ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากจะแชร์ความรู้สึกประทับใจในหน่วยงานของรัฐในจังหวัดขอนแก่นสำหรับการดำเนินการสรรหาพนักงานจ้างฯ ที่เปิดรับด้วยความยินดีสำหรับเด็กจบใหม่ หนูก็เป็นคนหนึ่งที่ไปสมัคร แรกๆก็ไล่อ่านการแสดงความคิดเห็นของผู้ที่แชร์ข้อมูลการรับสมัครออกไป ส่วนมากจะบอกเป็นเสียงเดียวกัน ทำนองที่ว่า “เปิดรับ 18 ตำแหน่ง ตำแหน่งละ 1 คน เอาแต่เด็กเส้นแน่ๆ” แรกๆก็ยอมรับค่ะว่าคิดตามแบบที่หลายๆคนแสดงความคิดเห็นไป แต่ก็ยังไม่ท้อค่ะ ไปสมัคร (อย่างน้อยก็เป็นประสบการณ์) คนมาสมัครในวันที่เราไปสมัครเยอะมากค่ะ ในวันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ ตำแหน่งเรา มีคนสมัคร 118 คน จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการสอบ ภาค ก. ภาค ข. ซึ่งมีการแจ้งหัวข้อที่จะสอบก่อนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
แรกๆเราคิดว่าเราจะไม่ผ่านหรอกค่ะเพราะ ไม่มั่นใจ ภาค ก.เลย (การสอบครั้งนี้ ต้องผ่านการสอบไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60) ก็หลังจากสอบเสร็จก็ทำใจ ปลอบใจตัวเองอยู่นาน จนมาลุ้นอีกทีวันประกาศผลสอบเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา จาก 118 คน สอบผ่านในตำแหน่งเดียวกันกับเรา 20 คน หนึ่งในนั้นมีเราด้วย รู้สึกดีใจน้ำตาไหลพราก ดีใจที่ตัวเองสอบได้ เพราะตอนเรียนมหาลัยไม่ค่อยขยัน แต่อยากทำงานที่องค์กรนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักเบื้องหลังขององค์กรว่าข้างในเลวร้ายแค่ไหน หรือดีแค่ไหน แต่เบื้องหน้าเค้าทำออกมาได้อย่างสามัคคีและสง่างามมากค่ะ ...
หลังจากประกาศผลผู้ผ่านการทดสอบ ทั้ง 20 คน ก็ต้องเข้ามาสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 15 สิงหาคม เราก็รู้สึกระแวงว่าความสามารถอาจจะไม่ถึงที่กรรมการต้องการ แต่ก็ไม่ยอมถอยค่ะ เพราะแรกเริ่มคิดมาตลอดว่าคงมีการใช้เส้น แน่ๆ เราก็เอารายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก 20 ไปค้นในกูเกิล เพื่อดูโปรไฟล์คร่าวๆ ร้องอื้อหือเลยค่ะ มีเด็กคนนึงเคยผ่านการฝึกงานจาก Ogilvy องค์กรระดับโลก องค์กรที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้าไปสัมผัส ได้แค่ฝึกงานก็ถือว่าแหล่ม แล้วก็มีอีกคนดูเหมือนจะเป็นนักจัดรายการ เก่งด้านการพูด คนอื่นๆก็เก่งค่ะ มีโปรไฟล์ดีๆทั้งนั้น แต่เราตะหงิดใจเด็ก คนที่บอกผ่านการฝึกงานจากองค์กรระดับโลกนี่แหละค่ะ เลยอยากจะดูหน้าสักหน่อยว่าจะมาแบบเส้นไหม?
