** พิมพ์ทางมือถือ ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยค่ะ **
เรื่องคือเราตั้งใจจะเปิดเบอร์จดทะเบียนรายเดือนใหม่อีกเบอร์ เพื่อให้คุณแม่ใช้ และมีเบอร์ค่ายอื่นที่เราต้องการย้ายค่ายมาเป็นทรู เหตุผลเพราะเดิมเราใช้ทรูอินเตอร์เนต ทรูวิชั่น และเบอร์ปัจจุบันที่เป็นทรูอยู่แล้ว เราต้องการสะสมค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมมาไว้ที่ user เราที่ทรูค่ายเดียว เพื่อสิทธิประโยชน์การเป็นสมาชิกทรูการ์ด
ปัญหาคือ เราไม่สามารถเปิดเบอร์ใหม่ หรือจดทะเบียนเบอร์ใดๆเป็นของทรูได้เลย เพราะมียอดค้างชำระเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งอยู่ 300 กว่าบาท..... ซึ่งเป็นเบอร์ที่เราไม่เคยใช้ ไม่เคยมีซิม ไม่เคยเปิดเบอร์ ไม่รู้จักหน้าค่าตาว่าเป็นไง แต่มียอดว่าเราค้างชำระซะงั้น
เราเคยแจ้งเรื่องนี้กับทรูครั้งแรกตั้งแต่เดือน มกราคม 2558 จนนี่รอแก้ปัญหา และตามเรื่องมาเรื่อยๆ ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมาแล้วค่ะ แจ้งผ่าน call center 5 รอบ ติดต่อที่ช้อปด้วยตัวเองอีก 4 รอบ ทุกครั้งคือเราต้องพูดประโยคเดิมๆ เล่าเรื่องเดิมซ้ำๆ พยักงานก็มีคำตอบซ้ำๆว่า "จะดำเนินการให้ค่ะ ถ้ามีความคืบหน้าจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป" แต่ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครหน้าไหนติดต่อกลับมาสักคนเลย
เราไปที่ True Shop หลายครั้ง หลายสาขา ได้ยินคำพูดว่า "จะดำเนินการแจ้งปรับลดยอดให้ค่ะ" ไม่รู้แจ้งกันอีท่าไหน หรือแจ้งกับใคร เราตามเรื่องตามแจ้งมาครึ่งค่อนปี รวมกันเกือบ 10 รอบ อีเบอร์นี้ก็ยังคงไม่หายไปไหนจากชีวิตเรา คือยอด 300 กว่าบาทมันไม่ใช่เงินเยอะอะไรก็จริงนะคะ แต่เราคิดว่าเราไม่ควรต้องยอมจ่ายในสิ่งที่เราไม่ได้ใช้ และไม่ได้เป็นความผิดเราค่ะ
พนักงานที่ช้อปบอกว่า เขาไม่มีอำนาจในการดำเนินการใดๆ ต้องส่งเรื่องไปที่สำนักงาน และทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการส่งอีเมล์แจ้งให้ เราถามว่าแล้วแจ้งใครคะ มีทางไหนที่เราจะติดต่อคนนั้นหรือแผนกนั้นได้เองไหม คนที่มีอำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยที่เราไม่ต้องรอฟังคำพูดว่า "จะส่งเรื่องให้ค่ะ" อีกต่อไป พนักงานเงียบไปแป๊บนึง บอกว่า "จะส่งอีเมล์ตามให้นะคะ ทำได้แค่นี้จริงๆ"
บอกตามตรงเลยค่ะว่าปกติเราเป็นคนไม่เหวี่ยงวีนกับพนักงานหรือ call center นะคะ คือเราเข้าใจว่าเขาไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เราเจอ เขาแค่ทำหน้าที่ประสานงาน แต่เราไม่เข้าใจระบบและขั้นตอนการทำงานของทรู ว่ามีวิธีแก้ปัญหากันแบบไหนยังไง ทำไมเรื่องง่ายๆมันถึงแก้ไม่ได้สักที ไอ้คำที่บอกว่า "ส่งเรื่อง" ที่ส่งๆๆๆๆ นี่คือส่งให้ใคร? ส่งให้คนชื่ออะไร? ส่งไปที่หน่วยงานไหน? ส่งไปแล้วมีคนรับไหม? คนรับดำเนินการอะไนต่อหรือเปล่า? คือทั้งหมดมันแสดงถึงความไม่ใส่ใจขององค์กรในการดูแลและแก้ปัญหาให้ลูกค้าอย่างจริงจัง ไม่ใช่มาใช้วิธีใส่ใจกันด้วยคำพูดอย่างเดียว แต่อยากให้ใส่ใจด้วยการปฏิบัติจริง
