ล่องเรือ กินหอยชมทุ่งโปรงทอง
.....การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ก็กำลังเป็นกระแสที่น่าสนใจ เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแนวๆ นี้เกิดขึ้นมาเยอะแยะมากมาย และเหล่าวัยรุ่นก็นิยมไปเที่ยวกันมากขึ้น ทริปนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลมาก เดินทางได้สะดวก ไปง่ายๆกันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
.....ที่ๆเราจะพาไปในทริปนี้ก็คือ ทุ่งโปรงทอง บริเวณปากน้ำประแส จังหวัดระยอง การท่องเที่ยวที่นี่จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เราจะได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความสวยงามของป่าโกงกาง ระบบนิเวศชายน้ำต้นโปรง
.....การเดินทางสามารถค้นหาทุ่งโปรงทองจากอินเตอร์เน็ตได้ไม่ยาก โดยสามารถค้นหาที่คำว่า “ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส” ได้เลย ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงวัดตะเคียนงามเข้าซอยเทศบาล 5 ตรงเข้าไปตามทาง จะมีป้ายบอกไปทุ่งโปรงทอง เข้าซอยแค่อึดใจเดียว ก็จะถึงทางเข้าทุ่งโปรงทอง ระยะทางจากวัดตะเคียนงามมาทุ่งโปรงทอง ประมาณ 1.3 กิโลเมตร
.....ทุ่งโปรงทอง อยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ หมู่ 7 ปากน้ำประแส อำเภอแกลง ป่าชายเลนแห่งนี้ มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ปีพ.ศ. 2552 องค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงได้ใช้งบประมาณ พัฒนาพื้นที่ปากน้ำประแส ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ มีการสร้างสะพานเดินชมธรรมชาติ เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
.....ถ้าไปช่วงบ่ายๆ ที่ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยลงแล้วละก็ ทุ่งโปรงที่โอบล้อมเราจะกลายเป็นสีทอง สวยงามเหมือนกับอยู่บนโลกอีกใบที่ไม่ใช่ใบสีฟ้าที่เรารู้จัก เส้นทางท่องเที่ยวจะเป็นทางเดินไม้ตัดผ่านป่าโกงกาง ตลอดรายทางเราจะเห็นสัตว์น้อยใหญ่อยู่ในป่างโกงกาง ไกด์บอกกับเราว่า รากโกงกางจะเป็นที่อนุบาลสัตว์เล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกปลา กุ้งตัวเล็กๆ ปลาตีน ก็มีให้เห็นมากมาย แถมที่นี่ยังมีลิงแสมด้วยแต่เสียดาย ทริปนี้เราไม่ได้เห็นลิงแสมเลย สงสัยมันคงอายพวกเรากระมัง ไกด์บอกว่าถ้าอยากดูต้องมาตอนเช้าๆ พอตกบ่ายลงพวกนี้ก็จะหลบแดดเข้าไปในป่าลึก
.....ที่จุดเริ่มต้น เราจะเห็นชาวบ้านนั่งเก็บอวนกันอย่างแข็งขัน ชาวบ้านที่นี่ใจดีมากครับ พอเราเดินเข้าไปใกล้เราจึงทราบว่า ที่ชาวบ้านกำลังแข็งขันกันอยู่กับอวนนั่นคือชาวบ้านกำลังเก็บ “เคย” เคยก็คือกุ้งตัวเล็กๆที่ใช้ทำกะปิ พอเราเข้าไปถามชาวบ้านก็ยื่นให้เราลองชิม ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเค็มแต่จริงๆแล้วกลับรู้สึกหวานไม่ได้คาวแต่อย่างใด
.....เดินไปตามทางเดินไม้ประมาณ 100 เมตร แหวกม่านโกงกาง เราก็จะเห็น ทิวต้นโปรง อาบแสงอาทิตย์จนกลายเป็นสีทองกลายเป็นที่มาของชื่อทุ่งโปรงทอง ตอนที่เราไปมีนักท่องเที่ยว เซลฟี่กันอย่างสนุกสนาน ตรงนี้ก็มีจุดชมวิวที่สามารถมองได้ 360 องศา ต้นโปรง ตรงนี้ขึ้นกันเบียดแน่นจนไม่เห็นลำต้นหรือพื้นด้านล่าง สูงจากพื้นกะด้วยสายตาก็น่าจะประมาณเมตรกว่าๆ ถึง 2 เมตรครึ่ง ในสีเขียวอ่อน ถูกล้อมด้วยใบสีเขียวเข้มของต้นโกงกาง ที่เป็นพุ่มโดยรอบทำให้เราละสายตาได้ยากจริงๆ