มาถึงวันสอบสัมภาษณ์ เรามาแต่เช้าตรู่ มานั่งรอที่ห้องประชุมตามแจ้ง นั่งทำใจนับถอยหลังยิ่งใหล้เวลาสอบสัมภาษณ์ยิ่งตื่นเต้น สรุปเปลี่ยนห้องสอบสัมภาษณ์กระทันหัน เลยรีบวิ่งไปที่ห้องสอบสัมภาษณ์ที่แจ้งย้ายใหม่ ไปถึงทันเวลาได้ลงทะเบียน ผู้สัมภาษณ์ทุกคนดูวุ่นวายเพราะวิ่งหาห้องสอบกันทั้งนั้น แต่อย่างว่าก็มีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งอยู่หน้าห้องประชุมว่ามีการเปลี่ยนห้อง (บังเอิญเรานั่งในห้องประชุมเลยไม่ได้ยิน) .. ลงทะเบียนเสร็จก็มองหาที่นั่ง สายตาดันไปสะดุดผู้ชายคนนึงค่ะ ดูดี น่ารัก สมาร์ท บุคลิกดี ดูรวมๆคือเหมือนเป็นผู้ดีเลยค่ะ เนี๊ยบมาก และคาดว่าจะมาสอบสัมภาษณ์ ในมือของเค้าถือแฟ้ม ตราช้างขนาดใหญ่ที่มีกระดาษสอดอยู่ในแฟ้มเป็นปึกหนามาก คาดว่าคงจะเป็นแฟ้มผลงาน (ตัวเราไม่มีอะไรมาด้วยเยค่ะนอกจากกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์สองหมื่นหก) เราก็ได้แต่ภาวนาว่าคงไม่ใช่คนที่จะมาสอบตำแหน่งเดียวกับเรานะ พอดีว่าที่นั่งข้างๆเค้า ว่าง เราเลยไปขอนั่งด้วย เค้าก็ ”กล่าวทักทายพร้อมเชิญนั่ง” (ฟินมาก”น่ารัก”) จู่ๆต่อมเผือกก็ทำงานค่ะ เราเริ่มสอบถามเพื่อปลอบใจตัวเองก่อน
“มาสอบสัมภาษณ์หรอค่ะ” .... ครับ
“ตำแหน่งอะไรค่ะ” ... ประชาสัมพันธ์ครับ (โอ้ยแม่เจ้าวินาทีนั้นสตั๊นเลยค่ะ ความคิดดีดมาทันทีเขาต้องเป็นเด็กคนที่คิดไว้แน่ๆ (ถามต่อ))
“จบมาจากที่ไหนค่ะ” .... มหาวิทยาลัยในกรุงเทพครับ (คือเรื่องมหาลัยเรารู้นะว่าเค้าจบที่ไหนแต่เค้าตอบห่างไกลจัง ตอบดูกว้างมาก แต่ไหนๆก็ไหนๆละเผือกต่อ)
“ศรีปทุมหรอค่ะ” ..... เขาสตั๊น มองหน้าเรา พยักหน้าแล้วยิ้มเบาๆ (หลังจากนั้นบรรยกาศเริ่มเปลี่ยนไป สงสัยเผือกมากไปหน่อย เลยเปลี่ยนเรื่อง)
“เราตื่นเต้นจังเลยอ่ะ” ... เป็นกำลังใจให้ครับ ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุดนะครับ
“ค่ะ” (ตอบสั้นๆ เพราะรู้สึกถึงอำนาจบางอย่าง ที่เขาตอบมา ตอบสั้นๆแต่ดูมีอำนาจอ่ะ บอกไม่ถูก)
ถึงเวลาสอบสัมภาษณ์ คุณ ....... (สตั๊นไปอีก มั่นใจใช่แล้ว คนเดียวกัน โอ้ยโปรไฟล์ดีบุคลิกดี ได้แต่ข่มใจตัวเองบอกสู้ๆ)
