ทำไมวิสัยทัศน์ของคุณสมคิดว่าที่รัฐมนตรีเหมือนลอกความคิดอ.พันศักดิ์มาเลย

ไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดอะไรนะ แต่จากที่เคยฟังเวลาคุณสมคิดพูดในเวทีต่าง เราสะดุดมากเพราะเราเคยฟังมาแล้วจาก อ.พันศักดิ์ อ.พันศักดิ์พุดเรื่องที่คุณสมคิดพุดนานก่อนคุณสมคิดพูด แถมยังเหมือนกันเลย เหมือนกับว่าคุณสมคิดแกลอกแนวคิดมาใช้ เพราะอ. พันศักดิ์แกพูดในกลุ่มที่คนไม่มีมีฟัง
มันอนาคตมากๆ

ถ้าคุณสมคิดแกเอาแนวคิด อ.พันศักดิ์มาใช้จริงๆ รัฐบาลเอา อ.พันศักดิ์มาเป็นรัฐมนตรีไม่ดีกว่าเหรอ เอาคนคิดแนวคิดจริงๆมาเป็นเลยไม่ใช่เอาคนลอกแนวคิดมาต่อยอด

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
http://www.siamintelligence.com/modern-thailand-and-new-identity-of-thailand/

http://www.siamintelligence.com/human-being/
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อย่างเรื่องการรีแบนด์ การท่องเที่ยว อ.พันศักดิ์ พุดนานมากแล้ว แต่พูดแบบให้ชาวบ้านเข้าใจไม่ดูสุภาพเท่าไรแต่รู้เรื่อง



http://www.siamintelligence.com/pansak-on-creative-economy-critics/

เมื่อไอคอนของผู้นำในการบริโภคของโลกปัจจุบันมีสถานะหายไป พวกขับรถบีเอ็มดับบลิว ทำงานในลอนดอนตกงานหมด บริษัทคอมพิวเตอร์ไมโครซอฟท์ แอปเปิ้ลก็ไล่คนออก หมายความว่าตัวอย่างของการบริโภคของความสำเร็จในชีวิตในโลกปัจจุบันมันหาย อย่างประเทศไทยเคยส่งออกสินค้าให้คนทำพวกนี้ เมื่อคนพวกนี้ตกงาน คนทำของขายก็ต้องตกงานไปด้วย

ที่สำคัญคนจีนแย่งคนไปหมดทั้งโลก พรรคคอมมิวนิสต์จีนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ ทำให้คนจีนมีความสามารถในระดับที่ทำให้ประเทศอื่นหมดความหมาย คนจีนมีประสิทธิภาพในทักษะในการทำงานในโรงงานและผลิตอะไรก็ได้ออกมาในราคาที่เหมาะสม

ส่วนไทยเมื่อไม่สามารถผลิตในราคาที่จะแข่งกับจีนได้ คุณต้องใส่อะไรลงไป คุณต้องอยู่ ที่บอกว่าอยากให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต ลงทุนในประเทศ ผลิตในประเทศ บริโภคในประเทศ ก็ต้องทำงานขายของให้ได้ นั่นคืองานสร้างสรรค์ เวลาบอกขายเซ็กซ์คนไม่เข้าใจ ในโลกนี้อาชีพที่เก่าที่สุดคือ อาชีพขายเซ็กซ์ โลกในยุคก่อนอียิปต์ มาซิโดเนีย ไบเซนไทน์ ขายเซ็กซ์กันเป็นเรื่องปกติ รูปแบบของสังคมในศตวรรษที่ 20 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีแพ้ ญี่ปุ่นแพ้ คนพวกนี้ขายความสุขชั่วคราวของเพศสตรี ญี่ปุ่นมีโอเปร่าที่โด่งดังมากเป็นที่ขายผู้หญิง สมัยก่อน ค.ศ.1960 คนจีน-ไทยรวยๆ ไปเที่ยวผู้หญิงที่ไต้หวัน

