สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและน้าๆในเว็บพันทิปทุกท่าน และขอสวัสดีผู้ที่หลงใหลและชื่นชอบในการเดินทางทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก(หรือเปล่า)เพราะผมเคยเขียนไว้เมื่อนานมาแล้วเขียนแบบไม่จบเพราะติดปัญหาหลายๆเรื่องรวมทั้งไม่ค่อยจะเข้าใจในการเขียนและเพิ่มข้อมูลลงไปเท่าไหร่ ผมจึงกลับมาเขียนใหม่กะจะให้ไฉไลกว่าเดิม555
เริ่มกันเลยครับ ก่อนอื่นผมต้องขอพูดถึงทะเลตะวันออกในมุมมองของผมก่อนครับ ผมทำงานที่จังหวัดระยอง ชลบุรี ที่ๆผมไปเที่ยวบ่อยที่สุดคือ ทะเล แต่ต้องผิดหวังทุกทีที่ได้เห็น เพราะทะเลส่วนใหญ่เต็มไปด้วยขยะ กลิ่นที่เหม็นและเจอนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยจะมีมารยาทเท่าไหร่นัก กินเหล้าสงเสียงดังรบกวนคนอื่น (อาจจะมีที่สวยๆสงบ ผมไม่ได้เหมารวม หมายถึงที่ผมเคยเห็นครับ) อ้าวว...แล้วมารีวิวทะเลทำไมล่ะ? บางคนเกิดคำถาม และต่อไปนี้ผมจะได้นำคำตอบมาเขียนเรียงร้อยเป็นอักษร พูดซ่ะดูดี เอาเป็นว่าไปเที่ยวด้วยกันเลยดีกว่าครับ ไปกันเล้ยย.....
ทริปนี่เกิดขึ้นจากวันหยุดสองวันที่ไม่มีโอทีทำไปเก็บดองไว้นานมากกก แต่ไม่ได้เขียนเพราะไม่มีข้อมูล จนวันนี้ก็ยังไม่มีข้อมูล ผมไปแบบมั่วๆครับ หยุดงานวันพุธ ตอนเช้าตื่นมาอากาศดีจัง เก็บของใช้นิดหน่อยกล้องก็ไม่ได้ชาร์จ ขับมอไซค์คู่ใจ Wave 110i ไปเรื่อยๆนึกขึ้นได้ว่าไม่มีเพื่อนแวะชวนเพื่อนแป๊บบบ... สรุปเพื่อนไปด้วย เอ่อดีๆๆ ช่วยหารค่าน้ำมันหน่อยครับ อิอิ
ผมพักอยู่อำเภอปลวกแดงในจังหวัดระยองครับใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงขับมาเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมายและแล้วก็มาถึงเขาหมาจอ ชลบุรีแล้ว พอถึงจะมีเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วเรือข้าวฝากไปยังเกาะแสมสาร อ้าวดีจังลองถามดูดีกว่าราคาตั๋วผู้ใหญ่คนล่ะ 300 บาท ครับ ส่วนเด็กน่าจะ 250 บาทครับ ก็บอกแล้วครับ ผมไม่มีข้อมูล
เรือออกเที่ยวแรกเวลา 9.45 น. นี่มัน 9.35 แล้วหนิ ผมนี่ซื้อตั๋วเลยครับ รีบสิครับจะรออะไรกันยุ ไปๆๆ
ขับมอไซค์มาถึงท่าเรือจอดน้อง Wave 110i ไว้ข้างๆร้านกาแฟอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ หมวกกันนงกันน๊อคไม่ได้สนวางแถวๆนั่น วิ่งสุดชีวิตครับ ขอบคุณที่รอพวกเราสองคน...
และแล้ว....ก็มาถึงเรือ เฮ้อ.....เพื่อนผมคนสุดท้ายสะพายเป้สีเขียวน่ะครับดูหน้านี่ไม่ต้องบอก เหนื่อยครับ...
