อาจจะตั้งหัวกระทู่ล่อเป้าหน่อยนะครับ 5555
ในที่สุดผมก็ออกจากสิ่งเสพติดอันชั่วร้าย ที่เสพมันมา 10 ปีน่าจะได้ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
มันคือ FACEBOOK นั่นเอง
ปิดมันถาวรไปแล้วมากกว่า 6 เดือน รู้สึกถึงความมีอิสระภาพของชีวิต
ไม่ต้องรับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ไม่ต้องให้ใครรับรู้เรื่องส่วนตัวของเรา
ไม่ต้องจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น
สุดท้ายถ้าใครอยากติดต่อจริงๆให้โทรมาสะดวกสุดนาทีละ 1 บาท อย่างมากคงคุยไม่เกิน 10 นาที แถมรู้เรื่องรู้ราวมากกว่า
แวดวงของเพื่อนฝูงก็คงไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันมากมาย ยังไงก็เจอกันอยู่แล้ว
มันคืออบายมุขที่บั่นทอนจิตใจ สำหรับคนที่จิตใจอ่อนไหวง่ายมันคือแหล่งสร้างกิเลสชั้นดี
หลังจากปิดมันลงไปแล้วรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น มีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น
มีเวลาให้คนอยู่ใกล้ๆมากขึ้น มีมารยาททางสังคมมากขึ้น ในเวลาที่อยู่ในสังคมคุยกับใครก็ตั้งใจคุย เฮฮาปาตี้กันไป
ไม่ต้องล้วงโทรศัพท์มากด มันทำให้คนอื่นมองว่าเราไม่มีมารยาท ผมมองว่าแบบนั้นนะ
ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา สมมุติเราคุยกับใครสักคน อยากคุยด้วย แต่คนคนนั้นนั่งเล่นโทรศัพท์ไป คุยไป กินไป แล้วเราจะรู้สึกยังไง
แล้วคุณละ.....ยังติดสิ่งเสพติดสิ่งนี้อยู่หรือเปล่า เคยคิดจะเลิกบ้างหรือยัง?
---------------------
เพิ่มเติม 3 สค 58
เข้ามาดูอีกที กดโหวตล้นหลามจริงๆ แต่ไม่รู้คนกดโหวตแสดงความคิดเห็นหรือเปล่านะครับ อิอิ
ขอเพิ่มเติมนิดหน่อย คำว่าติดในที่นี้คือ ต้องเข้าไปดูนั่นดูนี่ มันกลายเป็นดูเพลินจนเสียเวลาส่วนตัวไปบ้าง เกินลิมิตไปบ้าง
แต่ไม่ถึงกระทั่งไม่แบ่งเวลาดู ดูตลอดเวลา แต่มันเสียเวลาตรงที่มันเพลินเกินไป พอชายตามองนาฬิกาแล้ว มันกินเวลาไปมากโข
ยอมรับนะครับว่าผมอ่าน Feed ข่าวต่างๆ และเวลาอ่าน Feed ข่าว ผมเองก็ไม่ได้เข้าหน้าเพจของข่าวโดยตรง
จะมีซักกี่คนที่ตั้งใจอ่านข่าวเลย โดยที่เข้าไปที่เพจไทยรัฐโดยตรง เข้าไปที่เพจ ข่าสดโดยตรง หรือเพจอื่นๆตรงๆ
ร้อยละ 99 ล้วนแล้วแต่อ่านจากหน้า Feed ของ Facebook ทั้งนั้น
การอ่านจากหน้า Feed ของ facebook มักจะเห็นเรื่องราวต่างๆของคนอื่นแบบไม่รู้ตัวไปด้วย (ต่อมเผือกเริ่มทำงาน ^^)
กว่าจะรู้ตัวก็ได้รับ ได้เสพไปเรียบร้อยแล้ว ดูไปมันก็เพลินไป กดนั่น กดนี่ไปเรื่อยเปื่อย
ตอนนี้ไม่รู้เรื่องราวของคนอื่น มันรู้สึกดีขึ้นครับ.....
