เพิ่งหัดแต่งนิยายครับ...ช่วยแนะนำด้วยครับ...(2)

กระทู้คำถาม
ลงที่เดียวสามตอนเลยเป็นไง...อยากเก่งขึ้นครับ...อยากให้เข้ามาด่าเยอะๆ...จะได้ปรับปรุงครับ...

#‎Change‬-สิ่งที่เหลืออยู่

ตอนที่ 1
           “ได้เวลาอันสมควรแล้วทุกท่าน”
            เสียงทุ้มกังวาฬและทรงพลัง   ดังมาจากชายสูงวัยผมสีดอกเลายาวประบ่า   และมีเคราครึ้มสีเดียวกับเส้นผมยาวจนถึงหว่างอก   ใส่เสื้อโค้ทหนังสีน้ำตาลเข้มคลุมร่างยาวถึงตาตุ่ม   ยืนถือโคมไฟรูปทรงประหลาด   บนเนินดินรูปวงกลมสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร   ซึ่งอยู่กลางวงล้อมของคนมากมายหลายวัยทั้งหญิงและชาย

            แม็คคือหนึ่งในคนที่ยืนรายล้อมชายสูงวัยคนดังกล่าว   ภาพของการชุมนุมที่กำลังเริ่มต้นและคาดว่าคงใช้เวลาอีกไม่นาน   ก็จะเฉลยถึงสาเหตุของการมารวมตัวกันของคนมากหน้าหลายตาเหล่านี้

            คำเฉลยของเรื่องราวนั้นไม่ใช่สิ่งที่แม็ครู้คำตอบมาก่อนล่วงหน้า   แม็คไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดตัวเองถึงมาอยู่ท่ามกลางการชุมนุมนี้   ไม่มีอะไรบ่งชี้ให้แม็คเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและจะดำเนินต่อไป   ในขณะที่ความสงสัยกำลังโจมตีสมองและความรู้สึกของแม็คอยู่นั้น   ชายสูงวัยก็ได้เริ่มร่ายถึงคำเฉลยต่างๆของคำถามที่อยู่ในใจแม็ค   ราวกับล่วงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของแม็คอย่างทะลุปรุโปร่ง

          ”ทุกท่านที่มาร่วมชุมนุม ณ ที่นี้   คือผู้ที่ถูกเลือกจากพระผู้เป็นเจ้า   สาเหตุของการรวมตัวครั้งนี้คือพระประสงค์ของพระองค์   วันนี้ในอีกสิบปีข้างหน้าโลกจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์   สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกจะถูกชำระล้างด้วยอำนาจแห่งพระองค์   จะเหลืออยู่เพียงแค่ผู้ถูกเลือกที่อยู่ ณ ที่นี้เท่านั้น”
          ทันทีที่ชายสูงวัยกล่าวถึงตรงนี้   เสียงของผู้ชุมนุมก็ดังอื้ออึงขึ้น   

          ”คุณเป็นใครเหตุใดจึงรู้ว่าโลกจะล่มสลาย”
          ชายหนึ่งในผู้ชุมนุมได้ตะโกนถามชายสูงวัย
         
         ชายสูงวัยทำหน้านิ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า
         ”ผมคือคนที่รู้จักผู้ชุมนุมทุกคน ณ ที่นี่   รวมถึงคุณผู้ที่กำลังถามผมด้วย   คุณชื่อ ดีเอโก้ เป็นคนสเปนทำงานสารคดีชีวิตสัตว์อยู่ที่ทุ่งซาวันน่าแอฟริกาใต้   ส่วนชื่อของผมคือ ราคิดิส เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในกรีซ   ผมคือล่ามแห่งพระผู้เป็นเจ้า   มีหน้าที่นำความประสงค์แห่งพระองค์   มาแจ้งแก่ผู้ที่ถูกเลือกทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้”

          ”ผมไม่แปลกใจที่จะมีคนที่ผมไม่รู้จักแสดงตัวว่ารู้จักผม   แล้วมายืนพูดอยู่ตรงหน้าผมหรอกนะ   เพราะอาชีพผมพบปะคนมากมายหลายเชื้อชาติ   และนั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกขำเท่ากับสิ่งที่คุณบอกว่า   คุณคือล่ามแห่งพระผู้เป็นเจ้า   คุณมีอะไรมาพิสูจน์ให้พวกเราเห็น”
           ดีเอโก้ตอบก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น

