สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวพันทิบ
กระทู้นี้ผมจะมาบอกเล่าเรื่องราวที่ได้ไปพบมา
เกาะหมากครั้งแรกในชีวิต
สืบเนื่องจากผมรับคำเชิญ จากอพท. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ในฐานะสื่อ ทราเวลบล็อกเกอร์ เพราะว่าในบล็อกผมนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวท่องเที่ยวนั่นเองครับ
ทีแรกผมก็ว่าจะปฏิเสธ ทำไมหน่ะเหรอครับ ไปทะเลหน้าฝนนี่นา low season! แม้เดี๋ยวนี้เรานิยมเรียกกันว่า Green season แล้ว
แหม ชอบมากคำนี้ กรีนซีซั่น แต่แล้ว ก่อนจะปฏิเสธมีอยู่วันหนึ่งผมก็ได้มีโอกาสไปนั่งฟัง อพท.เค้าจัดงาน "คนไม่เอาถ่าน" เฮ้ย
มันคือไร โปสเตอร์มีคนสองคน คุณวรรณสิงห์ นักคิดนักเขียนดังและผู้จัดรายการพื้นที่ชีวิต กับคุณมิ้นท์ หญิงเก่งที่เที่ยวคนเดียวไปแทบทั่วโลกที่โลกโซเชียลรู้จักเธอในนาม I Rome Alone ฟีสข่าวปชส.ขึ้นหน้าวอลเฟสบุ๊ค จัดที่หอศิลป์กรุงเทพ ผมงี้อยู่ใกล้ๆ ก็เลยฉิ่งหนีโต๊ะทำงานอันน่าเบื่อ ไปนั่งฟังอยู่มุมห้อง
คนไม่เอาถ่าน ก็คือคนไม่เอาก๊าซคาร์บอนงี้เอง แหม่ เท่อ่ะ ผมคิด เมื่อนั่งฟังคอนเซ็บแล้วก็เก็ตสิครับ ชอบเลย คร่าวๆ คือโลกเราทุกวันนี้มนุษย์พากันปลดปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจนโลกน่าอยู่ของเราเข้าสู่ภาวะโลกร้อนอย่างที่รับทราบกันดีแล้ว จากความเจริญอย่างมากทางวัตถุนั่นเอง และโลกยุคใหม่ศตวรรรษนี้การท่องเที่ยวก็เป็นกิจกรรมของมวลมนุษยชาติไปแล้ว ทุกคนพากันท่องเที่ยว แต่กลับเป็นตัวเร่งให้กระบวกการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
มีท่องเที่ยวก็ต้องมีการขนส่งคน มีพลังงานเชื้อเพลิงที่ต้องใช้ รีสอร์ท โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ ที่เนรมิตจากคน ย้าย left style คนออกจากที่ตั้ง เดินทางเปลี่ยนที่พักผ่อน เราเปิดแอร์กันเต็มเหนี่ยวแม้ตัวเองจะไม่ได้อยู่ห้อง เราอาบน้ำอุ่นแม้อากาศจะไม่หนาว เราเลือกกินเมนูดังๆ ที่ต้องสรรหาวัตถุดิบจากการนำเข้ามากมาย สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งแนวคิดใหม่ทำยังไงภาคท่องเที่ยวทั้งหมดจะร่วมไม้ร่วมมือกันลดภาระให้โลกของเรา จึงเกิดโครงการ
Low Carbon Destination ขึ้น อพท. โดยการสนับสนุนและร่วมมือด้านวิชาการจากเยอรมัน จึงเกิดขึ้น และพื้นที่แรกของประเทศไทยที่จะทดสอบก็คือ
เกาะหมาก
หลังฟังบรรยาครั้งนั้นผมตื่นเต้น อยากไปเกาะหมากมาก รับคำและถึงวันเดินทางในที่สุด
แถ่นแท้น วันเดินทางมาถึง ไหง เราเป็นสื่อคนเดียวในรถเนี่ย นอกนั้นคือจนท.อพท.ทั้งหมด โอ้ว ม่าย ( ดีนะผมขอผู้ติดตามมาด้วยคนนึง )
