ลงที่เดียวสามตอนเลยเป็นไง...อยากเก่งขึ้นครับ...อยากให้เข้ามาด่าเยอะๆ...จะได้ปรับปรุงครับ...
#Change-สิ่งที่เหลืออยู่
ตอนที่ 1
“ได้เวลาอันสมควรแล้วทุกท่าน”
เสียงทุ้มกังวาฬและทรงพลัง ดังมาจากชายสูงวัยผมสีดอกเลายาวประบ่า และมีเคราครึ้มสีเดียวกับเส้นผมยาวจนถึงหว่างอก ใส่เสื้อโค้ทหนังสีน้ำตาลเข้มคลุมร่างยาวถึงตาตุ่ม ยืนถือโคมไฟรูปทรงประหลาด บนเนินดินรูปวงกลมสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ซึ่งอยู่กลางวงล้อมของคนมากมายหลายวัยทั้งหญิงและชาย
แม็คคือหนึ่งในคนที่ยืนรายล้อมชายสูงวัยคนดังกล่าว ภาพของการชุมนุมที่กำลังเริ่มต้นและคาดว่าคงใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะเฉลยถึงสาเหตุของการมารวมตัวกันของคนมากหน้าหลายตาเหล่านี้
คำเฉลยของเรื่องราวนั้นไม่ใช่สิ่งที่แม็ครู้คำตอบมาก่อนล่วงหน้า แม็คไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดตัวเองถึงมาอยู่ท่ามกลางการชุมนุมนี้ ไม่มีอะไรบ่งชี้ให้แม็คเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและจะดำเนินต่อไป ในขณะที่ความสงสัยกำลังโจมตีสมองและความรู้สึกของแม็คอยู่นั้น ชายสูงวัยก็ได้เริ่มร่ายถึงคำเฉลยต่างๆของคำถามที่อยู่ในใจแม็ค ราวกับล่วงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของแม็คอย่างทะลุปรุโปร่ง
”ทุกท่านที่มาร่วมชุมนุม ณ ที่นี้ คือผู้ที่ถูกเลือกจากพระผู้เป็นเจ้า สาเหตุของการรวมตัวครั้งนี้คือพระประสงค์ของพระองค์ วันนี้ในอีกสิบปีข้างหน้าโลกจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกจะถูกชำระล้างด้วยอำนาจแห่งพระองค์ จะเหลืออยู่เพียงแค่ผู้ถูกเลือกที่อยู่ ณ ที่นี้เท่านั้น”
ทันทีที่ชายสูงวัยกล่าวถึงตรงนี้ เสียงของผู้ชุมนุมก็ดังอื้ออึงขึ้น
”คุณเป็นใครเหตุใดจึงรู้ว่าโลกจะล่มสลาย”
ชายหนึ่งในผู้ชุมนุมได้ตะโกนถามชายสูงวัย
ชายสูงวัยทำหน้านิ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า
”ผมคือคนที่รู้จักผู้ชุมนุมทุกคน ณ ที่นี่ รวมถึงคุณผู้ที่กำลังถามผมด้วย คุณชื่อ ดีเอโก้ เป็นคนสเปนทำงานสารคดีชีวิตสัตว์อยู่ที่ทุ่งซาวันน่าแอฟริกาใต้ ส่วนชื่อของผมคือ ราคิดิส เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในกรีซ ผมคือล่ามแห่งพระผู้เป็นเจ้า มีหน้าที่นำความประสงค์แห่งพระองค์ มาแจ้งแก่ผู้ที่ถูกเลือกทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้”
”ผมไม่แปลกใจที่จะมีคนที่ผมไม่รู้จักแสดงตัวว่ารู้จักผม แล้วมายืนพูดอยู่ตรงหน้าผมหรอกนะ เพราะอาชีพผมพบปะคนมากมายหลายเชื้อชาติ และนั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกขำเท่ากับสิ่งที่คุณบอกว่า คุณคือล่ามแห่งพระผู้เป็นเจ้า คุณมีอะไรมาพิสูจน์ให้พวกเราเห็น”
