ที่จริงได้แชร์รูปภาพไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกค้างคาใจ ที่ยังไม่ได้แชร์ความคิดเห็น ... ขอพื้นที่หนึ่งกระทู้ เพื่อแชร์ทั้งภาพและความรู้สึก กับคนที่อาจจะสนใจ
(
คำเตือน : กระทู้นี้เวิ่นเว้อตามสไตล์ ไม่ควรอ่านเกินวันละ 2 ครั้ง ...
และใครที่ไม่ชอบหรือรับไม่ได้ ควรปิดไปซะตั้งแต่ตอนนี้เลย)
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ไม่ได้มีความตั้งใจจะไปชมเกมนี้ที่สนาม จึงไม่ได้จองตั๋วตั้งแต่แรก เพิ่งจะมาเปลี่ยนใจก่อนการแข่งขันเพียงวันเดียวในเสี้ยววินาที
และโชคดีที่ได้รับการเอื้อเฟื้อตั๋วจองจากเพื่อนสมาชิกพันทิป (ไม่น่ามีอะไรเสียหาย ขออนุญาตไม่เซ็นเซอร์ชื่อลอกอินนะคะ)
ถามว่า
"ทำไมถึงไม่ไปดู" คำตอบเป็นอะไรที่รันทดมาก ทั้งอยากและไม่อยากตอบ เพราะคนอื่นอาจจะไม่รันทดด้วย แถมอาจจะฮา บอกตรงๆว่า เจ็บ
ได้สิทธิ์รับตั๋วแบบส้มหล่น จะรออะไร รีบไปรับตั๋วเลยสิคะ
เป็นการซื้อตั๋วแบบงงๆ เป็นคนติดต่อซื้อตั๋วแท้ๆ แต่คนที่ไปด้วย กลับยื่นมาคว้าตั๋วตัดหน้า แบบด้านหน้าๆ นางบอกว่า
“ชั้นเก็บเอง เธอเก็บ เดี๋ยวหาย”
พูดยังไม่ทันจะขาดคำ ตั๋วก็อยู่ในกระเป๋านางแล้ว (ก่อนเก็บ นางถ่ายรูปโพสลงเฟซบุ๊ค นางฟ้ามาก เปิดโอกาสให้น้องๆได้มีโอกาสสัมผัสตั๋วด้วยสายตา)
น้องสาวอย่างเราหรือจะกล้าหือ นางเล่นออกอาการหวง เหมือนจงอางหวงไข่ ซะขนาดนั้น ... เอาที่คุณพี่สบายใจเถอะค่ะ
อยากบอกว่า เป็นการรอคอยชมเกมที่ยาวนานและทรมานเป็นอย่างยิ่ง นัดกับคุณพี่ทั้งหลายไว้ก่อนเที่ยง มารับจริงบ่ายสามโมง หิ้วท้องรอตั้งแต่คืนวาน
“รอคอย เธอมาแสนนาน ทรมานวิญญาณหนักหนา” ร้องเพลงนี้รอเลย
เดินทางถึงหน้าสนามประมาณสี่โมงเย็น รถเริ่มติด แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สองพี่น้องมุ่งหน้าร้านสองพี่น้อง ร้านเปิดขาย แต่อาหารหมดทุกอย่าง !!!