เมื่อเรือออกจากฝั่งสิ่งที่คนขึ้นเรือครั้งแรกอย่างผมสัมผัสได้เลยคือ จะอวก ได้แต่มองไปไกลๆ ที่เห็นนั่นคือเขาหมาจอครับ ถ้ามองทะลุตรงเขานั่นก็จะเป็นหาดน้ำใส หาดน้องใหม่ที่น้ำใสสมชื่อครับ ภาพอาจจะเยอะหน่อยข้อมูลการเดินทางไม่มี มาตามใจตัวเองเลย บอกแล้วไงมามั่วๆ
นั่งเรือมาเรื่อยๆผมเริ่มรู้สึกได้ว่า เอ่อ ทะเลสวยดีจัง น้ำก็ใส สลับกับเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีต้นไม้เขียวขจี มองดูในน้ำ เฮ้ย..ปลานี่หว่าาา นี่มันทะเลใต้ชัดๆ ( ผมมโนไปเองไม่เคยเห็นหรอกทะเลใต้ ) ตอนนี้จากที่ผมเบื่อทะเลมากๆ มันเริ่มมีความรู้สึกแบบใหม่เกิดขึ้นมาในหัวสมองอันน้อยนิดของผมแล้ว รู้สึกว่าตื่นเต้นเหมือนไม่เคยรู้จักทะเลมาก่อนเลย แปลกเนาะ...อิอิ
ในที่สุดก็มาถึงแล้วว...เกาะแสมสาร.....มาถึงจะมีพี่ๆทหารเรือคอยรับเรา และนำไปยังจุดพักครับ หลังจากนั้นก็จะได้ฟังบรรยายเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆบนเกาะ และกฎกติกาในการใช้พื้นที่ครับ...
ภาพแรกที่ก้าวย่างขึ้นจากเรือ มันสวยงามมากๆครับ
นักท่องเที่ยวขึ้นจากเรือเพื่อจุดหมายเดียวกัน พักผ่อน....
สถานที่รับฟังคำบรรยาย ผมรู้สึกชอบที่นี่จังครับ ร่มรื่น เย็นสบาย ตอนรอพี่ๆเจ้าหน้าที่ผมก็หามุมถ่ายภาพไปเรื่อยๆครับ
หลังจากรับฟังคำบรรยายเสร็จ ก็รับชุดชูชีพฟรีครับ มีหลายขนาดเลือกได้ตามใจชอบ และเช่าหน้ากากดำน้ำ ราคาอันล่ะ 50 บาทครับผม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มบางคนที่ไม่เข้าใจหรืออาจจะได้รับข้อมูลจากที่ไหนมาก็ไม่รู้ มาโวยใส่พี่ๆเจ้าหน้าที่ทหารว่าจ่ายตังค์แล้วต้องได้ฟรีทั้งหมดสิ มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งครับพี่ๆเจ้าหน้าที่เค้ารับหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายมา อย่าไปว่าเค้าน่ะเข้าไม่รู้เรื่องด้วย
เมื่อทุกคนพร้อมรอฟังสัญญาณจากพี่ๆเจ้าหน้าที่ จะบอกวิธีใช้เสื้อชูชีพและหน้ากากครับ วันนี้ผมไปน้ำลงพอดีครับ ใครได้เรียนดาราศาสตร์คงจะรู้น้ำขึ้นน้ำลง พี่ๆเจ้าหน้าที่บอกว่าประมาณ 11 โมง น้ำถึงจะขึ้นรออีกนิดเพื่อไปดำดูปะการังและปลาครับ เอ้อ..ผมลืมบอกกิจกรรมทุกกิจกรรมบนเกาะต้องลงชื่อก่อนครับ เพราะจะมีพี่ๆเจ้าหน้าที่จะพาไปครับ เสร็จแล้วก็นั่งรอครับ เช็คอุปกรณ์...
ระหว่ารอ...ก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ สวยๆทั้งนั้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพมากครับ.
