ปรึกษาเรื่องงานหน่อยนะ T T

สวัสดี ตัวข้าพเจ้ากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงาน เลยไม่รู้จะปรึกษาใครดี ปกติก็ชอบเข้ามาอ่านกระทู้พันทิพ เพื่อไขข้อสงสัยในหลายๆเรื่อง กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ยังไงก็รบกวน ผู้รู้ทุกท่านให้คำแนะนำมา ณ ที่นี้ด้วย

     ก่อนอื่นเลยขอเกริ่นก่อนนะ ข้าพเจ้าเป็น บัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 เดือน ยิ้ม พอจบเดือนแรกก็รีบหางานเลย เพื่อเตรียมหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆเกี่ยวกับการรับปริญญา (จริงๆแล้วทางบ้านไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แถมยังให้ทางเลือกอีกว่า อยากพักผ่อนท่องเที่ยวก่อนหางานทำ หรือ เรียนจบแล้วหางานทำเลย) ด้วยความที่ข้าพเจ้าเป็นลูกคนโต จึงมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่ต้องการหางานทำให้ได้เร็วที่สุด ด้วยดรีกรีเกียรตินิยม (ไม่ได้อวดนะ แต่ที่ได้มาเพราะความพยายามและอดทน) จากมหาลัยรัฐ Top Five จึงทำให้มีโอกาสเลือกงานได้ค่อนข้างสูง ปกติตอนเรียนหนังสือจะชอบทำกิจกรรมมากๆ จะเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ กล้านำเสนอ และชอบทำงานกับคนหลายๆกลุ่ม เพื่อเปิดโลกทัศน์ทางความคิดและทัศนคติให้กับตนเอง ทุกๆปิดเทอมจะต้องหางานทำ หรือไม่ก็ฝึกงานตลอด ซึ่งงานที่สนใจคือ งานเกี่ยวกับการพัฒนาคน และงานที่เราเป็นลูกค้า (555+ ขออนุญาตเรียกอย่างนี้นะครับ) แต่ช่วงฝึกงานได้มีโอกาสทำงานด้านพัฒนาคน บอกกงๆชอบมาก ชอบถึงชอบที่สุดเลย พี่สอนงานดีมาก โค-ตะ-ระ จะดีเลย (จริงๆทำงานมาหลายที่ในวัยเรียนก็เจอ พี่สอนงานดีหมด)

    เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ พอเรียนจบข้าพเจ้า ได้หางานประเภทเดิมที่สนใจไว้ คือ งานเกี่ยวกับการพัฒนาคน และงานที่เราเป็นลูกค้า แต่พอดีบังเอิญได้งานที่เราเป็นลูกค้า ก็เลยอยากลองทำดู (เพราะอยากลองอะไรที่ไม่เคยทำ) ตอนสัมภาษณ์ข้าพเจ้าเรียกเงินไม่สูงนะ เพราะข้าพเจ้าให้เหตุผลว่าไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย ถึงแม้เกรดข้าพจะดี แต่ข้าพเจ้ามองว่ามันไม่ใช่ดัชนีชี้วัดว่าข้าพเจ้าจะทำงานได้จริง แต่กลุ่มผู้สัมภาษณ์ (มี 7 คน) บอกว่าจะได้เยอะกว่าที่เรียกไว้ 50% ที่นี้ ตาลุกวาวเลย คิดในใจยังไงก็ได้แน่ๆ โดนแน่ๆ สรุปได้จริงๆ

    ข้าพเจ้าได้งานผ่านทางบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนจะตกลง ข้าพเจ้ากังวลกลัวจะทำงานไม่ได้ เพราะไม่คุ้นชิน แต่ทางบริษัทจัดหางาน แจ้งว่าจะมีการ "on the job training" ข้าพเจ้าก็ใจชื้น เมื่อเข้าสู่เดือนแรกของการทำงานข้าพเจ้าบอกเลย ชีวิตวุ่นอยู่กับการอบรมการสอนงาน (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานของเราโดยตรงเลย) แถมเข้าไปเดือนแรก ตามประสาบัณฑิตจบใหม่หลายท่านคือ มึนๆ งงๆ บางครั้งจะมีพี่เลี้ยงมาสอนงานบ้าง สอนๆ แล้วก็ไปไม่ให้ลงมือทำจริงๆ สอนข้ามไปข้ามมา บอกเลยมึนๆ (เข้าใจเลยว่าทำไมในหลายๆองค์การ จะมีหลักสูตรการเป็นพี่เลี้ยงสอนงานให้พนักงงานอบรม)