เอาล่ะ เริ่มเข้าสู่เรื่องราวถูกปล่อยเกาะ ณ บัดนาว
เราเดินทางโดยรถตู้ 1 คัน จากกทม. สู่ตราด ด้วยระยะทาง 300 กิโลเมตร เรื่องราวเกิดขึ้นในเดือนกรกฏาคม เดือนแห่งฝน เดือนที่แล้วมานี้เอง
ก่อนลงเกาะขอแวะที่นี่กันก่อนครับ เติมพลังงานมื้อเที่ยงกันด้วยร้านก๋วยเตี๋ยวกั้ง
ชื่อร้านเค้าชื่อ ก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท แต่เมนูเด็ดขึ้นชื่อของเค้าคือก๋วยเตี๋ยวกั้ง
พิกัดครับ N12° 14.576' E102° 30.743'
แต่ผมผ่าไปสั่งข้าวผัดกั้งครับ เนื้อกั้งไหงซ่อนอยู่ใต้ข้าว มองไม่เห็น ภาพจานข้าวผัดเลยไม่น่าโพสเท่าชามนี้ของเพื่อนร่วมทริปที่ผมเชิญชวนมาเป็นผู้ติดตาม
ก๋วยเตี๋ยวกั้ง

เครดิตภาพ : จากเพจสะพายเป้ดอทคอมครับ ถ่ายโดย โดม สะพายเป้ เพื่อนร่วมทริป
หน้าตาน่ากินมว้าก เน้อะครับ ชามนี้สี่สิบห้าสิบบาทประมาณนี้
ร้านก็อยู่ในเทศบาลเมืองตราด บนถนนเทศบาลแล้วแยกเข้าซอยสุขุมวิท เข้าไปหน่อยร้านอยู่ซ้ายมือ
**หมายเหตุ พบพูดคุยนอกรอบฝากข้อคิดเห็นหรือสอบถามต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่อยู่อีกที่ครับที่
Facebook Page: www.facebook.com/Namfapakhao
อ่านแล้วชอบเกาะหมาก ชอบคอนเซ็บ Low Carbon กด Like กด Share บอกต่อกันได้นะครับ มารณรงค์ท่องเที่ยวมิติใหม่กัน**
[SR] เมื่อผมถูกเชิญเอาไปปล่อยไว้บนเกาะ Low Carbon Destination at เกาะหมาก
กระทู้นี้ผมจะมาบอกเล่าเรื่องราวที่ได้ไปพบมา
เกาะหมากครั้งแรกในชีวิต
สืบเนื่องจากผมรับคำเชิญ จากอพท. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ในฐานะสื่อ ทราเวลบล็อกเกอร์ เพราะว่าในบล็อกผมนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวท่องเที่ยวนั่นเองครับ
ทีแรกผมก็ว่าจะปฏิเสธ ทำไมหน่ะเหรอครับ ไปทะเลหน้าฝนนี่นา low season! แม้เดี๋ยวนี้เรานิยมเรียกกันว่า Green season แล้ว
แหม ชอบมากคำนี้ กรีนซีซั่น แต่แล้ว ก่อนจะปฏิเสธมีอยู่วันหนึ่งผมก็ได้มีโอกาสไปนั่งฟัง อพท.เค้าจัดงาน "คนไม่เอาถ่าน" เฮ้ย
มันคือไร โปสเตอร์มีคนสองคน คุณวรรณสิงห์ นักคิดนักเขียนดังและผู้จัดรายการพื้นที่ชีวิต กับคุณมิ้นท์ หญิงเก่งที่เที่ยวคนเดียวไปแทบทั่วโลกที่โลกโซเชียลรู้จักเธอในนาม I Rome Alone ฟีสข่าวปชส.ขึ้นหน้าวอลเฟสบุ๊ค จัดที่หอศิลป์กรุงเทพ ผมงี้อยู่ใกล้ๆ ก็เลยฉิ่งหนีโต๊ะทำงานอันน่าเบื่อ ไปนั่งฟังอยู่มุมห้อง