เพื่อนผมเอง นายแบบของทริปนี้เลยครับ
ทะเลสวยมากครับ
มีหลายมุมให้เลือกพักผ่อน
ทุกอย่างพร้อมก็ลงเรื่อไปกันเล้ยยย
นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนครับผม คนไทยแทบไม่มี อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุดเสาร์ อาทิตย์มั้งครับ
ใช้เวลาเดินนั่งเรือประมาณ 15 นาทีก็มาถึงจุดสำหรับดำน้ำครับ น้ำใสม๊ากๆ ตอนนี้น้ำขึ้นแล้วครับประมาณ 11 น. นิดๆ แต่.....เดี๋ยวก่อนสิ่งที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นที่สุดก็คือออ......แทน แท่น แท๊น.....ปลาเต็มไปหมดครับ น้ำใสสะอาดมากๆ มองเห็นพื้นทรายขาวเนียนและปะการังเต็มไปหมด...
ผมไม่รอช้าที่จะหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพเลยครับ ไหนๆก็ได้แท็กห้องกล้องแล้ว ผมเดินทางไปกับกล้อง Nikon D3100 ถือว่าเป็นกล้องDSLR ตัวแรกในชีวิต โคตรเก่ามาก ซึ่งได้มาจากร้านโรงจำนำแห่งหนึ่งพร้อมเลนส์คิท 18-55 ครับ ทริปนี้ผมมีเลนส์สองตัว คือ Kit 18-55 กับ Fix 50mm F1.8G ใช้งานจริงผมถ่ายเลนส์ 50mm ไม่ถึง 20 ภาพด้วยซ้ำครับ อึดอัด ผมใช้ Kit 18-55 เกือบทั้งหมดครับ ฟิวเตอร์ CP L ไม่มี เพราะไม่มีตังค์ซื้อครับ อาศัยสีฟ้าจากท้องฟ้าและมุมที่น้ำไม่สะท้อนเอาครับ เก็บภาพเสร็จเอากล้องฝากไว้กับเพื่อนบนเรือ โดดลงน้ำแบบไม่คิดชีวิต กินน้ำทะเลไปหลายอึกพอควร เฮ้ออ ลืมจนขาดสติ ไม่ได้ใส่หน้ากาก...
รอบๆตัวผมมีแต่ปลาเล็กปลาน้อยเต็มไปหมดครับ ณ จุดๆนี้ผมล่ะอิจฉาคนมีกล้องถ่ายใต้น้ำจัง อยากเก็บภาพนี้ไว้ ปลาเยอะพอควรครับ
เม่นทะเลก็เยอะ ปะการังก็สวยงามครับ ถึงจะไม่หลากหลายพันธ์ก็ตาม แต่ผมนี่ปลื้มสุดๆครับ
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครับบ
หลังจากดำน้ำเสร็จใช้เวลาประมาณ 30 นาทีครับ ก็เตรียมตัวกลับไปยังเกาะแสมสารเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆต่อ ไปด้วยกันเลยครับ
เมื่อเรือพร้อมคนพร้อมก็กลับกันครับ...
พี่ทหารเรือครับ เป็นผู้ที่เราฝากชีวิตไว้....
ที่นี่ประเทศไทย This is Thailand.
หลังจากดำน้ำดูปะการังเสร็จแล้วพอถึงฝั่งผมกับเพื่อนก็รีบไปลงชื่อกับพี่ๆเจ้าหน้าที่เพื่อทำกิจกรรมต่อไปครับ นั่นคือกิจกรรมเดินป่าครับ แต่เราต้องรอเจ้าหน้าที่พาไป ระหว่างรอก็เก็บภาพไปเรื่อยๆครับ ภาพเยอะมากๆเพราะมีแต่ที่สวยๆทั้งนั่นเลย
เมื่อลงชื่อเดินป่ากับเจ้าหน้าที่เสร็จแล้ว ถึงเวลาจะมีพี่เจ้าหน้าที่เรียกว่าดูเส้นทางและแนะนำกฎกติกาต่างๆในการใช้สถานที่พอเสร็จจะมีรถมารับไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ...GO GO.
กิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติในครั้งนี้มีพี่เจ้าหน้าที่สองท่าน ผมกับเพื่อนสองคนและมีกลุ่มน้องๆนักศึกษาน่าจะมาจาก ม.เกษตร ศรีราชา ประมาณ 4 คน รวมทั้งหมดก็ไปกัน 8 คน ทำให้การเดินทางไม่เงียบเหงาเพราะน้องๆนักศึกษากลุ่มนี้แหละเฮฮากันตลอดการเดินทางครับ
เมื่อเดินทางมาเรื่อยๆ ไม่ทราบระยะทางรู้อย่างเดียวว่าเหนื่อยมาก แต่สิ่งที่พี่เจ้าหน้าที่พูดขึ้นมาก็คือที่ๆอยู่ข้างหน้าคือจุดที่สมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงขึ้นมาโดยพระองค์เอง โอโห ไกลขนาดนี่น่ะ และแล้วก็ถึงจุดแรก สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำรู้สึกว่าความเหนื่อยจะกลายเป็นสิ่งที่สนุกขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นทะเลแบบพานอรามา 360 องศา นึกว่าอยู่อีกโลกหนึ่ง มันสุดยอดด
จุดที่สมเด็จพระเทพฯท่านได้ทรงปักหมุดไว้ครับเพื่อให้กองทัพเรือป้องกันประเทศ
พักเหนื่อยแป๊บๆๆ
หลังจากพักเหนื่อยเสร็จแล้วก็เดินทางกันต่อครับระยะทางไม่รู้ เจ้าหน้าที่บอกแต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาครับ รู้แต่ว่าบนยอดเขาอีกลูกข้างหน้าโน่นน
ตามพวกผมไปเลยครับ
เดินมาเรื่อยๆ เหนื่อยมาก ถึงยอดเขาแล้ว เย้ๆๆ ภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมันเริ่มผุดขึ้นมาเรื่อยๆช่างเป็นภาพที่สวยงามมากครับ ทะเลสองสีแห่งตะวันออก ท้องฟ้าสีคราม มองเห็นเรือเล็กใหญ่สลับกัน ลมเย็นๆมันดูแล้วมีความสุขมากครับ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วทะเลที่สมบูรณ์แบบนี้
คุ้มค่ากับเหงื่อที่เสียไปจริงๆครับ
ชมภาพเรื่อยๆครับ
น้องๆนักศึกษาครับ ส้รางเสียงเฮฮาตลอดการเดินทาง แต่คงหมดแรงแล้ว
ตอน 2 ครับผม
http://pantip.com/topic/34077264
[CR] แ ส ม ส า ร ... ทะเลที่งดงามดั่งสวรรค์ที่ไม่ไปไม่รู้ ตอน 1
เริ่มกันเลยครับ ก่อนอื่นผมต้องขอพูดถึงทะเลตะวันออกในมุมมองของผมก่อนครับ ผมทำงานที่จังหวัดระยอง ชลบุรี ที่ๆผมไปเที่ยวบ่อยที่สุดคือ ทะเล แต่ต้องผิดหวังทุกทีที่ได้เห็น เพราะทะเลส่วนใหญ่เต็มไปด้วยขยะ กลิ่นที่เหม็นและเจอนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยจะมีมารยาทเท่าไหร่นัก กินเหล้าสงเสียงดังรบกวนคนอื่น (อาจจะมีที่สวยๆสงบ ผมไม่ได้เหมารวม หมายถึงที่ผมเคยเห็นครับ) อ้าวว...แล้วมารีวิวทะเลทำไมล่ะ? บางคนเกิดคำถาม และต่อไปนี้ผมจะได้นำคำตอบมาเขียนเรียงร้อยเป็นอักษร พูดซ่ะดูดี เอาเป็นว่าไปเที่ยวด้วยกันเลยดีกว่าครับ ไปกันเล้ยย.....
