เพราะชีวิตมีความผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้

***หากบุญกุลมีจริง ถ้าการเล่าเรื่องนี้แล้วทำให้มีคนตระหนักถึงการใช้ชีวิตและมีสติมากขึ้นผมขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดนี้ให้น้องคนนั้น และขอให้เขามีชีวิตที่ดีต่อไป***

เรื่องมีอยู่ว่า ผมคบกันกับแฟนคนนึงมาเป็นเวลาเกือบปี ในครั้งแรกที่เราเจอกันทุกอย่างดูสวยงานไปหมด น้องน่ารัก สดใส เรามีอนาคตที่วางแผนร่วมกัน มีวันพรุ่งนี้ที่เราฝันถึง แต่แล้ว ความสุขที่เราฝันถึงกลับไม่เป็นอย่างที่ฝันเมื่อผมและแฟนไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย

ครั้งแรกที่เราบริจาคเลือดนั้น ผลเลือดของผมปกติดีทุกอย่างแต่แฟนผมไม่ปกติแต่ไม่ทราบเพราะปัญหาการสื่อสารบางอย่าง พอครั้งที่สองผมและแฟนจึงไปบริจาคกันอีก แต่ครั้งนี้ผลเลือดของแฟนผมไม่ปกติ หมอแนะนำให้ตรวจซ้ำเพื่อยืนยัน ในระหว่างการตรวจซ้ำผมนึกขึ้นได้เรื่องแรกเลยคือแฟนเราติดเชื้อ HIV หรือป่าววะ ในระหว่างรอผลเลือดประมาณสองอาทิตย์นั้นผมและแฟนก็แซวเล่นกันตลอด ติดเชื้อรึป่าว เป็นอะไรรึป่าว เคยไปทำอะไรเสี่ยงมาหรือป่าว แฟนผมก็ตอบแบบลังเล และเขาก็พูดว่า ช่างมันเถอะ ถ้าเป็นก็ให้มันเป็นไป ผมก็เริ่มใจไม่ดีแล้วเพราะเห็นแฟนลังเล ระหว่างรอผลสองอาตทิตย์เราก็นอน(นอนเฉยๆไม่ได้มีอะไรกัน)ด้วยกันปกติ ตลอดเวลาที่คบกับแฟนคนนี้เราไม่เคยมีอะไรกันเลย มากที่สุดคือออรัลเซ็กส์ ซึ่งเขาเป็นคนทำให้ผม แต่ผมไม่เคยทำให้เขา ในระหว่างรอผลเลือดใจผมก็ลอยไปแล้วแหละ กังวลอยู่ลึกๆ แต่ภาวะนาว่าให้ไม่มีอะไร

จนวันที่เรามาฟังผลเลือด ซึ่งผมไม่ได้ไปกับแฟน ในเวลาประมาณ 11.00 น. (เขาไปรอผลเลือดตอน 10.30 น.) แฟนผมก็โพสในเฟสบุคทำนองว่าเสียใจที่ผิดพลาดไป ตอนที่ผมได้เห็นข้อความนี้ผมหยุดนิ่ง ไม่เป็นอันทำงานเลย ผมจึงโทรไปบอกเขาว่าอย่าคิดมาก อย่าน้อยใจตัวเอง ให้เข้มแข็งไว้ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในตอนนั้นคือกลัวแฟนคิดสั้น จากนั้นผมจึงพยายามบอกเขาตลอดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันไม่เรื่องที่ร้ายแรงจนทำให้เขาอยู่บนโลกไม่ได้ เขายังใช้ชีวิตต่อไปได้ เพียงแต่ต้องดูแลตัวเองให้ดีเท่านั้นเอง ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับฟัง ไล่ผมออกจากห้องเพราะกลัวว่าผมจะติดเชื้อ มองว่าตัวเองเป็นภาระ มองว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี มีเชื้อโรค ผมก็ไม่ยอมออก จับเข่าคุยกันอธิบายความรู้เรื่องโรคเอดส์ที่ผมมีอยู่ในตอนนั้นให้เขาฟัง และผมก็บอกเขาว่าเราอยู่ด้วยกันได้เพียงแต่ร่วมหลับนอนกันไม่ได้ (ซึ่งปกติก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว) ของใช้บางอย่างอาจจะใช้ร่วมกันไม่ได้ แค่นั้นเอง เขาก็เริ่มเข้าใจและยอมไปตรวจ cd4 ในวันรุ่งขึ้นและจะเข้ารับการรักษาตามปกติ

จากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ สิ่งที่ผมอยากแบ่งปันเพื่อเป็นการเตือนสติเพื่อนๆที่มีโอกาสได้อ่านโพสนี้ว่า
1.การคบใครสักคนไม่ใช่เรื่องตลกขบขัน มันส์กันแล้วจบ มันเป็นเรื่องที่ต้องระวัง ในยุคสมัยแบบนี้ คนติดเชื้อ HIV มีมากมาย รู้หน้าไม่รู้ใจ ก่อนมีอะไรกันควรมีสติ อย่างน้อยก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกัน ถ้าให้ดีกว่านั้นคือจูงมือกันไปตรวจ HIV ก่อนมีอะไรกัน โดยไม่ต้องขวยเขิลว่าเอ้ยแรงไปป่าว ไม่ให้เกียรติกันรึป่าว พอครับ!!! บอกเลย เลิกเอาเหตุผลว่าไม่ให้เกียรติมาอ้าง นี่ยุคไม่ใช้ยุคหิน นี่คือสังคมยุคใหม่ที่มีอันตรายมากมาย ฉะนั้นแล้วทางที่ดีคือตรวจเลือด แต่ถึงแม้ผมเลือดในรอบแรกจะผ่าน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแฟนคุณไม่ติดเชื้อหรือคุณไม่ติดเชื้อ แนะนำให้รอไปอีก 3 เดือนแล้วไปตรวจใหม่ (ข้อมูลตรงนี้ถ้าผิดรบกวนบอกด้วนนะครับ) เพราะบางทีในระยะแรกที่เพิ่งมีเชื้ออาจจะยังไม่ชัดเจน ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดของทีสุดและที่สุด ขอย้ำอีกทีว่าที่สุดของสุดยอดคือการใช้ถุงยางอนามัย แม้แต่เวลาคุณเมาหรือไม่มีสติก็ตาม สิ่งแรกที่คุณควรคิดขึ้นได้ในหัวควรจะเป็นคำว่า "ถุงยางอนามัย" ในเคสนี้ผมถือว่าโชคดีที่ไม่ติดเชื้อ แต่ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและจะไปตรวจเลือดตลอด

2.คนที่ติดเชื้อ HIV ไม่ว่าจะระยะไหนก็แล้วแต่ สิ่งที่คุณต้องมีอันดับแรกคือสติ การคิดโทษตัวเองไม่ใช่ทางออก ยิ่งคุณคิดวนเวียนซ้ำๆโทษตัวเองซ้ำๆมันยิ่งทำให้คุณรู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่ การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยและไม่ควรคิดตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ การที่คุณฆ่าตัวตายไม่ใช่มีแค่คุณคนเดียวที่เสียใจยังมีคนอีกมายมายหลายสิบหลายร้อยไม่ว่าจะเป็น ญาติ พี่น้อง พ่อ แม่ เพื่อนฝูง เหล่านั้นล้วนแต่เสียใจอย่างที่สุด สิ่งที่คุณควรทำเมือรู้ว่าติดเชื้อคือปรึกษาแพทย์ พูดคุยกับแพทย์ขอคำแนะนำเพื่อหาทางออก บอกความจริงกับพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่คุณรู้แล้วท่านจะให้กำลังใจคอยดูแลคุณ นี่แหละจะทำให้คุณมีกำลังใจมากขึ้น หรือคนที่ไม่มีพ่อแม่ก็ไม่ต้องเสียใจไปเพียงแค่คุณเดินออกมาข้างนอกคุณก็จะเห็นคนมากมายที่เขาด้อยโอกาสกว่าคุณ ไม่ว่าจะเป็นคนขอทานที่พิการ คนที่ตามบอด คนหูหนวก คนสติไม่ดี แต่คุณยังมีสมองมีการคิด มีอวัยวะครบทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ เพียงแต่ตอนนี้คุณต้องได้รับการรักษาที่จะยับยั้งเชื้อไม่ให้ลุกลามเพื่อที่คุณจะได้ใช้ชีวิตต่อไป

3.ในฐานะคนไม่ติดเชื้อและเกือบจะติดเชื้อโดยเจอเคสแบบนี้ใกล้ตัวขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมองข้ามแล้ว มันไม่ใช่เรื่องตลกขำขันพูดคุยหยอกล้อกันแล้ว การจะมีชีวิตคู่หรือมีคนรัก หรือกิ๊กกั๊กก็ตามที ให้จำไว้เลยว่าชีวิตคุณ 50ๆ ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ติด ผมก็เป็นคนนึงที่เคยมองข้ามเรื่องนี้ วันเอดส์โลกหรอ โปสเตอร์หรอ โฆษณาหรอ ไม่สนใจหรอ ประกาศไปเถอะ จนถึงวันที่เราได้เข้าใกล้เรื่องนี้จริงๆจึงตระหนักและเห็นความสำคัญ สาเหตุที่คนติดเชื้อเสียใจมากเมื่อได้รู้ว่าตนติดเชื้อเพราะความสุขจากการมีเซ็กส์มันเป็นความสุขแค่ชั่วคราวเพียง 1-30 นาที หรือหนึ่งครั้งหลังจากมีเซ็กส์ หลังจากนั้นถ้าคุณติดเชื้อแล้วนั่นคือความทุกข์ตลอดชีวิต เมื่อเทียบแล้วแน่นอนว่ามันไม่คุ้มกันเลย ในฐานะที่คุณยังไม่ติดเชื้อ ขอให้คุณระมัดระวังมากกว่านี้ มากกว่านี้ กว่านี้ไปอีก เพราะคุณอาจจะไม่โชคดีเหมือนผมก็ได้

ผมอยากจะเตือนว่าให้คุณมีสติในการใช้ชีวิตมากกว่านี้ วันนี้คุณโชคดีที่ได้อ่านโพสนี้ แต่ต่อไปอยู่ที่คุณแล้วว่าจะระมัดระวังมากแค่ไหน อย่ารอให้วันนั้นมาถึงเลย

ขอบคุณที่ตั้งใจอ่าน และหวังว่าอ่านแล้วจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างระมัดระวัง โชคดีครับ "และอย่าลืมว่าถ้าพลาดแล้วคุณแก้ไขไม่ได้แน่นอน"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่