แต่คอนเซปต์ของเซ็กซ์สมัย นี้ คือ Sen-suality หรือความรู้สึกที่ดีต่อตัวเอง ความรู้สึกดีต่อความปรารถนา และ ความคิดคำนึงต่อความอ่อนไหวทางอารมณ์ ก่อให้เกิดสิ่งที่ตามมามากมาย ทั้งเสื้อผ้า เครื่องหอม เครื่องปรุง อาหารการกิน ซึ่งขายกันอย่างมากมาย เป็นสินค้าชั้นสูง และลงมาเรื่อยๆ ขายกันแหลกโดยเฉพาะอิตาลี และ ตอนนี้สังคมได้พัฒนาและได้ปริญญาเอกไปแล้ว

” จากการขายเซ็กซ์ทางร่างกาย กลายเป็นขายแนวความคิด ความเข้าใจของความรู้สึก เช่น ดอกไม้ขายได้เพราะแสดงถึงความเซ็กซี่ มาจากลักษณะของเนื้อหนัง รูปทรงของผิวของดอกและเฉดสีมาไล่บนเนื้อหนัง หรือถ้าเป็นผ้าคอตตอล ก็ต้องขายเนื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกในการสัมผัสทั้งด้วยตา ร่างกาย ลิ้น และด้วยความคิดคำนึง จึงเป็นการเปลี่ยนวิธีการจากขายร่างกายก็มาขายความคิดคำนึงของความอ่อนไหว ของอารมณ์”

รีแบรนดิ้งท่องเที่ยวไทย

ในประเทศที่มีสังคมยอมรับ ความคิดสร้างสรรค์ ที่มีรากจากความเป็นจริงของมนุษยชาติมักจะประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ มูลค่า (Value Creation) ไม่ใช่สร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) เป็นกระบวนการสร้างมูลค่าทำให้คนอื่นมามองสินค้าและบริการของบริษัทนั้นมี ความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อคนซื้อมองอย่างนั้น ราคาจะมีความสำคัญลำดับรองลงมา สิ่งที่สำคัญลำดับแรก คือ ปฏิสัมพันธ์ในการสื่อสารมูลค่าระหว่างสินค้าและบริการกับตัวเขา

” เมืองไทยหวังว่าญี่ปุ่นจะใช้เราเป็นคนงานอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ไปตลอดชาติ คำถาม เราได้ทำตัวให้ได้อย่างนั้นจริงหรือ เราได้ผลิตนักเรียนอาชีวะให้ได้อย่างนั้นจริงหรือภาวนาไว้ หากเศรษฐกิจโลกยังเหมือนเดิมก็ยังต่อรองเขาได้ แต่บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นก็ชีวิตลำบาก บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นใหญ่ๆก็เจ๊งไปเท่าไหร่แล้ว”

หมายความว่า ไม่ว่าอะไรที่เคยทำระดับที่ 2 และ 3 ของโครงสร้างอุตสาหกรรมของโลกจะอยู่ได้อย่างไร เมื่อระดับที่ 1 พังไป สถานการณ์ รอบโลกบอกเราว่า ไม่ได้ต้องทำ ถ้าบอกขายท่องเที่ยว เมืองไทยไม่อยู่ในเรด้า ท็อป คลาส ของแหล่งท่องเที่ยวในโลก ของไทยสูงกว่าระดับฉิ่งฉับทัวร์มาหน่อย แล้วมีไอ้รูเล็กๆ ที่เป็นระดับสูงนิดๆ ที่ภูเก็ต บ้านราคา 100-200 ล้านบาท แต่ไม่ใช่ภาพพจน์ แบรนดิ้งของเรา

“คุณหันมาถามผมว่าครีเอทีฟ อีโคโนมี ในสัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต้องทำอย่างไร ผมก็บอกว่าต้อง Rebranding หรือปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของเราใหม่ ต้องเปลี่ยนสินทรัพย์ของตัวเอง คือ จุดหมายปลายทางของการเป็นฉิ่งฉับทัวร์เอาออกวางกับพื้น ตัวอย่าง หัวหินถึงเขาตะเกียบ คิดว่าเศรษฐีไทยลงทุนสร้างคอนโดมิเนียม บูติกโฮเต็ล เป็นสินทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 600,000 ล้านบาท ถามว่าหัวหินมีระบบน้ำทิ้งไหม ไม่มี เงิน 600,000 ล้านบาท กางอยู่กลางกองขี้ อายเขา ประเทศนี้เป็นอย่างนี้”

คาใจแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

บอกใหไหมว่ารัฐบาลชุดนี้ทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ (Stimulus Package) ทำไม?