แอบมองผ่านประตูกระจกห้องสอบสัมภาษณ์ หูยเราอยากจะกลับบ้านทันทีเลยค่ะ เค้าดูมั่นใจมาก บุคลิกดี เห็นกรรมการถือๆไมค์แล้วยืนพูดด้วยบุคลิคคล่องแคล่ว (ต่างจากเราตอนสอบมาก) เค้าดูเหมือนเป็นเรื่องชิวๆที่เข้าไปสอบ แต่เรายิ่งดูยิ่งเครียด มีกรรมการให้ใช้กล้อง DSLR ถ่ายรูปช่อดอกไม้บนโต๊ะด้วย (ร้องไห้เลยค่ะ ใช้ไม่เป็นค่ะ เพราะเราจบวิทยาการจัดการ) จากนั้นการสอบสัมภาาณ์ก็ดำเนินไป เราก็มองแบบตาไม่กระพริบเลยค่ะ เค้าคุยแบบสบายชิลล์ๆ เหมือนไม่ได้มาสอบสัมภาษณ์ ในใจเราคิดว่า เอาเถอะยังไงถ้าเราไม่ได้ก็อาจจะเป็นคนนี้เพราะเค้าดูพร้อม เราจำชื่อเค้าได้แม่นมาก จะเป็นกำลังใจให้จนถึงวันประกาศผลเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่ชื่อคุณ คนนี้ เราจะประท้วงช่วย สัญชาติญาณเราบอกชัดเจนว่าคนนี้ต้องได้แน่ๆ
ถ้าคนคนนี้ได้อ่านกระทู้นี้ บอกเลยเต็มปากเรา "ถ้าคนอื่นได้ เราอาจจะสงสัยอยู่พักใหญ่ว่าทำไม แต่ถ้าเธอได้ เราไม่มีข้อสงสัย (สำหรับตัวเรา) เลยนะเป็นกำลังใจให้ แม้จะเป็นการทักทายเพียง 5 นาที แต่เป็น 5 นาทีที่เราจำนายได้ทุกอย่างตั้งแต่รอยิ้ม บุคลิก ท่าทาง นายแต่งตัวเรียบร้อย เหมาะสมกับคำว่าให้เกียรติการสอบ และกรรมการมากๆ เราแค่คุยกับนาย เราได้คิด ได้เห็นตัวอย่าง ถ้าเราไม่ผ่านสอบสัมภาษณ์งานนี้ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็พอจะมีตัวอย่างไว้ไปสู้กับกรรมการเวทีต่อๆไป เป็นกำลังใจให้นะค่ะ"
ขอบคุณองค์กรนี้ ที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมากเป็นหน่วยงานรัฐที่ สอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ แรกๆหนูเจอหนูก็สตั๊นนะค่ะ แต่คงคิดว่าคงจะสตั๊นเหมือนกันทุกคน แฮ่ๆ ภาษาอังกฤษกับหนู ไม่ค่อยคู่กันเท่าไหร่ หนูเชื่อแล้วค่ะว่าองค์กรนี้อยู่กันแบบมืออาชีพ Khon Kaen Municipality ขอบคุณที่ให้ประสบการณ์ ถ้าสอบได้ถือว่าหนูดวงดี แต่ถ้าไม่ได้หนูก็ถือว่า โอเคกับสิ่งที่ได้จากเพื่อนสอบสัมภาษณ์และกรรมการทุกท่านค่ะ
หมดยุคสมัยเด็กฝากแล้ว สมัยนี้เค้า (น่าจะเอา) ความสามารถ+ทักษะล้วนๆ และฝากถึงคนคนนั้น
แรกๆเราคิดว่าเราจะไม่ผ่านหรอกค่ะเพราะ ไม่มั่นใจ ภาค ก.เลย (การสอบครั้งนี้ ต้องผ่านการสอบไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60) ก็หลังจากสอบเสร็จก็ทำใจ ปลอบใจตัวเองอยู่นาน จนมาลุ้นอีกทีวันประกาศผลสอบเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา จาก 118 คน สอบผ่านในตำแหน่งเดียวกันกับเรา 20 คน หนึ่งในนั้นมีเราด้วย รู้สึกดีใจน้ำตาไหลพราก ดีใจที่ตัวเองสอบได้ เพราะตอนเรียนมหาลัยไม่ค่อยขยัน แต่อยากทำงานที่องค์กรนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักเบื้องหลังขององค์กรว่าข้างในเลวร้ายแค่ไหน หรือดีแค่ไหน แต่เบื้องหน้าเค้าทำออกมาได้อย่างสามัคคีและสง่างามมากค่ะ ...
