แม่รีบอุ้มลูกที่ป่วยเป็นไข้ตัวร้อนรีบไปหาหมอ ถูกรถเก๋งพุ่งชนกระเด็น คนเป็นแม่ตาย ส่วนลูกชายสาหัส สลดซ้ำลูกสาวมาเกาะขาแม่ร้องไห้ ส่วนเด็กถูกนำส่ง รพ. กลับถูกปฏิเสธ อ้างไม่มีญาติมา กลัวไม่มีคนรับผิดชอบ ยังดีที่คู่กรณีไม่หนี...
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 17 ส.ค. 58 พ.ต.ท.สุวัฒน์ โพธิ์รี พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเดินข้ามถนนเสียชีวิตบริเวณถนนซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร หมู่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จึงรุดไปตรวสอบพร้อมแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุ เป็นช่วงขาเข้ามุ่งหน้าไปรังสิต ในช่องเลนกลาง พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.ติม แก้วใส สัญชาติลาว อายุ 29 ปี นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นลูกชายผู้เสียชีวิต อายุ 1 ขวบครึ่งชื่อ ด.ช.สุรชาติ เบ้าทองหล่อ หรือ ‘น้องเปเป้’ ถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว
ส่วนรถที่ชน เป็นเก๋งมาสด้า 3 สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กฐ 2794 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ฝากระโปรงด้านซ้ายมีรอยบุบ และกระจกด้านหน้ารถแตกร้าว มีนายเอกลักษณ์ กนกวิบูลย์ศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/45 ถนนราชพฤกษ์ หมู่ 10 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี คนขับยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบลูกสาวคนโตของผู้ตายมาเกาะเท้าแม่ร้องไห้ สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามนายเอกลักษณ์ กนกวิบูลย์ศรี คนขับรถเก๋ง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถออกมาจากบ้านพักย่าน จ.นนทบุรี เพื่อจะไปทำงานแถวรังสิต และขับมาทางเลนขวาสุด โดยขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ ก็เห็นผู้ตายข้ามถนนมาแบบกระชั้นชิด จึงพยายามบีบแตร และหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น ทำให้ชนผู้ตายที่กำลังอุ้มเด็กอย่างจัง จนทั้งคู่กระเด็นไปฟุบอยู่กลางถนน จากนั้นจึงรีบจอดรถและพยายามลงมาเพื่อช่วยเหลือ แต่พบว่าแม่เด็กหายใจรวยรินก่อนจะเสียชีวิต ส่วนเด็ก ตนได้ขอให้พลเมืองดีรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจและพร้อมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
นายเอกลักษณ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ยิ่งมาทราบภายหลังว่า แม่เด็กกำลังจะพาลูกไปหาหมอเพราะลูกมีไข้ตัวร้อน ส่วนพ่อเด็กก็พิการขาซ้ายด้วนที่ข้อเท้า
ขณะที่นายศตวรรษ จิตรงาม อายุ 54 ปี สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนกับผู้ตายมีลูกด้วยกัน 2 คนคือ ด.ญ.สุพัตรา จิตรงาม หรือ ‘น้องแตงกวา’ อายุ 5 ขวบ และคนเล็กชื่อ ด.ช.สุรชาติ เบ้าทองหล่อ หรือ ‘น้องเปเป้’ อายุขวบครึ่ง โดยภรรยาตนเป็นชาวลาว ชื่อ น.ส.ติม หรือ ดาว ส่วนตนพิการเนื่องจากก่อนหน้านี้ขับรถแท็กซี่ และมีแผลติดเชื้อที่ข้อเท้าซ้ายจนหมอต้องตัดทิ้งกลายเป็นคนข้อเท้าด้วน และไม่ได้มีงานทำ อาศัยเจ้าของอู่รถแท็กซี่ให้พักอาศัยอยู่ด้วย ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้านและรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุตอนเช้าภรรยากำลังจะพาลูกชายไปหาหมอเพราะมีไข้ตัวร้อน แต่พอเดินข้ามถนนก็ถูกรถชนตายดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า ผู้ตายได้เดินข้ามถนนโดยไม่ทันได้ระวัง และรถมีจำนวนมากเพราะเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วน จนถูกรถยนต์ชนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนคนขับก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ทั้งยังรีบเข้าช่วยเหลือทั้งแม่และลูก ก่อนที่คนเป็นแม่จะเสียชีวิต ส่วนลูกทราบว่าถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด แต่ทางโรงพยาบาลไม่รับ โดยอ้างว่าไม่มีญาติและคนรับผิดชอบ ทางฝ่ายคู่กรณี จึงได้รับเด็กมารักษาตัวที่ โรงพยาบาลกรุงสยามเซ็นคาร์ลอส ขณะที่ศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อชันสูตรต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/518897 