.....หลังจากถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานที่ ทุ่งโปรงทองเราก็จะเดินย้อนกลับออกมา เพื่อขึ้นเรือไปล่องชมปากน้ำประแสและชมการเลี้ยงหอยนางรม เรือที่เรานั่งไปจุคนอย่างปลอดภัยได้ 7-8 คน ค่าเรือก็ลำละ 500 บาท ระหว่างทาง เราบอกได้คำเดียวว่าที่นี้สวยงามมากๆ เรือแล่นไปเรื่อยๆ ฝูงเคยก็แตกกระเซ็นออกไปรอบตัวเรือ บ้างก็ดีดตัวจนพ้นผิวน้ำตลอดการล่องเรือ ถึงแม้ว่าตอนที่เราไปจะเป็นช่วงน้ำลง แต่พื้นที่ก็ยังอุดมสมบูรณ์ ซึ่งคุณลุงคนขับเรือบอกว่า เจ้าเคยนี่แหล่ะเป็นตัวบอกความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่แถบนี้
.....พอเราล่องเรือออกมาใกล้ทะเล เราก็จะเห็นแนวไม้ไผ่ ถูกตีเป็นโครงยาวตลอดแนวที่เรือแล่นไป ซึ่งนั่นก็คือโครงไม้ที่ใช้เลี้ยงหอยนางรมนั่นเอง ตอนที่เราไปโชคดีมากที่หอยอายุ 1 ปีพอดี ที่หอยโตพอทานได้ คุณลุงคนขับเรือจึงแบ่งให้เราชิมกัน รสชาติก็จะออกเค็มสักหน่อย ที่เราสัมผัสได้ชัดเจนก็คือการกินหอยนางรมสดๆมันเป็นอย่างไร ทุกคนบนเรือบ่นเสียใจกันใหญ่ที่ไม่ได้ถือน้ำจิ้มซีฟู้ดมาด้วย
.....ขากกลับเราพบว่าแนวโกงกาง ไม้โปรง เล่นแสงยามเย็น ที่งดงามยิ่งกว่าตอนกลางวันเสียอีก แสงสีส้มตอนเย็นกระทบใบไม้ทุกใบให้ขับแสงออกมาราวกับว่าพระอาทิตย์กำลังระบายสีใบไม้ที่ละใบจนเต็มปากน้ำประแส คุณลุงคนขับเรือเล่าว่า ที่ปากน้ำประแสแต่ก่อนถูกทำลายไปมากจากพวกชาวบ้านหรือพวกลุงเอง จนตอนนี้ชุมชนก็ได้ตระหนักและทำให้ที่นี่อยู่กับพวกเขาไปนานๆ ชาวบ้านก็ช่วยกันฟื้นฟูธรรมชาติจนกลับมาอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้จะไม่เท่าเมื่อก่อน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรายิ้มอย่างดีใจตลอดการล่องเรือ
ฝากติดตามเพจผมด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/ThirdPartyTravel
[SR] [มาเล่าให้ฟัง] ชมทุ่งโปรงทอง ที่ปากน้ำประแส
.....การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ก็กำลังเป็นกระแสที่น่าสนใจ เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแนวๆ นี้เกิดขึ้นมาเยอะแยะมากมาย และเหล่าวัยรุ่นก็นิยมไปเที่ยวกันมากขึ้น ทริปนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลมาก เดินทางได้สะดวก ไปง่ายๆกันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
.....ที่ๆเราจะพาไปในทริปนี้ก็คือ ทุ่งโปรงทอง บริเวณปากน้ำประแส จังหวัดระยอง การท่องเที่ยวที่นี่จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เราจะได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความสวยงามของป่าโกงกาง ระบบนิเวศชายน้ำต้นโปรง
.....การเดินทางสามารถค้นหาทุ่งโปรงทองจากอินเตอร์เน็ตได้ไม่ยาก โดยสามารถค้นหาที่คำว่า “ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส” ได้เลย ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงวัดตะเคียนงามเข้าซอยเทศบาล 5 ตรงเข้าไปตามทาง จะมีป้ายบอกไปทุ่งโปรงทอง เข้าซอยแค่อึดใจเดียว ก็จะถึงทางเข้าทุ่งโปรงทอง ระยะทางจากวัดตะเคียนงามมาทุ่งโปรงทอง ประมาณ 1.3 กิโลเมตร
.....ทุ่งโปรงทอง อยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ หมู่ 7 ปากน้ำประแส อำเภอแกลง ป่าชายเลนแห่งนี้ มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ปีพ.ศ. 2552 องค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงได้ใช้งบประมาณ พัฒนาพื้นที่ปากน้ำประแส ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ มีการสร้างสะพานเดินชมธรรมชาติ เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
