ครอบครัวมีปัญหาเพราะพ่อแม่สามีเชื่อคำทำนายจากพระ

เรื่องของดิฉันที่เกิดขึ้นมันเหมือนเรื่องในละคร ที่ดิฉันเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง ทุกครั้งที่ตื่นมาก็นึกว่าฝันไปไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ทุกวันนี้กลายเป็นคนคิดมาก นอนไม่หลับ และต้องมาทะเลาะกับสามีบ่อยครั้งด้วยเรื่องพ่อแม่สามี เครียดมาก จนอยากจะมาขอคำแน่ะนำจากเพื่อนๆ พี่น้องผู้มีประสบการณ์ครอบครัวชาวPantip ค่ะ ว่าจะทำอย่างไรดี T_T

ดิฉันกับสามีคบและแต่งงานกันมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ ตลอดระยะเวลาที่อยู่กันมาก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างตามประสาคนอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาหนักหนาอะไรเลย จนดิฉันอายุสามสิบกว่าแล้ว เราวางแผนจะมีลูกด้วยกันค่ะไม่อยากมีตอนอายุเยอะมาก ทุกอย่างพร้อม ก่อนหน้านี้ตกลงกันว่าดิฉันจะออกจากงานเพื่อมาตั้งใจมีลูกอย่างจริงจัง และสามีจะเป็นคนส่งบ้าน ดิฉันก็มีเงินเก็บพอประมาณก็คิดว่าเราน่าจะดูแลครอบครัวกันได้อย่างมีความสุข ดิฉันเตรียมตัวมีลูกอย่างเต็มที่ อารมณ์ตอนนั้นมีความสุขมากๆ ค่ะ สามีเอาใจทุกอย่าง เลิกงานกลับบ้าน ไม่เที่ยว ไม่ติดเพื่อน พาไปเที่ยว พูดจาหวานเอาอกเอาใจ แต่เรื่องก็ต้องมาเกิดขึ้นค่ะ พ่อสามีไปพบพระธุดงค์มาจากต่างจังหวัดหนึ่งรูปแล้วเกิดศรัทธาแล้วพ่อก็พาพระไปปักกลดอยูในที่ของพ่อโดยมีบ้านหลังเล็กๆ ให้ท่านจำวัด ตั้งแต่พบพระรูปนี้ก็เกิดอะไรขึ้นหลายๆ อย่างทำให้พ่อกับแม่และครอบครัวสามีเกิดศรัทธากันมาก เช่น มีญาติที่ขาเจ็บจนเดินไม่ได้มาหลายปีไปพบพระรูปนี้ให้กรวดน้ำทุกวัน ตอนนี้ญาติท่านนั้นเดินได้ พระท่านทักว่าพี่ชายสามีต้องป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลก็ดันมาเป็นจริง และบอกว่าถ้ายังอยู่กรุงเทพอยู่ก็จะเข้าโรงพยาบาลอีกหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้เข้าโรงพยาบาลอีกจริงๆ จนตอนนี้พี่ชายและแฟนเค้าก็ลาออกจากงานไปพักรักษาตัวอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อแม่ค่ะ

