หิวเป็นบ้าเลย...กว่าจะเสร็จงานก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายแก่ๆ ที่นี้เราจะไปหาข้าวกินที่ไหนนิ
"เดี๋ยวขับรถตามพี่มานะ" พี่ใหญ่ใจดีในทีมงาน ที่เวลางานไม่อยู่แต่เวลาหาอะไรกินนี่มาอย่างไว
"ไปไหนพี่" ผมถามตามมารยาทเพราะรอบนี้มีคนเลี้ยง
"ไปซอยวิภาวดีรังสิต 58 กินข้าวซอยกัน" พี่ใหญ่ใจดีบอกพิกัดมาเรียบร้อย
ผมขับรถเข้ามาในซอยวิภาวดีรังสิต 58 มาทานข้าวซอยทั้งที่ ต้องเข้าซอยถึงจะถูก (เกี่ยวไหม)
ซึ่งสมชื่อเพราะเข้ามาในซอย 58 ถือว่าเข้ามาลึกเหมือนกันขับรถตรงมาหลายโค้งอยู่ แต่ดีที่ไม่ต้องเลี้ยวซอยแยก
ร้านอาจจะหายากนิดนึงเนื่องจากตัวร้านใช้พื้นที่บ้านพักของเจ้าของเอง และป้ายร้านถือว่ามองหาอยากอยู่
เพราะคณะของผมที่ขนาดตามมาติดๆกันยังหลงเลย
“ข้าวซอย” นั้นเห็นว่าชื่อเรียกมาจากการทำเส้นบะหมี่กันสด ๆ ด้วยกระบวนการเอา แป้งข้าวสาลี ไข่ เกลือ น้ำ มาผสมกันแล้วนวด จนเข้ากันดี แล้วรีดให้เป็นแผ่น จากนั้นเอามีดมาซอยแผ่นแป้งให้เป็นเส้น การเอามีดมาซอยนี่แหละคือที่มาของ “ข้าวซอย”
(ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook Phu Sompor)
**ข้าวซอย เดิมทีเป็นอาหารอิสลามนะจ๊ะ จนมีผู้คิดค้นสูตรใส่หมูลงไป และปัจจุบันไม่ต้องพูดถึงมีหลายเมนูมาก
ร้านข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่ามเชียงใหม่ เป็นร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ที่เปิดบริการมากว่า 70 ปี ทุกวันนี้จะมีสาขาอยู่ที่กรุงเทพ และ นนทบุรี
สาขาที่ผมมานี้อยู่ในซอยวิภา 58 ตามที่บอกไปแล้ว ที่จอดรถถือว่าเยอะมาก เพราะถนนในซอยเป็นถนนสองเลนสวนกัน การจอดรถเลยต้องชิดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ซึ่งเลือกได้ตามสบาย
เมื่อเข้ามาในร้านบรรยากาศแรกบอกได้เลย "ร้อน" เพราะมาถึงร้านบ่ายกว่าๆเกือบบ่ายสอง ตัวจะละลายแดดกันเลยทีเดียว
หากแต่นั่งไปสักพักจะรู้สึกเย็นสบายขึ้นจากร่มไม้ภายในร้านที่พอมีลมอ่อนๆพัดมาอยู่บ้าง
โต๊ะที่นี่จะเป็นโต๊ะไม้สักซะส่วนใหญ่แถม ตู้โชว์ กล่องใส่อุปกรณ์ช้อน ตะเกียบ จะเป็นไม้ทั้งสิ้นทำให้ได้บรรยากาศเมืองเหนือ บวกกับร้านที่อยู่ในหมู่บ้าน ไม่ค่อยมีรถสัญจรไปมามากนัก เลยได้ความเงียบสงบเข้ามา
ข้าวซอยเนื้อ - ข้าวซอยหมูกระดูกอ่อน - ข้าวซอยหมูกรอบ - น้ำพริกหนุ่ม - ไส้อั่ว
อันนี้เท่าที่จำได้นะ ที่จริงเต็มโต๊ะบอกเลย แต่ก็ช่วยไม่ได้พวกเรามาอย่างโหย สั่งกันไม่คิดอ่ะ สุดท้ายผมมีต่อด้วยข้าวซอยไก่อีก