เวลานั้น บอกตรงๆว่า หิวจนแทบจะกินวายได้ทั้งตัว แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง ... แวะอีกหลายร้าน ก็ได้คำตอบเดิม คืออาหารหมด
แต่ความพยายามอยู่ที่ไหน ของกินอยู่ที่นั่น (มื้อแรกของวัน เวลาประมาณ 5 โมงเย็น อึดมั๊ยล่ะ) สุดท้ายก็อิ่มท้อง พร้อมแล้วสำหรับบิ๊กแมทซ์
อุปสรรคอย่างเดียวในการดูฟุตบอลเกมนี้คือไมเกรน เพื่อความไม่ประมาท เตรียมยาแก้ปวดติดกระเป๋ามาด้วย ทนไม่ไหวเมื่อไหร่ ค่อยรับยาเข้าร่าง
ระหว่างที่มุ่งหน้าสนามไอโมไบล์ ได้ยินเสียงเหมือนไซเรน ตอนแรกนึกว่ารถพยาบาล คิดในใจว่า มาผิดเวลาแล้ว วันนี้รถติดชนิดที่คนวิ่งแซงได้สบายๆ
โชคดีที่ไม่ใช่รถพยาบาล น่าจะเป็นรถตำรวจอะไรทำนองนี้ วิ่งนำรถนักเตะเมืองทองมุ่งหน้าสนามไอโมไบล์
แค่ได้เห็นรถก็แอบกรี๊ดในใจ อยากจะขอลงรถแล้ววิ่งไปรอรับนักเตะที่หน้าสนาม แต่ก็ไม่ แม้แต่จะลองที่จะร้องขอ เพราะพวกพี่ๆคงไม่ยอม
วันนั้นจอดรถด้านหลังสนาม ค่อนไปทางสนามแข่งรถ ลงจากรถได้ก็ใส่เกียร์หมากันเลย บรรยากาศหน้าสนามไม่สนใจ จะรีบเข้าไปดูนักเตะลงซ้อม
พล่ามมาตั้งนาน เริ่มลงรูปล่ะนะ
ขอเปิดด้วยภาพนี้ นักเตะหน่วยกล้าตายของเมืองทอง ที่ลงสนามซ้อมเป็น 2 คนแรก ท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลทีมเจ้าบ้าน
กวินทร์กับวิษณุศักดิ์
ต้องบอกว่า นั่งอยู่ไกลมาก มากจนมองด้วยตาและแว่นตาเปล่าไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่โชคดีที่มีตัวช่วย ... ใช้กล้องซูมเข้าไปดู ถึงจะพอรู้ว่าใครเป็นใคร
หน่วยกล้าตาย ซ้อมอยู่ไม่ไกลจากกองเชียร์ของทีมตัวเองนัก แต่ที่ใกล้แบบจ่อๆหลังประตูนั่นแฟนบอลทีมเจ้าบ้าน ... ได้แต่นั่งมอง
อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ
ช่วงที่ผู้ตัดสินทั้ง 3 คนลงมาวอร์ม แฟนบอลเงียบกริบทั้งสนาม ... ไม่รู้ว่าเป็นการให้เกียรติผู้ตัดสิน หรือกำลังงงว่านักเตะทีมไหน ทำไมหน้าตาไม่คุ้น
ไม่นานนัก นักเตะบุรีรัมย์และทีมโค้ชก็ลงสนามเพื่อซ้อม นำโดยประธานสโมสร เนวิน ชิดชอบ (ลุงไม่ได้เดินนำนะ ลงมาทีหลัง เดินตามนักเตะต้อยๆเลย)
หลังจากนั้นไม่นานนัก เสียงโห่ก็ดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้เป็นนักเตะเมืองทองที่เหลือ เดินลงสนามเพื่อซ้อม นำทีมโดยกัปตันโก้โดเรม่อน ดัสกร ทองเหลา
(เอ่อ ... ทำไมไม่ลงมาซ้อมพร้อมๆกันทั้งหมด ปล่อยให้ใบตองกับใบตาลโดนโห่อยู่ตั้งนาน ... ใบหนาดรู้สึกเจ็บปวดแทน 555)
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า สนามเต็มความจุ จำไม่ได้ว่าทั้งหมดกี่ที่นั่ง แฟนบอลหนาตา ทั้งทีมเหย้าและทีมเยือน เก็บภาพมาแค่บางโซน หนาแน่นแบบนี้ทุกโซน