ดีเอโก้ตอบก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น
พอดีเอโก้พูดจบเสียงอื้ออึงของผู้ชุมนุมก็ดังขึ้นอีกครั้ง ราคิดิสยกมือขึ้นห้ามเสียงก่อนจะตอบว่า
”ผมไม่มีอะไรพิสูจน์ให้คุณเห็นในสิ่งที่ผมพูด แต่คุณเองนั่นแหละจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่ผมพูด”
ดีเอโก้ได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะชอบใจพร้อมกับอุทานว่า
”ตาเฒ่านี่ท่าจะเพี้ยนหนัก”
ราคิดิสมองที่ดีเอโก้ด้วยสายตาที่เอ็นดูแล้วพูดว่า
”คุณจงหงายมือขวาแบมือแล้วยื่นออกมาข้างหน้า แล้วคิดในใจถึงอุ้งเท้าของเสือ”
ดีเอโก้นึกขำตาแก่ราคิดิสในใจ แต่ก็ทำตามแต่โดยดี หลังจากที่คิดตามสิ่งที่ราคิดิสบอก มือของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนสภาพจากมือมนุษย์ กลายไปเป็นอุ้งเท้าเสืออย่างน่าประหลาด เรียกเสียงฮือฮาและอื้ออึงจากผู้ชุมนุมอีกครั้ง
”คุณทำอะไรกับมือของผม”
ดีเอโก้แสดงอาการตกใจพร้อมกับตะโกนถามราคิดิสด้วยเสียงอันตระหนก
ราคิดิสยิ้มแล้วตอบว่า
”เปล่าผมไม่ได้ทำอะไรกับมือของคุณ นั่นเป็นความสามารถของคุณเอง”
ราคิดิสหยุดและกวาดสายตามองผู้ชุมนุมรอบๆ ที่กำลังตื่นตะลึงทีละคนอย่างช้าๆ ก่อนจะพูดต่อไปอีกว่า
“ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเลือกนั้น แต่ละคนจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน ความสามารถที่พระผู้เป็นเจ้าให้นั้น จะมีความจำเป็นในการสร้างโลกใหม่ ความสามารถของดีเอโก้คือสามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้ทุกชนิด ไม่ว่าอยากจะอยู่ในร่างของสัตว์ชนิดใด เพียงแค่ตั้งสมาธิและนึกถึงสัตว์ตัวนั้น ก็จะสามารถกลายร่างได้ทันที รวมถึงสามารถเลือกกลายร่างเฉพาะส่วนได้อย่างที่เห็นเมื่อกี้ หากอยากกลับเป็นคนก็คิดถึงร่างจริง ก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมทันที แต่ทุกครั้งที่ใช้ความสามารถ จำนวนเลือดในตัวจะลดลงเรื่อยๆ หากใช้ความสามารถเป็นเวลานานจนเกินขีดจำกัด เลือดจะหมดตัวและตายลงในที่สุด นี่คือสิ่งที่ต้องระวังอย่างมากในการใช้ความสามารถ แต่จำนวนเลือดที่ลดลงในการใช้ความสามารถแต่ละครั้งนั้น หากไม่ใช้จนเกินขีดจำกัด จะสามารถฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิมด้วยการนอน”
พอราคิดิสพูดจบเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นอีกครั้ง และมีเสียงตะโกนถามแทรกจากเสียงอื้ออึงเหล่านั้น
”เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราแต่ละคนมีความสามารถอะไร” เสียงของแม็คนั่นเอง
ราคิดิสมองมาที่แม็คด้วยสายตาที่เอ็นดูพร้อมกับตอบว่า
”แล้วคุณก็จะรู้เอง”
ทันทีที่ราคิดิสพูดจบ แสงจากโคมไฟรูปร่างประหลาดที่ราคิดิสถืออยู่ ก็พลันสว่างจ้าขึ้นมาจนแสบตา และแม็คก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง
