดี ก็เลยคบกัน เพื่อนร่วมงานที่โรงเรียน นักเรียน ก็รู้หมดว่า พี่ต้อมจีบพี่นก และตอนนี้เป็นแฟนกันแล้ว เราก็ดีใจ ยินดี สนับสนุนเต็มที่ อยากให้เปิดใจลองคบใครดู อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้ศึกษากันไปว่าความรักมันเป็นเช่นไร จากนั้นก็ไม่มีอะไร ก็ดีใจกันไป ผ่านมาสักระยะหนึ่ง พี่นกก็เฟสมาหาเราบอกว่า จับได้ว่าพี่ต้อมมีแฟนอยู่แล้ว อยู่ต่างจังหวัด จังหวัดเดียวกับพี่ต้อม คบกันมานานมากแล้ว พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็รู้เรื่อง ผู้หญิงคนนั้นที่งานที่เทศบาล เราก็อ้าว...มีแฟนอยู่แล้วทำไมมาจีบพี่สาวเราเป็นเรื่องเป็นราว จริงจัง ใหญ่โต เปิดเผยขนาดนี้ เราก็ถามว่ารู้ได้ยังไง พี่นกบอกว่าก็ดูโทรศัพท์ เราก็ถามว่า แล้วพี่ต้อมว่ายังไง เค้าบอกว่าก็เป็นเรื่องจริงแล้วบอกว่าเธอก็อยู่ส่วนเธอ เขาก็อยู่ส่วนเขา ไม่เกี่ยวกัน ถ้าจะให้เลือกไม่เลือกหรอก เป็นคนแบบนี้ พ่อแม่ยังบอกไม่ได้ เธอเป็นใคร อย่ามาบอกให้เลือก ไม่ต้องพูดถึงอีกนะ อย่าทำตัวมีปัญหา เราก็เอิ่ม.....แล้วพี่นกว่าไง แกบอกว่าแกไม่รู้จะพูดอะไร เหอะๆ อย่างที่บอกนะค่ะว่า พี่นกไม่เคยมีแฟนเลย ชีวิตแกมีแต่เรียนกับอยู่บ้าน นั่งกินข้าวยังเอาหนังสือมาอ่านด้วยเลยค่ะ แกเป็นเด็กเรียน จิตใจดี ใจเย็น ดีกับทุกคน มองโลกในแง่ดีมาก หรือที่เราชอบว่าแกว่า ทำไมเธอหัวอ่อนจัง มองโลกในแง่ดีแบบนี้อันตรายนะ (เรามองโลกในแง่ร้ายคะ โลกนี้ไม่กลมมันแบนๆเอียงๆแน่นอน 555) ตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ไว้ใจพี่ต้อมอีกเลย จากนั้นก็ถามข่าวเรื่อยๆได้ความว่าแกก็ปลอบใจว่าประมาณว่า ไม่อยากเป็นคนบอกเลิกใคร ตอนนี้โฟกัสเรื่องเรียนต่อ ป.โท ไม่อยากปวดหัว ขอร้องพี่เราว่าเวลาคนเราอยู่ด้วยกันอย่าหาเรื่องให้ไม่สบายได้ไหม พี่เราก็คนดีไง...ไม่สบายใจ แกบอกว่าแกโทหาแฟนพี่ต้อม ชื่อ พี่ปุ๊แล้ว เพื่อจะถามว่าเป็นอะไรกับพี่ต้อม จากนั้นพี่ปุ๊ก็มาถามพี่ต้อมว่าพี่นกเป็นใคร พี่ต้อมบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงาน แอบชอบพี่ต้อมอยู่ พี่สาวเรายืมโทรศัพท์เลยได้เบอร์ไปหาพี่ปุ๊ไม่มีอะไรหรอก จากนั้นพี่สาวเราก็โทร.ไปหาพี่ปุ๊อีกเพื่อจะบอกว่าขอโทษที่ทำให้ทะเลาะกันแล้วก็บอกพี่ปุ๊ว่าคบกับพี่ต้อม พี่ต้อมมาจีบ สองสาวนี่ก็คุยกันแบบดีๆค่ะ เพราะพี่เราไม่ได้โทร.