ทริปนี่เกิดขึ้นจากวันหยุดสองวันที่ไม่มีโอทีทำไปเก็บดองไว้นานมากกก แต่ไม่ได้เขียนเพราะไม่มีข้อมูล จนวันนี้ก็ยังไม่มีข้อมูล ผมไปแบบมั่วๆครับ หยุดงานวันพุธ ตอนเช้าตื่นมาอากาศดีจัง เก็บของใช้นิดหน่อยกล้องก็ไม่ได้ชาร์จ ขับมอไซค์คู่ใจ Wave 110i ไปเรื่อยๆนึกขึ้นได้ว่าไม่มีเพื่อนแวะชวนเพื่อนแป๊บบบ... สรุปเพื่อนไปด้วย เอ่อดีๆๆ ช่วยหารค่าน้ำมันหน่อยครับ อิอิ
ผมพักอยู่อำเภอปลวกแดงในจังหวัดระยองครับใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงขับมาเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมายและแล้วก็มาถึงเขาหมาจอ ชลบุรีแล้ว พอถึงจะมีเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วเรือข้าวฝากไปยังเกาะแสมสาร อ้าวดีจังลองถามดูดีกว่าราคาตั๋วผู้ใหญ่คนล่ะ 300 บาท ครับ ส่วนเด็กน่าจะ 250 บาทครับ ก็บอกแล้วครับ ผมไม่มีข้อมูล
เรือออกเที่ยวแรกเวลา 9.45 น. นี่มัน 9.35 แล้วหนิ ผมนี่ซื้อตั๋วเลยครับ รีบสิครับจะรออะไรกันยุ ไปๆๆ
ขับมอไซค์มาถึงท่าเรือจอดน้อง Wave 110i ไว้ข้างๆร้านกาแฟอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ หมวกกันนงกันน๊อคไม่ได้สนวางแถวๆนั่น วิ่งสุดชีวิตครับ ขอบคุณที่รอพวกเราสองคน...
และแล้ว....ก็มาถึงเรือ เฮ้อ.....เพื่อนผมคนสุดท้ายสะพายเป้สีเขียวน่ะครับดูหน้านี่ไม่ต้องบอก เหนื่อยครับ...
เมื่อเรือออกจากฝั่งสิ่งที่คนขึ้นเรือครั้งแรกอย่างผมสัมผัสได้เลยคือ จะอวก ได้แต่มองไปไกลๆ ที่เห็นนั่นคือเขาหมาจอครับ ถ้ามองทะลุตรงเขานั่นก็จะเป็นหาดน้ำใส หาดน้องใหม่ที่น้ำใสสมชื่อครับ ภาพอาจจะเยอะหน่อยข้อมูลการเดินทางไม่มี มาตามใจตัวเองเลย บอกแล้วไงมามั่วๆ
นั่งเรือมาเรื่อยๆผมเริ่มรู้สึกได้ว่า เอ่อ ทะเลสวยดีจัง น้ำก็ใส สลับกับเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีต้นไม้เขียวขจี มองดูในน้ำ เฮ้ย..ปลานี่หว่าาา นี่มันทะเลใต้ชัดๆ ( ผมมโนไปเองไม่เคยเห็นหรอกทะเลใต้ ) ตอนนี้จากที่ผมเบื่อทะเลมากๆ มันเริ่มมีความรู้สึกแบบใหม่เกิดขึ้นมาในหัวสมองอันน้อยนิดของผมแล้ว รู้สึกว่าตื่นเต้นเหมือนไม่เคยรู้จักทะเลมาก่อนเลย แปลกเนาะ...อิอิ
ในที่สุดก็มาถึงแล้วว...เกาะแสมสาร.....มาถึงจะมีพี่ๆทหารเรือคอยรับเรา และนำไปยังจุดพักครับ หลังจากนั้นก็จะได้ฟังบรรยายเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆบนเกาะ และกฎกติกาในการใช้พื้นที่ครับ...
ภาพแรกที่ก้าวย่างขึ้นจากเรือ มันสวยงามมากๆครับ
นักท่องเที่ยวขึ้นจากเรือเพื่อจุดหมายเดียวกัน พักผ่อน....