“คำว่า Stimulus หมายความว่า ต้องกระตุ้นให้เกิดโอกาสและทิศทางที่เปลี่ยนทั้งในแง่มูลค่าและสร้างสรรค์ การทำสินทรัพย์ให้มีมูลค่าจะต้องสร้าง ต้องซ่อม วางแผนการใช้เงินใหม่ ทำให้เกิดการจ้างงานแบบต่อเนื่อง ประเทศไทยต้องเปลี่ยนโครงสร้างของสินทรัพย์สำหรับในอนาคต ที่จะอยู่ตรงกลางระหว่างเจ๊กและแขก ไม่งั้นจะทำอย่างไร”

การเปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มสินทรัพย์ให้มีมูลค่าที่เป็นโครงสร้างต้องเป็นหน้าที่ ของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างแรงจูงใจ การลดภาษีอะไรบางอย่างจะช่วยได้

ถ้ากำลังพูดเรื่อง ครีเอทีฟ อีโคโนมี ทุกสัดส่วนขึ้นกับรัฐบาล สังคมขวางกั้น งี่เง่าบัดซบหรือไม่ เช่นการเป็นพ่อครัวในประเทศไทย ถนนสุขุมวิทเต็มไปด้วยเชฟญี่ปุ่น ปรากฏว่าเป็นคนอีสานทั้งนั้นที่เรียนมาจากคนญี่ปุ่นที่มีสังคมใหญ่มากในไทย กุ๊กญี่ปุ่นก็สอนคนอีสานที่มีวิธีการแล่ปลาอยู่แล้ว ผสมกับความรู้ญี่ปุ่นเข้าไป

เกือบ 200 ร้านค้าบนถนนสุขุมวิท เป็นคนอีสานถึง 80% หมายความว่า คุณอยากให้ประเทศไทยเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมา อยากให้มีคนครีเอทีฟอยู่ที่นี่ คุณต้องมีสิ่งแวดล้อมที่ให้คนครีเอทีฟทุกชาติ ทุกสัญชาติมาอยู่ที่นี่แล้ว แล้วมันสร้างสิ่งที่เรียกว่าไดนามิก ที่ทำให้เกิดสินค้าที่เกิดจากเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แล้วเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้านั้นเช่น คนไทยกิน 24 ชั่วโมง เป็นที่รู้กันเลยเมืองไทยเป็น The Biggest Kitchen in the world (ครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก) เมื่อก่อนนี้ฮ่องกงถามหาโจ๊กตอนเที่ยงมันมองหน้าเลยเหมือนดูถูก แต่เดี๋ยวนี้เขาก๊อบปี้กรุงเทพฯมีโจ๊กขายตลอด 24 ชั่วโมง วิธีการเราไม่ต้องใช้เงินในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเลย คุณออกกฎหมายมา ถ้าคุณได้พิสูจน์ว่าคุณเป็นมาสเตอร์เชฟไม่ว่าเป็นอาหารประเภทใดของโลก จะเป็นละตินอเมริกา ยุโรป ที่ใดก็ได้ แล้วมีเงินลงทุนอย่างน้อย 10 ล้านบาทขึ้นไป อยากมาเปิดร้านในไทย ก็ต้องจ้างงานคนไทย 7-8 คน ให้เลยวีซ่า 5 ปี หนังสืออนุญาตการทำงาน ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ 2 ปี ไหบางอย่าง หม้อบางอย่าง เช่น ที่โมร็อกโกมีอะไรที่พิเศษ เชื่อไหมแป๊บเดียวโรงงานเซรามิกไทยก๊อบปี้ได้ พอมาถึงเมืองไทยถ้าอยากยืมเงินก็ให้ยืมเลย รับรองเปิดร้านไม่ถึง 5 ปี กลายเป็นคนอีสานไปเลย สิ่งที่เราได้คือสร้างภาพพจน์ของประเทศไทยเป็น Thailand the best gourmet kitchen of the world (ครัวที่ดีที่สุดของโลก) มีบรรยากาศสบาย มีอาหารที่สุดยอดที่สุด

