เมื่อเด็กคนหนึ่งฝันอยากไปเป็นครูดอย "ครูบ้านนอก 166"

สวัสดีครับทุกท่าน ก็ไม่อยากอารัมภบทอะไรมากนะครับ เกริ่นนิดหน่อยคือกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม
และกระทู้นี้จะขอพาทุกท่านไปสัมผัสประสบการณ์ที่ผมได้รับจากการเข้าร่วม
"โครงการครูบ้านนอก รุ่น 166" ที่จัดโดยมูลนิธิกระจกเงา เมื่อวันที่ 25 - 28 มิถุนายน 2558
ณ ศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านแม่แฮง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ครับ
...............................................................................................
ขอแนะนำตัวก่อนละกันนะครับ ผมชื่อ อาร์ท ครับ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เอกสังคมศึกษา (กศ.บ.) หรือ ครูสังคมนั่นเองครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันและอุดมการณ์ในการเป็นครูที่อยากจะไปสอนให้กับเด็กๆในถิ่นที่ความเจริญเข้าไปไม่ถึง
จึงไล่ตามหาโครงการครูอาสาไปเรื่อยๆ ลองสมัครไปค่ายหนึ่งที่เป็นค่ายระยะเวลายาวหนึ่งเดือน
แต่คนที่สมัครเต็มเสียก่อน แต่ความพยายามก็ไม่ได้ลดลงเลย จนมาเจอกับ
"โครงการครูบ้านนอก รุ่น 166" ที่จัดโดยมูลนิธิกระจกเงา เลยตัดสินใจสมัครไปทันที
โดยไม่เสียดายเงินที่ต้องเสียไป (มีค่าสมัครเข้าโครงการ 2,000 บาท)


ขออนุญาตยืมรูปประชาสัมพันธ์จากเว็บนะครับ (เพื่อการประชาสัมพันธ์รุ่นต่อไป)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากที่ทำการสมัครเรียบร้อยแล้ว ผมได้เตรียมการล่วงหน้านานมาก ทั้งการจองรถ การวางแผนเดินทาง
เนื่องจากก่อนที่ผมจะเดินทางไปค่ายนี้ ตอนต้นเดือนผมก็ทำค่ายร่วมกับทางชมรม ที่มหาวิทยาลัย ด้วย
(เฮ้ย! ตื่นเต้นวะ จะเอาอะไรไปให้เด็กๆดี จะสอนอะไร จะอยู่ได้ไหมวะ) ช่วงนั้นผมคิดไปไกลมากครับ
แต่ด้วยอุดมการณ์และความมุ่งมั่น ทำให้ตอบตัวเองทุกครั้งว่า ต้องทำได้ ต้องอยู่ได้
........................................................................................
วันเดินทางมาถึง ด้วยความตื่นเต้นก็ไปถึงหมอชิตก่อนเวลาชั่วโมงกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ได้เจอกับพี่ที่สมัครไปโครงการด้วยกัน
และด้วยความบังเอิญ ที่พี่ทั้งสองคนนั้นเป็นศิษย์เก่าจาก มศว ด้วย คือ พี่มิ้ม กับ พี่ปรีม (เอกภาษาไทย ศศ.บ.)
แต่ด้วยความที่ยังไม่สนิทกันมากเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่
(........ไกลเหลือเกิน เมื่อไหร่จะถึงเนี่ย............) มันก็ต้องมีบ่นกันบ้างเนาะครับ

"อำเภอฝางค่ะ ใครจะลงโปรดตรวจสอบสัมภาระของท่านให้เรียบร้อยด้วยนะคะ" เสียงจากบัสโฮสเตจสาว? ดังขึ้น
เฮ้ย! ถึงแล้วหรอ นี่เราหลับไปนานมาก
และด้วยความรีบอีกแล้ว เรามาถึงอำเภอฝางตอนเวลา ตีสี่กว่า
ความเงียบ ความสงัด นี่มันเมืองร้างหรือป่าว สุดท้ายก็เหลือบไปเห็นปั้มปตท. เลยต้องพึ่งห้องน้ำของปั้ม ปตท.
ในการล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อรอเวลาที่ทางมูลนิธิจะลงมารับ (รอตั้งหลายชั่วโมงเลยนะ)
................................................................................
แปดโมงแล้วคร้าบบบ พี่ต้นซุง ที่เป็นผู้ดูแลโครงการและดูแลพวกเรา จากมูลนิธิก็มารับ ตามเวลาที่นัดหมายครับ
ตอนนี้มีเพื่อนร่วมทางเพิ่มละครับ นั่นคือ พี่อุ้ย ศิษย์เก่า มศว เช่นกัน
และก็เพื่อนๆจากราชภัฎภูเก็ตอีก 6 คน (บอส ไผ่ นุ ซอ เต๋า โดม) ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เรียนครูสังคมเหมือนกันเลย
พร้อมกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งที่มาสมทบกันอีก ผมนั่งท้ายรถกระบะคันหนึ่งไปกับเพื่อนอีก 4 คน คือ พี่โอ้ พี่เบียร์ พี่ชู้ท
และพี่โน้ต (ที่หน้าเด็กเหลือเกินจนคิดว่าอยู่มัธยม คนนี้ดีกรีจบเมืองนอกนะครับ กำลังเรียนต่อโทที่เมืองนอกเช่นกัน
เก่งแล้วยังใจดีอีก สุดยอดเลย)
................................................................................
เรานั่งรถกันขึ้นมาถึงที่ทำการของชุมชนที่นี่ครับ ทางขรุขระมาก แต่สนุกดี