อุลตร้าเมืองทอง มีทั้งส่วนที่มีที่นั่งและไม่มีที่นั่ง แต่คนกลองพร้อม คนธงพร้อม ป้ายพร้อม แฟนบอลก็พร้อม ... เสียงดังฟังชัด ... และไม่มีพลุ ไม่มีแฟลร์
รู้สึกว่าเวิ่นเว้อจนรำคาญตัวเอง ขอรวบรัดตัดตอนไปถึงภาพบรรยากาศก่อนและในเกมกันเลย ช่วงยืนเคารพเพลงสรรเสริญไม่มีภาพนะ น่าจะติดอยู่ใต้ธง
เกมนี้ถ่ายภาพมาเยอะ แต่ส่วนมากเบลอว่ารักแถบ ... ได้ภาพนักเตะมาแค่ไม่กี่คน
ความน่าน้อยใจในการถ่ายภาพเกมนี้ก็คือ ไม่ค่อยได้หน้า เพราะว่านักเตะหันหลังให้แทบทุกคนเลย บางคนหันหน้ามาจริง แต่เมินหน้าหนีกล้องเราซะงั้น
เจ้าตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กับแอคชั่นที่คุ้นตา ... มั่นใจว่าสาวน้อยสาวใหญ่จำนวนมากต้องแอบอิจฉาประตู เสา คาน รวมไปถึงต้นหญ้าและพื้นดิน
ซุปเปอร์แชมป์ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูโบราณของทีมเจ้าบ้าน ในชุดเก่ง สีหวานเจี๊ยบ ... แม้จะตีบทกระเทยแตก แต่แมนเต็มร้อยนะนักเตะคนนี้
Super Mario Gjurovski เกมนี้ทำไป 1 ประตู ... ในช่วงหลัง มีหลายเกมที่ฟอร์มต่ำเตี้ยเรี่ยดินและน่าผิดหวังมาก แต่ก็ยังยิงประตูสำคัญๆให้ทีมได้เสมอ
Diogo Luis Santo ทำได้ 1 ประตูในเกมนี้ และครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของไทยพรีเมียร์ลีก ... ดีใจที่มีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมแบบนี้ในไทยพรีเมียร์ลีก
ธีราทร บุญมาทัน และกรวิทย์ นามวิเศษ นักเตะที่จับภาพได้บ่อยที่สุด เพราะยืนอยู่ฝั่งที่นั่งอยู่ในครึ่งแรก ... ดูสิเนี่ย กรวิทย์ยังเมินหน้าใส่กล้อง เซ็งเลย
แอคชั่นอื่นๆ

ง
รูปเกมก็ไม่ได้ดูอึดอัดและเกร็งอะไรมากมาย ที่สำคัญคือไม่มีจังหวะที่เป็นปัญหาและทิ้งดราม่าไว้ให้แฟนบอลของทั้งสองทีมต้องฟาดฟันกันหลังเกมจบ
สกอร์ก่อนหมดเวลา แต่ก็จบเกมไปด้วยสกอร์นี้แหละ ... ถือว่าเป็นแมทซ์ที่สนุก และเชื่อว่าแฟนบอลของทั้งสองทีมก็น่าจะแฮปปี้กับรูปเกมและผลเสมอ
ขอติง สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนึ่งเรื่องนะคะ
ไม่น่าปล่อยแฟนบอลจำนวนมากเข้าโซน C4 ในช่วงระหว่างเกมเลย (ซึ่งเป็นช่วงท้ายครึ่งแรก ช่วงประมาณนาทีที่ 40 เข้าไปแล้ว)
จากเดิมที่บริเวณทางเดิน เป็นพื้นที่ว่าง มีระยะห่างจากโซน C5 อยู่ประมาณหนึ่ง ไม่ได้บดบังมุมมองในสนามมากนัก ยกเว้นโซนมุมธง
แต่เมื่อแฟนบอลเหล่านั้นเข้ามา กลับกลายเป็นว่า บริเวณทางเดิน เต็มไปด้วยแฟนบอลที่ยืนดู บดบังมุมมองในสนามไปอีกพอสมควร
(ถ้าเป็นสต๊าฟที่ถือโทรโข่งยืนบัง อันนั้นไม่ว่ากันอยู่แล้ว)
เห็นความพยายามในการจัดระเบียบของทีมงาน โดยการโบกไม้โบกมือให้แฟนบอลขึ้นไปด้านบน แต่แฟนบอลหลายๆคนไม่ให้ความร่วมมือ
บางคนปีนข้ามราวจากโซน C4 เข้ามา C5 ด้วย
