เป็นไปได้มั้ย? ที่เครื่องบินจะบินออกสู่ห้วงอวกาศได้

อาจเป็นคำถามที่อาจปัญญาอ่อน แต่ในเมื่อยังหาชิ้นส่วนของMH370ไม่เจอและเหมือนเป็นการหายไปแบบไร้ร่องรอย
อยากทราบว่าเป็นไปได้มั้ยที่เครื่องบินจะถูกบังขับออกสู่อวกาศอย่างตั้งใจหรือว่าใครมีมีทฏษฏีอื่นๆมาแชร์บ้าง




ข้อเท็จจริงข้อแรก เครื่องบินโบอิ้ง 777 เพื่อการพาณิชย์ทุกลำติดตั้งกล่องดำที่ทนทานต่อแรงระเบิด โดยกล่องดำนี้บันทึกข้อมูลการบินในรูปแบบสัญญาณดิจิตอล ซึ่งรวมถึงข้อมูลการควบคุมเครื่องเหนือผืนดิน และการสนทนาในห้องนักบิน
       
ข้อเท็จจริงข้อที่ 2 กล่องดำทุกๆ กล่องสามารถส่งสัญญาณระบุตำแหน่งของตนเอง อย่างน้อย 30 วันนับจากที่ตกลงกลางทะเล แต่ดูเหมือนกล่องดำของเที่ยวบิน MH370 ไม่ส่งสัญญาณใดๆ ให้ตรวจจับได้เลย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า โครงสร้างกล่องดำสามารถทนทานต่อแรงระเบิดได้ จึงอาจสันนิษฐานได้ว่า กล่องดำอาจหายไป, รวน, หรือถูกทำลายไม่เหลือซากด้วยพลังที่ทรงอานุภาพเหนือจินตนาการของวิศวกรผู้ ออกแบบเครื่องบิน
       
ข้อเท็จจริงข้อที่ 3 คือ ชิ้นส่วนมากมายของเครื่องบินเวลานี้เป็นสิ่งที่ลอยน้ำได้ ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ในอดีตหลายๆ เหตุการณ์ที่เครื่องบินถูกทำลายเหนือมหาสมุทรหรือตกลงในมหาสมุทร แต่มักมีเศษซากชิ้นส่วน เป็นต้นว่า เบาะที่นั่ง ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ซึ่งค้นหาได้ไม่ยาก ทว่าการที่เวลาผ่านไปหลายวันโดยยังไม่พบซากชิ้นส่วน MH370 เลย จึงยิ่งเพิ่มปริศนาว่า เหตุใดเครื่องบินลำนี้จึงดูเหมือนหายไปจากโลกเฉยๆ

ข้อเท็จจริงข้อที่ 4หากมีการยิงขีปนาวุธโจมตีทำให้เที่ยวบิน MH370 ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนไม่สามารถหาพบ ขีปนาวุธดังกล่าวก็จะต้องทิ้งสัญญาณให้เรดาร์ตรวจจับได้
นอกจากนั้น ขณะนี้ยังไม่มีขีปนาวุธใดๆ เท่าที่ทราบกัน ซึ่งสามารถทำลายเครื่องบินให้กลายเป็นจุลได้
       
ข้อเท็จจริงข้อที่ 5 ตำแหน่งแห่งที่เมื่อตอนที่เครื่องบินลำนี้สูญหายไป ไม่ได้เป็นปริศนาลึกลับอะไรเลย
     กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศมีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่ง ระดับความสูง และความเร็วของเครื่องบิน ในวินาทีที่เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถนำมาคำนวณเพื่อค้นหาซากเครื่องบินได้ในกรณีที่ เครื่องบินตกหรือระเบิด ทว่า การที่ถึงวันนี้ยังไม่พบชิ้นส่วนใดๆ จึงไม่มีใครรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับ MH370 กันแน่
       
ข้อเท็จจริงข้อที่ 6 ถ้าหากเที่ยวบิน MH370 ถูกจี้ ก็ไม่มีทางที่สัญญาณของมันจะหายวับไปจากจอเรดาร์ เพราะถึงแม้ตัวอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณของเครื่องบินถูกปิด แต่เรดาร์ภาคพื้นดินยังสามารถติดตามตำแหน่งของเครื่องบินโดยใช้เรดาร์ที่ เรียกกันว่า “แพสสีฟ” (ระบบเรดาร์ภาคพื้นดินที่ปล่อยสัญญาณและติดตามการสะท้อนกลับ) ได้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่ได้ครับ เพราะเชื้อเพลิงที่เครื่องบินใช้จำเเป็นต้องใช้ออกซิเจน ในการสันดาป ในระบบการเผาใหม้เชื้อเพลิง ดังนั้นก่อนที่จะหลุดออกไปจากแรงดึงดูดของโลก เครื่องยนต์จะดับและถูกดึงกลับเข้าโลกก่อน เนื่องจากนำ้หนักของตัวมันครับ

