[CR] ไอแห่งความประทับใจยังตามติด ณ ประเทศสิงคโปร์

สวัสดีค่ะ ติดตามอ่าน pantip มาก็เยอะแยะ ไม่เคยตั้งกระทู้อะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลย วันนี้มีโอกาสจึงมาเล่าสักหน่อยค่ะ จะเรียกว่า review backpack ก็คงไม่เชิง เพราะกระทู้นี้คงไม่ได้เล่าเยอะเกี่ยวกับการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ แต่จะเล่าถึงความประทับใจที่ได้พบเจอมา เอาเป็นว่า เป็นกระทู้ review สั้นๆ เกี่ยวกับประเทศนี้ก็แล้วกันเนอะ หากเขียนหรือข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ

ก่อนไป ก็ได้ข้อมูลจาก pantip แห่งนี้นี่ล่ะค่ะ เราไล่อ่าน review เยอะมากๆ ต้องขอบคุณทุกคนที่เคยมาเขียน review ไว้ด้วยนะคะ

โดยทริพนี้เป็นโครงการของคณะที่เราเรียนอยู่ ออกเดินทางในวันที่ 31 ก.ค. – 3 ส.ค. 58 เดินทางไปโดย Tiger Air ค่ะ

มาถึงตรงนี้ ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราพิการทางสายตาค่ะ

เช้าหกโมงครึ่ง วันเริ่มเดินทาง คือ 31 ส.ค. เรา เพื่อนๆ/น้องๆ และอาจารย์ เดินทางโดยรถตู้มหาลัยเพื่อไปยังสนามบินกระบี่ ยังไม่ทันไรก็เหนื่อยซะแล้ว 555+ เพราะรถขับค่อนข้างเร็วด้วย นั่งแถวหลังสุดด้วย เลยกระเด้งกระดอนไปตลอดทาง ^^ และก็ไปถึงสนามบินประมาณเก้าโมงครึ่งค่ะ ซึ่งเพื่อนๆบางส่วนก็รออยู่ที่นั่นแล้ว

ตอนเช็คอิน เรากับเพื่อนแยกกันไปเช็คอินคนละช่อง พอไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ พนักงานยังไม่รู้ว่าเราตาบอด ก็ขอพาสปอร์ต แล้วเรายื่นไม่ตรงช่อง พี่เค้าเลยร้องอ๋อ ^^
ตม. ที่สนามบินก็น่ารักค่ะ ชวนคุยยิ้มแย้มดีมาก บอกเรายิ้มๆว่า ไปสิงคโปร์เผื่อด้วยนะเค้ายังไม่เคยไปเลย ^^

พอเข้าไปยังเกท อาจารย์เดินมาบอกว่าให้เอาพาสปอร์ทไปยื่นให้พี่พนักงานหน่อย เหมือนพี่เค้าจะต้องการข้อมูลอะไรบางอย่าง ก็นำไปยื่นให้อย่างเรียบร้อยค่ะ แต่มานั่งรอได้พักใหญ่แล้วก็ยังไม่ได้พาสปอร์ทคืน เลยคุยกับเพื่อนว่า เค้าจะทำอะไรเนี่ย นานจัง คือสงสัยอะค่ะ จนพี่เค้าเดินมาขอบัตรประชาชน พี่เค้าจึงบอกว่าจะขอย้ายที่นั่งให้ได้มานั่งด้านหน้า เราก็อ๋อ

เมื่อถึงเวลา พอก้าวขึ้นเครื่อง แอร์ที่ยืนต้อนรับอยู่ก็ถามเพื่อนเราว่า “She has a partner?” เราก็พยักหน้าตอบค่ะ เพราะเพื่อนเราไม่ได้ตอบเพราะฟังไม่รู้เรื่อง แอร์เลยหันไปบอกใครสักคนว่ามีเคสอย่างเรานะ “Visually impaired.” จนกระทั่งสจ๊วตผู้น่ารักปรากฏ เราก็เลยรู้ว่าคุณเธอหันไปบอกสจ๊วตผู้นี้ค่ะ คุณสจ๊วตผู้น่ารักก็พามายังที่นั่ง(ซึ่งเพื่อนสนิทเราก็อได้สิทธิ์นั่งกับเราด้วยค่ะ) ถึงที่นั่งคุณสจ๊วตก็บอก “Be careful!” พร้อมเก็บสัมภาระไว้ด้านบนให้ ดูแลจนนั่งเรียบร้อยแล้วก็จากไป แต่ภายในระยะเวลาสั้นๆคุณซจ๊วตก็กลับมาค่ะ เหมือนจะสอนให้เรารัดเข็มขัด เราก็บอกไปว่าเราสามารถทำเองได้ (เพราะเราเคยขึ้นเครื่องค่อนข้างบ่อยค่ะ) แต่เค้าก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยนะคะเมื่อเราบอกทำได้ เค้าก็บอกให้เราใส่และถอดให้เค้าดู จนให้เค้าแน่ใจว่าเราทำได้จริงๆอย่างที่บอก จากนั้นก็สอนให้ใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆ คือเสื้อชูชีพ กับหน้ากากออกซิเจน ตอนนี้เราฟังไม่ค่อยออกแล้วค่ะ เพราะเค้าพูดสำเนียง Singlish มากนะเราว่า และก็พูดเร็วด้วย คือเราได้ภาษาอังกฤษไม่มากค่ะ คือสื่อสารพอได้แบบไม่ผิดแกรมม่ามาก ฟังได้ถ้าไม่เร็วมาก พูดตอบได้ แต่ก็ไม่สามารถพูดได้อย่างกะทันหันในทุกๆสถานการณ์นะคะ แต่ก็ถือว่าเราพอเอาตัวรอดได้ค่ะ