เพิ่งหัดแต่งนิยายครับ...ช่วยแนะนำด้วยครับ...(2)
#Change-สิ่งที่เหลืออยู่
ตอนที่ 1
“ได้เวลาอันสมควรแล้วทุกท่าน”
เสียงทุ้มกังวาฬและทรงพลัง ดังมาจากชายสูงวัยผมสีดอกเลายาวประบ่า และมีเคราครึ้มสีเดียวกับเส้นผมยาวจนถึงหว่างอก ใส่เสื้อโค้ทหนังสีน้ำตาลเข้มคลุมร่างยาวถึงตาตุ่ม ยืนถือโคมไฟรูปทรงประหลาด บนเนินดินรูปวงกลมสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ซึ่งอยู่กลางวงล้อมของคนมากมายหลายวัยทั้งหญิงและชาย
แม็คคือหนึ่งในคนที่ยืนรายล้อมชายสูงวัยคนดังกล่าว ภาพของการชุมนุมที่กำลังเริ่มต้นและคาดว่าคงใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะเฉลยถึงสาเหตุของการมารวมตัวกันของคนมากหน้าหลายตาเหล่านี้
คำเฉลยของเรื่องราวนั้นไม่ใช่สิ่งที่แม็ครู้คำตอบมาก่อนล่วงหน้า แม็คไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดตัวเองถึงมาอยู่ท่ามกลางการชุมนุมนี้ ไม่มีอะไรบ่งชี้ให้แม็คเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและจะดำเนินต่อไป ในขณะที่ความสงสัยกำลังโจมตีสมองและความรู้สึกของแม็คอยู่นั้น ชายสูงวัยก็ได้เริ่มร่ายถึงคำเฉลยต่างๆของคำถามที่อยู่ในใจแม็ค ราวกับล่วงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของแม็คอย่างทะลุปรุโปร่ง
”ทุกท่านที่มาร่วมชุมนุม ณ ที่นี้ คือผู้ที่ถูกเลือกจากพระผู้เป็นเจ้า สาเหตุของการรวมตัวครั้งนี้คือพระประสงค์ของพระองค์ วันนี้ในอีกสิบปีข้างหน้าโลกจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกจะถูกชำระล้างด้วยอำนาจแห่งพระองค์ จะเหลืออยู่เพียงแค่ผู้ถูกเลือกที่อยู่ ณ ที่นี้เท่านั้น”
ทันทีที่ชายสูงวัยกล่าวถึงตรงนี้ เสียงของผู้ชุมนุมก็ดังอื้ออึงขึ้น
”คุณเป็นใครเหตุใดจึงรู้ว่าโลกจะล่มสลาย”
ชายหนึ่งในผู้ชุมนุมได้ตะโกนถามชายสูงวัย
ชายสูงวัยทำหน้านิ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า
”ผมคือคนที่รู้จักผู้ชุมนุมทุกคน ณ ที่นี่ รวมถึงคุณผู้ที่กำลังถามผมด้วย คุณชื่อ ดีเอโก้ เป็นคนสเปนทำงานสารคดีชีวิตสัตว์อยู่ที่ทุ่งซาวันน่าแอฟริกาใต้ ส่วนชื่อของผมคือ ราคิดิส เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในกรีซ ผมคือล่ามแห่งพระผู้เป็นเจ้า มีหน้าที่นำความประสงค์แห่งพระองค์ มาแจ้งแก่ผู้ที่ถูกเลือกทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้”
”ผมไม่แปลกใจที่จะมีคนที่ผมไม่รู้จักแสดงตัวว่ารู้จักผม แล้วมายืนพูดอยู่ตรงหน้าผมหรอกนะ เพราะอาชีพผมพบปะคนมากมายหลายเชื้อชาติ และนั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกขำเท่ากับสิ่งที่คุณบอกว่า คุณคือล่ามแห่งพระผู้เป็นเจ้า คุณมีอะไรมาพิสูจน์ให้พวกเราเห็น”
ดีเอโก้ตอบก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น
