▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
แผนที่เดินทาง
คนไทยในญี่ปุ่น
[CR] LOOKJEAPSWANDER Live In Japan : 9วัน8คืน Kobe Kyoto Osaka Tokyo
วันที่ 6 ก.ค. 2558 เวลา 13.00 โดยประมาณนะครับ
พวกเรามาเจอกันที่สนามบินดอนเมือง (DMK) เพื่อทำการเช็คอิน พวกเราเลือกสายการบินหางแดงครับ ได้ตั๋วโปรพอดี เลยจับจองกันล่วงหน้ามานานแล้ว ขาไปนี่ โล่งเลยครับ หรือเพราะผมเลือกช่วงเวลาทีคนเขาไม่ไปกัน อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะ แต่คนโล่งมากครับ สามารถหาเลือกที่ว่างๆ แล้วนอนราบได้เลย
พอมาถึงที่หมาย สนามบินคันไซ (KIX) ตามเวลาท้องถิ่น 22.30 โดยประมาณ
พวกเราก็ต้องโดยสารรถไฟหรือรถอะไรไม่ทราบ มาอีกเทอมินอลนึงเพื่อผ่าน ตม.
ตรงจุดนี่แหละที่เราเสียเวลากันมากที่สุดเพราะว่าต้องรอทำเอกสารซึ่งนานมากๆๆๆๆ จากที่แพลนไว้คือจะรีบผ่าน ออกมาแล้วออกไปหาอะไรทานกัน ( ไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่บ่ายสามเพราะบนเครื่องไม่มีอะไรให้ทาน ยกเว้นจะยอมซื้อกัน)กว่าจะเสร็จจุดนี้ ก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ พอผ่านมาได้ เราก็หาอะไรทานกัน พวกเราเดินหาร้านอาหารที่เปิดเวลานั้นกันสักพัก นี่ก็ล่วงเลยมา จะตีหนึ่งแล้ว พวกเราตัดสินใจกันว่าจะกินแมคโดนัล หรือ แฟมมิลี่มาทดี (เวลาตีหนึ่งของทุกวันจะมีอาหารเข้ามาใหม่และค่อนข้างสดใหม่) เรามาลงเอยกันที่ร้าน " sukiya " เป็นร้านอาหารจานด่วนสไตล์นิปปอนเขานะครับ รสชาติดีมาก หรือเพราะผมทานอะไรก็อร่อยอันนี้ก็ไม่ทราบนะ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว พวกเราก็หาทำเลสำหรับคืนนี้ ถูกต้องครับ คืนแรกเราเลือกที่จะนอนในสนามบินคันไซ เพื่อประหยัดค่าที่พักสำหรับคืนแรก เป็นอันจบวันแรกครับ
วันที่ 7 ก.ค. 2558 เวลา 5.00 ตามเวลาท้องถิ่นโดยประมาณ
เวลานั้นที่สนามบินคันไซ จะเริ่มเปิดไฟ เปิดเสียงดนตรีขึ้นที่ฟังแล้วต้องคิดว่าอยู่ญี่ปุ่นแน่ๆ (เพลงมันญี่ปุ่นมากๆครับ) พวกเราก็จัดการตัวเองกัน โดยการไปใช้บริการอาบน้ำที่ kix airport lounge [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เสร็จแล้วพวกเราก็อดทนไม่ทานข้าวเช้า บางคนก็ทานอะไรรองท้องเพื่อจะไป Steakland Kobe กันครับ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะ
พวกผมตัดสินใจเลือกที่จะเช่ารถกันนะครับ สำหรับ การเดินทาง ในย่านโกเบ เกียวโต เพราะว่า ถ้านั่งรถไฟไป ค่าเสียหายแพงกว่าการเช่ารถอีกครับ ส่วนรายละเอียดเบื้องลึกไม่ทราบนะครับ เพราะผมเป็น 1 ในผู้ร่วมเดินทางครับ ( ตามเขาไปเรื่อย 555555555555 ) ส่วนนี่คือภาพระหว่างทางข้ามไปอีก terminal เพื่อไปเอารถครับ รู้สึกว่าจะเป็น บริษัท hertz นะครับ
และแล้วเราก็ได้รถครับ สำหรับที่ญี่ปุ่นนีรถทุกคนมีจีพีเอสนะถ้าผมจำไม่ผิด และนำทางได้สุดติ่งครับอย่างโหด เลือกสถานที่ที่จะไปก่อนออกรถนะครับ เพระาถ้ารถล้อหมุนแล้ว ไม่สามารถกดอะไรได้ safety first มากครับ
ส่วนจุดหมายนะครับ ก็คือ Steakland Kobe ครับ คงไม่ต้องเอ่ยอะไรมาก เพราะผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะว่ามันเทพยังไง ( อ่าว ) แต่เพื่อนผมก็ย้ำหนักย้ำหนาว่าต้องไปให้ได้ครับ แบบนี้เลยครับ น่าทานมากครับ น่าทานแบบวัวตายควายล้มเลยครับผม