คนไม่เอาถ่าน ก็คือคนไม่เอาก๊าซคาร์บอนงี้เอง แหม่ เท่อ่ะ ผมคิด เมื่อนั่งฟังคอนเซ็บแล้วก็เก็ตสิครับ ชอบเลย คร่าวๆ คือโลกเราทุกวันนี้มนุษย์พากันปลดปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจนโลกน่าอยู่ของเราเข้าสู่ภาวะโลกร้อนอย่างที่รับทราบกันดีแล้ว จากความเจริญอย่างมากทางวัตถุนั่นเอง และโลกยุคใหม่ศตวรรรษนี้การท่องเที่ยวก็เป็นกิจกรรมของมวลมนุษยชาติไปแล้ว ทุกคนพากันท่องเที่ยว แต่กลับเป็นตัวเร่งให้กระบวกการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
มีท่องเที่ยวก็ต้องมีการขนส่งคน มีพลังงานเชื้อเพลิงที่ต้องใช้ รีสอร์ท โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ ที่เนรมิตจากคน ย้าย left style คนออกจากที่ตั้ง เดินทางเปลี่ยนที่พักผ่อน เราเปิดแอร์กันเต็มเหนี่ยวแม้ตัวเองจะไม่ได้อยู่ห้อง เราอาบน้ำอุ่นแม้อากาศจะไม่หนาว เราเลือกกินเมนูดังๆ ที่ต้องสรรหาวัตถุดิบจากการนำเข้ามากมาย สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งแนวคิดใหม่ทำยังไงภาคท่องเที่ยวทั้งหมดจะร่วมไม้ร่วมมือกันลดภาระให้โลกของเรา จึงเกิดโครงการ
Low Carbon Destination ขึ้น อพท. โดยการสนับสนุนและร่วมมือด้านวิชาการจากเยอรมัน จึงเกิดขึ้น และพื้นที่แรกของประเทศไทยที่จะทดสอบก็คือ
หลังฟังบรรยาครั้งนั้นผมตื่นเต้น อยากไปเกาะหมากมาก รับคำและถึงวันเดินทางในที่สุด
แถ่นแท้น วันเดินทางมาถึง ไหง เราเป็นสื่อคนเดียวในรถเนี่ย นอกนั้นคือจนท.อพท.ทั้งหมด โอ้ว ม่าย ( ดีนะผมขอผู้ติดตามมาด้วยคนนึง )
เอาล่ะ เริ่มเข้าสู่เรื่องราวถูกปล่อยเกาะ ณ บัดนาว
เราเดินทางโดยรถตู้ 1 คัน จากกทม. สู่ตราด ด้วยระยะทาง 300 กิโลเมตร เรื่องราวเกิดขึ้นในเดือนกรกฏาคม เดือนแห่งฝน เดือนที่แล้วมานี้เอง
ก่อนลงเกาะขอแวะที่นี่กันก่อนครับ เติมพลังงานมื้อเที่ยงกันด้วยร้านก๋วยเตี๋ยวกั้ง
พิกัดครับ N12° 14.576' E102° 30.743'
แต่ผมผ่าไปสั่งข้าวผัดกั้งครับ เนื้อกั้งไหงซ่อนอยู่ใต้ข้าว มองไม่เห็น ภาพจานข้าวผัดเลยไม่น่าโพสเท่าชามนี้ของเพื่อนร่วมทริปที่ผมเชิญชวนมาเป็นผู้ติดตาม
เครดิตภาพ : จากเพจสะพายเป้ดอทคอมครับ ถ่ายโดย โดม สะพายเป้ เพื่อนร่วมทริป
หน้าตาน่ากินมว้าก เน้อะครับ ชามนี้สี่สิบห้าสิบบาทประมาณนี้
ร้านก็อยู่ในเทศบาลเมืองตราด บนถนนเทศบาลแล้วแยกเข้าซอยสุขุมวิท เข้าไปหน่อยร้านอยู่ซ้ายมือ
**หมายเหตุ พบพูดคุยนอกรอบฝากข้อคิดเห็นหรือสอบถามต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่อยู่อีกที่ครับที่
Facebook Page: www.facebook.com/Namfapakhao
อ่านแล้วชอบเกาะหมาก ชอบคอนเซ็บ Low Carbon กด Like กด Share บอกต่อกันได้นะครับ มารณรงค์ท่องเที่ยวมิติใหม่กัน**