ถือว่าวุ่นวายและรบกวนการชมเกมพอสมควร เพราะเข้ามาช่วงระหว่างเกม และเข้ามายืนบล็อคมุมมองในสนาม
ฝากให้ช่วยจัดระเบียบและเข้มงวดด้วยนะคะ
(ภาพแรกคือมุมมองช่วงต้นเกม ภาพที่ 3 ที่มีคนยืนนั่นคือช่วงท้ายครึ่งแรก เพียงแต่ถ่ายด้วยเลนส์คนละระยะ แต่ก็น่าจะทำให้เห็นภาพได้ว่า บดบัง)
ส่วนอีกภาพ เป็นภาพที่มีคนปีนข้ามโซนเข้ามา
สุดท้ายสำหรับกระทู้นี้
ฟุตบอลคือกีฬา เอาชนะกันแค่ในสนาม นอกสนามไม่มีความจำเป็นต้องเอาชนะกัน ... กีฬาสร้างเพื่อนและความสามัคคี ไม่ใช่สร้างศัตรูและความขัดแย้ง
อย่าตกเป็นทาสของสโมสร จงเป็นแฟนพันธุ์แท้ของกีฬาฟุตบอล
แฟนบอลที่ดี ไม่ใช่คนที่ออกมาอวยหรือแก้ตัวแทนสโมสร แฟนบอลที่ดีต้องยืนอยู่บนความถูกต้อง ไม่เข้าข้างอย่าง
ลำเอียง และไม่คิดต่างอย่างมี
อคติ
ปิดกระทู้กันด้วยภาพนี้ แม้ไม่ได้เป็นเจ้าของสโมสร แต่ในฐานะคนบุรีรัมย์ อยากบอกว่า สนามไอ-โมไบล์แห่งนี้ ยินดีต้อนรับแฟนบอลทุกท่าน และทุกทีม
เก็บตกบรรยากาศในเกม บุรีรัมย์ - เอสซีจี เมืองทอง ✿
(คำเตือน : กระทู้นี้เวิ่นเว้อตามสไตล์ ไม่ควรอ่านเกินวันละ 2 ครั้ง ... และใครที่ไม่ชอบหรือรับไม่ได้ ควรปิดไปซะตั้งแต่ตอนนี้เลย)
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ไม่ได้มีความตั้งใจจะไปชมเกมนี้ที่สนาม จึงไม่ได้จองตั๋วตั้งแต่แรก เพิ่งจะมาเปลี่ยนใจก่อนการแข่งขันเพียงวันเดียวในเสี้ยววินาที
และโชคดีที่ได้รับการเอื้อเฟื้อตั๋วจองจากเพื่อนสมาชิกพันทิป (ไม่น่ามีอะไรเสียหาย ขออนุญาตไม่เซ็นเซอร์ชื่อลอกอินนะคะ)
ถามว่า "ทำไมถึงไม่ไปดู" คำตอบเป็นอะไรที่รันทดมาก ทั้งอยากและไม่อยากตอบ เพราะคนอื่นอาจจะไม่รันทดด้วย แถมอาจจะฮา บอกตรงๆว่า เจ็บ
ได้สิทธิ์รับตั๋วแบบส้มหล่น จะรออะไร รีบไปรับตั๋วเลยสิคะ
เป็นการซื้อตั๋วแบบงงๆ เป็นคนติดต่อซื้อตั๋วแท้ๆ แต่คนที่ไปด้วย กลับยื่นมาคว้าตั๋วตัดหน้า แบบด้านหน้าๆ นางบอกว่า “ชั้นเก็บเอง เธอเก็บ เดี๋ยวหาย”
พูดยังไม่ทันจะขาดคำ ตั๋วก็อยู่ในกระเป๋านางแล้ว (ก่อนเก็บ นางถ่ายรูปโพสลงเฟซบุ๊ค นางฟ้ามาก เปิดโอกาสให้น้องๆได้มีโอกาสสัมผัสตั๋วด้วยสายตา)
น้องสาวอย่างเราหรือจะกล้าหือ นางเล่นออกอาการหวง เหมือนจงอางหวงไข่ ซะขนาดนั้น ... เอาที่คุณพี่สบายใจเถอะค่ะ
อยากบอกว่า เป็นการรอคอยชมเกมที่ยาวนานและทรมานเป็นอย่างยิ่ง นัดกับคุณพี่ทั้งหลายไว้ก่อนเที่ยง มารับจริงบ่ายสามโมง หิ้วท้องรอตั้งแต่คืนวาน
“รอคอย เธอมาแสนนาน ทรมานวิญญาณหนักหนา” ร้องเพลงนี้รอเลย
เดินทางถึงหน้าสนามประมาณสี่โมงเย็น รถเริ่มติด แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สองพี่น้องมุ่งหน้าร้านสองพี่น้อง ร้านเปิดขาย แต่อาหารหมดทุกอย่าง !!!
