ปีที่แล้วมีหนังชื่อ ปิตุภูมิ ที่ถ่ายในสามจังหวัด แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ฉาย จนปีนี้ก็มีหนังเรื่อง ละติจูดที่6เข้าโรง ก่อนจะดูผมก็อ่านในพันทิพ ส่วนมากมีแต่ความเห็นค่อนจะไม่ดี ทั้งจากเนื้อหา ข่าวดารา มีโยงไปเป็นการเมืองด้วย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจดูครับ เพราะผมชอบหนังแนววัฒนธรรมตั้งแต่โอเคเบตง

หนังเกี่ยวกับพนักงานแบงก์ชื่อต้น ไปวางระบบไอทีที่ปัตตานีแล้วพบรักกับนางเอกเป็นครูต่างศาสนาชื่อฟ้า โดยมีความรักของวัยรุ่นท้องถิ่นชื่อเฟินกับชารีฟ แทรกไปอีกคู่ คือทั้งหมดก็เป็นหนังรักเลย คู่ใหญ่ก็เป็นความรักของคนทำงาน ที่มีปัจจัยหลายอย่างเป็นอุปสรรค ส่วนคู่เล็กก็เป็นเรื่องเพื่อนและรักวัยรุ่น
ผมเองวิเคราะห์หนังไม่เป็น แต่ตอนดูก็รู้สึกว่าหนังมีจุดสนใจไม่มาก และคิดว่าคนสร้างหนังพยายามเล่าเนื้อหาหลายมุม ทั้งชีวิตผู้คน การก่อการร้าย การใช้ชีวิตเจ้าหน้าที่ พอยัดลงไปหนังมันเลยไม่มีจุดโฟกัสจนรวมๆหนังดูธรรมดา แต่สิ่งที่ประทับใจจนมาตั้งกระทู้คือภาพในหนังที่ถ่ายทำมาได้สวยงาม ตอนนี้เหมือนยังมีโรงทางภาคใต้ฉายอยู่ ถ้าชอบหนังไทยดูเพลินๆได้ เรื่องนี้ก็โอเคครับ

สำหรับปัตตานีในความทรงจำผม ตอนเด็กๆผมจำได้ว่าเคยไป2-3ครั้ง สมัยนั้นนั่งรถตู้ไปกับที่บ้าน จำไม่ผิดจะแวะไปนอนสุราษฎร์กับหาดใหญ่ ที่ไปเพราะอาม่าผมจะชอบไปไหว้สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ทุกปีผมก็ชอบเพราะได้แวะตลาดสันติสุขที่หาดใหญ่ได้ของเล่นกลับมาทุกที
แต่พอหลังจากโตขึ้นมาก็ไม่ได้ลงไปเกินหาดใหญ่อีก จนปีก่อนผมไปทำงานที่หาดใหญ่แล้วเหลือเวลาเลยลองแวะลงไป ผมขับจากบ้านพรุตอนเก้าโมง ขับตรงไปวัดช้างไห้ก่อนคือตอนไปก็ไม่ได้นึกอะไร แต่เจอด่านแบบในรูปเรื่อยๆก็หวั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็ไปเรื่อยๆครับ ซักสิบโมงกว่าก็ถึงวัด

วัดช้างไห้พอมีคนเข้าไปครับ แต่รถจอดน้อยอาจเพราะผมไปวันธรรมดาด้วย พอกราบหลวงปู่ทวด เสร็จผมก็หาอะไรกินฝั่งตรงข้ามวัด หลังจากนั้นก็ขับเข้าไปในเมืองตั้งใจจะไปเดินครับ ถนนในเมืองรถมอเตอร์ไซค์จะต้องเปิดท้ายครับ ป้องกันไว้ก่อน

ผมไปจอดตรงลานตรงข้ามศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวครับ ลานใหญ่มากแต่มีผมคันเดียว จนต้องเดินไปถามลุงแถวนั้นว่าจอดได้นะครับ ลุงก็บอกจอดได้ๆ จากนั้นก็เข้าไปไหว้ศาลทั้งใหม่และเก่าครับ ออกจากศาลเจ้าก็เดินๆวนตัดไปทางแม่น้ำทะลุไปมา เดินกินอะไรไปเรื่อย
วันนั้นอยู่ในเมืองน่าจะเกือบบ่ายสามกว่าแล้วก็รีบกลับมาที่รถ ตอนแรกจะไปสุสานเจ้าแม่นอกเมืองแต่ดูเวลาแล้วไม่น่าทัน
พอขากลับขับผ่านมัสยิสกลางอยู่ในเมืองสวยเลยครับ เสียดายที่เดินไปไม่ถึงครับ