     เมื่อเข้าสู่เดือนที่สอง ของจริงก็มา ความร้อนแรงได้ประทุขึ้นครั้งแรกเมื่อพี่เลี้ยง ว๊ากใส่ข้าพเจ้าครับ "ว่าทำไมสอนไม่จำเลย" ด้วยความรู้สึกนึกคิดของตนเองในสภาวะนั้น ก็เถียงขึ้นทันใด "เวลาพี่สอนงานนะ สอนแล้วให้ลงมือทำเลยนะ ข้าพเป็นคนเข้าใจยาก เข้าใจช้า แต่ถ้าทำได้เข้าใจได้ข้าพจะพัฒนาตัวเองได้เร็ว" นี่เป็นการเถียงครั้งแรกและน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย

     หลังจากนั้นมาจนถึงวันนี้ ข้าพเจ้าถูกดุ เกือบทุกวัน เล็กๆน้อยๆก็ดุ ชอบทำเสียง หุย! จิ๊จ๊ะอยู่บ่อยครั้ง พี่เลี้ยงเคยบอกนะว่า ถ้าไม่มั่นใจ ไม่เข้าใจ หรือสงสัยอะไรให้ถาม อย่าคิดเองเออเอง แต่ในความเป็นจริงพอข้าพเจ้าถาม พี่เลี้ยงจะมีอาการ และอารมณ์หงุดหงิดใส่ บางครั้งอยากจะพูดดีก็พูด พอไม่อยากพูดก็ไม่พูด บางครั้งก็พูดด้วยน้ำเสียงข่มๆ และมีภาษากายที่บ่งบอกว่า ตูไม่พอใจนะ! และล่าสุดก็มีบ่นว่าข้าพเจ้าพูดไม่รู้เรื่อง คุยไม่รู้เรื่องไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว คุยกันไม่รู้เรื่อง (พี่สอนงานจะมีลักษณะโทนเสียงและสำเนียงการพูดคล้ายๆ พิธีกรรายการคดีเด็ด **ขออภัยที่พาดพิง) ตอนนี้ข้าพเจ้าบอกเลยสับสนและจิตตกมาก ก็ยังงงอยู่ว่า ถ้าข้าพเจ้าพูดไม่รู้เรื่อง แล้วที่ผ่านมาในชีวิตวัยเรียน ข้าพเจ้าเคยทำงานเป็นดีเจฝึกหัด เป็นประธานนักเรียนพูดหน้าเสาธงทุกเช้า เป็นพิธีกร เป็นนักร้อง/มือกีต้าของโรงเรียน และมหาลัยก็เป็นคนที่รับผิดชอบในการ คิดวิเคราะห์งาน => ผลิตสื่อ => นำเสนอแบบสร้างสรรค์ ที่ผ่านมาไม่มีความหมายเลยใช่ไหม (สาขาที่ข้าพเจ้าเรียนจะแข่งขันเรื่องการนำเสนองานอย่างดุเดือด ใครพูดไม่รู้เรื่อง ตอบคำถามไม่ดีจะได้รับคำชมจากอาจารย์ว่า กินปลาบ้างนะ T T บางครั้งก็โดนอัญเชิญลงจากเวทีทันที)  ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยโดนคำติจากอาจารย์เลย  จะมีบ้างก็แค่เรื่องการวิเคราะห์งานที่อาจจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว

     ตอนนี้บอกกงๆ ข้าพเจ้าสับสน เครียด และล้ามาก (ไม่ท้อนะ/ไม่เคยคิดจะย่อท้อเด็ดขาด) มานั่งคิดทบทวนดู การที่โดนกระทำแบบนี้มันส่งผลเสียต่อตัวข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าเกรงว่าถ้าโดนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ความมั่นใจ และทัศนคติที่มีจะเข้าใกล้ศูนย์ จนอาจจะติดลบไปเลยก็ได้

    ข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวให้ร้ายท่านใด แต่อยากแชร์เรื่องราวเพื่อที่จะให้ท่านผู้รู้หลายๆท่าน เข้ามาแชร์ความคิด เเสดงทัศนคติเพื่อที่ข้าพเจ้าจะนำสิ่งเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปในทิศทางใด

    ปล. จุดอ่อนของข้าพเจ้าคือ เป็นคนเข้าใจช้า/ ภาษาอังกฤษไม่เก่ง (ปัจจุบันกำลังก้มหน้าก้มตา ฝึกทักษะภาษาทั้ง 4 อย่างจริงจัง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่