อ่ะนะ...เราก็แค่ผู้อุปโภคบริโภคตัวเล็กๆ ตาดำๆ คงไปช่วยแก้ไขอะไรในองค์กรอันยิ่งใหญ่ของเขาไม่ได้ ทำได้แค่เดินจากไป และเลิกใช้บริการอย่างเงียบๆ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้ามีปัญหาใดๆ กับค่ายเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ อย่าไปเสียเวลาในชีวิตไปเจรจา โทรตามเรื่อง ติดต่อช้อป หรือยึดติดกับมันมากนักค่ะ เปลี่ยนค่ายไปเลยค่ะ ใช้ค่ายอื่น เปลี่ยนเครือข่ายใช้เบอร์เดิม นี่โปรฯแรงๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ ต่อให้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนครบทุกค่าย ก็ยังง่ายกว่ารอค่ายเดิมสะสางปัญหาให้ลุล่วงค่ะ
ปล. สรุปค่าบริการที่คุณน่าจะได้จากเราอินเตอร์เนต 2 บ้าน + ทรูวิชั่น + เบอร์โทรศัพท์ 3 เบอร์ รวม 4000-5000 บาท ต่อเดือน..คุณไม่เอา จะเอาแต่ไอ้ 300 กว่าบาท(ที่เราไม่ได้ใช้)นั่นใช่ไหม !??? แล้วแต่ค่ะ
Bye Bye True เหนื่อยแล้ว เตรียมตัวยกเลิกทุกอย่าง
แชร์ประสบการณ์ "จะส่งเรื่องให้ค่ะ/จะดำเนินการให้ค่ะ" อันยาวนานกว่าครึ่งค่อนปี กับ True
เรื่องคือเราตั้งใจจะเปิดเบอร์จดทะเบียนรายเดือนใหม่อีกเบอร์ เพื่อให้คุณแม่ใช้ และมีเบอร์ค่ายอื่นที่เราต้องการย้ายค่ายมาเป็นทรู เหตุผลเพราะเดิมเราใช้ทรูอินเตอร์เนต ทรูวิชั่น และเบอร์ปัจจุบันที่เป็นทรูอยู่แล้ว เราต้องการสะสมค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมมาไว้ที่ user เราที่ทรูค่ายเดียว เพื่อสิทธิประโยชน์การเป็นสมาชิกทรูการ์ด
ปัญหาคือ เราไม่สามารถเปิดเบอร์ใหม่ หรือจดทะเบียนเบอร์ใดๆเป็นของทรูได้เลย เพราะมียอดค้างชำระเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งอยู่ 300 กว่าบาท..... ซึ่งเป็นเบอร์ที่เราไม่เคยใช้ ไม่เคยมีซิม ไม่เคยเปิดเบอร์ ไม่รู้จักหน้าค่าตาว่าเป็นไง แต่มียอดว่าเราค้างชำระซะงั้น
เราเคยแจ้งเรื่องนี้กับทรูครั้งแรกตั้งแต่เดือน มกราคม 2558 จนนี่รอแก้ปัญหา และตามเรื่องมาเรื่อยๆ ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมาแล้วค่ะ แจ้งผ่าน call center 5 รอบ ติดต่อที่ช้อปด้วยตัวเองอีก 4 รอบ ทุกครั้งคือเราต้องพูดประโยคเดิมๆ เล่าเรื่องเดิมซ้ำๆ พยักงานก็มีคำตอบซ้ำๆว่า "จะดำเนินการให้ค่ะ ถ้ามีความคืบหน้าจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป" แต่ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครหน้าไหนติดต่อกลับมาสักคนเลย