สถานที่รับฟังคำบรรยาย ผมรู้สึกชอบที่นี่จังครับ ร่มรื่น เย็นสบาย ตอนรอพี่ๆเจ้าหน้าที่ผมก็หามุมถ่ายภาพไปเรื่อยๆครับ
หลังจากรับฟังคำบรรยายเสร็จ ก็รับชุดชูชีพฟรีครับ มีหลายขนาดเลือกได้ตามใจชอบ และเช่าหน้ากากดำน้ำ ราคาอันล่ะ 50 บาทครับผม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มบางคนที่ไม่เข้าใจหรืออาจจะได้รับข้อมูลจากที่ไหนมาก็ไม่รู้ มาโวยใส่พี่ๆเจ้าหน้าที่ทหารว่าจ่ายตังค์แล้วต้องได้ฟรีทั้งหมดสิ มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งครับพี่ๆเจ้าหน้าที่เค้ารับหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายมา อย่าไปว่าเค้าน่ะเข้าไม่รู้เรื่องด้วย
เมื่อทุกคนพร้อมรอฟังสัญญาณจากพี่ๆเจ้าหน้าที่ จะบอกวิธีใช้เสื้อชูชีพและหน้ากากครับ วันนี้ผมไปน้ำลงพอดีครับ ใครได้เรียนดาราศาสตร์คงจะรู้น้ำขึ้นน้ำลง พี่ๆเจ้าหน้าที่บอกว่าประมาณ 11 โมง น้ำถึงจะขึ้นรออีกนิดเพื่อไปดำดูปะการังและปลาครับ เอ้อ..ผมลืมบอกกิจกรรมทุกกิจกรรมบนเกาะต้องลงชื่อก่อนครับ เพราะจะมีพี่ๆเจ้าหน้าที่จะพาไปครับ เสร็จแล้วก็นั่งรอครับ เช็คอุปกรณ์...
ระหว่ารอ...ก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ สวยๆทั้งนั้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพมากครับ.
เพื่อนผมเอง นายแบบของทริปนี้เลยครับ
ทะเลสวยมากครับ
มีหลายมุมให้เลือกพักผ่อน
ทุกอย่างพร้อมก็ลงเรื่อไปกันเล้ยยย
นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนครับผม คนไทยแทบไม่มี อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุดเสาร์ อาทิตย์มั้งครับ
ใช้เวลาเดินนั่งเรือประมาณ 15 นาทีก็มาถึงจุดสำหรับดำน้ำครับ น้ำใสม๊ากๆ ตอนนี้น้ำขึ้นแล้วครับประมาณ 11 น. นิดๆ แต่.....เดี๋ยวก่อนสิ่งที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นที่สุดก็คือออ......แทน แท่น แท๊น.....ปลาเต็มไปหมดครับ น้ำใสสะอาดมากๆ มองเห็นพื้นทรายขาวเนียนและปะการังเต็มไปหมด...
ผมไม่รอช้าที่จะหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพเลยครับ ไหนๆก็ได้แท็กห้องกล้องแล้ว ผมเดินทางไปกับกล้อง Nikon D3100 ถือว่าเป็นกล้องDSLR ตัวแรกในชีวิต โคตรเก่ามาก ซึ่งได้มาจากร้านโรงจำนำแห่งหนึ่งพร้อมเลนส์คิท 18-55 ครับ ทริปนี้ผมมีเลนส์สองตัว คือ Kit 18-55 กับ Fix 50mm F1.8G ใช้งานจริงผมถ่ายเลนส์ 50mm ไม่ถึง 20 ภาพด้วยซ้ำครับ อึดอัด ผมใช้ Kit 18-55 เกือบทั้งหมดครับ ฟิวเตอร์ CP L ไม่มี เพราะไม่มีตังค์ซื้อครับ อาศัยสีฟ้าจากท้องฟ้าและมุมที่น้ำไม่สะท้อนเอาครับ เก็บภาพเสร็จเอากล้องฝากไว้กับเพื่อนบนเรือ โดดลงน้ำแบบไม่คิดชีวิต กินน้ำทะเลไปหลายอึกพอควร เฮ้ออ ลืมจนขาดสติ ไม่ได้ใส่หน้ากาก...
