คุณหลายๆคนคงมีชีวิตครอบครัวที่ดี มีความสุข อยู่รวมกันพร้อมหน้า พ่อแม่ลูก ถ้าเกิดสักวันเจอเรื่องราวแบบฉัน คุณจะทำยังไง
ฉันได้แต่งงานกับผู้ชายคนนึง เรารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน พ่อแม่ของเขาถือว่ามีฐานะพอควร มีหน้าตาทางสังคม ออกงานใหญ่โตบ่อยๆ ซึ่งตอนนั้นเราคบกันในระดับหนึ่ง เวลาพ่อแม่เขาไปออกงาน ก็มีบางครั้งที่ฉันได้ไปด้วย เหมือนจะเป็นการแนะนำไปในตัวว่า ฉันเองกำลังคบกับลูกชายของท่าน จนเราทั้งคู่เรียนจบ ตัวเขาเองได้ดูแลธุรกิจต่อจากพ่อ และมีฉันที่คอยช่วยงาน ติดตามอยู่เรื่อยมา และเขามักออกงานสังคมบ่อยๆ แต่ตัวฉันเองไม่ชอบที่จะต้องเจอกล้อง และผู้คนในสังคมไฮโซ หากงานไหนฉันพอจะเลี่ยงได้ ฉันก็เลือกที่จะไม่ไป จากนั้นไม่นานเราก็แต่งงานกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะเลี่ยงการออกงานกับเขา บางครั้งมีทีวี มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ เราจึงต้องออกงานคู่กันบ่อยๆ ไปรายการนู่นบ้าง รายการนี้บ้างตามประสา จนถึงวันที่ฉันตั้งท้อง ฉันจึงไม่ค่อยได้ออกงานกับเขามากนัก ครอบครัวของเราอบอุ่น ทุกอย่างลงตัวไม่ว่าจะธุรกิจต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เราอยู่ด้วยกันมาจนมีลูกสองคน ลูกสาวคนโตตอนนี้ 8ขวบ ลูกชายคนเล็ก 6ขวบ
เรื่องมันเริ่มจาก 2ปีที่แล้ว ในขณะที่ธุจกิจกำลังไปได้ดี ตัวเขาเองจึงต้องออกงานบ่อยขึ้น ไปออกรายการทีวีบ้าง ไปรับเชิญงานอีเว้นท์บ้าง ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ฉันเข้าใจ เพราะว่าเขาต้องทำธุรกิจมากมาย แต่เรื่องมันเริ่มเกิดปัญหาเมื่อมีเสียงนินทาในสังคม ว่าสามีของฉันไปมีสัมพันธ์ กับผู้หญิงอื่นๆ เริ่มจากมีคนโทรมาบอกบ้าง มีนักข่าวโทรมาถามบ้าง ฉันพยายามที่จะไม่เชื่อ จนวันหนึ่ง มีน้องนักข่าวที่ฉันรู้จัก ได้เอาภาพที่เขาไปแอบถ่าย ตอนสามีฉันพาผู้หญิงเข้าโรงแรมมาให้ดู มันเหมือนถูกตบที่หน้าแรงๆ ฉันชาไปหมดทั้งตัว เมื่อฉันถามเขาถึงเรื่องนี้ เขาก็ยอมรับและอ้างเหตุผลสารพัด แต่เหมือนเขาไม่ยอมหยุด ยังมีผู้หญิงคนนู้นทีนี้ที จนฉันพาลูกๆหนีกลับไปอยู่บ้านพ่อและแม่ฉัน แต่เขาก็มาขอโทษ จนทำให้ฉันใจอ่อน และครอบครัวเราก็กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม อีกทั้งเขายังสัญญาว่าจะไม่ทำอีก