ด้วยเหตุการณ์หลายๆ อย่างทำให้พ่อแม่และญาติของสามีดิฉันศรัทธาพระท่านนี้มากๆ ต้องไปทำพิธีกรวดน้ำเช้าเย็นทุกวัน เวลากรวดก็จะเทน้ำจากขวดใหญ่ลงพื้นดินและท่านก็ให้ท่องคาถาอโหสิกรรมต่างๆ ที่ดิฉันเองก็ไม่เคยท่องมาก่อน ตอนแรกแฟนดิฉันก็เฉยๆ ค่ะแต่เมื่อไปพบพระท่านนี้ก็ให้ทำพิธีกรวดน้ำแล้วอาการปวดหลังที่เป็นเรื้อรังมาหลายปีดันหาย เค้าก็เลยเชื่อไปด้วย วันนึงสามีและพ่อแม่แฟนบังคับให้ดิฉันลางานไปพบพบพระรูปนี้เพราะแม่ได้ข้อความทางไลน์ว่าจะเกิดเหตุร้ายในกรุงเทพซึ่งตรงกับคำทำนายของพระรูปนี้ ดิฉันก็ไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวต้องจ้างคนอื่นเข้างานให้หมดไปหมื่นกว่าบาทเพราะลาหลายวัน แต่ไปพบพระท่านนั้นก็รู้สึกไม่โอเคคือทุกอย่างไม่ใช่สิ่งที่เคยเข้าใจตลอดมา โดยเฉพาะจุดพีคที่สุดคือ ท่านบอกว่า”อีก 4 เดือนกรุงเทพและอีกหลายจังหวัดจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง กวาดล้างดินแดน จะมีดินแดนใหม่โดยมีองค์คุณเบื้องสูงเป็นผู้เลือกว่าใครจะได้อยู่ในสมัยต่อไป” ท่านบอกว่าให้มาร่วมเป็นผู้บอกข่าวให้คนเตรียมตัวรับมือ ให้ตั้งใจกรวดน้ำขอขมาเจ้ากรรมนายเวร จะได้ทำให้เวรกรรมทุเลาลงเพื่อจะได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้อยู่ในสมัยขององค์เบื้องสูง ดิฉันก็ได้ถามท่านไปว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจธรรมทำไมต้องหนีตาย ทุกคนก็ต้องตายกันทั้งนั้น ท่านก็ตอบมาแต่ประโยคเดิมๆ ว่าคนมีบุญเท่านั้นถึงจะเชื่อ แล้วแต่บุญแต่กรรมของเจ้า เราได้แต่มาเตือนที่เหลือก็แล้วแต่เจ้า T_T ดิฉันไม่อินค่ะ และรู้สึกแย่มากๆ  และเป็นคนไม่ค่อยเก็บอารมณ์สีหน้า คำพูดของดิฉันจึงไปทำให้พ่อแม่สามีไม่ปลื้มมากๆ ตั้งแต่วันนั้นและมันก็ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ  ทางพ่อสามีก็ดุว่า "คนอื่นจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ ยังไงกูก็ต้องเอาลูกกูกลับบ้าน!!"

พ่อแม่สามีเชื่อมากๆ ว่ากรุงเทพจะเกิดภัยพิบัติ ท่านให้สามีและดิฉันออกจากงาน และถ้าเป็นไปได้ให้ขายบ้าน แล้วกลับไปหางานหรือทำธุรกิจหาลู่ทางทำกินอยู่กับพ่อแม่ ตอนนี้ดิฉันกับสามีมีงานที่ดีค่ะสวัสดิการดี รายได้ดี ผ่อนบ้านมาหลายปีจนอีกไม่เท่าไหร่ก็หมดแล้ว อยู่ดีๆ แผนการที่คิดไว้ตอนแรกก็พังทลายค่ะ ดิฉันกับสามีทะเลาะกันหนักมาก ดิฉันอยากมีลูกมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่คนว่างงานสองคนจะมีลูก สามีก็บอกให้ขายบ้าน  บ้านที่ดิฉันรักและผูกพันมาหลายปี เราอยู่ด้วยกันด้วยความรัก บ้านที่มีแต่ความทรงจำดีๆ ร่วมกันดิฉันทำใจไม่ได้ ดิฉันเลยบอกสามีไปว่ายังไงก็จะไม่ออกจากงานจะส่งบ้านเอง สิ่งที่เจ็บที่สุดคือ สามีบอกว่าก็แล้วแต่จะอยู่กับทรัพย์สมบัติก็ตามใจ ของพวกนี้ไม่ตายหาใหม่ได้ ยังไงก็ตามเค้าจะลาออกและจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่  เจ็บค่ะดิฉันเจ็บมาก ความรักของเราที่มีกันมาเป็นสิบปี เราต้องมาแยกกันจริงๆ

