เดินทางสู่ ดินดอนสามเหลี่ยม โอคาวันโก ตามล่าหา Big 5

โฉมหน้า Big 5 ของแอฟริกา ค่ะ



ทำไมต้องเป็น 5 ตัวนี้  สมัยก่อน คนนิยม ล่า สัตว์ ทั้ง 5 ชนิดนี้ ค่ะ  สมัยนี้ก็ยังมีอยู่ เหตุการล่าสุดที่สะเทือนใจคนทั้งโลก ก็เคส พี่ Cecil สุดหล่อ แห่งอุทยานแห่งชาติ Hwange National Park, Zimbabwe



ทริปนี้ เราเดินทาง 3 ประเทศ เริ่ม ที่ Botswana, Zimbabwe จบที่ South Africa สิ่งที่ต้องเตรียม สำหรับการเดินทางเข้า ทวีปแอฟริกา มีตามนี้นะคะ
1    ฉีดวัคซีน ก่อนเดินทาง สำหรับ Botswana กับ Zimbabwe เราต้อง จัดวัคซีน ไป 3 ตัว ค่ะ มี
Yellow Fever,Hepatitis A,Typhoid
สำหรับ ยาเม็ดป้องกัน โรคมาเลเรีย ซึ่งต้องกินก่อนล่วงหน้า 2 วัน และ กินต่อเนื่องอีก 40 วัน ถึงแม้ว่าจะกลับถึงเมืองไทยแล้วก็ตาม ยาเม็ดนี้ ร้าน บู๊ทส์ มีขายค่ะ ส่วน วัคซีน เราไปจัดที่  รพ สมิติเวช สุขุมวิท หรือ อีกที่ ก็ จะเป็น รพ เวชศาสตร์เขตร้อน ค่ะ แพทย์ที่ฉีดวัคซีนได้ ต้องมีใบอนุญาตนะคะ
2   กระเป๋าเดินทาง ต้องเป็นกระเป๋าผ้าขนาดย่อมเยาไม่มีล้อลาก (เพราะต้องขึ้นเครื่องบินเล็กค่ะ)
3   เสื้อผ้า เน้น สี กากี ค่ะ รองเท้าใส่แบบเดินสบาย
4   สารพัด กล้อง และ เลนส์ ทริปนี้ ถึงกับต้อง ซื้อเลนส์ ใหม่ กล้องส่องทางไกล ก็ จำเป็นค่ะ เอาไปด้วย
5   Passport ไทยของเรา ต้องขอ วีซ่า เข้า ประเทศ Botswana กับ Zimbabwe ส่วน South Africa ไม่ต้อง คนไทยสามารถอยู่ได้ 10 วันโดยไม่ต้องขอ วีซ่า (หรือ 15 วันจำไม่ได้แล้วหาดูใน เน็ตอีกทีนะคะ) วีซ่า ของทั้ง สองประเทศ ขอ on line ได้นะคะ

เที่ยวนี้เราเลือกสายการบิน Etihad บินเข้า Abu Dhabi ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง จาก Abu Dhabi เปลี่ยนมาขึ้นเครื่อง South Africa บินเข้า Jo'burg อีก 6 ชั่วโมง จาก Jo'burg เปลี่ยนมาขึ้นเครื่อง Air Botswana บินเข้า Maun (อ่านว่า มวน หรือ มา-อูน ก็ได้) ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมงค่ะ


รูปจาก internet  Maun ไม่ใช่เมืองหลวง นะคะ เมืองหลวงของ Botswana คือ Gaberone แต่ Maun เป็น Gateway to Okavango Delta ค่ะ

มารู้จัก Okavango Delta กันก่อน
ลักษณะภูมิประเทศ
Okavango Delta  โอคาวันโก สวนสวรรค์ กลางทะเลทราย  จุดเริ่มต้นของแม่น้ำสายนี้ คือใจกลางดินแดน อังโกลา จนมาถึงทะเลทราย คาลาฮีรี เกิดเป็น ดินดอน สามเหลี่ยมที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ในแต่ละปี น้ำปริมาณ กว่า  พันล้านลูกบาศก์เมตร ไหลเข้าสู่ ทะเลทรายที่มีพื้นที่ ครอบคลุมกว่า 15,000 ตารางกิโลเมตร   ที่เรียกกันว่า สามเหลี่ยม โอคาวันโก เป็นพื้นที่ ประกอบไปด้วย บึง ขนาดใหญ่ ป่าละเมาะ กับทุ่งหญ้าโดยรอบ เป็นที่อยู่อาศัยของ สิ่งมีชีวิต กว่า 160 ชนิด นก 500 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 157 ชนิด นับเป็นพื้นที่ ที่มีระบบนิเวศน์ สมบูรณ์ มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ปัจจุบัน ได้มีความพยายามที่จะจัดตั้งเขตอนุรักษ์ ป่าปริ่มน้ำร่วมกัน ระหว่างประเทศ นามิเบีย, อังโกลา, บอตสวานา, แซมเบีย และ ซิมบับเว่ ในนาม ของ พื้นที่ อนุรักษ์ ไร้พรมแดน Trans  Frontier Conservation area (TFCA)
ในวันที่  22 มิถุนายน  2014 Okavango Delta ได้จดทะเบียน ขึ้นเป็นมรดกโลก สำเร็จ จัดเป็นลำดับ ที่ 1000 ของ UNESCO World Heritage
ขอบคุณข้อมูลจาก คอลัมน์  Komkid.com พฤศจิกายน  5, 2011 / Wikipedia