สลด ! แม่อุ้มลูกน้อยไปหาหมอ รีบข้ามถนน รถชนดับ สลดซ้ำ รพ.ปฏิเสธ @ อ.เมืองปทุมธานี
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 17 ส.ค. 58 พ.ต.ท.สุวัฒน์ โพธิ์รี พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเดินข้ามถนนเสียชีวิตบริเวณถนนซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร หมู่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จึงรุดไปตรวสอบพร้อมแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุ เป็นช่วงขาเข้ามุ่งหน้าไปรังสิต ในช่องเลนกลาง พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.ติม แก้วใส สัญชาติลาว อายุ 29 ปี นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นลูกชายผู้เสียชีวิต อายุ 1 ขวบครึ่งชื่อ ด.ช.สุรชาติ เบ้าทองหล่อ หรือ ‘น้องเปเป้’ ถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว
ส่วนรถที่ชน เป็นเก๋งมาสด้า 3 สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กฐ 2794 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ฝากระโปรงด้านซ้ายมีรอยบุบ และกระจกด้านหน้ารถแตกร้าว มีนายเอกลักษณ์ กนกวิบูลย์ศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/45 ถนนราชพฤกษ์ หมู่ 10 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี คนขับยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบลูกสาวคนโตของผู้ตายมาเกาะเท้าแม่ร้องไห้ สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามนายเอกลักษณ์ กนกวิบูลย์ศรี คนขับรถเก๋ง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถออกมาจากบ้านพักย่าน จ.นนทบุรี เพื่อจะไปทำงานแถวรังสิต และขับมาทางเลนขวาสุด โดยขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ ก็เห็นผู้ตายข้ามถนนมาแบบกระชั้นชิด จึงพยายามบีบแตร และหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น ทำให้ชนผู้ตายที่กำลังอุ้มเด็กอย่างจัง จนทั้งคู่กระเด็นไปฟุบอยู่กลางถนน จากนั้นจึงรีบจอดรถและพยายามลงมาเพื่อช่วยเหลือ แต่พบว่าแม่เด็กหายใจรวยรินก่อนจะเสียชีวิต ส่วนเด็ก ตนได้ขอให้พลเมืองดีรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจและพร้อมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
นายเอกลักษณ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ยิ่งมาทราบภายหลังว่า แม่เด็กกำลังจะพาลูกไปหาหมอเพราะลูกมีไข้ตัวร้อน ส่วนพ่อเด็กก็พิการขาซ้ายด้วนที่ข้อเท้า
ขณะที่นายศตวรรษ จิตรงาม อายุ 54 ปี สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนกับผู้ตายมีลูกด้วยกัน 2 คนคือ ด.ญ.สุพัตรา จิตรงาม หรือ ‘น้องแตงกวา’ อายุ 5 ขวบ และคนเล็กชื่อ ด.ช.สุรชาติ เบ้าทองหล่อ หรือ ‘น้องเปเป้’ อายุขวบครึ่ง โดยภรรยาตนเป็นชาวลาว ชื่อ น.ส.ติม หรือ ดาว ส่วนตนพิการเนื่องจากก่อนหน้านี้ขับรถแท็กซี่ และมีแผลติดเชื้อที่ข้อเท้าซ้ายจนหมอต้องตัดทิ้งกลายเป็นคนข้อเท้าด้วน และไม่ได้มีงานทำ อาศัยเจ้าของอู่รถแท็กซี่ให้พักอาศัยอยู่ด้วย ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้านและรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุตอนเช้าภรรยากำลังจะพาลูกชายไปหาหมอเพราะมีไข้ตัวร้อน แต่พอเดินข้ามถนนก็ถูกรถชนตายดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า ผู้ตายได้เดินข้ามถนนโดยไม่ทันได้ระวัง และรถมีจำนวนมากเพราะเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วน จนถูกรถยนต์ชนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนคนขับก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ทั้งยังรีบเข้าช่วยเหลือทั้งแม่และลูก ก่อนที่คนเป็นแม่จะเสียชีวิต ส่วนลูกทราบว่าถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด แต่ทางโรงพยาบาลไม่รับ โดยอ้างว่าไม่มีญาติและคนรับผิดชอบ ทางฝ่ายคู่กรณี จึงได้รับเด็กมารักษาตัวที่ โรงพยาบาลกรุงสยามเซ็นคาร์ลอส ขณะที่ศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อชันสูตรต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/518897