เวลานั้น บอกตรงๆว่า หิวจนแทบจะกินวายได้ทั้งตัว แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง ... แวะอีกหลายร้าน ก็ได้คำตอบเดิม คืออาหารหมด
แต่ความพยายามอยู่ที่ไหน ของกินอยู่ที่นั่น (มื้อแรกของวัน เวลาประมาณ 5 โมงเย็น อึดมั๊ยล่ะ) สุดท้ายก็อิ่มท้อง พร้อมแล้วสำหรับบิ๊กแมทซ์
อุปสรรคอย่างเดียวในการดูฟุตบอลเกมนี้คือไมเกรน เพื่อความไม่ประมาท เตรียมยาแก้ปวดติดกระเป๋ามาด้วย ทนไม่ไหวเมื่อไหร่ ค่อยรับยาเข้าร่าง
ระหว่างที่มุ่งหน้าสนามไอโมไบล์ ได้ยินเสียงเหมือนไซเรน ตอนแรกนึกว่ารถพยาบาล คิดในใจว่า มาผิดเวลาแล้ว วันนี้รถติดชนิดที่คนวิ่งแซงได้สบายๆ
โชคดีที่ไม่ใช่รถพยาบาล น่าจะเป็นรถตำรวจอะไรทำนองนี้ วิ่งนำรถนักเตะเมืองทองมุ่งหน้าสนามไอโมไบล์
แค่ได้เห็นรถก็แอบกรี๊ดในใจ อยากจะขอลงรถแล้ววิ่งไปรอรับนักเตะที่หน้าสนาม แต่ก็ไม่ แม้แต่จะลองที่จะร้องขอ เพราะพวกพี่ๆคงไม่ยอม
วันนั้นจอดรถด้านหลังสนาม ค่อนไปทางสนามแข่งรถ ลงจากรถได้ก็ใส่เกียร์หมากันเลย บรรยากาศหน้าสนามไม่สนใจ จะรีบเข้าไปดูนักเตะลงซ้อม
พล่ามมาตั้งนาน เริ่มลงรูปล่ะนะ
ขอเปิดด้วยภาพนี้ นักเตะหน่วยกล้าตายของเมืองทอง ที่ลงสนามซ้อมเป็น 2 คนแรก ท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลทีมเจ้าบ้าน กวินทร์กับวิษณุศักดิ์
ต้องบอกว่า นั่งอยู่ไกลมาก มากจนมองด้วยตาและแว่นตาเปล่าไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่โชคดีที่มีตัวช่วย ... ใช้กล้องซูมเข้าไปดู ถึงจะพอรู้ว่าใครเป็นใคร
หน่วยกล้าตาย ซ้อมอยู่ไม่ไกลจากกองเชียร์ของทีมตัวเองนัก แต่ที่ใกล้แบบจ่อๆหลังประตูนั่นแฟนบอลทีมเจ้าบ้าน ... ได้แต่นั่งมองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ
ช่วงที่ผู้ตัดสินทั้ง 3 คนลงมาวอร์ม แฟนบอลเงียบกริบทั้งสนาม ... ไม่รู้ว่าเป็นการให้เกียรติผู้ตัดสิน หรือกำลังงงว่านักเตะทีมไหน ทำไมหน้าตาไม่คุ้น
ไม่นานนัก นักเตะบุรีรัมย์และทีมโค้ชก็ลงสนามเพื่อซ้อม นำโดยประธานสโมสร เนวิน ชิดชอบ (ลุงไม่ได้เดินนำนะ ลงมาทีหลัง เดินตามนักเตะต้อยๆเลย)