          พอดีเอโก้พูดจบเสียงอื้ออึงของผู้ชุมนุมก็ดังขึ้นอีกครั้ง   ราคิดิสยกมือขึ้นห้ามเสียงก่อนจะตอบว่า
          ”ผมไม่มีอะไรพิสูจน์ให้คุณเห็นในสิ่งที่ผมพูด   แต่คุณเองนั่นแหละจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่ผมพูด”

          ดีเอโก้ได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะชอบใจพร้อมกับอุทานว่า
          ”ตาเฒ่านี่ท่าจะเพี้ยนหนัก”

          ราคิดิสมองที่ดีเอโก้ด้วยสายตาที่เอ็นดูแล้วพูดว่า
          ”คุณจงหงายมือขวาแบมือแล้วยื่นออกมาข้างหน้า   แล้วคิดในใจถึงอุ้งเท้าของเสือ”

          ดีเอโก้นึกขำตาแก่ราคิดิสในใจ   แต่ก็ทำตามแต่โดยดี   หลังจากที่คิดตามสิ่งที่ราคิดิสบอก   มือของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนสภาพจากมือมนุษย์   กลายไปเป็นอุ้งเท้าเสืออย่างน่าประหลาด   เรียกเสียงฮือฮาและอื้ออึงจากผู้ชุมนุมอีกครั้ง

         ”คุณทำอะไรกับมือของผม”
         ดีเอโก้แสดงอาการตกใจพร้อมกับตะโกนถามราคิดิสด้วยเสียงอันตระหนก
         
          ราคิดิสยิ้มแล้วตอบว่า
         ”เปล่าผมไม่ได้ทำอะไรกับมือของคุณ   นั่นเป็นความสามารถของคุณเอง”

          ราคิดิสหยุดและกวาดสายตามองผู้ชุมนุมรอบๆ   ที่กำลังตื่นตะลึงทีละคนอย่างช้าๆ   ก่อนจะพูดต่อไปอีกว่า
         “ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเลือกนั้น   แต่ละคนจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน   ความสามารถที่พระผู้เป็นเจ้าให้นั้น   จะมีความจำเป็นในการสร้างโลกใหม่   ความสามารถของดีเอโก้คือสามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้ทุกชนิด   ไม่ว่าอยากจะอยู่ในร่างของสัตว์ชนิดใด   เพียงแค่ตั้งสมาธิและนึกถึงสัตว์ตัวนั้น   ก็จะสามารถกลายร่างได้ทันที   รวมถึงสามารถเลือกกลายร่างเฉพาะส่วนได้อย่างที่เห็นเมื่อกี้   หากอยากกลับเป็นคนก็คิดถึงร่างจริง   ก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมทันที   แต่ทุกครั้งที่ใช้ความสามารถ   จำนวนเลือดในตัวจะลดลงเรื่อยๆ   หากใช้ความสามารถเป็นเวลานานจนเกินขีดจำกัด   เลือดจะหมดตัวและตายลงในที่สุด   นี่คือสิ่งที่ต้องระวังอย่างมากในการใช้ความสามารถ   แต่จำนวนเลือดที่ลดลงในการใช้ความสามารถแต่ละครั้งนั้น   หากไม่ใช้จนเกินขีดจำกัด   จะสามารถฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิมด้วยการนอน”

         พอราคิดิสพูดจบเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นอีกครั้ง   และมีเสียงตะโกนถามแทรกจากเสียงอื้ออึงเหล่านั้น   
         ”เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราแต่ละคนมีความสามารถอะไร”   เสียงของแม็คนั่นเอง         

         ราคิดิสมองมาที่แม็คด้วยสายตาที่เอ็นดูพร้อมกับตอบว่า
         ”แล้วคุณก็จะรู้เอง”

         ทันทีที่ราคิดิสพูดจบ   แสงจากโคมไฟรูปร่างประหลาดที่ราคิดิสถืออยู่   ก็พลันสว่างจ้าขึ้นมาจนแสบตา   และแม็คก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่