ขากลับสนามบินหาดใหญ่พอเลี้ยวซ้ายตรงแยกเบี่ยงสงขลา รถเริ่มมากต้องชลอเป็นช่วงๆ ใครผ่านตอนเย็นต้องเผื่อเวลาครับ ถึงสนามบินก็ทันขึ้นเครื่องพอดี เป็นอันว่าจบวันนึงในปัตตานีครับ เสียดายที่ไปแว้บเดียว รูปก็น้อย
แต่รู้สึกได้ว่าปัตตานีน่าอยู่ครับ คนหาดใหญ่หน้าตายังดุกว่าคนปัตตานี ผมเดินในเมืองถามทางคนตามถนนก็ยิ้มแย้ม แทบจะช่วยไปส่ง ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ถ้ามีโอกาสอยากจะเอาจักรยานมาปั่นรอบเมือง สุดท้ายขอฝากคำขวัญจังหวัดไว้ แล้วเจอกันใหม่ครับปัตตานี
"เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้"
[CR] กราบพระไหว้เจ้า@ละติจูดที่6
หนังเกี่ยวกับพนักงานแบงก์ชื่อต้น ไปวางระบบไอทีที่ปัตตานีแล้วพบรักกับนางเอกเป็นครูต่างศาสนาชื่อฟ้า โดยมีความรักของวัยรุ่นท้องถิ่นชื่อเฟินกับชารีฟ แทรกไปอีกคู่ คือทั้งหมดก็เป็นหนังรักเลย คู่ใหญ่ก็เป็นความรักของคนทำงาน ที่มีปัจจัยหลายอย่างเป็นอุปสรรค ส่วนคู่เล็กก็เป็นเรื่องเพื่อนและรักวัยรุ่น
ผมเองวิเคราะห์หนังไม่เป็น แต่ตอนดูก็รู้สึกว่าหนังมีจุดสนใจไม่มาก และคิดว่าคนสร้างหนังพยายามเล่าเนื้อหาหลายมุม ทั้งชีวิตผู้คน การก่อการร้าย การใช้ชีวิตเจ้าหน้าที่ พอยัดลงไปหนังมันเลยไม่มีจุดโฟกัสจนรวมๆหนังดูธรรมดา แต่สิ่งที่ประทับใจจนมาตั้งกระทู้คือภาพในหนังที่ถ่ายทำมาได้สวยงาม ตอนนี้เหมือนยังมีโรงทางภาคใต้ฉายอยู่ ถ้าชอบหนังไทยดูเพลินๆได้ เรื่องนี้ก็โอเคครับ
สำหรับปัตตานีในความทรงจำผม ตอนเด็กๆผมจำได้ว่าเคยไป2-3ครั้ง สมัยนั้นนั่งรถตู้ไปกับที่บ้าน จำไม่ผิดจะแวะไปนอนสุราษฎร์กับหาดใหญ่ ที่ไปเพราะอาม่าผมจะชอบไปไหว้สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ทุกปีผมก็ชอบเพราะได้แวะตลาดสันติสุขที่หาดใหญ่ได้ของเล่นกลับมาทุกที
แต่พอหลังจากโตขึ้นมาก็ไม่ได้ลงไปเกินหาดใหญ่อีก จนปีก่อนผมไปทำงานที่หาดใหญ่แล้วเหลือเวลาเลยลองแวะลงไป ผมขับจากบ้านพรุตอนเก้าโมง ขับตรงไปวัดช้างไห้ก่อนคือตอนไปก็ไม่ได้นึกอะไร แต่เจอด่านแบบในรูปเรื่อยๆก็หวั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็ไปเรื่อยๆครับ ซักสิบโมงกว่าก็ถึงวัด
วัดช้างไห้พอมีคนเข้าไปครับ แต่รถจอดน้อยอาจเพราะผมไปวันธรรมดาด้วย พอกราบหลวงปู่ทวด เสร็จผมก็หาอะไรกินฝั่งตรงข้ามวัด หลังจากนั้นก็ขับเข้าไปในเมืองตั้งใจจะไปเดินครับ ถนนในเมืองรถมอเตอร์ไซค์จะต้องเปิดท้ายครับ ป้องกันไว้ก่อน
ผมไปจอดตรงลานตรงข้ามศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวครับ ลานใหญ่มากแต่มีผมคันเดียว จนต้องเดินไปถามลุงแถวนั้นว่าจอดได้นะครับ ลุงก็บอกจอดได้ๆ จากนั้นก็เข้าไปไหว้ศาลทั้งใหม่และเก่าครับ ออกจากศาลเจ้าก็เดินๆวนตัดไปทางแม่น้ำทะลุไปมา เดินกินอะไรไปเรื่อย
วันนั้นอยู่ในเมืองน่าจะเกือบบ่ายสามกว่าแล้วก็รีบกลับมาที่รถ ตอนแรกจะไปสุสานเจ้าแม่นอกเมืองแต่ดูเวลาแล้วไม่น่าทัน
พอขากลับขับผ่านมัสยิสกลางอยู่ในเมืองสวยเลยครับ เสียดายที่เดินไปไม่ถึงครับ
ขากลับสนามบินหาดใหญ่พอเลี้ยวซ้ายตรงแยกเบี่ยงสงขลา รถเริ่มมากต้องชลอเป็นช่วงๆ ใครผ่านตอนเย็นต้องเผื่อเวลาครับ ถึงสนามบินก็ทันขึ้นเครื่องพอดี เป็นอันว่าจบวันนึงในปัตตานีครับ เสียดายที่ไปแว้บเดียว รูปก็น้อย
แต่รู้สึกได้ว่าปัตตานีน่าอยู่ครับ คนหาดใหญ่หน้าตายังดุกว่าคนปัตตานี ผมเดินในเมืองถามทางคนตามถนนก็ยิ้มแย้ม แทบจะช่วยไปส่ง ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ ถ้ามีโอกาสอยากจะเอาจักรยานมาปั่นรอบเมือง สุดท้ายขอฝากคำขวัญจังหวัดไว้ แล้วเจอกันใหม่ครับปัตตานี
"เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้"