มีปัญหาที่ ตม นิดหน่อย เพราะไม่เคยเห็น วีซ่า ออนไลน์ แบบนี้ทาง จนท ต้องรอให้ ผู้ใหญ่มาดู รอประมาณ 10 นาที เราก็ผ่านมาได้ แต่ กระเป๋าที่ แพ็คมา 2 ใบเดินทางมาถึงแค่ ใบเดียวค่ะ ความที่เดินทาง แล้ว กระเป๋า หายบ่อย เราเริ่ม เซียนในการจัดกระเป๋า กระเป๋า 1 ใบจะมีของสำหรับ 2 คนกระจายความเสี่ยง กันไป แต่ กระเป๋าใบที่หายนี่ซิ ดันมี ที่ ชาร์จ ทุกอย่างอยู่ในนั้น .....ช่างมันไปหาเอาข้างหน้า

จากนี้ เราต้องต่อเครื่องบินเล็กค่ะ


ที่ประเทศ Botswana นี้ เราจะ ย้ายที่พัก ทั้งหมด 3 ที่ โดยเริ่มจาก Moremi Crossing Camp, Pom Pom Camp, Chobe Game Lodge ตามนี้ค่ะ



แคมป์แรก Moremi Crossing Camp ใช้เวลาบินจาก Maun ประมาณ 20 นาทีค่ะ แลนดิ้ง แล้วก็ยังไม่เห็น ที่พักนะคะ ต้องต่อเรือไปอีก ประมาณ 10 นาที เม่าตกใจ

กว่าจะถึง หน้าตา Resort ค่ะ



ห้องพักเป็น เต๊นท์ หน้าตาแบบนี้ค่ะ


ตั้งเรียงรายขนานกันไป มี ไม่เกิน 15 หลัง รับ บรีฟ จาก ผจก กันก่อน ก็ ปกติทั่วไปแหละค่ะ ทานอาหารกี่โมง ที่นี่ เป็น การเข้าพัก แบบ full board ทานอาหารพร้อมกันนะคะ เครื่องดื่ม เสริฟ ตลอด อกฮ ไวน์ พร้อมค่ะ หยิบเองได้เลย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ห้ามออกนอกห้องพักหลัง หนึ่งทุ่ม เด็ดขาด หลังทานข้าวเย็นเสร็จ (ที่ห้องโถงกลาง) หากจะนั่งคุย/ดื่ม/ชาร์จไฟ (ต้องมาชาร์จที่โถงกลางที่เดียวในห้องไม่มี ปลั๊ก) เมื่อต้องการกลับห้องพัก ทาง พนักงาน จะเดินไปส่ง ห้าม เดินกลับเอง เด็ดขาด สำหรับ ตอนเช้า พนักงานก็จะไปรับ ห้ามเดินมาเอง เด็ดขาด อันนี้ ถือเป็นกฏเหล็ก ค่ะ

เข้าห้องพัก ก่อน นี่คือรูปที่ถ่ายจาก หน้าต่างห้องพัก


เย็นวันนั้น เรามีเดินป่านิดหน่อย แต่ขอรวบยอดมา ตอนเช้าเลย แล้วกัน เราผ่านคืนแรกมาอย่าง สาหัส มากค่ะ อากาศ หนาวขั้นสุด อุณหภูมิลดลง เหลือ 6-7 องศา ในห้องไม่มี ฮีทเตอร์ เราไม่มีเสื่อหน้าหนาวใส่ เพราะอยู่ในกระเป๋าที่ยังมาไม่ถึง หลับๆ ตื่นๆ กว่าจะเช้า ทรมารมากอ่ะ ตอนเช้าพนักงานเดินปลุก ตอน 6 โมง ให้เวลา จัดการกับตัวเอง ครึ่ง ชม ก่อนที่จะเดินมารับ ตอน 6.30 ทานอาหารเช้า พร้อมกันกับแขกคนอื่นๆ ก่อนที่จะกระจายออกไปเดินป่า กรุ๊ปใคร กรุ๊ปมัน ตอน 7 โมงเช้า เราใส่ชุดเท่าทีมี เสื้อกันลม จาก ยูนิโค่ล กับเสื้อยืด พอประทังไปได้ค่ะ เช้านี้ เรามีโปรแกรม ล่องเรื่อ Mokoro เรือที่ขุดจากท่อนซุง ทั้ง ต้น



ปัจจุบันกลายเป็น ไฟเบอร์กลาสหมดแล้วค่ะ ชมวิว ไปเรื่อยเปื่อย


เหล่านก ที่ถ่ายได้


เรานั่งเรือ ลัดเลาะไปขึ้นเกาะ เพื่อเดินเท้าต่อ หลังจากเดินลุยป่ามาได้ 20 นาที แจ๊กพ็อต เลยค่ะ เราได้พบกับ African Wild Dog หรือ Painted Dog หน้าตาใกล้ๆ เป็นแบบนี้ ขอยืมรูปมาจาก เน็ตนะคะ


