เทียบเคียงจาก มิลินทปัญหาจากหมวด ทวินนัง พุทธานัง โลเก อุปปัขชนปัญหา ที่ ๘ ซึ่งตัดมาโดยย่อ
อปิจ มหาราช อีกข้องหนึ่ง ดูกรบพิตรพระราชสมภาร พระองค์จะทรงสวนาการ
ซึ่งเหตุอันสมควร เพื่อจะแสดงกำลังแห่งพระพุทธเจ้าต่อไปดังนี้ เทฺว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ
อุปฺปชฺเชยฺยุ ํ ขอถวายพระพร ถ้าว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒ พระองค์ จะมาบังเกิดตรัส
พร้อมกันในโลกธาตุ ช่วยกันเทศนาโปรดสัตว์โลกทั้งหลาย
มนุษย์หญิงชายจะแตกออกเป็น ๒
ฝ่าย จะวิวาททุ่มเถียงแก่กันด้วยถ้อยคำว่า ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ สมเด็จพระพุทธ-
เจ้าของท่าน สมเด็จพระพุทธเจ้าของเรา บริษัทก็พากันถือเป็นสองฝ่ายไป ดุจอำมาตย์ข้าราชการ
๒ คนอันเป็นข้าเฝ้าสมเด็จบรมกษัตราธิราชเจ้าผู้ประเสริฐตั้งแต่ไว้ต่างพระเนตรพระกรรณ
ให้ปรึกษากิจราชการ และพวกบริวารของอำมาตย์ทั้งสองนั้นก็ถือกันเป็น ๒ พวก ว่าอำมาตย์
คนนี้เป็นเจ้านายท่าน อำมาตย์ผู้นั้นเป็นเจ้านายเรา บริวารก็จะเป็นสองเหล่าไป ยถา ความนี้
มีอุปมาฉันใด เทฺว สมฺพุทฺธา อุปฺปชฺเชยฺยุ ํ สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้า ๒ พระองค์ จะอุบัติเกิด
พร้อมกัน จะช่วยกันสั่งสอนสัตว์โลกในโลกธาตุนี้ บริษัททั้งหลายจะเกิดวิวาทกันว่า สตฺถา
ตุมฺหากํ สตฺถา อมฺหากํ สมเด็จพระบรมครูเจ้าองค์นี้ของท่าน สมเด็จพระบรมครูเจ้าองค์
นั้นของเรา บริษัทจะเป็น ๒ เหล่ากันฉะนี้ จะเกิดวิวาทกัน เอวเมว เมาะ ตถา มีครุวาดัง
ข้าแห่งอำมาตย์ทั้งสอง ฉะนั้น
ฉบับเต็ม
http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=152
จะเห็นว่าด้านบนกล่าวถึงกรณีที่ถ้ามีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น 2 พระองค์จะมีผลร้ายมากกว่าผลดี เนื่องเพราะพระพุทธเจ้าแม้บริสุทธิแต่คนทั้งหลายบางพวกก็ยังมีกิเลสอยู่ ก็จะว่าพระพุทธเจ้าของเรานี้ดีกว่าอีกองค์ เป็นต้น
ซึ่งการปรามาสพระพุทธเจ้านั้นถือว่าเป็นการหาโทษภัยมาให้แก่ตนโดยไม่ต้องสงสัยเลย
ดังนั้นการที่วัดพระธรรมกายสอนว่ามีพระพุทธเจ้าภาคโปรด ภาคปราบ แม้จะสอนว่าแบ่งหน้าที่กันก็ตาม แต่ก็คงมีคนอดคิดตามประสามนุษย์ที่มีกิเลสและมานะไม่ได้ว่า ภาคปราบเก่งกว่าภาคโปรด ดังนี้เป็นต้น อาจทำให้เกิดการแบ่งข้างแบ่งฝ่ายว่าเรานี้เป็นสาวกภาคโปรด เรานี้ภาคปราบ ภาคโปรดเมตตามากกว่าปราบ ฯลฯ
ซึ่งการทีสอนให้มีภาคโปรดภาคปราบนี้ก็ไม่ต่างกับการทำให้พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นพร้อมกัน 2 องค์ เป็นคำสอนที่นำความหายนะมาสู่ลูกศิษย์ นำโทษนำภัยในการปรามาสพระพุทธเจ้ามาสู่ผู้เชื่อในคำสอนแบบนี้ สาธุชนทั้งหลายพึงพิจารณาเองเถอะครับว่าควร"เชื่อ"วัดพระธรรมกาย"ต่อไปหรือไม่