ไปเชิงหาเรื่องแต่โทไปเชิงเล่าให้ฟังและปรึกษากันมากกว่าว่าทำไมเป็นแบบนี้ จากนั้นพี่ปุ๊ก็บอกว่าพี่ต้อมเป็นแบบนี้บ่อยแล้วครั้งนี้ครั้งนี้จะให้โอกาสครั้งสุดท้าย จากนั้นพี่ต้อมก็มาบอกพี่เราห้ามโทไปหาพี่ปุ๊อีก อย่าหาเรื่อง(เราคิดว่าพี่ปุ๊คงยื่นคำขาดว่าให้เลือก แกคงบอกว่าเลือกพี่ปุ๊ แต่ยังคบทั้งสองเลยให้พี่นกเงียบ เราคิดเองนะ) จากนั้นก็เงียบๆกันไป ได้ยินเรื่องใหม่มาว่า พี่ต้อมแอบคุยกับน้อง นักศึกษาฝึกสอน ชื่อน้องหมิว เพราะพี่นกมีรหัส facebook กับรหัสผ่าน line แกเห็นพี่ต้อมเก็บโทรศัพท์ตลอดเวลา ก็เลยเช็ค พอถามก็บอกว่าไม่อะไรน้องมันอัธยาศัยดี คุยสนุก ก็คุยเล่นขำๆกัน น้องมันมีแฟนแล้ว พี่เราเลยโทร.ไปปรึกษาพี่ปุ๊ค่ะ พี่ปุ๊เลยบอกว่าอืมไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ปุ๊ไปเองจัดการกันเองละกัน ประมาณนี้ จากนั้นพี่ปุ๊ก็บอกเลิกพี่ต้อม (ตอนนี้พี่ปุ๊มีแฟนใหม่ไปแล้วค่ะสบายละ) พอพี่ปุ๊บอกเลิกพี่ต้อมก็ถามพี่เราว่า สะใจเธอแล้วสินะ พอใจแล้วละสิ (อ้าว ก็บอกเองว่าไม่อยากบอกเลิกใคร ก็นี่ไง เขาบอกเลิกเธอแล้ว แล้วพี่ฉันผิดใช่ไหม..หึ่ม...)จากนั้นก็รู้สึกว่าจะกลับมาดูแล เอาใจใส่พี่นกมากขึ้น ทำตัวปกติ โทรศัพท์ก็ไม่หวงมาก (แต่แป้งไม่ไว้ใจหรอก หมาเคยกินขี้ ยังไงมันก็ต้องกิน 555)
จากพี่ต้อมเลิกกับพี่ปุ๊สักพัก ก็มาถึงปัจจุบันที่เปิดเทอมมาล่าสุดที่อัดอั้นตันใจตอนนี้มาก พี่นก โทร.มาหาเรา บอกว่าพี่ต้อมคุยกับน้องหมิวแบบจริงจังขึ้น เพราะน้องเลิกกับแฟนแล้ว รู้สึกว่าจะคุยกันมาตลอด เราก็บอกว่าพี่แกคงไม่ชอบคบที่ละคน คงต้องสำรองกันพลาด ผู้ชายคนนี้ไม่โอเคเลย ถอยไหม พี่นกก็บอกว่ารัก ผูกพัน เขาดีกับเรา ดูแลเรา (ตอนไหนว่ะ อันนั้นมันโปรโมชั่นป่ะ หมดโปรแล้วเคยได้ไหม๊)จากนั้นพี่นกมาเล่าให้ฟังว่า ไปเจออยู่ด้วยกันในห้องน้องหมิว แกก็บอกว่าไม่มีอะไร มาอยู่เป็นเพื่อนน้องเฉยๆ มากินข้าว ตอนนั้นตอนกลางวันพี่นกก็บอกว่าตอนนี้เหนื่อยมากไม่อยากคิดอะไรแล้ว และที่เป็นเรื่องตอนนี้ คือ พี่ต้อมยอมรับว่าคุยกับน้องจริงๆ ให้พี่นกอยู่ส่วนของพี่นก และอย่าคิดเอ่ยคำว่าเลิก น้องก็อยู่ส่วนของน้อง อย่าไปวุ่นวายกับเขา ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีอะไร เดี๋ยวน้องก็ฝึกสอนเสร็จก็คงแยกย้ายกันไป วันแม่ที่ผ่านมาต่างคนต่างกับบ้านต่างจังหวัด ได้ข่าวว่า พี่ต้อมแวะไปเที่ยวบ้านพี่นก ไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง ของพี่นก เราก็แบบ เฮ๊ยยยย.... ไปทำไมอ่ะ ผูกมัดกันชัดๆ คือ คนต่างจังหวัดถ้าผู้หญิงพาผู้ชายเข้าบ้านก็ถือว่าคนนี้แหละแฟนแล้วก็จะคาดหวังว่าคงแต่งงานกับคนที่พามาบ้าน พอกลับมาจากบ้านช่วงวันแม่ พี่ต้อมก็มายอมรับว่ากับน้องหมิว เคยมีอะไรกันแล้ว ตั้งนานแล้วตั้งแต่น้องมาฝึกสอนครั้งแรกเทอมก่อน ตอนที่คุยกันแรกๆเลย แล้วน้องหมิวก็มาบอกพี่นกพี่สาวเราว่าจะขอดูแลพี่ต้อมเอง พี่ต้อมอยู่กับหมิวพี่ต้อมมีความสุข ยิ้ม ร่าเริงเป็นตัวของตัวเอง ที่ผ่านมามีแต่หมิวที่ไม่ให้โอกาสพี่ต้อมได้ดูแล ตอนนี้หมิวพร้อมแล้วที่จะคบกับที่ต้อม และล่าสุดพี่ต้อมถามพี่นกว่าทำไมเฉยเมยจังช่วงนี้ จะปล่อยพี่ต้อมไปจริงจริงหรอ...