สรุปคือการลดภาษีเพื่อเก็บภาษี แค่ทำกระบวนการแบบนี้ ฉะนั้น อย่าไปคิดว่าครีเอทีฟเองได้ อย่างลอนดอนมีหมด แขก เจ๊ก ไทย ฝรั่ง หมู หมา กา ไก่อยู่ที่นั้นหมด อาหารเลบานอนที่อร่อยที่สุดยังอยู่ที่ลอนดอนเลย คนก็เชื่อเป็นเมืองที่แพงที่สุดก็ยังกระยิ้มกระสนไป เพราะที่นั้นเป็นศูนย์รวมของแหล่งความคิดสร้างสรรค์ที่ดีที่สุด


สร้างสรรค์ง่ายและยาก

เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นต้องทำ Mapping หรือกำหนดก่อนว่าจะทำอะไร ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก รัฐบาลต้องชี้เป้า เมื่อก่อนมีไหม โรงแรม 5 ดาวที่เกาะช้าง พอรัฐบาลชี้เป้า ก็มีคนไปลงทุนกันที่เกาะช้าง รัฐบาลแค่ลงทุนทำถนนลาดยางมะตอยเท่านั้น

ฉะนั้นอุตสาหกรรมการสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สังคมจะต้องสรุปกับการสร้างสรรค์ ไม่ใช่บอกว่าไอ้นี่ก็ทำได้ ไอ้นั้นก็ทำไม่ได้ แล้วคุณจะไปทำมาหากินยังไง จะไปก๊อบของขายแข่งกับจีนก็ไม่ได้ มันมีทางออก

“เรื่องครีเอทีฟ อีโคโนมี ทั้งง่ายและยาก ง่ายถ้าเกิดเข้าใจก็จะมองทุกสิ่งทุกอย่างออกว่าต้องจะทำอะไรกับมัน ไม่ใช่แค่บอกทำสินค้ามีคุณภาพ พระเจ้าบอกไม่มีอะไรฟรี ทำสินค้าให้ดีต้นทุนก็เพิ่มขึ้น แล้วก็เจ๊งซิ เจ๊งหนักด้วยเพราะลงทุนเยอะ เพราะต้องการสินค้ามีคุณภาพ แต่เหมือนอีกคน ยิ่งอีกคนอยากที่ถุงเงินเยอะกว่า แค่เขาลดราคาลงมา 10% ก็ตายแล้ว”

ตัวอย่างช่องทางของการทำ Creative Economy ที่ประเทศไทยมีศักยภาพ มีบริษัทคอสเมติกของโลก 2-3 ชาติ กำลังขอซื้อสินค้าสปาของไทย นี่คือโอกาสของเรา ชีวิตที่งามโดยคนไทยกำลังเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ เพราะความล้มเหลวของยุโรปกำลังเกิดขึ้น ดีไซเนอร์ ที่เก่งของยุโรปออกแบบแฟชั่น ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์เหมือนกันหมด และบริษัทเฟอร์นิเจอร์ดีๆของยุโรปต้องขายให้จีนไป หมายความว่า เนื้อหาที่จะต่อยอดการสร้างสรรค์ของยุโรปให้มีความหลากหลายออกไปตาย และเมื่อเขาตายก็จะกลายเป็นนักล่าใหม่ของโลก ออกล่าผลงานสร้างสรรค์ดั้งเดิมของคนพื้นเมืองทุกแห่งหน ละติน-อเมริกาก็มีแล้ว เอเชียก็ล่า แอฟริกาอีกหน่อยก็จะล่า แล้วเขาก็จะทำการตลาดใหม่ ตัวแบรนด์สินค้าอาจไม่เปลี่ยนแต่เปลี่ยนคุณภาพและส่วนผสมให้ดีขึ้น