อันตรายของวัดพระธรรมกายกับการแบ่งพระพุทธเจ้าออกเป็น 2 (ภาคโปรด,ปราบ)
อปิจ มหาราช อีกข้องหนึ่ง ดูกรบพิตรพระราชสมภาร พระองค์จะทรงสวนาการ
ซึ่งเหตุอันสมควร เพื่อจะแสดงกำลังแห่งพระพุทธเจ้าต่อไปดังนี้ เทฺว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ
อุปฺปชฺเชยฺยุ ํ ขอถวายพระพร ถ้าว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒ พระองค์ จะมาบังเกิดตรัส
พร้อมกันในโลกธาตุ ช่วยกันเทศนาโปรดสัตว์โลกทั้งหลาย มนุษย์หญิงชายจะแตกออกเป็น ๒
ฝ่าย จะวิวาททุ่มเถียงแก่กันด้วยถ้อยคำว่า ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ สมเด็จพระพุทธ-
เจ้าของท่าน สมเด็จพระพุทธเจ้าของเรา บริษัทก็พากันถือเป็นสองฝ่ายไป ดุจอำมาตย์ข้าราชการ
๒ คนอันเป็นข้าเฝ้าสมเด็จบรมกษัตราธิราชเจ้าผู้ประเสริฐตั้งแต่ไว้ต่างพระเนตรพระกรรณ
ให้ปรึกษากิจราชการ และพวกบริวารของอำมาตย์ทั้งสองนั้นก็ถือกันเป็น ๒ พวก ว่าอำมาตย์
คนนี้เป็นเจ้านายท่าน อำมาตย์ผู้นั้นเป็นเจ้านายเรา บริวารก็จะเป็นสองเหล่าไป ยถา ความนี้
มีอุปมาฉันใด เทฺว สมฺพุทฺธา อุปฺปชฺเชยฺยุ ํ สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้า ๒ พระองค์ จะอุบัติเกิด
พร้อมกัน จะช่วยกันสั่งสอนสัตว์โลกในโลกธาตุนี้ บริษัททั้งหลายจะเกิดวิวาทกันว่า สตฺถา
ตุมฺหากํ สตฺถา อมฺหากํ สมเด็จพระบรมครูเจ้าองค์นี้ของท่าน สมเด็จพระบรมครูเจ้าองค์
นั้นของเรา บริษัทจะเป็น ๒ เหล่ากันฉะนี้ จะเกิดวิวาทกัน เอวเมว เมาะ ตถา มีครุวาดัง
ข้าแห่งอำมาตย์ทั้งสอง ฉะนั้น
ฉบับเต็ม
http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=152
จะเห็นว่าด้านบนกล่าวถึงกรณีที่ถ้ามีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น 2 พระองค์จะมีผลร้ายมากกว่าผลดี เนื่องเพราะพระพุทธเจ้าแม้บริสุทธิแต่คนทั้งหลายบางพวกก็ยังมีกิเลสอยู่ ก็จะว่าพระพุทธเจ้าของเรานี้ดีกว่าอีกองค์ เป็นต้น
ซึ่งการปรามาสพระพุทธเจ้านั้นถือว่าเป็นการหาโทษภัยมาให้แก่ตนโดยไม่ต้องสงสัยเลย
ดังนั้นการที่วัดพระธรรมกายสอนว่ามีพระพุทธเจ้าภาคโปรด ภาคปราบ แม้จะสอนว่าแบ่งหน้าที่กันก็ตาม แต่ก็คงมีคนอดคิดตามประสามนุษย์ที่มีกิเลสและมานะไม่ได้ว่า ภาคปราบเก่งกว่าภาคโปรด ดังนี้เป็นต้น อาจทำให้เกิดการแบ่งข้างแบ่งฝ่ายว่าเรานี้เป็นสาวกภาคโปรด เรานี้ภาคปราบ ภาคโปรดเมตตามากกว่าปราบ ฯลฯ
ซึ่งการทีสอนให้มีภาคโปรดภาคปราบนี้ก็ไม่ต่างกับการทำให้พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นพร้อมกัน 2 องค์ เป็นคำสอนที่นำความหายนะมาสู่ลูกศิษย์ นำโทษนำภัยในการปรามาสพระพุทธเจ้ามาสู่ผู้เชื่อในคำสอนแบบนี้ สาธุชนทั้งหลายพึงพิจารณาเองเถอะครับว่าควร"เชื่อ"วัดพระธรรมกาย"ต่อไปหรือไม่