หลังจากนั้นไม่นานนัก เสียงโห่ก็ดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้เป็นนักเตะเมืองทองที่เหลือ เดินลงสนามเพื่อซ้อม นำทีมโดยกัปตันโก้โดเรม่อน ดัสกร ทองเหลา
(เอ่อ ... ทำไมไม่ลงมาซ้อมพร้อมๆกันทั้งหมด ปล่อยให้ใบตองกับใบตาลโดนโห่อยู่ตั้งนาน ... ใบหนาดรู้สึกเจ็บปวดแทน 555)
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า สนามเต็มความจุ จำไม่ได้ว่าทั้งหมดกี่ที่นั่ง แฟนบอลหนาตา ทั้งทีมเหย้าและทีมเยือน เก็บภาพมาแค่บางโซน หนาแน่นแบบนี้ทุกโซน
อุลตร้าเมืองทอง มีทั้งส่วนที่มีที่นั่งและไม่มีที่นั่ง แต่คนกลองพร้อม คนธงพร้อม ป้ายพร้อม แฟนบอลก็พร้อม ... เสียงดังฟังชัด ... และไม่มีพลุ ไม่มีแฟลร์
รู้สึกว่าเวิ่นเว้อจนรำคาญตัวเอง ขอรวบรัดตัดตอนไปถึงภาพบรรยากาศก่อนและในเกมกันเลย ช่วงยืนเคารพเพลงสรรเสริญไม่มีภาพนะ น่าจะติดอยู่ใต้ธง
เกมนี้ถ่ายภาพมาเยอะ แต่ส่วนมากเบลอว่ารักแถบ ... ได้ภาพนักเตะมาแค่ไม่กี่คน
ความน่าน้อยใจในการถ่ายภาพเกมนี้ก็คือ ไม่ค่อยได้หน้า เพราะว่านักเตะหันหลังให้แทบทุกคนเลย บางคนหันหน้ามาจริง แต่เมินหน้าหนีกล้องเราซะงั้น
เจ้าตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กับแอคชั่นที่คุ้นตา ... มั่นใจว่าสาวน้อยสาวใหญ่จำนวนมากต้องแอบอิจฉาประตู เสา คาน รวมไปถึงต้นหญ้าและพื้นดิน
ซุปเปอร์แชมป์ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูโบราณของทีมเจ้าบ้าน ในชุดเก่ง สีหวานเจี๊ยบ ... แม้จะตีบทกระเทยแตก แต่แมนเต็มร้อยนะนักเตะคนนี้
Super Mario Gjurovski เกมนี้ทำไป 1 ประตู ... ในช่วงหลัง มีหลายเกมที่ฟอร์มต่ำเตี้ยเรี่ยดินและน่าผิดหวังมาก แต่ก็ยังยิงประตูสำคัญๆให้ทีมได้เสมอ
Diogo Luis Santo ทำได้ 1 ประตูในเกมนี้ และครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของไทยพรีเมียร์ลีก ... ดีใจที่มีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมแบบนี้ในไทยพรีเมียร์ลีก
ธีราทร บุญมาทัน และกรวิทย์ นามวิเศษ นักเตะที่จับภาพได้บ่อยที่สุด เพราะยืนอยู่ฝั่งที่นั่งอยู่ในครึ่งแรก ... ดูสิเนี่ย กรวิทย์ยังเมินหน้าใส่กล้อง เซ็งเลย