พอมาถึงนะครับ ร้านนี่จะมีสองทางเข้านะครับ ทางนึงติดถนน ตรงนี้คนจะเยอะมากกก ต่อคิวกัน แต่มีอีกทางนึงครับ ลองมองหาแถวนั้นจะมีลิฟขึ้นไปชั้น6รึเปล่าไม่ทราบนะครับผมก็ลืมๆ ตรงนั้นคนน้อยครับผม ขึ้นมาจะมีเก้าอี้ให้นั่งรอด้วย ดีงามตามท้องเรื่องครับ ไม่ต้องยืนด้วย
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วจากที่เคยแพลนว่าจะเดินไป Ikuta Shrine กันต่อเพราะมันใกล้ครับ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันครับ ฝนตกครับ จบทุกอย่างที่เคยฝันไว้ ไม่มีอะไรเหลือเลย เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันตรงหน้า ก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ ตอนที่ไปรับรถเช่ามา เขาได้ให้โบรชัวอะไรไว้อย่างพอเปิดดูจึงทราบว่า มี outlet อยู่แถวๆนี้ชื่อ KOBE-SANDA PREMIUM OUTLETS รออะไรครับ ฝนก็ตก จัดไปครับ ไปชอปปิ้งกันดีกว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยฝนตกด้วยอะไรด้วย ผมจึงไม่ได้ถ่ายภาพอะไรมากมายครับ หลังจากเดินชอปปิ้งเล่นสักชั่วครู่ใหญ่ๆ
เราก็เดินทางกลับ Osaka เพื่อเข้าที่พักครับ พวกเราเลือกที่พัก U Community Hotel ใกล้ๆ Kawachikosaka Station
แล้วพอช่วงเย็นเราก็ไปกันที่ย่านนัมบะครับ ไปเดินเล่นทอดน่องสบายๆ โดยการใช้รถไฟครับ นั่งไปไม่กี่สถานีก็ถึง ยอมรับว่าได้ใช้รถไฟญี่ปุ่นครั้งแรก นี้ตื่นเต้นมากครับ ใจบ่ดีเลย ไม่ทราบจริงๆว่าไปทางไหนอะไรยังไง google map สำคัญมากครับสำหรับการเดินทางไปไหน ผมใช้ตลอดเลย อากู๋แกบอกหมดครบ
สำหรับสิ่งที่ผมได้ทราบมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ จากเพื่อนๆก็ดี เขาบอกมาว่าถ้าผมมาเนี้ยไปจัด พิซซซ่าญี่ปุ่นซะ ( Okonomiyaki ) แล้วก็บอกลายแทงผมมา เป็นร้านเจ้าดังที่รสชาติดีเยี่ยม ชื่อร้านว่า mizuno ครับ ผมเดินหาอยู่สักพักก็เจอแต่น่าเสียดายที่ร้านชิงปิดเสียก่อน ฝากเพื่อนๆไปลิ้มรสด้วยนะครับ เดินไปตามลายแทงเลยนะครับ แล้วมองหาร้านที่ป้ายร้าน จะเป็นวงกลมและมีอักษรภาษาญี่ปุ่นสีแดงเรียงตัวแนวตั้ง 3 ตัว ตัวภาษาอังกฤษหน้าร้านเล็กมาก
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปหาราเมนทานกันครับ ตอนแรกจะไปทานราเม็งข้อสอบกันครับ (Ichiran Ramen) แต่คิวยาวมากๆๆๆๆถึงมากที่สุด ใครจะรอครับ ไม่มีทาง พวกผมจึงหาร้านใกล้เคียงที่เขารีวิวกันว่าเด็ดครับ จนได้ไปเจอร้านนึงแถวๆนั้นชื่ออะไรก็ไม่ทราบ แต่ก็มีคนต่อคิวกันนะครับ จำนวนนึงเลย ผมลืมไปแล้วครับ มีแต่ภาพภายนอกและภายในร้านมาให้ชมกัน
เอาเป็นว่าจบวันที่สองนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะทยอยทำเรื่อยๆครับ
วันที่ 8 ก.ค. 2558
วันนี้พวกเรามีแพลนว่าจะไป kyoto กันครับ ตื่นเช้ามาทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย และหาข้าวเช้าทานกันครับ
และจุดหมายต่อไปที่เราจะไปก้คือ ป่าไผ่ครับ (arashiyama) ใช้เวลาเดินทางโดยรถส่วนตัว หนึ่งชั่วโมงกว่าๆนะครับผม พอไปถึงแล้วจะพบกับธรรมชาติมากมายครับ บรรยากาศดีสุดๆ และสิ่งที่ผมได้พบเจอก็คือจะมีสาวชาวญี่ปุ่นคอยทักทายพวกคุณอย่างเฟรนลี่มากๆ คุยกันไปคุยไปมา เชิญชวนเข้าไปทานกาแฟสะงั้น การตลาดช่างแยบยลมากๆครับ