พอข้าวซอยมาเสริฟยอมรับเลยว่าไม่มีการชิมใดๆทั้งสิ้น จัดหนักกันทุกคน ดีนะที่เราลองชิมน้ำแกงนิดนึงหลังจากนั้นจัดหนัก ด้วยความที่ไม่เคยไปกินร้านนี้ที่เชียงใหม่ถ้าให้เปรียบเทียบคงไม่ได้ แต่ถือว่าน้ำแกงมีรสชาติไม่จืดชืดเหมือนบางร้านที่เคยไปกิน (ที่ไหนคงไม่บอก)
โดยส่วนตัวนะครับปริมาณกับราคา ถือว่าค้านๆกันนิดหน่อย หรือพวกผมอาจจะสายบุฟเฟ๋ต์ สายโหดที่ทำให้รู้สึกว่ามันดูน้อยไปนิด
แต่ที่โดนใจสุดๆคงหนีไม่พ้นน้ำพริกหนุ่ม ซึ่งร้านนี้บอกเลยรสชาติแซ่บได้ใจ เผ็ดกำลังดี อร่อยมากๆ อร่อยกว่าที่ผมซื้อเป็นของฝากเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ซะอีก ส่วนใครที่ไม่ชอบเผ็ดก็ทานผักแกล้มๆไปเยอะๆหน่อยนะ
สุดท้ายนี้ อันนี้จะเป็นรีวิวหรือเป็นการบ่นแบบเล่าสู่กันฟังหรือเปล่าผมไม่รู้ ก็แล้วแต่พวกท่านเลย แต่ร้านนี้หากอยู่ๆขับรถบนถนนวิภาวดีจากดอนเมืองขาเข้า แล้วนึกถึงช่วงที่หนีแม่ไปเชียงใหม่ หรือพาสาวไปเที่ยวเมืองเหนือ นึกถึงช่วงวัยที่กลุ่มเพื่อนนั่งรถไฟกันทั้งคืนเพื่อไปสัมผัสอาการเย็นๆบนยอดดอย แล้วทันใดนั้นดันหิวขึ้นมา เลี้ยวเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 58 เลยครับ ไม่ผิดหวัง
แต่หากยังไม่สะใจ กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า แล้วเดินทางออกไปเที่ยวเหนือเลยจ๊ะ แนะนำ เนี่ย...หาเวลาไปอยู่เหมือนกัน
[CR] กินเองจ่ายเอง : ร้านข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่ามเชียงใหม่ สาขากรุงเทพ
"เดี๋ยวขับรถตามพี่มานะ" พี่ใหญ่ใจดีในทีมงาน ที่เวลางานไม่อยู่แต่เวลาหาอะไรกินนี่มาอย่างไว
"ไปไหนพี่" ผมถามตามมารยาทเพราะรอบนี้มีคนเลี้ยง
"ไปซอยวิภาวดีรังสิต 58 กินข้าวซอยกัน" พี่ใหญ่ใจดีบอกพิกัดมาเรียบร้อย
ผมขับรถเข้ามาในซอยวิภาวดีรังสิต 58 มาทานข้าวซอยทั้งที่ ต้องเข้าซอยถึงจะถูก (เกี่ยวไหม)
ซึ่งสมชื่อเพราะเข้ามาในซอย 58 ถือว่าเข้ามาลึกเหมือนกันขับรถตรงมาหลายโค้งอยู่ แต่ดีที่ไม่ต้องเลี้ยวซอยแยก
ร้านอาจจะหายากนิดนึงเนื่องจากตัวร้านใช้พื้นที่บ้านพักของเจ้าของเอง และป้ายร้านถือว่ามองหาอยากอยู่
เพราะคณะของผมที่ขนาดตามมาติดๆกันยังหลงเลย
“ข้าวซอย” นั้นเห็นว่าชื่อเรียกมาจากการทำเส้นบะหมี่กันสด ๆ ด้วยกระบวนการเอา แป้งข้าวสาลี ไข่ เกลือ น้ำ มาผสมกันแล้วนวด จนเข้ากันดี แล้วรีดให้เป็นแผ่น จากนั้นเอามีดมาซอยแผ่นแป้งให้เป็นเส้น การเอามีดมาซอยนี่แหละคือที่มาของ “ข้าวซอย”
(ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook Phu Sompor)
