ไม่แปลกหรอกที่บางคนเคยคิดฆ่าตัวตาย ผมก็เคยนะ..แบบว่ามันไม่ไหวแล้ว

กระทู้สนทนา
ชีวิตผมปีสองปีมานี้มีแต่ปัญหาครอบครับ และคนใกล้ตัวครับ จากที่ผมเคยตั้งกระทู้ไว้
เรื่องแรก http://pantip.com/topic/32935688
เรื่องสอง http://pantip.com/topic/33000618
เรื่องสาม http://pantip.com/topic/33700084


มาวันนี้ก็มีปัญหาที่แก้ไม่ตกจากคนใกล้ตัวอีกแล้ว ที่ผ่านมาผมเล่าถึงแต่ปัญหาที่เกิดจากแม่ยาย (แม่ภรรยา) ของผม ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างก็เริ่มจะคลี่คลายบ้าง แต่ภาระหนี้ก็ยังต้องหาเงินส่งใช้กันต่อไป เหนื่อยครับ แต่ก็ยังพอไหว

เริ่มจากเมื่อสามสี่วันก่อน ผมได้รับโทรศัพท์จากพ่อ โทรมาบอกว่าน้องชายยังไม่ได้จ่ายค่าเทอม (เรียนมหาลัย) ผมได้ยินก็งงๆ เพราะจำได้ว่าได้ส่งค่าเทอมให้ไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่าน แล้วทำไมจึงไม่ได้จ่าย จนจะถูกพักการเรียนแล้ว ผมจึงโทรเข้าไปที่มหาวิทยาลัยที่น้องชายเรียนอยู่ สรุปก็ได้รู้ว่ายังไม่จ่ายจริง และจะถูกพักการเรียนแล้วเพราะหมดเวลาชำระเงิน เซ็งมากครับ ปัญหามาอีกแล้ว

กลับมาที่น้องชายตัวดีของผม เมื่อสามปีก่อนก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ ผมก็หาเงินส่งเสีย จ่ายค่าหอ ค่าเทอมเรียบร้อย แต่พอจะเรียนวันแรกกลับไม่เรียน อ้างว่าคิดถึงแฟนที่ต่างจังหวัด แล้วหนีกลับบ้านไปหาแฟนเฉยๆ ทิ้งผมให้รับภาระทุกอย่าง ผมโกรธมาก ไม่คุยกับน้องชายปีหนึ่งเต็มๆ สุดท้ายพ่อแม่ผมก็มาขอร้องให้สงสารน้อง เพราะน้องสัญญาว่าจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ และกำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ในปีต่อมา

ผมก็นึกว่าเรื่องจะจบ จริงๆ แล้วในช่วงที่น้องชายกลับบ้านไปอยู่เฉยๆ เพื่อรอแฟนเป็นเวลาหนึ่งปีนั้น (แฟนเป็นรุ่นน้อง 1 ปี) เขาสร้างวีรกรรมเยอะแยะ ทั้งเล่นยา การพนัน บังคับเอาเงินพ่อแม่ใช้จ่ายกับเรื่องไร้สาระมากมาย พ่อแม่เองก็ยอมเพราะรักลูก แต่ก็ปิดบังผมด้วย คงกลัวผมไม่สบายใจหรือกลัวผมโกรธก็ไม่รู้เหมือนกัน

เอาล่ะอดีตแก้ไขไม่ได้ก็ปล่อยผ่านไป ปีถัดมาน้องชายผมก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่งใน กทม. ได้พร้อมกับแฟน จึงไปเรียนด้วยกัน ผมก็แอบดีใจนะว่าน้องชายคงคิดได้แล้ว แต่ยิ่งหนักกว่าเดิมโดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้จ่าย ที่ฟุ่มเฟือย ให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ พ่อและแม่แอบโอนให้ตลอดซึ่งผมไม่เห็นด้วยเลยที่ให้น้องชายใช้จ่ายเงินโดยไม่ควบคุมแบบนี้ เพราะรวมๆ แล้วเดือนหนึ่งๆ ใช้จ่ายเงินเกิน 20000 บาท ผมว่าไม่น้อยนะครับสำหรับเด็กบ้านนอกที่มาเรียนใน กทม.