ตอนที่คุณซจ๊วตอธิบายเราก็อาศัยจับคำที่เราพอจะฟังทันและรู้เรื่องเอาค่ะ บวกกับเคยขึ้นเครื่องมาบ้าง อ้อ ลืมบอกว่า ถ้าในเคสคนพิการเนี่ย แอร์/สจ๊วตจะมาสอนให้เราตัวต่อตัวนะคะ แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยนะคะที่มาสอน คือก่อนขึ้นเครื่องเรายังคุยกับเพื่อนอยู่เลยว่า เราไม่ได้คาดหวังอะไรจากสายการบินนี้ หลายๆไฟลท์ที่ผ่านมาเราก็เคยเจอแอร์มาอธิบายให้เราตัวต่อตัวอยู่นะแต่ส่วนน้อยมาก แค่บางไฟลท์เท่านั้น ซึ่งสายการบินนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ

แต่เรายังตลกที่เค้าอธิบายเราเรื่องประตูเครื่องบินค่ะ คือเค้าพยายามพูดภาษาไทยแต่พูดประมาณว่า “ตู back, front….” อะไรแบบเนี้ยค่ะ คือเราไม่ได้ตลกที่เค้าพูดเลยนะคะ แต่แอบนึกว่าใครสอนภาษาไทยเค้าเนี่ย ได้แต่คำว่าตู “ประ” หายไปหนายยยยยย t^t เล่นเอาเรางงไปพักใหญ่ๆเลยค่ะกว่าจะเข้าใจ คือกว่าจะเข้าใจก็คุณซจ๊วตจากไปแล้ว ว่า “ตู” นั่นน่ะคือ “ประตู” ^^ แต่ก่อนไปเค้าก็บอกว่าไม่รู้จะอธิบายเราให้เข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน เราเลยบอกเค้าว่าเราเข้าใจค่า

คุณสจ๊วตผู้น่ารักกลับมาอีกครั้งพร้อมกับใบ immigration สองใบมายื่นให้เรา คืออีกใบหนึ่งของเพื่อนเราค่ะ ตรงนี้เราขอชื่นชมค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะยื่นสิ่งของให้คนมองเห็นหรือคนตาดี แม้จะนั่งข้างในก็ตาม คือเรานั่งด้านนอก ส่วนเพื่อนเรานั่งด้านในติดหน้าต่างค่ะ เพราะอันที่จริงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคนตาบอดเลยที่จะยื่นของให้คนข้างๆเรา

คุณสจ๊วตอธิบายว่าเป็นใบ immigration บลาๆ เราก็เข้าใจค่ะ แต่จากนั้นเราไม่ค่อยเข้าใจ พูดเร็วมากๆ tt ฟังออกแค่ write…. Free…. อะไรไม่รู้ พอคุณสจ๊วตจากไป เราก็ยื่นให้เพื่อนเขียนให้เราด้วย แต่สักพัก คุณสจ๊วตก็กลับมาอีกครั้ง เป็นอะไรที่เรานึกไม่ถึงเลยค่ะ เค้ากลับมาเขียนให้เราค่ะ คือก่อนหน้านั้นเค้าคงพยายามบอกเราว่า เค้าจะทิ้งใบนี้ไว้ที่เราก่อน เค้าว่างเมื่อไหร่จะมาเขียนให้ เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมากสำหรับเรา เราว่าเค้าดูแลดีมากนะคะ และจะไม่ลืมด้วยว่ามีเคสอย่างเราอยู่ซึ่งต้องกลับไปดูแล แม้จะยุ่งแค่ไหนก็จะไม่ลืมค่ะ อ้อลืมเล่าไป คุณสจ๊วตพูด “นะคะ” ได้ด้วยอะ ^_^

มาเยือนสิงคโปร์ครั้งแรก ก็ประทับใจตั้งแต่บนเครื่องแล้ววววว มันยอดมาก อิๆ

เดี๋ยวกลับมาเขียนต่อค่ะ
ชื่อสินค้า:   ประเทศสิงคโปร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่