สมชัยตอกกลับสุเทพหลังซัดกกต.ไม่เคยจับผู้ทุจริตเลือกตั้งได้
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2558 เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง แถลงถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ที่ออกมาระบุว่าตั้งแต่ปี 2540-2550 กกต.ไม่เคยจับผู้ทุจริตเลือกตั้งได้แม้แต่เพียงรายเดียว ว่า ถ้านายสุเทพไม่ความจำเสื่อม เพราะสูงอายุ ก็คงจะมีปัญหาเรื่องการถือศีลข้อ 4 คือการพูดปด เพราะที่ผ่านมา กกต.ให้ใบเหลืองและใบแดงมากมาย เช่น นายมาโนช เสนพงศ์ ผู้สมัคร นายกอบจ.นครศรีธรรมราช ได้ใบแดง จากกรณีจัดเลี้ยง แจกของ รวมถึงกรณีนายก และสมาชิก อบจ. เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ที่ศาลอุทธรณ์เห็นตาม กกต.ให้ใบแดงผู้สมัคร แต่มีการยกคำร้องดำเนินคดีอาญาในส่วนของผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดที่ได้ร่วมกระทำผิดด้วย และกรณี กกต.เสนอให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ฯกทม.จากที่นายสุเทพ กล่าวปราศรัยใส่ร้ายคู่แข่ง และหากมองเฉพาะ กกต.ชุดปัจจุบัน แต่มาทำงานเพียงปีครึ่ง ก็มีการให้ใบแดงกับผู้สมัครทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นไปแล้ว 126 ใบ และให้ใบเหลือง 26 ใบ
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายสุเทพ กล่าวหาว่า กกต.ไม่สามารถจับทุจริตการซื้อสิทธิขายเสียงได้นั้น ยอมรับว่าการซื้อสิทธิขายเสียงมีอยู่จริง และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย แต่สาเหตุสำคัญ คือนักการเมืองมุ่งแต่จะเอาชนะกันในการเลือกตั้ง โดยไม่สนกฎหมายบ้านเมือง แม้จะมีการออกระเบียบมาป้องกันอย่างไร ฝ่ายการเมืองก็หาทางที่จะทำให้เกิดความได้เปรียบและหาทางเข้าสู้การเมือง ดังนั้น ปัญหาดังกล่าวจะมองว่ามาจาก กกต.ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะ กกต.ก็อยู่ภายใต้ข้อจำกัด ในสมัย กกต.ชุดแรกแจกใบเหลือง ใบแดงได้มาก เพราะไม่มีกติกาว่าจะต้องมีการประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน แต่ในรัฐธรรมนูญ 50 มีหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งไม่ช่วยเสริมการแก้ไขปัญหาการทุจริต ขณะเดียวกันข้อเสนอของ กกต. ที่เสนอไปยัง กมธ.ยกร่าง รธน. หลายเรื่องที่จะจัดการกับผู้ทุจริตก็ไม่ได้รับการตอบสนอง ถ้าเป็นอย่างนี้คดีเลือกตั้งจะใช้เวลายืดเยื้อ แต่อาจจะไม่ยาวถึง 16 ปี เหมือนกรณีของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.ปากน้ำ แต่สิ่งที่ กมธ.ยกร่างฯ รธน.กำลังดำเนินการ ถือว่าเป็นการออกแบบที่ไร้เดียงสาที่สุดในทางการเมือง เป็นการออกแบบเหมือนไม่เคยรู้สภาพปัญหาการเมืองไทย
นายสมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเสนอที่นายสุเทพ เสนอให้มีการปฏิรูป กกต. ด้วยการเลือกตั้ง กกต.ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคนั้น เป็นข้อเสนอที่ใช้ตรรกะวิบัติ ไร้สาระทางการเมืองที่สุด ที่เคยได้ยินมา แค่คิดเรื่องค่าใช้จ่ายจะเท่ากับเลือกตั้ง ส.ส. ถามว่า 3,800 ล้านบาทคุ้มค่าหรือไม่ และก็จะได้ กกต. ที่เป็นคนของพรรคนั้น พรรคนี้ การเลือกตั้งก็ไม่สุจริต
“การที่ท่านสุเทพ บอกว่าไม่ควรเลือกตั้ง ส.ส. แต่จะมาเลือกตั้ง กกต. ผมไม่เข้าใจว่าข้อเสนอดังกล่าวออกมาจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญทางการเมืองได้อย่างไร อีกทั้งที่บอกให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ผมก็เห็นว่าหลังจากวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีเวลาปฏิรูปพอสมควร ประมาณ 2 ปีกว่า จนกว่าจะถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายสมชัย กล่าว
ที่มา
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=765596 