มีครั้งหนึ่งที่ผมดุน้องชายเรื่องใช้เงิน จนพ่อไม่พอใจหาว่าผมไม่รักน้อง พ่อไม่คุยกับผมไปสามเดือนเต็มๆ ผมก็อึดอัดใจนะ ทำอะไรไม่ได้ ได้แค่รอให้เขาใจดีขึ้นมากว่าจะเริ่มคุยกันได้ใหม่

กลับมาเรื่องล่าสุดที่ทำให้ผมเจ็บปวดมาก คือเรื่องที่น้องไม่เอาเงินไปจ่ายค่าเทอม แต่กลับเอาเงินไปเที่ยวเตร่จนหมด และจะถูกพักการเรียน พ่อแม่ต้องหาเงินให้ด่วนเพื่อนำไปชำระก่อน นั่นหมายความว่าต้องส่งค่าเทอมให้ถึงสองรอบ ผมนี่ถึงกับอึ้งว่าทำไมน้องชายทำตัวแบบนี้ ผมจึงส่งข้อความทาง line ไปต่อว่าน้องชาย ยอมรับเลยว่าขึ้นกูเพราะโกรธมาก น้องชายผมก็กูกลับมา เอาล่ะครับ ศรัทธาต่อกันคงจะหมดละ

วันนี้ที่เสียใจมาก คือ ผมกำลังจะไปสอบบรรจุทำงานในหน่วยงานราชการใกล้บ้าน เพราะหวังจะกลับไปตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดในยามอายุมากขึ้น พ่อผมโทรมาหาทั้งวัน อ้อนให้ผมทำงานที่เดิมเพราะเงินเดือนเยอะแล้ว และปลายปีนี้ให้ผมกู้เงินให้เพื่อส่งน้องชายเรียนโดยพ่ออยากได้สัก 3-4 แสน

ผมกลับมานอนคิดนะ บางทีก็น้อยใจเหมือนกัน เรื่องส่งน้องเรียนผมทำอยู่แล้ว และทำมาตลอด แต่เรื่องสร้างหนี้เพิ่มมากมายนี่ผมรู้สึกไม่ดีเลย กู้เงิน 3-4 แสนแต่เวลาใช้คืนนี่นานหลายปีกว่าจะหมด ดอกเบี้ยอีก บอกตรงๆ แล้วผมจะเอาอะไรกิน แถมน้องชายผมก็สร้างปัญหาให้ไม่เว้นแต่ละเดือน แค่เรื่องเอาเงินค่าเทอมไปเที่ยวเตร่นี่ผมก็ว่าสุดๆ แล้ว

ผมรักพ่อแม่เสมอนะครับ เงินเดือนที่ผมได้ผมก็ส่งกลับบ้าน มากน้อยบ้างตามแต่ละเดือน แต่ไม่เคยขาด ผมคนทำงานเงินเดือนน้อย ส่งมากผมก็อยู่ไม่ได้ ผมก็แบ่งไว้ใช้จ่ายบ้าง อาจจะเป็นปมของคนเป็นพี่ ที่รู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รักลูกคนโตเอาใจลูกคนเล็กอย่างเดียว สำหรับครอบครัวผม น้องชายผมถือว่าโชคดีจริงๆ ที่ว่าโชคดีเพราะไม่ว่าจะทำเรื่องร้ายๆ อะไร มีพ่อแม่ออกหน้าให้หมด ทั้งเรื่องเงิน และเรื่องอื่นๆ

ผมรู้สึกเสียใจที่ พ่อไม่อยากให้ผมไปสอบเข้าทำงานราชการใกล้บ้าน แต่ให้อยู่ที่เดิมเพียงเพื่อจะให้กู้เงินส่งน้องชายเรียน (ถ้าไม่กู้ผมส่งให้รายเดือนก็เพียงพอแล้ว)

วันนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับไปทำงานที่บ้าน ผมจะอยู่ที่เดิม ต่อให้ตกงานประจำก็จะทำอย่างอื่นแทน ผมเข้าใจแล้วครับว่า เวลาที่คนเราเสียใจ หมดกำลังใจ จนคิดฆ่าตัวตายมันเป็นยังไง ชีวิตไม่มีอะไรง่ายจริงๆ....ปีสองปีมานี้ผมทนกับปัญหามาได้ยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่