ตอนนี้สามียังอยู่กับดิฉันค่ะพยายามเคลียร์งานเพื่อจะกลับไปอยู่บ้านแถวภาคอีสาน เข้าใจค่ะว่าเค้าเองก็เครียดอีกทางนึงก็พ่อแม่ อีกทางเค้าก็ห่วงดิฉัน เราก็ยังรักกันดีค่ะ พยายามไม่พูดถึงเรื่องนั้นกันเพราะไม่อยากทะเลาะ ก็ได้แต่ทำใจ พอถึงวันนั้นเค้าก็ต้องเลือกที่จะกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่จริงๆ เค้าบอกว่าก็จะไปๆ มาๆ ไม่ได้หายไปไหน แต่คนที่เคยอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วต้องมาแยกกันอยู่ ความคิดที่จะมีลูก ครอบครัวที่อบอุ่นของดิฉันก็ต้องหยุดยาวเลยค่ะ  ดิฉันไม่เคยห้ามนะคะการกลับไปหาพ่อแม่จะไปบ่อยแค่ไหนไม่ว่าเลย การดูแลพ่อแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกควรพึงกระทำ แต่การออกจากงานโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อ คือไม่เข้าใจจริงๆ และไม่เข้าใจว่าทางพ่อแม่สามีท่านคิดยังไง ให้ลูกสามคนออกจากงานไปอยู่บ้านว่างงาน ท่านก็บอกว่าจะหางานให้ไม่ต้องห่วงเอาชีวิตไว้ก่อน แถวบ้านที่อีสานงานก็หายากมากค่ะบ้านเมืองซบเซา ดิฉันก็ได้แต่ต้องทำใจ ทุกวันนี้กลายเป็นที่รังเกียจของครอบครัวสามี ดิฉันกลายเป็นคนที่สามีต้องห่วง เป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยให้ลูกกลับไปอยู่กับพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่แฟนนอนไม่หลับเพราะห่วงลูก  กลายเป็นคนไม่ทำเพื่อครอบครัวเพราะไม่ยอมทิ้งงานและบ้านที่กรุงเทพ กลายเป็นคนดื้อคนบาปเพราะไม่ฟังคำพระท่านนั้น  

พ่อแม่และญาติดิฉันก็โดนบังคับให้ไปฟังพระรูปนั้นแต่ทุกคนไม่อินก็โดนพ่อแม่สามีว่าว่าไม่ยอมเปิดใจ บาปกรรมบังตา โดยปกติแม่จะเข้าวัดทำบุญตลอด แม่นั่งสมาธิทุกวันแต่พระท่านนั้นบอกว่า นั่งสมาธิเป็นการทรมาณตัวเอง ไม่ต้องไปทำ ทำให้เมื่อย เป็นริดสีดวง ปวดแขน ปวดขา ให้หันมากรวดน้ำ และก็เน้นย้ำว่าให้ตั้งใจกรวดน้ำเพื่อจะได้มาร่วมเป็นเนื้อนาบุญในดินแดนขององค์เบื้องสูง คือไปไกลมากค่ะ ทุกอย่างดิฉันเล่าและปรึกษาพ่อแม่ตลอด เครียดมาก จนบางทีอยากจะเลิกกับสามีไปเลย ทางบ้านดิฉันก็ได้แต่ปลอบว่าให้อดทน ดิฉันอยู่เฉยมากๆ แต่กลายเป็นว่าไม่ว่าจะอยู่เฉยหรือทำอะไร ทางบ้านสามีก็ไม่ชอบอยู่ดี  ได้แต่หวังว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วมันอาจจะดีขึ้น อายุก็เยอะขึ้นทุกทีอยากจะมีลูก พ่อของลูกก็ดูแลครอบครัวไม่ได้ ยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ ได้แต่หนีปัญหา ทุกวันนี้เป็นทุกข์มากค่ะ ในอนาคตถ้าเรายังคบกันต่อไปก็ไม่รู้จะไหวไหม พ่อแม่สามีเข้ามามีบทบาทในครอบครัวมากๆ คิดว่ายังไงก็ไม่น่าจะอยู่เป็นครอบครัวใหญ่กับพ่อแม่สามีได้แน่ๆ ค่ะ แถมตอนนี้มาโดนรังเกียจขนาดหนักอีก T_T สามีเองก็ไม่ได้ปกป้องและพูดอะไรให้รู้สึกดีเลย ปล่อยให้ญาติทางบ้านเค้ามาต่อว่าดิฉัน ตัวเค้าเองก็ว่าว่าดิฉันไม่ทำเพื่อครอบครัวเห็นแก่ทรัพย์สิน เหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือดิฉันผิด  ล่าสุดแม่ดิฉันบอกว่าพระท่านนั้นขยายเวลาแล้ว บอกว่าถ้า 4 เดือนนี้ไม่เกิด ก็ภายในไม่กี่ปีนี้ ก็คงต้องแยกกันอยู่ยาวเลยค่ะ ลูกเต้าจะมีกันยังไง จะมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ยังไง ตอนนี้มองไม่เห็นทางเลยค่ะ เลยมาขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ พี่น้องว่าจะทำอย่างไรดี เครียดมากจริงๆ ค่ะ พูดอะไรก็ไม่ได้เลยตอนนี้ทางบ้านสามีทุกคนศรัทธากันมากจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่