หลังจากประกาศผลผู้ผ่านการทดสอบ ทั้ง 20 คน ก็ต้องเข้ามาสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ 15 สิงหาคม เราก็รู้สึกระแวงว่าความสามารถอาจจะไม่ถึงที่กรรมการต้องการ แต่ก็ไม่ยอมถอยค่ะ เพราะแรกเริ่มคิดมาตลอดว่าคงมีการใช้เส้น แน่ๆ เราก็เอารายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก 20 ไปค้นในกูเกิล เพื่อดูโปรไฟล์คร่าวๆ ร้องอื้อหือเลยค่ะ มีเด็กคนนึงเคยผ่านการฝึกงานจาก Ogilvy องค์กรระดับโลก องค์กรที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้าไปสัมผัส ได้แค่ฝึกงานก็ถือว่าแหล่ม แล้วก็มีอีกคนดูเหมือนจะเป็นนักจัดรายการ เก่งด้านการพูด คนอื่นๆก็เก่งค่ะ มีโปรไฟล์ดีๆทั้งนั้น แต่เราตะหงิดใจเด็ก คนที่บอกผ่านการฝึกงานจากองค์กรระดับโลกนี่แหละค่ะ เลยอยากจะดูหน้าสักหน่อยว่าจะมาแบบเส้นไหม?
มาถึงวันสอบสัมภาษณ์ เรามาแต่เช้าตรู่ มานั่งรอที่ห้องประชุมตามแจ้ง นั่งทำใจนับถอยหลังยิ่งใหล้เวลาสอบสัมภาษณ์ยิ่งตื่นเต้น สรุปเปลี่ยนห้องสอบสัมภาษณ์กระทันหัน เลยรีบวิ่งไปที่ห้องสอบสัมภาษณ์ที่แจ้งย้ายใหม่ ไปถึงทันเวลาได้ลงทะเบียน ผู้สัมภาษณ์ทุกคนดูวุ่นวายเพราะวิ่งหาห้องสอบกันทั้งนั้น แต่อย่างว่าก็มีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งอยู่หน้าห้องประชุมว่ามีการเปลี่ยนห้อง (บังเอิญเรานั่งในห้องประชุมเลยไม่ได้ยิน) .. ลงทะเบียนเสร็จก็มองหาที่นั่ง สายตาดันไปสะดุดผู้ชายคนนึงค่ะ ดูดี น่ารัก สมาร์ท บุคลิกดี ดูรวมๆคือเหมือนเป็นผู้ดีเลยค่ะ เนี๊ยบมาก และคาดว่าจะมาสอบสัมภาษณ์ ในมือของเค้าถือแฟ้ม ตราช้างขนาดใหญ่ที่มีกระดาษสอดอยู่ในแฟ้มเป็นปึกหนามาก คาดว่าคงจะเป็นแฟ้มผลงาน (ตัวเราไม่มีอะไรมาด้วยเยค่ะนอกจากกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์สองหมื่นหก) เราก็ได้แต่ภาวนาว่าคงไม่ใช่คนที่จะมาสอบตำแหน่งเดียวกับเรานะ พอดีว่าที่นั่งข้างๆเค้า ว่าง เราเลยไปขอนั่งด้วย เค้าก็ ”กล่าวทักทายพร้อมเชิญนั่ง” (ฟินมาก”น่ารัก”) จู่ๆต่อมเผือกก็ทำงานค่ะ เราเริ่มสอบถามเพื่อปลอบใจตัวเองก่อน
“มาสอบสัมภาษณ์หรอค่ะ” .... ครับ
“ตำแหน่งอะไรค่ะ” ... ประชาสัมพันธ์ครับ (โอ้ยแม่เจ้าวินาทีนั้นสตั๊นเลยค่ะ ความคิดดีดมาทันทีเขาต้องเป็นเด็กคนที่คิดไว้แน่ๆ (ถามต่อ))
“จบมาจากที่ไหนค่ะ” .... มหาวิทยาลัยในกรุงเทพครับ (คือเรื่องมหาลัยเรารู้นะว่าเค้าจบที่ไหนแต่เค้าตอบห่างไกลจัง ตอบดูกว้างมาก แต่ไหนๆก็ไหนๆละเผือกต่อ)