ที่ทำการนี้เป็นที่ทำการชุมชนของชาวลาหู่หรือที่เราจะรู้จักกันในชื่อ มูเซอ นั่นเองครับ
กิจกรรมแรกของเราคือ การลงทะเบียนและการรับประทานอาหาร ครับ


..............................................................................
หลังจากนั้นก็มีกิจกรรมสานสัมพันธ์และแนะนำมูลนิธิเล็กน้อย ทำให้ผมรู้จักกับเพื่อนๆอีกหลายคน
นั่นคือ พี่นุ่น พี่เอ้ พี่นัท พี่อาร์ม พี่แพรว พี่อ้อม ฟ้าใส น้องวิว
ที่สำคัญคือได้เจอกับพี่นักข่าวจากหลากหลายสำนักที่มาร่วมเป็นครูบ้านนอกด้วย
นั่นคือ พี่แป๋ว จาก ThaiPBS พี่มะลิ พี่นาง พี่นุ่น และพี่ที่ตามมาทีหลังคือ พี่นุช
ในช่วงนี้ พี่ต้นซุงได้จับคู่ในการเข้าพักตามบ้านของชาวลาหู่ด้วยครับ
ผมได้อยู่กับพี่โน้ต ซึ่งมีแต่คนคิดว่าผมกับพี่โน้ต พี่ชู้ท และพี่นุ่น มาด้วยกัน
แต่ไม่ใช่นะครับ ผมมาลุยเดี่ยวนะ
และก็ยังมีการจับบัดดี้ บัดเดอร์กันด้วย


ช่วงที่ทำกิจกรรมสานสัมพันธ์ ทำให้ได้ทราบว่า แต่ละคนที่มาค่ายครูบ้านนอกครั้งนี้
มีเหตุผลที่มาแตกต่างกัน บางคนเบื่อเจ้านาย บางคนอยากมาหาประสบการณ์
บางคนเพิ่งอกหัก บางคนมาเพื่อการรวมตัวกับเพื่อนทำกิจกรรมร่วมกัน
ส่วนผมน่ะหรอ ผมมาเพราะอยากตอบคำถามของตัวเองที่เคยตั้งไว้ และมาหาประสบการณ์ครับ
..............................................................................
หลังจากนั้น ก็ได้เวลาผจญภัยละครับ เราจะเดินขึ้นหมู่บ้านกัน
เส้นทางสายนี้สวยมาก ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร
มีทั้งทางลาดชัน ทางเลียบหุบเขา ผ่านลำธารสายเล็กๆ สวยมากจริงๆ
จนคิดว่าถ้าถ่ายรูปเก็บไว้ ก็ไม่สวยเท่าไปดูด้วยตาตัวเอง เราก็เดินกันไป คุยกันไป ทำให้สนิทกันมากขึ้น
............................................................................








[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เหนื่อยจังเลย ก็แอบบ่นในใจนะครับ แต่เหมือนพระพิรุณทรงรู้ใจ ทันใดฝนก็โปรยปรายลงมา
ให้ชุ่มช่ำ แต่ไม่ถึงกับเปียกนะ
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!! นั่นๆๆๆๆ หมู่บ้าน ถึงแล้วหรอเนี่ยยยยยยยย
(ในที่สุดเราก็มาถึง)



ขอมาเล่าต่อในคราวหน้านะครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ Diary นี้ บันทึกย้อนหลังนานไปหน่อย
แต่ผมก็ยังจำความทรงจำนั้นได้ดีนะครับ

ตัวอย่างตอนต่อไป


[เพราะทุกความทรงจำมีค่า ผมจึงเขียนยาวหน่อยนะครับ]

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่