ฉะนั้นการเข้าใจโลกใหม่ ที่กำลังเกิดขึ้นกับเรา ท่ามกลางทุกอย่างที่ล้มเหลว เราจะเอาอะไรเป็นรายได้ งานสร้างสรรค์ ไม่ใช่ก๊อบปี้ฝรั่ง ต้องไทย แต่ใช้องค์ความรู้ของโลกมาสร้างตัวเองให้กลายเป็นสินค้าและบริการ


กระตุ้นสร้างโอกาสลงทุน

คำว่าสร้างประเทศไทยให้เข้มแข็ง ขอให้พิจารณาว่าเข้มแข็งอย่างไร เข้มแข็งไปทำไม เมื่อเข้มแข็งแล้ว จะทำอะไร เป้าคืออะไร รายละเอียดของเป้าเมื่อเทียบกับความเป็นจริงของโลกคืออะไร แผนกระตุ้นเศรษฐกิจไม่สามารถทำได้เหมือนใน ค.ศ. 1930, 1940, 1950, 1960 อีกแล้ว

เพราะทั้งโลกนี้การจ้างงานที่ต่อเนื่องมาจากภาคเอกชน ไม่ได้มาจากภาครัฐ คุณจะต้องไม่กระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้การบริโภคเกิดขึ้น และมีการจ้างงานโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิต การกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้มีการบริโภคทำให้ผู้ผลิตขี้เกียจสันหลังยาว เพราะจะผลิตสินค้าเดิมๆออกมา ไม่คิดทำอะไรใหม่เพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวเอง

” เพราะฉะนั้นต้องให้คำจำกัดความคำว่า Stimulus หรือกระตุ้นใหม่ เป็น Stimulus to Create Change หรือการกระตุ้นเพื่อสร้างโอกาสการลงทุนใหม่”

แต่กระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ต้องมีเป้าที่ชัดเจนก่อน เพื่อให้การลงทุนใหม่ทำให้เกิดการสร้างงาน และค่อยสร้างการบริโภค คนละเรื่องกันนะ ไม่ใช่มาสร้างการบริโภคขึ้นมาก่อน นี่คือเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีเยอรมันไม่เอาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุม G7 ครั้งสุดท้าย

“เรื่องต่อมาอย่าเอาเงินดีตามเงินเน่า สิ่งที่โลกทำกำลังเอาเงินดีไปถมสินทรัพย์ที่เน่า โลกตะวันตกกำลังเอาเงินเราไปไล่ถมหลุมขี้ เพื่อหวังจะกลายเป็นหลุมกุหลาบ เป็นไปไม่ได้ แต่จะต้องสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา ของเราอย่าไปบอกประเทศอื่นก็ทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ มิน่าถึงได้เจ๊งกันไปหมด”

ส่วนทางออกของประเทศไทยคืออะไร คนไทยไม่เข้าใจเนื้อหาจริงๆของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยหรือไม่? คำตอบคือ ใช่ เพราะผู้ประกอบการไทยล้วนแต่รับจ้างทำสินค้ามานาน

” จึงต้องบริหารจัดการพื้นฐานให้มีการสร้างสรรค์มูลค่าหรือ Value Creation ให้ได้ และให้สิทธิประโยชน์ภาคเอกชนให้สามารถสร้างความผิดพลาดได้บ้าง เช่น ลงทุน 1,000 คน ผิดพลาด 300 คน อีก 700 คน รอดก็สำเร็จแล้ว อีก 300 คน ด่าวิ่งไปฟ้อง นสพ.ไทยรัฐ ก็ต้องอดทน ด่ารัฐบาลเป็นเรื่องปกติ แต่พอทำบัญชีสิ้นปีมีรอดตั้ง 700 คน ถือว่าดีชั้นหนึ่งแล้ว”.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่