“ศรีปทุมหรอค่ะ” ..... เขาสตั๊น มองหน้าเรา พยักหน้าแล้วยิ้มเบาๆ (หลังจากนั้นบรรยกาศเริ่มเปลี่ยนไป สงสัยเผือกมากไปหน่อย เลยเปลี่ยนเรื่อง)
“เราตื่นเต้นจังเลยอ่ะ” ... เป็นกำลังใจให้ครับ ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุดนะครับ
“ค่ะ” (ตอบสั้นๆ เพราะรู้สึกถึงอำนาจบางอย่าง ที่เขาตอบมา ตอบสั้นๆแต่ดูมีอำนาจอ่ะ บอกไม่ถูก)
ถึงเวลาสอบสัมภาษณ์ คุณ ....... (สตั๊นไปอีก มั่นใจใช่แล้ว คนเดียวกัน โอ้ยโปรไฟล์ดีบุคลิกดี ได้แต่ข่มใจตัวเองบอกสู้ๆ)
แอบมองผ่านประตูกระจกห้องสอบสัมภาษณ์ หูยเราอยากจะกลับบ้านทันทีเลยค่ะ เค้าดูมั่นใจมาก บุคลิกดี เห็นกรรมการถือๆไมค์แล้วยืนพูดด้วยบุคลิคคล่องแคล่ว (ต่างจากเราตอนสอบมาก) เค้าดูเหมือนเป็นเรื่องชิวๆที่เข้าไปสอบ แต่เรายิ่งดูยิ่งเครียด มีกรรมการให้ใช้กล้อง DSLR ถ่ายรูปช่อดอกไม้บนโต๊ะด้วย (ร้องไห้เลยค่ะ ใช้ไม่เป็นค่ะ เพราะเราจบวิทยาการจัดการ) จากนั้นการสอบสัมภาาณ์ก็ดำเนินไป เราก็มองแบบตาไม่กระพริบเลยค่ะ เค้าคุยแบบสบายชิลล์ๆ เหมือนไม่ได้มาสอบสัมภาษณ์ ในใจเราคิดว่า เอาเถอะยังไงถ้าเราไม่ได้ก็อาจจะเป็นคนนี้เพราะเค้าดูพร้อม เราจำชื่อเค้าได้แม่นมาก จะเป็นกำลังใจให้จนถึงวันประกาศผลเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่ชื่อคุณ คนนี้ เราจะประท้วงช่วย สัญชาติญาณเราบอกชัดเจนว่าคนนี้ต้องได้แน่ๆ
ถ้าคนคนนี้ได้อ่านกระทู้นี้ บอกเลยเต็มปากเรา "ถ้าคนอื่นได้ เราอาจจะสงสัยอยู่พักใหญ่ว่าทำไม แต่ถ้าเธอได้ เราไม่มีข้อสงสัย (สำหรับตัวเรา) เลยนะเป็นกำลังใจให้ แม้จะเป็นการทักทายเพียง 5 นาที แต่เป็น 5 นาทีที่เราจำนายได้ทุกอย่างตั้งแต่รอยิ้ม บุคลิก ท่าทาง นายแต่งตัวเรียบร้อย เหมาะสมกับคำว่าให้เกียรติการสอบ และกรรมการมากๆ เราแค่คุยกับนาย เราได้คิด ได้เห็นตัวอย่าง ถ้าเราไม่ผ่านสอบสัมภาษณ์งานนี้ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็พอจะมีตัวอย่างไว้ไปสู้กับกรรมการเวทีต่อๆไป เป็นกำลังใจให้นะค่ะ"
ขอบคุณองค์กรนี้ ที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมากเป็นหน่วยงานรัฐที่ สอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ แรกๆหนูเจอหนูก็สตั๊นนะค่ะ แต่คงคิดว่าคงจะสตั๊นเหมือนกันทุกคน แฮ่ๆ ภาษาอังกฤษกับหนู ไม่ค่อยคู่กันเท่าไหร่ หนูเชื่อแล้วค่ะว่าองค์กรนี้อยู่กันแบบมืออาชีพ Khon Kaen Municipality ขอบคุณที่ให้ประสบการณ์ ถ้าสอบได้ถือว่าหนูดวงดี แต่ถ้าไม่ได้หนูก็ถือว่า โอเคกับสิ่งที่ได้จากเพื่อนสอบสัมภาษณ์และกรรมการทุกท่านค่ะ