รอบๆตัวผมมีแต่ปลาเล็กปลาน้อยเต็มไปหมดครับ ณ จุดๆนี้ผมล่ะอิจฉาคนมีกล้องถ่ายใต้น้ำจัง อยากเก็บภาพนี้ไว้ ปลาเยอะพอควรครับ
เม่นทะเลก็เยอะ ปะการังก็สวยงามครับ ถึงจะไม่หลากหลายพันธ์ก็ตาม แต่ผมนี่ปลื้มสุดๆครับ
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครับบ
หลังจากดำน้ำเสร็จใช้เวลาประมาณ 30 นาทีครับ ก็เตรียมตัวกลับไปยังเกาะแสมสารเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆต่อ ไปด้วยกันเลยครับ
เมื่อเรือพร้อมคนพร้อมก็กลับกันครับ...
พี่ทหารเรือครับ เป็นผู้ที่เราฝากชีวิตไว้....
ที่นี่ประเทศไทย This is Thailand.
หลังจากดำน้ำดูปะการังเสร็จแล้วพอถึงฝั่งผมกับเพื่อนก็รีบไปลงชื่อกับพี่ๆเจ้าหน้าที่เพื่อทำกิจกรรมต่อไปครับ นั่นคือกิจกรรมเดินป่าครับ แต่เราต้องรอเจ้าหน้าที่พาไป ระหว่างรอก็เก็บภาพไปเรื่อยๆครับ ภาพเยอะมากๆเพราะมีแต่ที่สวยๆทั้งนั่นเลย
เมื่อลงชื่อเดินป่ากับเจ้าหน้าที่เสร็จแล้ว ถึงเวลาจะมีพี่เจ้าหน้าที่เรียกว่าดูเส้นทางและแนะนำกฎกติกาต่างๆในการใช้สถานที่พอเสร็จจะมีรถมารับไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติ...GO GO.
กิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติในครั้งนี้มีพี่เจ้าหน้าที่สองท่าน ผมกับเพื่อนสองคนและมีกลุ่มน้องๆนักศึกษาน่าจะมาจาก ม.เกษตร ศรีราชา ประมาณ 4 คน รวมทั้งหมดก็ไปกัน 8 คน ทำให้การเดินทางไม่เงียบเหงาเพราะน้องๆนักศึกษากลุ่มนี้แหละเฮฮากันตลอดการเดินทางครับ
เมื่อเดินทางมาเรื่อยๆ ไม่ทราบระยะทางรู้อย่างเดียวว่าเหนื่อยมาก แต่สิ่งที่พี่เจ้าหน้าที่พูดขึ้นมาก็คือที่ๆอยู่ข้างหน้าคือจุดที่สมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงขึ้นมาโดยพระองค์เอง โอโห ไกลขนาดนี่น่ะ และแล้วก็ถึงจุดแรก สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำรู้สึกว่าความเหนื่อยจะกลายเป็นสิ่งที่สนุกขึ้นมาทันทีเมื่อมองเห็นทะเลแบบพานอรามา 360 องศา นึกว่าอยู่อีกโลกหนึ่ง มันสุดยอดด
จุดที่สมเด็จพระเทพฯท่านได้ทรงปักหมุดไว้ครับเพื่อให้กองทัพเรือป้องกันประเทศ
พักเหนื่อยแป๊บๆๆ
หลังจากพักเหนื่อยเสร็จแล้วก็เดินทางกันต่อครับระยะทางไม่รู้ เจ้าหน้าที่บอกแต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาครับ รู้แต่ว่าบนยอดเขาอีกลูกข้างหน้าโน่นน
ตามพวกผมไปเลยครับ
เดินมาเรื่อยๆ เหนื่อยมาก ถึงยอดเขาแล้ว เย้ๆๆ ภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมันเริ่มผุดขึ้นมาเรื่อยๆช่างเป็นภาพที่สวยงามมากครับ ทะเลสองสีแห่งตะวันออก ท้องฟ้าสีคราม มองเห็นเรือเล็กใหญ่สลับกัน ลมเย็นๆมันดูแล้วมีความสุขมากครับ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วทะเลที่สมบูรณ์แบบนี้
คุ้มค่ากับเหงื่อที่เสียไปจริงๆครับ
ชมภาพเรื่อยๆครับ
น้องๆนักศึกษาครับ ส้รางเสียงเฮฮาตลอดการเดินทาง แต่คงหมดแรงแล้ว
ตอน 2 ครับผม http://pantip.com/topic/34077264