ยังจำได้ไหมวันนั้น....แต่วันนี้คนดีล่อกันเอง
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2558 เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง แถลงถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ที่ออกมาระบุว่าตั้งแต่ปี 2540-2550 กกต.ไม่เคยจับผู้ทุจริตเลือกตั้งได้แม้แต่เพียงรายเดียว ว่า ถ้านายสุเทพไม่ความจำเสื่อม เพราะสูงอายุ ก็คงจะมีปัญหาเรื่องการถือศีลข้อ 4 คือการพูดปด เพราะที่ผ่านมา กกต.ให้ใบเหลืองและใบแดงมากมาย เช่น นายมาโนช เสนพงศ์ ผู้สมัคร นายกอบจ.นครศรีธรรมราช ได้ใบแดง จากกรณีจัดเลี้ยง แจกของ รวมถึงกรณีนายก และสมาชิก อบจ. เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ที่ศาลอุทธรณ์เห็นตาม กกต.ให้ใบแดงผู้สมัคร แต่มีการยกคำร้องดำเนินคดีอาญาในส่วนของผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดที่ได้ร่วมกระทำผิดด้วย และกรณี กกต.เสนอให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ฯกทม.จากที่นายสุเทพ กล่าวปราศรัยใส่ร้ายคู่แข่ง และหากมองเฉพาะ กกต.ชุดปัจจุบัน แต่มาทำงานเพียงปีครึ่ง ก็มีการให้ใบแดงกับผู้สมัครทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นไปแล้ว 126 ใบ และให้ใบเหลือง 26 ใบ
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายสุเทพ กล่าวหาว่า กกต.ไม่สามารถจับทุจริตการซื้อสิทธิขายเสียงได้นั้น ยอมรับว่าการซื้อสิทธิขายเสียงมีอยู่จริง และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย แต่สาเหตุสำคัญ คือนักการเมืองมุ่งแต่จะเอาชนะกันในการเลือกตั้ง โดยไม่สนกฎหมายบ้านเมือง แม้จะมีการออกระเบียบมาป้องกันอย่างไร ฝ่ายการเมืองก็หาทางที่จะทำให้เกิดความได้เปรียบและหาทางเข้าสู้การเมือง ดังนั้น ปัญหาดังกล่าวจะมองว่ามาจาก กกต.ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะ กกต.ก็อยู่ภายใต้ข้อจำกัด ในสมัย กกต.ชุดแรกแจกใบเหลือง ใบแดงได้มาก เพราะไม่มีกติกาว่าจะต้องมีการประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน แต่ในรัฐธรรมนูญ 50 มีหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งไม่ช่วยเสริมการแก้ไขปัญหาการทุจริต ขณะเดียวกันข้อเสนอของ กกต. ที่เสนอไปยัง กมธ.ยกร่าง รธน. หลายเรื่องที่จะจัดการกับผู้ทุจริตก็ไม่ได้รับการตอบสนอง ถ้าเป็นอย่างนี้คดีเลือกตั้งจะใช้เวลายืดเยื้อ แต่อาจจะไม่ยาวถึง 16 ปี เหมือนกรณีของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.ปากน้ำ แต่สิ่งที่ กมธ.ยกร่างฯ รธน.กำลังดำเนินการ ถือว่าเป็นการออกแบบที่ไร้เดียงสาที่สุดในทางการเมือง เป็นการออกแบบเหมือนไม่เคยรู้สภาพปัญหาการเมืองไทย
นายสมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเสนอที่นายสุเทพ เสนอให้มีการปฏิรูป กกต. ด้วยการเลือกตั้ง กกต.ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคนั้น เป็นข้อเสนอที่ใช้ตรรกะวิบัติ ไร้สาระทางการเมืองที่สุด ที่เคยได้ยินมา แค่คิดเรื่องค่าใช้จ่ายจะเท่ากับเลือกตั้ง ส.ส. ถามว่า 3,800 ล้านบาทคุ้มค่าหรือไม่ และก็จะได้ กกต. ที่เป็นคนของพรรคนั้น พรรคนี้ การเลือกตั้งก็ไม่สุจริต
“การที่ท่านสุเทพ บอกว่าไม่ควรเลือกตั้ง ส.ส. แต่จะมาเลือกตั้ง กกต. ผมไม่เข้าใจว่าข้อเสนอดังกล่าวออกมาจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญทางการเมืองได้อย่างไร อีกทั้งที่บอกให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ผมก็เห็นว่าหลังจากวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีเวลาปฏิรูปพอสมควร ประมาณ 2 ปีกว่า จนกว่าจะถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายสมชัย กล่าว
ที่มา http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=765596