เราไปที่ True Shop หลายครั้ง หลายสาขา ได้ยินคำพูดว่า "จะดำเนินการแจ้งปรับลดยอดให้ค่ะ" ไม่รู้แจ้งกันอีท่าไหน หรือแจ้งกับใคร เราตามเรื่องตามแจ้งมาครึ่งค่อนปี รวมกันเกือบ 10 รอบ อีเบอร์นี้ก็ยังคงไม่หายไปไหนจากชีวิตเรา คือยอด 300 กว่าบาทมันไม่ใช่เงินเยอะอะไรก็จริงนะคะ แต่เราคิดว่าเราไม่ควรต้องยอมจ่ายในสิ่งที่เราไม่ได้ใช้ และไม่ได้เป็นความผิดเราค่ะ
พนักงานที่ช้อปบอกว่า เขาไม่มีอำนาจในการดำเนินการใดๆ ต้องส่งเรื่องไปที่สำนักงาน และทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการส่งอีเมล์แจ้งให้ เราถามว่าแล้วแจ้งใครคะ มีทางไหนที่เราจะติดต่อคนนั้นหรือแผนกนั้นได้เองไหม คนที่มีอำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยที่เราไม่ต้องรอฟังคำพูดว่า "จะส่งเรื่องให้ค่ะ" อีกต่อไป พนักงานเงียบไปแป๊บนึง บอกว่า "จะส่งอีเมล์ตามให้นะคะ ทำได้แค่นี้จริงๆ"
บอกตามตรงเลยค่ะว่าปกติเราเป็นคนไม่เหวี่ยงวีนกับพนักงานหรือ call center นะคะ คือเราเข้าใจว่าเขาไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เราเจอ เขาแค่ทำหน้าที่ประสานงาน แต่เราไม่เข้าใจระบบและขั้นตอนการทำงานของทรู ว่ามีวิธีแก้ปัญหากันแบบไหนยังไง ทำไมเรื่องง่ายๆมันถึงแก้ไม่ได้สักที ไอ้คำที่บอกว่า "ส่งเรื่อง" ที่ส่งๆๆๆๆ นี่คือส่งให้ใคร? ส่งให้คนชื่ออะไร? ส่งไปที่หน่วยงานไหน? ส่งไปแล้วมีคนรับไหม? คนรับดำเนินการอะไนต่อหรือเปล่า? คือทั้งหมดมันแสดงถึงความไม่ใส่ใจขององค์กรในการดูแลและแก้ปัญหาให้ลูกค้าอย่างจริงจัง ไม่ใช่มาใช้วิธีใส่ใจกันด้วยคำพูดอย่างเดียว แต่อยากให้ใส่ใจด้วยการปฏิบัติจริง
อ่ะนะ...เราก็แค่ผู้อุปโภคบริโภคตัวเล็กๆ ตาดำๆ คงไปช่วยแก้ไขอะไรในองค์กรอันยิ่งใหญ่ของเขาไม่ได้ ทำได้แค่เดินจากไป และเลิกใช้บริการอย่างเงียบๆ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้ามีปัญหาใดๆ กับค่ายเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ อย่าไปเสียเวลาในชีวิตไปเจรจา โทรตามเรื่อง ติดต่อช้อป หรือยึดติดกับมันมากนักค่ะ เปลี่ยนค่ายไปเลยค่ะ ใช้ค่ายอื่น เปลี่ยนเครือข่ายใช้เบอร์เดิม นี่โปรฯแรงๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ ต่อให้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนครบทุกค่าย ก็ยังง่ายกว่ารอค่ายเดิมสะสางปัญหาให้ลุล่วงค่ะ
ปล. สรุปค่าบริการที่คุณน่าจะได้จากเราอินเตอร์เนต 2 บ้าน + ทรูวิชั่น + เบอร์โทรศัพท์ 3 เบอร์ รวม 4000-5000 บาท ต่อเดือน..คุณไม่เอา จะเอาแต่ไอ้ 300 กว่าบาท(ที่เราไม่ได้ใช้)นั่นใช่ไหม !??? แล้วแต่ค่ะ
Bye Bye True เหนื่อยแล้ว เตรียมตัวยกเลิกทุกอย่าง