แอคชั่นอื่นๆ
รูปเกมก็ไม่ได้ดูอึดอัดและเกร็งอะไรมากมาย ที่สำคัญคือไม่มีจังหวะที่เป็นปัญหาและทิ้งดราม่าไว้ให้แฟนบอลของทั้งสองทีมต้องฟาดฟันกันหลังเกมจบ
สกอร์ก่อนหมดเวลา แต่ก็จบเกมไปด้วยสกอร์นี้แหละ ... ถือว่าเป็นแมทซ์ที่สนุก และเชื่อว่าแฟนบอลของทั้งสองทีมก็น่าจะแฮปปี้กับรูปเกมและผลเสมอ
ขอติง สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนึ่งเรื่องนะคะ
ไม่น่าปล่อยแฟนบอลจำนวนมากเข้าโซน C4 ในช่วงระหว่างเกมเลย (ซึ่งเป็นช่วงท้ายครึ่งแรก ช่วงประมาณนาทีที่ 40 เข้าไปแล้ว)
จากเดิมที่บริเวณทางเดิน เป็นพื้นที่ว่าง มีระยะห่างจากโซน C5 อยู่ประมาณหนึ่ง ไม่ได้บดบังมุมมองในสนามมากนัก ยกเว้นโซนมุมธง
แต่เมื่อแฟนบอลเหล่านั้นเข้ามา กลับกลายเป็นว่า บริเวณทางเดิน เต็มไปด้วยแฟนบอลที่ยืนดู บดบังมุมมองในสนามไปอีกพอสมควร
(ถ้าเป็นสต๊าฟที่ถือโทรโข่งยืนบัง อันนั้นไม่ว่ากันอยู่แล้ว)
เห็นความพยายามในการจัดระเบียบของทีมงาน โดยการโบกไม้โบกมือให้แฟนบอลขึ้นไปด้านบน แต่แฟนบอลหลายๆคนไม่ให้ความร่วมมือ
บางคนปีนข้ามราวจากโซน C4 เข้ามา C5 ด้วย
ถือว่าวุ่นวายและรบกวนการชมเกมพอสมควร เพราะเข้ามาช่วงระหว่างเกม และเข้ามายืนบล็อคมุมมองในสนาม
ฝากให้ช่วยจัดระเบียบและเข้มงวดด้วยนะคะ
(ภาพแรกคือมุมมองช่วงต้นเกม ภาพที่ 3 ที่มีคนยืนนั่นคือช่วงท้ายครึ่งแรก เพียงแต่ถ่ายด้วยเลนส์คนละระยะ แต่ก็น่าจะทำให้เห็นภาพได้ว่า บดบัง)
ส่วนอีกภาพ เป็นภาพที่มีคนปีนข้ามโซนเข้ามา
สุดท้ายสำหรับกระทู้นี้
ฟุตบอลคือกีฬา เอาชนะกันแค่ในสนาม นอกสนามไม่มีความจำเป็นต้องเอาชนะกัน ... กีฬาสร้างเพื่อนและความสามัคคี ไม่ใช่สร้างศัตรูและความขัดแย้ง
อย่าตกเป็นทาสของสโมสร จงเป็นแฟนพันธุ์แท้ของกีฬาฟุตบอล
แฟนบอลที่ดี ไม่ใช่คนที่ออกมาอวยหรือแก้ตัวแทนสโมสร แฟนบอลที่ดีต้องยืนอยู่บนความถูกต้อง ไม่เข้าข้างอย่างลำเอียง และไม่คิดต่างอย่างมีอคติ
ปิดกระทู้กันด้วยภาพนี้ แม้ไม่ได้เป็นเจ้าของสโมสร แต่ในฐานะคนบุรีรัมย์ อยากบอกว่า สนามไอ-โมไบล์แห่งนี้ ยินดีต้อนรับแฟนบอลทุกท่าน และทุกทีม