ขอบคุณทุกคอมเม้นครับ อาจจะไม่ได้ตอบคอมเม้นเพราะคงตอบไม่หวาดไม่ไหว แต่อ่านทุกคอมเม้น ทุกตัวอักษร
ตอนนี้เลยมาติด Pantip แทน เพราะ Pantip
**** มีเหตุ มีผล แต่ละห้องถูกแบ่งโดยธรรมชาติตามวุฒิภาวะ มากกว่า Facebook แต่ Facebook มันรวมทุกอายุ ทุกเพศ ทุกวัย แม้บางครั้งต้องใช้วิจารณญาณมากเป็นพิเศษ อิอิ ****
ติดสิ่งเสพติดเป็นเวลา 10 ปี ในที่สุดวันนี้ก็เลิกได้
ในที่สุดผมก็ออกจากสิ่งเสพติดอันชั่วร้าย ที่เสพมันมา 10 ปีน่าจะได้ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
มันคือ FACEBOOK นั่นเอง
ปิดมันถาวรไปแล้วมากกว่า 6 เดือน รู้สึกถึงความมีอิสระภาพของชีวิต
ไม่ต้องรับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ไม่ต้องให้ใครรับรู้เรื่องส่วนตัวของเรา
ไม่ต้องจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น
สุดท้ายถ้าใครอยากติดต่อจริงๆให้โทรมาสะดวกสุดนาทีละ 1 บาท อย่างมากคงคุยไม่เกิน 10 นาที แถมรู้เรื่องรู้ราวมากกว่า
แวดวงของเพื่อนฝูงก็คงไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันมากมาย ยังไงก็เจอกันอยู่แล้ว
มันคืออบายมุขที่บั่นทอนจิตใจ สำหรับคนที่จิตใจอ่อนไหวง่ายมันคือแหล่งสร้างกิเลสชั้นดี
หลังจากปิดมันลงไปแล้วรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น มีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น
มีเวลาให้คนอยู่ใกล้ๆมากขึ้น มีมารยาททางสังคมมากขึ้น ในเวลาที่อยู่ในสังคมคุยกับใครก็ตั้งใจคุย เฮฮาปาตี้กันไป
ไม่ต้องล้วงโทรศัพท์มากด มันทำให้คนอื่นมองว่าเราไม่มีมารยาท ผมมองว่าแบบนั้นนะ
ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา สมมุติเราคุยกับใครสักคน อยากคุยด้วย แต่คนคนนั้นนั่งเล่นโทรศัพท์ไป คุยไป กินไป แล้วเราจะรู้สึกยังไง
แล้วคุณละ.....ยังติดสิ่งเสพติดสิ่งนี้อยู่หรือเปล่า เคยคิดจะเลิกบ้างหรือยัง?
---------------------
เพิ่มเติม 3 สค 58
เข้ามาดูอีกที กดโหวตล้นหลามจริงๆ แต่ไม่รู้คนกดโหวตแสดงความคิดเห็นหรือเปล่านะครับ อิอิ
ขอเพิ่มเติมนิดหน่อย คำว่าติดในที่นี้คือ ต้องเข้าไปดูนั่นดูนี่ มันกลายเป็นดูเพลินจนเสียเวลาส่วนตัวไปบ้าง เกินลิมิตไปบ้าง
แต่ไม่ถึงกระทั่งไม่แบ่งเวลาดู ดูตลอดเวลา แต่มันเสียเวลาตรงที่มันเพลินเกินไป พอชายตามองนาฬิกาแล้ว มันกินเวลาไปมากโข
ยอมรับนะครับว่าผมอ่าน Feed ข่าวต่างๆ และเวลาอ่าน Feed ข่าว ผมเองก็ไม่ได้เข้าหน้าเพจของข่าวโดยตรง
จะมีซักกี่คนที่ตั้งใจอ่านข่าวเลย โดยที่เข้าไปที่เพจไทยรัฐโดยตรง เข้าไปที่เพจ ข่าสดโดยตรง หรือเพจอื่นๆตรงๆ
ร้อยละ 99 ล้วนแล้วแต่อ่านจากหน้า Feed ของ Facebook ทั้งนั้น
การอ่านจากหน้า Feed ของ facebook มักจะเห็นเรื่องราวต่างๆของคนอื่นแบบไม่รู้ตัวไปด้วย (ต่อมเผือกเริ่มทำงาน ^^)
กว่าจะรู้ตัวก็ได้รับ ได้เสพไปเรียบร้อยแล้ว ดูไปมันก็เพลินไป กดนั่น กดนี่ไปเรื่อยเปื่อย
ตอนนี้ไม่รู้เรื่องราวของคนอื่น มันรู้สึกดีขึ้นครับ.....
ขอบคุณทุกคอมเม้นครับ อาจจะไม่ได้ตอบคอมเม้นเพราะคงตอบไม่หวาดไม่ไหว แต่อ่านทุกคอมเม้น ทุกตัวอักษร
ตอนนี้เลยมาติด Pantip แทน เพราะ Pantip
**** มีเหตุ มีผล แต่ละห้องถูกแบ่งโดยธรรมชาติตามวุฒิภาวะ มากกว่า Facebook แต่ Facebook มันรวมทุกอายุ ทุกเพศ ทุกวัย แม้บางครั้งต้องใช้วิจารณญาณมากเป็นพิเศษ อิอิ ****