ประมาณ 5-6เดือนที่แล้ว เขาเริ่มใช้จ่ายเงินในบัตรเครดิตเยอะมาก เดือนหนึ่งหมดไม่ต่ำกว่า 7-8แสน อีกทั้งยังให้เลขาแอบเบิกเงินสดจากธนาคารอีกไม่ใช่น้อย ฉันเก็บความสงสัย ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่แอบจ้างนักสืบให้คอยติดตาม จึงทราบว่า เขาแอบมีผู้หญิงอีกแล้ว และเงินในบัตรรวมทั้งเงินสด เขาเอาไปให้บ้านเล็กเหล่านี้ จนมาถึงเดือนเมษาที่ผ่านมา ฉันทนไม่ไหวกับสิ่งที้ขาทำ โดยนักสืบที่ฉันจ้างได้แจ้งว่า เขาได้เข้าไปยังคอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฉันและนักสืบได้แอบติดตามไป จนรู้แน่ว่าอยู่ห้องไหน ฉันได้พูดคุยต่อรองกับเจ้าหน้าที่คอนโดอยู่นาน กว่าจะอธิบายให้เขาได้เข้าใจ เราบุกขึ้นไปที่ห้องนั้น พอเปิดประตูสิ่งที่ทำให้ฉันตกใจมากคือ สามีฉันและผู้ชายอีกสองคน กำลังทำกิจกรรมกันอยู่บนเตียง และตรงโซฟามีผู้ชายและผู้หญิงคู่หนึ่ง ก็ทำอย่างว่ากันอยู่ตรงนั้น มันเป็นสิ่งที่ทุเรศน่าเกลียดที่สุดที่ฉันเคยพบเจอ ไม่นึกเลยว่านักธุรกิจ มี่มีหน้าตาในสังคม จะเป็นได้ถึงขนาดนี้ ทุกวันนี้ฉันรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้พาลูกทั้งสองมาอยู่บ้านพ่อและแม่ฉันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ตามมาขอโทษแต่อย่างใด สิ่งที่ฉันรู้ตอนนี้คือ เขาพาผู้หญิงบ้าง พาผู้ชายบ้าง เข้าไปทำสิ่งทุเรศที่บ้านหลังนั้น และบางครั้ง ถึงขึ้นไปตามรีสอร์ทต่างๆ จัดทริปมั่วเพศกัน
ที่ฉันมาบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ เพราะอยากเตือนคุณทั้งหลาย ในการใช้ชีวิตคู่ ก่อนจะมีสามี ลองดูเขาให้ถี่ถ้วน แล้วจะได้ไม่ต้องมาเสียใจอย่างฉัน
ความจริงที่ต้องทนรับ เมื่อสามีไปมีบ้านเล็ก และคบชู้สู่ชาย
ฉันได้แต่งงานกับผู้ชายคนนึง เรารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน พ่อแม่ของเขาถือว่ามีฐานะพอควร มีหน้าตาทางสังคม ออกงานใหญ่โตบ่อยๆ ซึ่งตอนนั้นเราคบกันในระดับหนึ่ง เวลาพ่อแม่เขาไปออกงาน ก็มีบางครั้งที่ฉันได้ไปด้วย เหมือนจะเป็นการแนะนำไปในตัวว่า ฉันเองกำลังคบกับลูกชายของท่าน จนเราทั้งคู่เรียนจบ ตัวเขาเองได้ดูแลธุรกิจต่อจากพ่อ และมีฉันที่คอยช่วยงาน ติดตามอยู่เรื่อยมา และเขามักออกงานสังคมบ่อยๆ แต่ตัวฉันเองไม่ชอบที่จะต้องเจอกล้อง และผู้คนในสังคมไฮโซ หากงานไหนฉันพอจะเลี่ยงได้ ฉันก็เลือกที่จะไม่ไป จากนั้นไม่นานเราก็แต่งงานกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะเลี่ยงการออกงานกับเขา บางครั้งมีทีวี มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ เราจึงต้องออกงานคู่กันบ่อยๆ ไปรายการนู่นบ้าง รายการนี้บ้างตามประสา จนถึงวันที่ฉันตั้งท้อง ฉันจึงไม่ค่อยได้ออกงานกับเขามากนัก ครอบครัวของเราอบอุ่น ทุกอย่างลงตัวไม่ว่าจะธุรกิจต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เราอยู่ด้วยกันมาจนมีลูกสองคน ลูกสาวคนโตตอนนี้ 8ขวบ ลูกชายคนเล็ก 6ขวบ
