เดี๋ยวนี้ ตม.ต่างประเทศเพ่งเล็งคนอีสานมากกว่าภาคอื่นหรอครับ

คือครั้งก่อน ผมกับพี่สาว(ลูกพี่ลูกน้อง) กับเพื่อนของพี่สาว(ชื่อพี่เอ้)ไปเที่ยวสิงคโปร์กัน ซึ่งตอนผ่าน ตม.ผมเดินคนแรก ตามด้วยพี่สาว พอผมกับพี่สาวผ่าน ตม.ออกมาก ผมกับพี่สาวเดินต่ออีกไม่กี่เมตร เพื่อไม่ให้เกะกะหลังเคาร์เตอร์ ตม. แต่มันจะเป็นมุมที่เรามองไม่เห็น ตม.  ผมกับพี่สาวรอสักพักไม่เห็นพี่เอ้มา เลยเดินกลับไปดู เห็นพี่เอ้ชะเง้อมองมาทางพวกเราอยู่  พอเห็นพวกเราพี่เอ้ทำมือขอใบจองโรงแรมกับตั๋วกลับ(ซึ่งอยู่ที่ผม)  ผมก็เอาไปให้ ผมก็พูดกับ ตม.ว่า together  together(พร้อมทำมือ เพราะผมพูดอังกษฤไม่ค่อยเก่ง)  ตม.ดูพวกตั๋วไรเสร็จก็ปล่อยให้ผ่านมาได้   พี่เอ้มาเล่าให้ฟังว่า ตม.ถามหลายอย่าง(พี่เอ้พูดอังกฤษเก่งมาก)
ตม.="มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยหรอ"
พี่อ้= ใช่ค่ะ
ตม.=มากี่คน มาทำอะไร
พี่เอ้=มา3คน มาเที่ยว
ตม.=ไหนอีก2คน
พี่เอ้=สองคนที่ก่อนหน้าดิฉัน ที่เพิ่งเดินออกไป (แต่ ตม. ไม่ให้เดินออกมาตามพวกผม)
ตม.=ทำงานอะไร ขอดูบัตรพนักงาน
พี่เอ้=ช่วยธุรกิจที่บ้านเลยไม่มีใบทำงาน
ตม.= ขอดูตั๋วกลับ
พี่เอ้=อยู่ที่น้องผู้ชายที่เดินออกไปเมื่อกี้  
หลังจากนั้นผมกับพี่สาวก็เดินกลับมาหาพี่เอ้พอดี
ปล.พี่เอ้กับพี่สาวผมเป็นเพื่อนกันเพราะไปเรียนภาษาอังกษฤที่อังกฤษด้วยกัน หลังจากนั้นพี่สาวผมไปเรียนต่อด้านการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ ส่วนพี่เอ้กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านที่ขอนแก่น   บ้านพี่เอ้รวยมาก  บ้านพี่เอ้มีไร่หลายสิบไร่ที่อำเภอแก้งคร้อและสร้างบ้านไว้มาพักผ่อน แต่ชื่อเจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นชื่อพี่เอ้  ในบัตรประชาชนพี่เอ้เลยเป็นคนชัยภูมิ แต่ที่จริงพี่เอ้เป็นคนขอนแก่นและบ้านก็อยู่ขอนแก่นครับ

อยากทราบว่า มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างครับ  ขอแบบไม่ดราม่าเรื่องระหว่างภาคนะครับ ขอเฉพาะเรื่อง ตม. หรือเรื่องเที่ยวต่างประเทศ เรื่องอยุ่ต่างประเทศนะครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ก็ไม่แปลกนะ ใครทำงามหน้าไว้เยอะเค้าก็ต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เค้าคงมีข้อมูลสถิติบ้างแหละ
พูดอย่างนี้โดนพวกโลกสวยด่าชัวร์ ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่