ที่ว่าแจ๊กพ็อต เนี่ยะ คือ ไอ่เจ้า Painted Dog เนี่ยะ หายากมาก ใกล้สูญพันธุ์ เต็มที ทั้ง Botswana มีไม่ถึง 800 ตัว หายาก กว่า สิงโต อีกค่ะ แล้วเราไม่ได้พบ ตัวเดียว เราพบทั้งฝูง ค่ะ มีกันทั้งหมด 13 ตัว


รูปสำหรับ 2 วันแรก เป็นรูปจากมือถือเราเองค่ะ เพราะว่า บรรดา กล้องเทพทั้งหลาย ที่เอาไป แบตหมด แล้ว ที่ ชาร์จก็อยู่ ใน กระเป๋าที่ยังเดินทางมาไม่ถึง อันนี้ คือ หงุดหงิด อารมณ์ เสียมาก

1 ใน Big 5 ค่ะ





ขบวนเรือ Mokoro ของเรา ลัดเลาะไปตามทาง ที่ ฮิปโป ทำไว้ ยิ้ม



เรานอนที่ แคมป์ นี้ 2 คืน ก่อนจะบินไป แคมป์ ที่ 2 Pom Pom ค่ะ



Pom Pom Lodge

ที่ ปอมปอม นี่ เป็น รีสอร์ท เล็กกว่า Moremi Crossing อีกค่ะ มีไม่ถึง 10 ห้อง อันดับแรกที่มาถึงคือ ให้ ผจก ตามหากระเป๋า ด่วน เพราะที่ ปอม ปอม นี่ เป็นที่ ของ Big เบอร์ ที่ 2 ค่ะ

ไกด์ของเรา พี่ แม็ค
มีแต่คนเชียร์ ให้ พี่แม็คไปเล่น บาสอาชีพ

ที่ ปอม ปอม เราไม่ต้องเดินค่ะ เรานั่งรถ (วู้ฮู้) และ เราโชคดี ที่ พี่แม็ค ใช้กล้อง Nikon เลยได้โอกาส ยืมที่ชาร์จซะเลย

เบาบับ


นกแร้ง


ที่นี่ เค้าจะมี ดื่ม ชมวิว พระอาทิตย์ ตก ก่อนออกจาก แคมป์ เค้าจะเดินถามค่ะ ว่าจะดื่มอะไร เค้าก็จะเตรียมไปพร้อม เราเลือกดื่มไวน์ อันนี้ ก็ จัดไป


จบวันแรกไปแบบ สบายๆ ไม่เหนื่อยมาก พร้อม รับ วันพรุ่งนี้ ที่นี่ มีถุงน้ำร้อนซุกไว้ให้ในที่นอน ค่อยยังชั่วหน่อย ตกดึกคืนนั้น เราได้ยินเสียง ฮูม ฮูม ใกล้มาก บอกไม่ถูกว่าเสียงอะไร ตอนเช้าระหว่างนั่งทานข้าว (ไกด์ ก็จะนั่งทานพร้อมกับเราด้วย) เราเล่าให้ฟัง บอกว่า เสียงแบบนี้อ่ะ เสียงอะไร ไกด์ บอก เสียง สิงโต ประมาณ ตี สาม ใช่มั๊ย ? เมื่อคืน เค้าเดินผ่านที่พักเราไปนะ เด๋วไปดูรอยเท้าได้เลย ฮึ่ย......จริงดิ...

Big no. 2 พี่ ซิมบ้า นี่เอง เมื่อคืนตัวเอง เดินผ่านเต๊นเค้าเหรอ จุ๊บๆ



สุดหล่อ วันๆไม่ทำอะไร เก๊กหล่ออย่างเดียว


อีกซักรูป


พี่ซิมบ้า กับ นาล่า


ลูกสาว วัยเปรียว


นั่งดู ครอบครัวพี่อยู่บนรถ สรุป พี่ไม่ทำไรเลยอ่ะ นอน นอน นอน ตื่นมา เดิน 4 ก้าว ล้มตัวลงไปนอนใหม่ ซักพัก ลุกมา ปล้ำ นาล่า ใช้เวลาไม่ถึง 10 วิ เสร็จ !!! กลับไปนอนต่อ อัลไล ของพี่คร้า คร่อกฟี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ลูกสาวทั้ง สอง


ขากลับได้เจอ Ground Horn Bill ด้วยค่ะ


ส่วนตัวนี้ Saddle-billed-Stork


พรุ่งนี้ ค่อยมาต่อ แคมป์ ที่ 3 นะคะ Chobe Game Lodge แคมป์นี้ เพียบค่ะ

เดินทางกลับบ้านปลอดภัยกันทุกคนนะคะ Stay Strong Thailand เข้มแข็ง และ สามัคคี ชาติจะรอดปลอดภัยค่ะ

มาต่อที่ ทู้ใหม่ค่ะ

http://pantip.com/topic/34073793
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่