เรื่องมันเริ่มจาก 2ปีที่แล้ว ในขณะที่ธุจกิจกำลังไปได้ดี ตัวเขาเองจึงต้องออกงานบ่อยขึ้น ไปออกรายการทีวีบ้าง ไปรับเชิญงานอีเว้นท์บ้าง ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ฉันเข้าใจ เพราะว่าเขาต้องทำธุรกิจมากมาย แต่เรื่องมันเริ่มเกิดปัญหาเมื่อมีเสียงนินทาในสังคม ว่าสามีของฉันไปมีสัมพันธ์ กับผู้หญิงอื่นๆ เริ่มจากมีคนโทรมาบอกบ้าง มีนักข่าวโทรมาถามบ้าง ฉันพยายามที่จะไม่เชื่อ จนวันหนึ่ง มีน้องนักข่าวที่ฉันรู้จัก ได้เอาภาพที่เขาไปแอบถ่าย ตอนสามีฉันพาผู้หญิงเข้าโรงแรมมาให้ดู มันเหมือนถูกตบที่หน้าแรงๆ ฉันชาไปหมดทั้งตัว เมื่อฉันถามเขาถึงเรื่องนี้ เขาก็ยอมรับและอ้างเหตุผลสารพัด แต่เหมือนเขาไม่ยอมหยุด ยังมีผู้หญิงคนนู้นทีนี้ที จนฉันพาลูกๆหนีกลับไปอยู่บ้านพ่อและแม่ฉัน แต่เขาก็มาขอโทษ จนทำให้ฉันใจอ่อน และครอบครัวเราก็กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม อีกทั้งเขายังสัญญาว่าจะไม่ทำอีก
ประมาณ 5-6เดือนที่แล้ว เขาเริ่มใช้จ่ายเงินในบัตรเครดิตเยอะมาก เดือนหนึ่งหมดไม่ต่ำกว่า 7-8แสน อีกทั้งยังให้เลขาแอบเบิกเงินสดจากธนาคารอีกไม่ใช่น้อย ฉันเก็บความสงสัย ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่แอบจ้างนักสืบให้คอยติดตาม จึงทราบว่า เขาแอบมีผู้หญิงอีกแล้ว และเงินในบัตรรวมทั้งเงินสด เขาเอาไปให้บ้านเล็กเหล่านี้ จนมาถึงเดือนเมษาที่ผ่านมา ฉันทนไม่ไหวกับสิ่งที้ขาทำ โดยนักสืบที่ฉันจ้างได้แจ้งว่า เขาได้เข้าไปยังคอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฉันและนักสืบได้แอบติดตามไป จนรู้แน่ว่าอยู่ห้องไหน ฉันได้พูดคุยต่อรองกับเจ้าหน้าที่คอนโดอยู่นาน กว่าจะอธิบายให้เขาได้เข้าใจ เราบุกขึ้นไปที่ห้องนั้น พอเปิดประตูสิ่งที่ทำให้ฉันตกใจมากคือ สามีฉันและผู้ชายอีกสองคน กำลังทำกิจกรรมกันอยู่บนเตียง และตรงโซฟามีผู้ชายและผู้หญิงคู่หนึ่ง ก็ทำอย่างว่ากันอยู่ตรงนั้น มันเป็นสิ่งที่ทุเรศน่าเกลียดที่สุดที่ฉันเคยพบเจอ ไม่นึกเลยว่านักธุรกิจ มี่มีหน้าตาในสังคม จะเป็นได้ถึงขนาดนี้ ทุกวันนี้ฉันรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้พาลูกทั้งสองมาอยู่บ้านพ่อและแม่ฉันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ตามมาขอโทษแต่อย่างใด สิ่งที่ฉันรู้ตอนนี้คือ เขาพาผู้หญิงบ้าง พาผู้ชายบ้าง เข้าไปทำสิ่งทุเรศที่บ้านหลังนั้น และบางครั้ง ถึงขึ้นไปตามรีสอร์ทต่างๆ จัดทริปมั่วเพศกัน
ที่ฉันมาบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ เพราะอยากเตือนคุณทั้งหลาย ในการใช้ชีวิตคู่ ก่อนจะมีสามี ลองดูเขาให้ถี่ถ้วน แล้วจะได้ไม่ต้องมาเสียใจอย่างฉัน