**ข้าวซอย เดิมทีเป็นอาหารอิสลามนะจ๊ะ จนมีผู้คิดค้นสูตรใส่หมูลงไป และปัจจุบันไม่ต้องพูดถึงมีหลายเมนูมาก
ร้านข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่ามเชียงใหม่ เป็นร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ที่เปิดบริการมากว่า 70 ปี ทุกวันนี้จะมีสาขาอยู่ที่กรุงเทพ และ นนทบุรี
สาขาที่ผมมานี้อยู่ในซอยวิภา 58 ตามที่บอกไปแล้ว ที่จอดรถถือว่าเยอะมาก เพราะถนนในซอยเป็นถนนสองเลนสวนกัน การจอดรถเลยต้องชิดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ซึ่งเลือกได้ตามสบาย
เมื่อเข้ามาในร้านบรรยากาศแรกบอกได้เลย "ร้อน" เพราะมาถึงร้านบ่ายกว่าๆเกือบบ่ายสอง ตัวจะละลายแดดกันเลยทีเดียว
หากแต่นั่งไปสักพักจะรู้สึกเย็นสบายขึ้นจากร่มไม้ภายในร้านที่พอมีลมอ่อนๆพัดมาอยู่บ้าง
โต๊ะที่นี่จะเป็นโต๊ะไม้สักซะส่วนใหญ่แถม ตู้โชว์ กล่องใส่อุปกรณ์ช้อน ตะเกียบ จะเป็นไม้ทั้งสิ้นทำให้ได้บรรยากาศเมืองเหนือ บวกกับร้านที่อยู่ในหมู่บ้าน ไม่ค่อยมีรถสัญจรไปมามากนัก เลยได้ความเงียบสงบเข้ามา
ข้าวซอยเนื้อ - ข้าวซอยหมูกระดูกอ่อน - ข้าวซอยหมูกรอบ - น้ำพริกหนุ่ม - ไส้อั่ว
อันนี้เท่าที่จำได้นะ ที่จริงเต็มโต๊ะบอกเลย แต่ก็ช่วยไม่ได้พวกเรามาอย่างโหย สั่งกันไม่คิดอ่ะ สุดท้ายผมมีต่อด้วยข้าวซอยไก่อีก
พอข้าวซอยมาเสริฟยอมรับเลยว่าไม่มีการชิมใดๆทั้งสิ้น จัดหนักกันทุกคน ดีนะที่เราลองชิมน้ำแกงนิดนึงหลังจากนั้นจัดหนัก ด้วยความที่ไม่เคยไปกินร้านนี้ที่เชียงใหม่ถ้าให้เปรียบเทียบคงไม่ได้ แต่ถือว่าน้ำแกงมีรสชาติไม่จืดชืดเหมือนบางร้านที่เคยไปกิน (ที่ไหนคงไม่บอก)
โดยส่วนตัวนะครับปริมาณกับราคา ถือว่าค้านๆกันนิดหน่อย หรือพวกผมอาจจะสายบุฟเฟ๋ต์ สายโหดที่ทำให้รู้สึกว่ามันดูน้อยไปนิด
แต่ที่โดนใจสุดๆคงหนีไม่พ้นน้ำพริกหนุ่ม ซึ่งร้านนี้บอกเลยรสชาติแซ่บได้ใจ เผ็ดกำลังดี อร่อยมากๆ อร่อยกว่าที่ผมซื้อเป็นของฝากเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ซะอีก ส่วนใครที่ไม่ชอบเผ็ดก็ทานผักแกล้มๆไปเยอะๆหน่อยนะ
สุดท้ายนี้ อันนี้จะเป็นรีวิวหรือเป็นการบ่นแบบเล่าสู่กันฟังหรือเปล่าผมไม่รู้ ก็แล้วแต่พวกท่านเลย แต่ร้านนี้หากอยู่ๆขับรถบนถนนวิภาวดีจากดอนเมืองขาเข้า แล้วนึกถึงช่วงที่หนีแม่ไปเชียงใหม่ หรือพาสาวไปเที่ยวเมืองเหนือ นึกถึงช่วงวัยที่กลุ่มเพื่อนนั่งรถไฟกันทั้งคืนเพื่อไปสัมผัสอาการเย็นๆบนยอดดอย แล้วทันใดนั้นดันหิวขึ้นมา เลี้ยวเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 58 เลยครับ ไม่ผิดหวัง
แต่หากยังไม่สะใจ กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า แล้วเดินทางออกไปเที่ยวเหนือเลยจ๊ะ แนะนำ เนี่ย...หาเวลาไปอยู่เหมือนกัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น