ก่อนจะเล่าเรื่องแผลในใจที่ยังไม่เคยลืม คือวันนี้เป็นวันเผาของตาเรา แล้วแม่ก็โทรมาบอกว่าให้แต่งชุดดำไปแล้วก็รองเท้าสีดำ เราก็บอกแม่ไปว่ารองเท้าสีดำไม่มีๆมีแต่สีขาว แม่จึงบอกว่างั้นก็ไปซื้อซะ เราเลยบอกว่าไม่เห็นต้องซื้อเลย รองเท้าสีครีมก็ใช้ได้ จะซื้อทำไมให้เปลืองเงิน แม่เราก็พูดว่า

ไปงานศพนะ เราเลยพูดต่อว่า งานศพก็ใส่สีสุภาพไปได้ หลังจากเราพูดจบแม่ก็ด่าว่า ถ้า

พูดจากวนส้นteenอย่างนี้ก็ไม่ต้องไปหรอก เราเลยตัดสายทิ้ง
เพราะความทรงจำในอดีตกลับมา
"ตอนเด็กๆเราเป็นเด็กซื่อมากคิดยังไงก็พูอย่างนั้น มีอยู่วันนึงเรากับพี่ชายทะเลาะกัน ตอนนั้นเราอยู่ประถม พี่เราอยู่ ม.1 พอเราสองคนลงไม้ลงมือกัน แม่เราก็เข้ามาตีเรา แล้วเราเลยถามว่าทำไมไม่ตีพี่บ้าง แม่เราเลยด่าว่าอย่ามาสะเออะ

นี่นะเถียงคำไม่ตกฟาก อีsusนี่ หลังจากที่แม่ด่าคำนี้ออกมาแม่เราก็จับเรากระทืบ แล้วก็เอาหัวเราโขลกกับกำแพง จนเราต้องขอร้องให้ไว้ชีวิต แต่แม่เราก็ไม่ยอมหยุดจนพี่เรามาห้ามแล้วเอาตัวมาบังเราแล้วก็บอกแม่เราว่าพอได้แล้วอย่าทำมันเลย ม๊าจะทำมันทำไม ตอนเราก็ดีใจนะที่คิดว่าพี่เราก็รักเราด้วยเพราะพี่เราพูดไปร้องไห้ไป แต่ตั้งแต่วันนั้นมาเราก็ไม่เคยลืมเหตุการณ์นั้น มันทำให้เราคิดว่าแม่เราไม่เคยรักเราเลย"
พอวันนี้แม่เราพูดแบบนี้อีกเราเลยนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นขึ้นมาจนร้องไห้ไม่หยุดจนถึงตอนนี้ ก็2 ชม.แล้ว คือเราไม่รู้จะทำยังไงดีให้ความรู้สึกแบบนี้หมดไป เราพอจะรู้ตัวนะว่าเราอาจกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้าหรืออาจจะเป็นมานานแล้วก็ได้ เพราะเราเคยคิดจะฆ่าตัวตายบ่อยๆ ตอนนี้เราก็อายุ19แล้ว พยายามนั่งสมาธิ แต่พอกลับมาเจอคำด่าๆเดิม เราก็คิดขึ้นมาอีก
แผลในใจตั้งแต่เด็กจะแก้อย่างไร?
เพราะความทรงจำในอดีตกลับมา
"ตอนเด็กๆเราเป็นเด็กซื่อมากคิดยังไงก็พูอย่างนั้น มีอยู่วันนึงเรากับพี่ชายทะเลาะกัน ตอนนั้นเราอยู่ประถม พี่เราอยู่ ม.1 พอเราสองคนลงไม้ลงมือกัน แม่เราก็เข้ามาตีเรา แล้วเราเลยถามว่าทำไมไม่ตีพี่บ้าง แม่เราเลยด่าว่าอย่ามาสะเออะ
พอวันนี้แม่เราพูดแบบนี้อีกเราเลยนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นขึ้นมาจนร้องไห้ไม่หยุดจนถึงตอนนี้ ก็2 ชม.แล้ว คือเราไม่รู้จะทำยังไงดีให้ความรู้สึกแบบนี้หมดไป เราพอจะรู้ตัวนะว่าเราอาจกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้าหรืออาจจะเป็นมานานแล้วก็ได้ เพราะเราเคยคิดจะฆ่าตัวตายบ่อยๆ ตอนนี้เราก็อายุ19แล้ว พยายามนั่งสมาธิ แต่พอกลับมาเจอคำด่าๆเดิม เราก็คิดขึ้นมาอีก