พี่เราไม่ตอบ (เพราะที่ผ่านมาที่พี่เรายังอยู่แบบมีความหวังลมๆแล้งๆ เพราะพี่ต้อมพูดเสมอว่า เทออยู่ส่วนของเทอ และอย่าคิดพูคำว่าเลิก ไม่มีวัน เขาเป็นผู้ชายอยากใช้ชีวิตโสดให้คุ้มค่า เวลามีครอบครัวจะได้รักครอบครัวได้เต็มที่) ผ่านมาเมื่อวานนนี้เอง พี่เราบอกว่า ไปเจออยู่ในห้องด้วยกัน...สรุปอีกที...ตอนนี้...พี่ต้อมเป็นสามีน้องหมิว...พี่ปุ๊เป็นแฟนเก่าพี่ต้อม...พี่นกเป็นแฟนพี่ต้อม...แล้วน้องหมิวกับพี่นกเป็นอะไรกัน...แต่ตอนนี้ แป้งเป็นบ้าไปแล้วค่ะ
เราว่าเรื่องมาถึงทางออกแล้วล่ะ แต่ที่เราว่าตั้งกระทู้วันนี้ เพราะ เราเหนื่อยแทน เพื่อนๆคิดดูว่า เรารับรู้ทุกเหตุการณ์ เราฟังมาตลอด อาจถามว่าฟังเฉยๆหรอ ไม่เห็นมีตอนให้คำแนะนำเลย จะบอกว่านี่คือเหตุผลที่มาตั้งกระทู้ค่ะ คือ เราให้นำแนะนำไปเยอะมาก และคิดว่าคำแนะนำของเราเป็นคำแนะนำที่ถูกต้องนะ แต่ไม่เคยมีคำแนะนำไหนที่พี่เราเอาไปใช้เลย คือ เรารับฟัง เราเครียด บางครั้งเราอินจนนอนไม่หลับ บางครั้งเราอยากโทร.ไปถามพี่ต้อมว่าทำไมทำแบบนี้ต้องการอะไร บางครั้งอยากไปหาแล้วนั่งเป็นเพื่อน บางครั้งอยากให้ย้ายที่ทำงาน คือเราฟังเรื่องราว ฟังปัญหา แต่เราระบายไม่ได้ เราด่าพี่ต้อมพี่เราก็ปกป้อง เราด่าพี่เรา พี่เราก็ร้องไห้บอกว่าใช่พี่ผิดเอง อ้าวห่า เครียดเพิ่มอีก เราจะด่าพี่ปุ๊ พี่ปุ๊ก็ไม่เกี่ยว เราจะด่าน้องหมิว น้องก็ไม่ผิด คนเรามันได้รับความรัก ได้รับการดูแลเป็นใครก็ใจอ่อน เราเล่าให้เพื่อนสนิทเราฟัง ว่าพี่เราเจอคนแบบนี้ว่ะ เพื่อนเราก็เครียด อินไปอีก สรุป เครียดตามกันไปหมด
คือ แป้งเกิดคำถามค่ะช่วยวิเคราะห์และตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวหน่อยนะค่ะ
-พี่ต้อมไปบ้านพี่นกวันแม่ที่ผ่านมา ทำไม
-พี่ต้อมเป็นผู้ใหญ่แล้วมีการงาน มีหน้ามีตา มีเกียรติ ทำไมทำแบบนี้กับผู้หญิง
-พี่ต้อมเป็นคนอย่างงไร ทำไมเจ้าชู้แบบนี้
-ถ้าพี่ต้อมเลว แล้วทำไมจีบดูแลแฟน เอาใจใส่ดี เหมือนเป็นแฟนที่ดีที่ผู้หญิงฝันหา
อยากขอความเห็นกับคำแนะนำ...ถ้าคุณเป็นพี่นก คุณจะทำอย่างไร...ถ้าคุณเป็นน้องหมิว คุณจะทำอย่างไร
นี่เป็นกระทู้แรกและคงกระทู้เดียว มีข้อสงสัย อ่านแล้ว วกวน เยิ่ยเย้อ ไม่เข้าใจ หรือข้อมูลไม่พอตรงไหน ถามได้ และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ คือ เครียดค่ะ อยากมาให้แบ่ง ความคับข้องใจ...จาก ผู้รับฟังที่ดี