ทฤษฎีของผมครับ
ข้อเท็จจริงข้อแรก  ประเทศที่เป็นผูนำทางเทคโนโลยีอาวุธ ต่างก็เร่งพัฒนาอาวุธชนิดใหม่กันอย่างหน้าดำหน้าแดง ที่เรียกว่า ระเบิดอิเล็กทรอนิค ซึ่งก็มีสองเจ้าแล้วที่ออกมาบอกว่าตนเองทำสำเร็จ ระเบิดนี้จะยิงคลื่นแม่เหล็กไปทำลาย ระบบอิเล็กโทรนิคของเป้าหมาย ทำให้เสียหายทั้งระบบ ถ้า MH 370 โดนยิงก็เชื่อว่ากล่องดำน่าจะถูกทำลายไปด้วย
      
ข้อเท็จจริงข้อที่ 2 กล่องดำ นั้นออกแบสำหรับป้องกันการระเบิดและ ความเสียหายด้านอิเล็คทรอนิค ในระดับปกติ นั้นหมายความว่ามันไม่ทนทานต่อระเบิดที่ว่า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่เกินกว่าวิศกรออกแบบจะคิดถึง
      
ข้อเท็จจริงข้อที่ 3 จากข้อเท็จจริงที่ว่า ระเบิดนี้จะทำลายเฉพาะ ระบบอิเลคโทรนิค ดังนั้นระบบแมคคานิค ของเคร่ืองบินจึงใช้งานได้ จึงไม่แปลกที่ จะไม่เห็นชิ้นส่วนลอยนำ้เนื่องจากเครื่องยังบินต่อได้ โดยไม่มีสัญญาณทางอิเลคทรอนิคใด ๆ ส่งออกมา จึงดูเหมือนหายไปจากโลกเฉยๆ

ข้อเท็จจริงข้อที่ 4 จากข้อเท็จจริงที่ว่า มีผู้โดยสาร ที่ไม่ใช่ตัวจริงอย่าน้อยสองคนในเครื่อง หากทั้งคู่มีการถือความลับสำคัญ นั่นก็เป็นเหตุให้เกิดการยิงขีปนาวุธโจมตีได้  ทำให้เที่ยวบิน MH370 ถูกทำลายโดยไม่ทิ้งสัญญาณให้เรดาร์ตรวจจับได้
      
ข้อเท็จจริงข้อที่ 5 ตำแหน่งแห่งที่เมื่อตอนที่เครื่องบินลำนี้สูญหายไป คือตำแหน่งที่ถูกจรวด โจมตี และตามข้อเท็จจริงที่ว่า จรวดจะทำลายเฉพาะ ระบบอิเลคโทรคนิคเท่านั้น ดังนั้นการไม่พบซากในระยะที่ได้จากการคำนวณ จึงไม่น่าแปลก นั่นเพราะเครื่องสามารถบินต่อไปได้นั่นเอง เพียงแต่เราไม่ทราบว่าปลายทางที่ใหนและ เกิดอะไรขึ้นกับ MH370 กันแน่
      
ข้อเท็จจริงข้อที่ 6 เป็นที่ทราบกันดีว่า ระบบ AVAC นอกจากเป็นตาให้กับ ฝูงบินรบแล้วมันยังสามารถพรางตา เรดาร์ภาคพื้นได้ด้วย หาก MH 370 บินภายใต้การพรางของ AVAC ก็เป็นที่แน่นอนว่า  เรดาร์ภาคพื้นไม่สามารถมองเห็น ระบบนี้เริ่มมีใช้มาตั้งแต่สงครามอ่าว มีสารคดี หลายชิ้น ที่ทำเกี่ยวกับการบินพรางตัวเข้าไปในพื้นที่สู้รบ และเมื่อหลายปีก่อน มีเครื่อง AVAC เข้าไปในน่านฟ้าจีน จีนสั่งให้เครื่องบินรบของตนเองบินเฉี่ยวชน จนต้องร่อนลงจอด จีนยึดเครื่องไว้ 48 ชม. ก่อนคืนเครื่องพร้อมลูกเรือให้ อเมริกา เชื่อว่าจีนน่าจะได้เทคโนโลยีนี้ไปด้วย นักบินจีนที่ขับเฉี่ยวได้เหรียญกล้าหาญด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่