.....ถ้าไปช่วงบ่ายๆ ที่ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยลงแล้วละก็ ทุ่งโปรงที่โอบล้อมเราจะกลายเป็นสีทอง สวยงามเหมือนกับอยู่บนโลกอีกใบที่ไม่ใช่ใบสีฟ้าที่เรารู้จัก เส้นทางท่องเที่ยวจะเป็นทางเดินไม้ตัดผ่านป่าโกงกาง ตลอดรายทางเราจะเห็นสัตว์น้อยใหญ่อยู่ในป่างโกงกาง ไกด์บอกกับเราว่า รากโกงกางจะเป็นที่อนุบาลสัตว์เล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกปลา กุ้งตัวเล็กๆ ปลาตีน ก็มีให้เห็นมากมาย แถมที่นี่ยังมีลิงแสมด้วยแต่เสียดาย ทริปนี้เราไม่ได้เห็นลิงแสมเลย สงสัยมันคงอายพวกเรากระมัง ไกด์บอกว่าถ้าอยากดูต้องมาตอนเช้าๆ พอตกบ่ายลงพวกนี้ก็จะหลบแดดเข้าไปในป่าลึก
.....ที่จุดเริ่มต้น เราจะเห็นชาวบ้านนั่งเก็บอวนกันอย่างแข็งขัน ชาวบ้านที่นี่ใจดีมากครับ พอเราเดินเข้าไปใกล้เราจึงทราบว่า ที่ชาวบ้านกำลังแข็งขันกันอยู่กับอวนนั่นคือชาวบ้านกำลังเก็บ “เคย” เคยก็คือกุ้งตัวเล็กๆที่ใช้ทำกะปิ พอเราเข้าไปถามชาวบ้านก็ยื่นให้เราลองชิม ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเค็มแต่จริงๆแล้วกลับรู้สึกหวานไม่ได้คาวแต่อย่างใด
.....เดินไปตามทางเดินไม้ประมาณ 100 เมตร แหวกม่านโกงกาง เราก็จะเห็น ทิวต้นโปรง อาบแสงอาทิตย์จนกลายเป็นสีทองกลายเป็นที่มาของชื่อทุ่งโปรงทอง ตอนที่เราไปมีนักท่องเที่ยว เซลฟี่กันอย่างสนุกสนาน ตรงนี้ก็มีจุดชมวิวที่สามารถมองได้ 360 องศา ต้นโปรง ตรงนี้ขึ้นกันเบียดแน่นจนไม่เห็นลำต้นหรือพื้นด้านล่าง สูงจากพื้นกะด้วยสายตาก็น่าจะประมาณเมตรกว่าๆ ถึง 2 เมตรครึ่ง ในสีเขียวอ่อน ถูกล้อมด้วยใบสีเขียวเข้มของต้นโกงกาง ที่เป็นพุ่มโดยรอบทำให้เราละสายตาได้ยากจริงๆ
.....หลังจากถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานที่ ทุ่งโปรงทองเราก็จะเดินย้อนกลับออกมา เพื่อขึ้นเรือไปล่องชมปากน้ำประแสและชมการเลี้ยงหอยนางรม เรือที่เรานั่งไปจุคนอย่างปลอดภัยได้ 7-8 คน ค่าเรือก็ลำละ 500 บาท ระหว่างทาง เราบอกได้คำเดียวว่าที่นี้สวยงามมากๆ เรือแล่นไปเรื่อยๆ ฝูงเคยก็แตกกระเซ็นออกไปรอบตัวเรือ บ้างก็ดีดตัวจนพ้นผิวน้ำตลอดการล่องเรือ ถึงแม้ว่าตอนที่เราไปจะเป็นช่วงน้ำลง แต่พื้นที่ก็ยังอุดมสมบูรณ์ ซึ่งคุณลุงคนขับเรือบอกว่า เจ้าเคยนี่แหล่ะเป็นตัวบอกความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่แถบนี้
.....ขากกลับเราพบว่าแนวโกงกาง ไม้โปรง เล่นแสงยามเย็น ที่งดงามยิ่งกว่าตอนกลางวันเสียอีก แสงสีส้มตอนเย็นกระทบใบไม้ทุกใบให้ขับแสงออกมาราวกับว่าพระอาทิตย์กำลังระบายสีใบไม้ที่ละใบจนเต็มปากน้ำประแส คุณลุงคนขับเรือเล่าว่า ที่ปากน้ำประแสแต่ก่อนถูกทำลายไปมากจากพวกชาวบ้านหรือพวกลุงเอง จนตอนนี้ชุมชนก็ได้ตระหนักและทำให้ที่นี่อยู่กับพวกเขาไปนานๆ ชาวบ้านก็ช่วยกันฟื้นฟูธรรมชาติจนกลับมาอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้จะไม่เท่าเมื่อก่อน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรายิ้มอย่างดีใจตลอดการล่องเรือ
ฝากติดตามเพจผมด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/ThirdPartyTravel
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น