พอดีเอโก้พูดจบเสียงอื้ออึงของผู้ชุมนุมก็ดังขึ้นอีกครั้ง ราคิดิสยกมือขึ้นห้ามเสียงก่อนจะตอบว่า
”ผมไม่มีอะไรพิสูจน์ให้คุณเห็นในสิ่งที่ผมพูด แต่คุณเองนั่นแหละจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่ผมพูด”
ดีเอโก้ได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะชอบใจพร้อมกับอุทานว่า
”ตาเฒ่านี่ท่าจะเพี้ยนหนัก”
ราคิดิสมองที่ดีเอโก้ด้วยสายตาที่เอ็นดูแล้วพูดว่า
”คุณจงหงายมือขวาแบมือแล้วยื่นออกมาข้างหน้า แล้วคิดในใจถึงอุ้งเท้าของเสือ”
ดีเอโก้นึกขำตาแก่ราคิดิสในใจ แต่ก็ทำตามแต่โดยดี หลังจากที่คิดตามสิ่งที่ราคิดิสบอก มือของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนสภาพจากมือมนุษย์ กลายไปเป็นอุ้งเท้าเสืออย่างน่าประหลาด เรียกเสียงฮือฮาและอื้ออึงจากผู้ชุมนุมอีกครั้ง
”คุณทำอะไรกับมือของผม”
ดีเอโก้แสดงอาการตกใจพร้อมกับตะโกนถามราคิดิสด้วยเสียงอันตระหนก
ราคิดิสยิ้มแล้วตอบว่า
”เปล่าผมไม่ได้ทำอะไรกับมือของคุณ นั่นเป็นความสามารถของคุณเอง”
ราคิดิสหยุดและกวาดสายตามองผู้ชุมนุมรอบๆ ที่กำลังตื่นตะลึงทีละคนอย่างช้าๆ ก่อนจะพูดต่อไปอีกว่า
“ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเลือกนั้น แต่ละคนจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน ความสามารถที่พระผู้เป็นเจ้าให้นั้น จะมีความจำเป็นในการสร้างโลกใหม่ ความสามารถของดีเอโก้คือสามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้ทุกชนิด ไม่ว่าอยากจะอยู่ในร่างของสัตว์ชนิดใด เพียงแค่ตั้งสมาธิและนึกถึงสัตว์ตัวนั้น ก็จะสามารถกลายร่างได้ทันที รวมถึงสามารถเลือกกลายร่างเฉพาะส่วนได้อย่างที่เห็นเมื่อกี้ หากอยากกลับเป็นคนก็คิดถึงร่างจริง ก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมทันที แต่ทุกครั้งที่ใช้ความสามารถ จำนวนเลือดในตัวจะลดลงเรื่อยๆ หากใช้ความสามารถเป็นเวลานานจนเกินขีดจำกัด เลือดจะหมดตัวและตายลงในที่สุด นี่คือสิ่งที่ต้องระวังอย่างมากในการใช้ความสามารถ แต่จำนวนเลือดที่ลดลงในการใช้ความสามารถแต่ละครั้งนั้น หากไม่ใช้จนเกินขีดจำกัด จะสามารถฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิมด้วยการนอน”
พอราคิดิสพูดจบเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นอีกครั้ง และมีเสียงตะโกนถามแทรกจากเสียงอื้ออึงเหล่านั้น
”เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราแต่ละคนมีความสามารถอะไร” เสียงของแม็คนั่นเอง
ราคิดิสมองมาที่แม็คด้วยสายตาที่เอ็นดูพร้อมกับตอบว่า
”แล้วคุณก็จะรู้เอง”
ทันทีที่ราคิดิสพูดจบ แสงจากโคมไฟรูปร่างประหลาดที่ราคิดิสถืออยู่ ก็พลันสว่างจ้าขึ้นมาจนแสบตา และแม็คก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง